รู้ก่อนคู่แข่ง! กลยุทธ์การตลาดดิจิทัลเพื่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวมีอะไรบ้าง

ธุรกิจท่องเที่ยว ถือเป็นอุตสาหกรรมสำคัญต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศไทย แม้การระบาดของโรคโควิด-19 จะทำให้ผลประกอบการซบเซาในช่วง 2 – 3 ปีที่ผ่านมา แต่หลังจากที่สถานการณ์ต่าง ๆ เริ่มคลี่คลาย อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวก็เริ่มกลับมาคึกคักอีกครั้ง และสร้างเม็ดเงินจำนวนมหาศาลให้กับประเทศ โดยธุรกิจท่องเที่ยวในไทยไม่ได้หมายถึงแค่สถานที่ท่องเที่ยวเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังรวมถึงธุรกิจอื่น ๆ ในเครือข่ายที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็น โรงแรม คอนโดมิเนียม ร้านอาหาร ร้านจำหน่ายของที่ระลึก ไปจนถึงการคมนาคมขนส่งภายในประเทศ  

และเพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถปรับกลยุทธ์การตลาดครั้งใหม่ได้อย่างตรงจุด และตอบโจทย์พฤติกรรมนักเดินทางในยุคหลังโควิด-19 ได้มากที่สุด วันนี้เราจะมาแนะนำถึง 3 กลยุทธ์การตลาดดิจิทัลเพื่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยว รวมถึงเคล็ดลับทำการตลาดสำหรับโรงแรมว่าควรทำอย่างไรให้ธุรกิจดำเนินไปได้อย่างราบรื่น พร้อมกับไปดู Case Study ของโรงแรมที่ประสบความสำเร็จ ที่อาจทำให้ผู้ประกอบการเห็นถึงไอเดียในการวางแผนการตลาดให้ตรงใจกลุ่มเป้าหมาย เพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด 

การตลาดดิจิทัลเพื่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวสำคัญอย่างไร? 

ในปัจจุบัน อินเทอร์เน็ตได้เข้ามามีบทบาทอย่างมากในการเข้าถึงข้อมูลจากทั่วทุกมุมโลก ทำให้นักเดินทางยุคใหม่ใช้ช่องทางออนไลน์ในการจองที่พัก จองตั๋วเครื่องบิน รวมถึงศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวในประเทศไทยได้อย่างรวดเร็ว 

ด้วยเหตุนี้ การตลาดดิจิทัลจึงมีความสำคัญอย่างมาก! โดยผู้ประกอบการสามารถใช้ประโยชน์จากการใช้งานอินเทอร์เน็ต ในการสร้าง Awareness เพื่อให้ลูกค้ารับรู้การมีอยู่ของธุรกิจผ่านสื่อออนไลน์ต่าง ๆ โดยเฉพาะในสื่อโซเชียลมีเดีย ไม่ว่าจะเป็นการสร้างคอนเทนต์เพื่อดึงดูดความสนใจ จนทำให้เกิดการแชร์ต่อ ๆ กันไป ส่งผลให้ธุรกิจเป็นที่รู้จักมากขึ้น หรือแม้แต่การสร้าง Google my Business ที่สามารถทำให้นักท่องเที่ยวค้นเจอธุรกิจของคุณบน Google Map SEO ได้ง่ายขึ้น 

พร้อมกันนั้น อินเทอร์เน็ต ยังทำให้การทำการตลาดดิจิทัลสะดวกและรวดเร็วมากกว่าเดิม ตัวอย่างเช่น หากแคมเปญการตลาดที่คุณจัดทำขึ้น ไม่ได้สร้างผลลัพธ์อย่างที่คาดหวังไว้ ผู้ประกอบการยังสามารถรับรู้ถึงปัญหาได้ผ่านการ Track ข้อมูลในเว็บไซต์ ซึ่งการเก็บข้อมูลทางการตลาดจะมีความละเอียดแม่นยำมากกว่าการเก็บข้อมูลในแบบออฟไลน์หลายเท่าตัว จนทำให้ผู้ประกอบการสามารถกลับมาปรับปรุงแผนธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในระยะเวลาอันรวดเร็ว

รับทำการตลาดโรงแรม

 

3 กลยุทธ์การตลาดดิจิทัลเพื่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยว

เมื่อการทำการตลาดดิจิทัลสำคัญต่อธุรกิจท่องเที่ยวขนาดนี้ เราจึงได้รวบรวม 3 กลยุทธ์สำคัญที่อาจช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างตรงจุด ดังนี้ 

