Google Wallet คืออะไร อยู่ในสังคมไร้เงินสดต้องรู้ !

ทุกวันนี้ เราจะเห็นได้ว่ามีผู้คนจำนวนมากไม่พกเงินสด หากต้องใช้จ่ายอะไรก็จะสแกนคิวอาร์โคด หรือจ่ายด้วยบัตรเครดิตแทน ยิ่งในช่วงหลังเกิดโรคโควิด-19 ยิ่งมีการรณรงค์ไม่ใช้เงินสดมากขึ้น เพื่อลดความเสี่ยงในการติดต่อโรค จนสังคมเราค่อย ๆ ก้าวเข้าสู่ความเป็น Cashless Society (สังคมไร้เงินสด) อย่างแท้จริง 

ดูเหมือนว่ากระแสการรณรงค์เรื่องนี้จะไม่ใช่แค่เทร็นด์อีกต่อไป สังเกตได้จากชีวิตประจำวันของเราในปัจจุบันที่แทบไม่เจอใครที่ไม่มีบัญชีธนาคารออนไลน์ของตัวเอง ตลอดจนคนที่พกเงินสดติดตัวจำนวนมากเหมือนเมื่อก่อนก็น้อยลงทุกที ปฏิเสธไม่ได้ว่าการจ่ายเงินแบบ E-Payment นั้นเพิ่มความสะดวกสบายให้เราในหลาย ๆ ด้าน

เมื่อผู้คนเริ่มชินกับการใช้ชีวิตอยู่ในสังคมไร้เงินสดแล้ว เหล่านักพัฒนาก็เร่งคิดค้นแอปพลิเคชันต่าง ๆ ขึ้นมาเพื่อให้บริการกระเป๋าเงินดิจิทัล หนึ่งในนั้นคือบริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Google ซึ่งเมื่อช่วงปลายปี 2022ได้เปิดให้บริการ Google Wallet ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ตอบโจทย์ผู้บริโภคสมัยใหม่ที่ใช้มือถือระบบปฏิบัติการ Android โดยเฉพาะ

ไปดูกันเลยว่า Google Wallet คืออะไร ใช้งานอย่างไร และข้อควรรู้มีอะไรบ้าง

Google Wallet คืออะไร

ประมาณ 5-6 ปีที่แล้ว บางคนอาจจะเคยได้ยินชื่อ “Google Pay” ซึ่งเป็นบริการกระเป๋าเงินดิจิทัลจาก Google ผ่านหูกันมาบ้าง แต่ไม่นานแอปพลิเคชันก็ปิดตัวลงไป เพื่อพัฒนาฟังก์ชันต่าง ๆ ให้เหมาะสมกับการใช้งานมากขึ้น

และ Google Pay ในวันนั้นก็ได้กลับมาอีกครั้งในชื่อ “Google Wallet” ที่เราจะมาอธิบายในวันนี้ พร้อมการใช้งานที่สะดวกสบายกว่าเดิม !

Google Wallet คือ แอปพลิเคชันที่ให้บริการกระเป๋าเงินดิจิทัล โดยผู้ใช้งานสามารถผูกบัตรเครดิตไว้กับแอปฯ และชำระเงินแบบ E-Payment ได้ด้วยการแตะที่ร้านค้าชั้นนำที่รองรับ เปรียบเสมือนกระเป๋าสตางค์ดิจิทัลของเราที่เอาไว้เก็บการ์ดต่าง ๆ เรียกได้ว่าสะดวกสบายมาก เพราะหากวันไหนเราลืมบัตร พกเงินสด หรือแม้แต่แอปฯ ธนาคารล่ม ก็ยังมี Google Wallet ให้เราสามารถจ่ายเงินร้านค้าได้แค่ภายในไม่กี่วินาที ซึ่งนอกจากจะผูกกับบัตรเครดิตได้แล้ว Google Wallet ยังสามารถเก็บบัตรอื่น ๆ ได้ด้วย ไม่ว่าจะเป็นบัตรสะสมแต้ม บัตรคอนเสิร์ต สมุดวัคซีน พาสปอร์ต บอร์ดดิงพาส เป็นต้น เพื่อใช้แสดงเป็นหลักฐานโดยไม่จำเป็นต้องพกบัตรจริง