กลยุทธ์ 1 การทำคอนเทนต์โซเชียลมีเดีย

โซเชียลมีเดียมีอิทธิพลอย่างมากต่อการตลาดในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การช่วยให้ผู้ประกอบการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างรวดเร็ว โดยข้อมูลจากผลงานวิจัยของ Schofields ได้ระบุว่า นักท่องเที่ยวกว่า 40% ที่มีอายุระหว่าง 18 – 33 ปี ยังใช้โซเชียลมีเดียเป็นแรงบันดาลใจในการสร้างทริปเดินทาง ดังนั้น กลยุทธ์นี้จึงเป็นหนทางกระตุ้นแรงบันดาลใจ ทำให้ผู้ประกอบการโปรโมตธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ภายใต้แพลตฟอร์มที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายที่สูงนัก

1.   วิเคราะห์กลุ่มเป้าหมาย

การใช้กลยุทธ์โซเชียลมีเดียก็ไม่ได้ต่างจากแผนการตลาดทั่วไป หลัก ๆ ผู้ประกอบการควรวิเคราะห์ความต้องการของนักเดินทางเพื่อจะได้ออกแบบสื่อโฆษณาให้ตอบโจทย์พฤติกรรมการเดินทางของพวกเขาให้ได้มากที่สุด โดยทั่วไปจะมีอยู่สองอย่างหลัก ๆ ที่พวกเขาต้องการคือ การสร้างประสบการณ์ใหม่ ๆ และความทรงจำที่น่าประทับใจจนอยากบอกต่อ

2.   สร้างคอนเทนต์ไม่เหมือนใคร

เมื่อได้ Insight จากกลุ่มเป้าหมายแล้ว นักการตลาดก็สามารถเริ่มวางแผนทำคอนเทนต์ตามที่ได้วิเคราห์มาได้เลย โดยอย่าลืมที่จะบอกเล่าจุดเด่นของสถานที่ท่องเที่ยว รวมถึงจัดโปรโมชันตามช่วงเวลาและความเหมาะสม พร้อมถ่ายทอดประสบการณ์สุด Exclusive ที่พวกเขาจะหาไม่ได้จากที่ไหน นอกจากการเดินทางไปพักผ่อนกับสถานที่ที่คุณได้จัดเตรียมเอาไว้ให้เท่านั้น

3.   โปรโมทในแพลตฟอร์มที่เหมาะสม

แพลตฟอร์มแต่ละโซเชียลก็เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายที่แตกต่างกันไป ดังนั้น นักการตลาดอาจต้องวิเคราะห์ให้ดีว่าลูกค้าธุรกิจท่องเที่ยวของคุณส่วนใหญ่มักใช้แพลตฟอร์มไหนเป็นหลัก เช่น ถ้าธุรกิจของคุณคือโรงแรมที่มี Activity ให้ทำมากมายและเหมาะกับวัยรุ่น แพลตฟอร์มหลักที่คุณควรใช้โปรโมตในช่วงแรก อาจเป็นแพลตฟอร์มที่เน้นกลุ่มวัยรุ่นเป็นหลัก แต่หากโรงแรมของคุณมีกลุ่มเป้าหมายเป็นผู้ใหญ่สูงวัย ก็อาจใช้แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่พวกเขาใช้เป็นประจำ โดยในช่วงแรกแนะนำให้เลือกทำเพียงช่องทางเดียวก่อน แต่ถ้ายังไม่ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย ก็ค่อยขยับขยายไปยังแพลตฟอร์มอื่น ๆ เพิ่มเติม เพียงเท่านี้ก็จะช่วยให้กลุ่มเป้าหมายเห็นธุรกิจของคุณได้มากขึ้นแล้ว

4.   อัปเดตโซเชียลมีเดียอย่างสม่ำเสมอ

หากมีการกำหนดและวางแผนแล้วว่า จะโพสต์คอนเทนต์ลงบนโซเชียลมีเดียด้วยความถี่ต่อเดือนละกี่โพสต์ และแต่ละเดือนคอนเทนต์ควรมีเนื้อหาอะไรบ้าง ก็ต้องโพสต์ให้สม่ำเสมอและตรงกับแผนที่วางเอาไว้ เพราะนอกจากจะทำให้นักเดินทางเห็นคอนเทนต์ของคุณได้อย่างต่อเนื่องแล้ว ยังจะเป็นการช่วยกระตุ้นให้รู้สึกอยากเดินทางมาพักผ่อน อีกทั้งยังอาจช่วยเพิ่มโอกาสให้กับกลุ่มเป้าหมายใหม่ ๆ ได้เจอคอนเทนต์ของคุณทางโซเชียลด้วย

กลยุทธ์ 2 การทำ SEO

นอกเหนือจากกลยุทธ์ทางโซเชียลมีเดีย ซึ่งจากสถิติพบว่านักเดินทางกว่า 80% ใช้ระบบ Search Engine ค้นหาข้อมูลเพื่อวางแผนท่องเที่ยวตั้งแต่จองสายการบินไปจนถึงจองห้องพักโรงแรม ด้วยเหตุนี้หากผู้ประกอบการมองข้ามความสำคัญของกลยุทธ์ SEO (Search Engine Optimization) ก็อาจทำให้พลาดโอกาสเข้าถึงนักเดินทางรายสำคัญที่อาจกลายมาเป็นลูกค้าประจำของธุรกิจ