หลังการเปิดตัว Google Wallet ก็มีคนจำนวนมากตั้งคำถามว่า แอปพลิเคชันนี้สามารถใช้กับโทรศัพท์ที่เป็นระบบปฏิบัติการ iOS ได้ด้วยหรือไม่ คำตอบคือ ณ ตอนนี้ Google Wallet ยังคงให้บริการแค่ใน Google Play ของระบบปฏิบัติการ Android เท่านั้น สำหรับของ iOS จะมีบริการที่คล้าย ๆ กันเรียกว่า Apple Pay ซึ่งปัจจุบันยังไม่ได้เปิดให้บริการในไทย

หลักการทำงานของ Google Wallet คืออะไร

เมื่อพูดถึงแอปพลิเคชันที่ให้บริการด้านการชำระเงินแบบ E-Payment ก็มักเกิดคำถามเรื่องความปลอดภัยตามมาเสมอ เพราะสมัยนี้ มิจฉาชีพคิดกลยุทธ์ใหม่ ๆ มาหลอกเราอยู่เรื่อย ๆ ส่งผลให้การจะมอบข้อมูลบัตรเครดิตให้แอปฯ ไหนสักแอปฯ นั้นต้องคิดหลายด้าน ทั้งความน่าเชื่อถือของแอปพลิเคชัน เงื่อนไข และข้อตกลงของแอปฯ รวมถึงระดับความปลอดภัยของข้อมูล หากจ่ายเงินให้ร้านไปแล้วข้อมูลจะรั่วไหลหรือไม่ ฯลฯ

ดังนั้น เรามาดูกันว่าหลักการทำงานของ Google Wallet คืออะไร น่าเชื่อถือและปลอดภัยแค่ไหนในการโหลดมาใช้งาน

Google Wallet ทำงานภายใต้ระบบรักษาความปลอดภัยของระบบปฏิบัติการ Android โดยตรง และมีฟังก์ชันการแปลงโทเคน (Token) กล่าวคือ ทุกครั้งที่เราชำระเงินกับร้านค้า ระบบจะสมมติหมายเลขบัตร ซึ่งก็คือโทเคน ขึ้นมาแทนเลขบัตรจริง โดยจะเป็นหมายเลขเฉพาะของอุปกรณ์นั้น ๆ และเชื่อมโยงกับรหัสความปลอดภัยที่จะเปลี่ยนแปลงทุกครั้งที่มีการทำธุรกรรมเพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้งาน จึงสามารถรับรองได้ว่า ร้านค้าที่เราชำระเงินให้นั้นจะไม่เห็นข้อมูลบัตรเครดิตจริง ๆ ของเราอย่างแน่นอน 

ส่วนเรื่องความน่าเชื่อถือของแอปพลิเคชันคงไม่ต้องพูดอะไรมาก เพราะ Google Wallet ถูกพัฒนาโดยบริษัท Search Engine ที่ใหญ่ที่สุดในโลกและเรารู้จักกันดีอย่าง Google ฉะนั้นจึงการันตีความปลอดภัยได้ แต่ก่อนโหลดแอปฯ ต้องดูโลโก้และสัญลักษณ์ต่าง ๆ ให้ดีว่าเป็นของ Google จริง ไม่เช่นนั้นอาจเผลอไปโหลดของปลอมได้

Google Wallet ใช้ยังไง

ได้รู้กันไปแล้วว่า Google Wallet คืออะไรและมีหลักการทำงานยังไง ก็น่าจะมั่นใจได้ระดับหนึ่งแล้วว่าแอปพลิเคชันนี้ปลอดภัยหายห่วง และสามารถใช้ชำระเงินในชีวิตประจำวันได้เลยโดยไม่ต้องพกเงินสดหรือบัตร ทีนี้ มาดูกันบ้างว่า Google Wallet ใช้งานยังไง

ก่อนอื่น เราต้องมีมือถือ หรืออุปกรณ์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชัน 5.0 ขึ้นไป และบัญชี Google รวมถึงบัตรเครดิตที่แอปพลิเคชันรองรับ ซึ่งปัจจุบัน Google Wallet รองรับเฉพาะบัตรเครดิตธนาคารกรุงเทพ (Visa และ Mastercard) และบัตรของบริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTC (Visa และ Mastercard) เท่านั้น แต่กำลังเร่งพัฒนาเพื่อให้สามารถใช้บัตรอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ โดยล่าสุด มีข่าวว่าผู้ที่ถือบัตรของทรูมันนี (Prepaid Mastercard) จะสามารถเพิ่มบัตรลง Google Wallet ได้ในเร็ว ๆ นี้

เมื่อมีอุปกรณ์และบัตรแล้ว ก็สามารถทำตามขั้นตอนดังต่อไปนี้ได้เลย

• ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน Google Wallet จาก Google Play Store
• เมื่อเปิดแอปฯ ขึ้นมา ระบบจะให้เพิ่มบัตรเครดิตหรือบัตรต่าง ๆ ผ่านตัวเลือก “เพิ่มลงใน Wallet” โดยสามารถใช้กล้องสแกนบัตร หรือจะกรอกรายละเอียดเองก็ได้
• ยืนยันตัวตนทาง SMS ด้วยรหัส OTP จากทางธนาคาร หากกรอกรหัสถูกต้อง ระบบจะผูกบัตรเครดิตเข้ากับ Google Wallet ทันที
• เมื่อเพิ่มบัตรแล้ว กด “บันทึก” ที่ด้านล่าง
• อ่านข้อกำหนดของผู้ออกบัตร และกด “ยอมรับ”
• หากเลือกเปิดฟีเจอร์การแตะจ่ายเพื่อชำระเงินแบบไร้สัมผัส ระบบจะให้ตั้งค่า Google Pay เป็นค่าเริ่มต้น โดยอุปกรณ์ที่ใช้อยู่จะต้องรองรับ NFC (Near-Field Communication) หรือเทคโนโลยีการเชื่อมต่อที่อยู่บนมาตรฐาน ซึ่งจะทำให้มีความสะดวกสบายมากขึ้นในการทำธุรกรรมด้วย

เมื่อทำตามขั้นตอนข้างต้นเสร็จ ผู้ใช้งานจะได้รับข้อความว่าระบบได้เพิ่มบัตรสำหรับชำระเงินร้านค้าเรียบร้อยแล้ว จากนั้น เราก็สามารถใช้งาน Google Wallet เพื่อจ่ายเงินร้านค้าได้เลย เพียงแค่กดเลือกบัตรที่ต้องการ แล้วแตะกับร้านค้าที่รองรับการชำระเงินผ่าน Google Wallet

สรุป

หลังจากนี้เวลาเจอคำว่า Google Wallet ก็ไม่ต้องงงอีกต่อไป เพราะตอนนี้เรารู้แล้วว่า Google Wallet คืออะไร มีไว้ทำอะไร และใช้งานอย่างไร สำหรับผู้ที่ใช้โทรศัพท์ระบบปฏิบัติการ Android แนะนำให้โหลดติดเครื่องไว้เลย เพราะหากเกิดเหตุฉุกเฉินอย่างการลืมบัตร เอกสารสำคัญ หรือแม้แต่ลืมพกเงินสด Google Wallet ก็สามารถช่วยได้ ยิ่งในยุคที่การชำระเงินแบบดิจัทัลได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อย ๆ การปรับตัวตามให้ทันก็เป็นสิ่งสำคัญ เพราะวันหนึ่ง สังคมของเราอาจเข้าสู่ Cashless Society แบบ 100% ก็ได้ การเรียนรู้สิ่งเหล่านี้เอาไว้ จึงจำเป็น

หากคุณกำลังประสบปัญหาในการทำธุรกิจ Primal Digital Agency เป็นบริษัทรับทำโฆษณาชั้นนำของไทย เรามีผู้เชี่ยวชาญกว่า 150 คนที่พร้อมสร้างการรับรู้และพาคุณไปสู่เป้าหมายที่วางไว้ กรอกฟอร์มเพื่อติดต่อเรา และรับแผนการตลาดที่ออกแบบมาเพื่อธุรกิจคุณโดยเฉพาะได้เลยวันนี้