1.   สร้างเว็บไซต์ธุรกิจ

เพื่อถ่ายทอดประสบการณ์และบอกเล่าเรื่องราวของธุรกิจสุด Exclusive ผู้ประกอบการควรมีหน้าเว็บไซต์เป็นของตนเอง โดย หากเป็นธุรกิจโรงแรมก็อาจบอกเล่าเรื่องราวที่จำเป็น เช่น รูปแบบห้องพัก ความสะดวกสบาย ประสบการณ์การมาเที่ยวชม โดยควรออกแบบหน้า UX/UI ให้สวยงามและสะดวกต่อการหาข้อมูล เพราะเมื่อพวกเขาประทับใจ อาจทำให้อันดับหน้าเว็บสูงขึ้นและถูกนักเดินทางค้นพบมากขึ้นได้

2.   แทรกคีย์เวิร์ดในบทความและกระจายให้ทั่วหน้าเว็บไซต์

เมื่อสร้างเว็บไซต์เรียบร้อย ขั้นตอนต่อไปก็คือการแทรกคีย์เวิร์ดสำคัญที่นักเดินทางมักใช้ค้นหาข้อมูล โดยนักการตลาดอาจใช้เครื่องมือ Google Keyword planner ค้นหาระดับ Volume จากนั้นก็นำคำที่ได้มากระจายให้ทั่วเว็บไซต์ พร้อมกันนั้น อาจนำคีย์เวิร์ดที่ได้มาสร้างเป็นบทความ (Blog) เพื่อบอกเล่าประสบการณ์และเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของเราเพิ่มเติม แต่ต้องไม่ลืมที่จะแทรกคีย์เวิร์ดเหล่านั้นลงไปใน Headline, เนื้อหา, Meta Description รวมถึงปรับแต่งหน้าเว็บไซต์ตามหลัก SEO ทั้ง On-page และ Off-page เป็นประจำ พร้อมทั้งรักษาคุณภาพเว็บไซต์ให้คงที่อย่างสม่ำเสมอ เพียงเท่านี้ ก็จะสามารถเพิ่มคะแนนการจัดอันดับ จนทำให้เว็บไซต์ของคุณถูกนักเดินทางค้นพบในระบบ Search Engine ได้มากขึ้นแล้ว

กลยุทธ์ 3 ให้อินฟลูเอนเซอร์ช่วยโปรโมต 

อินฟลูเอนเซอร์ก็เป็นอีกกลยุทธ์หนึ่งที่ช่วยดึงดูดความสนใจและสร้างเม็ดเงินให้ธุรกิจได้ ดังจะเห็นได้จากการใช้อินฟลูเอนเซอร์ช่วยโปรโมตธุรกิจท่องเที่ยวในประเทศจีน โดย Weibo และ Ctrip ได้ร่วมมือกันเปิดตัวแคมเปญ “Liang Jianzhang BOSS Livestreaming Room” หรือการให้อินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังอย่าง Liang Jianzhang แต่งคอสเพลย์เป็นเปาบุ้นจิ้นเพื่อโปรโมตการท่องเที่ยว โดยแคมเปญนี้ได้รับความสำเร็จอย่างล้นหลาม ดังจะเห็นได้จากผู้ชมสตรีมในเว็บไซต์ที่มากกว่า 10.19 ล้านคน ส่งผลให้มีการจองห้องพักมากถึง 48,000 ห้องต่อคืน และทำให้ตั๋วพิเศษของสายการบินอีสเทิร์น แอร์ไลน์ ขายหมดภายใน 3 นาที ถือเป็นกลยุทธ์การใช้อินฟลูเอนเซอร์ที่ประสบความสำเร็จมากเลยทีเดียว 

เคล็ดลับ ทำการตลาดสำหรับโรงแรม

 

Case Study: Dusit Thani ธุรกิจโรงแรมที่ใช้กลยุทธ์ SEO เพิ่มประสิทธิภาพเว็บไซต์

Dusit Thani เป็นเครือบริษัทที่ให้บริการที่พักประเภทโรงแรมและรีสอร์ท ทั้งในกรุงเทพฯ และเมืองท่องเที่ยวต่าง ๆ ในประเทศไทย โดยธุรกิจท่องเที่ยวรายนี้ประสบความสำเร็จจากการใช้กลยุทธ์ SEO เพื่อเพิ่มผลลัพธ์ทางการตลาด 

ความท้าทาย

Dusit Thani ต้องการใช้กลยุทธ์ออร์แกนิกอย่างการทำ SEO เพื่อเพิ่มผลลัพธ์การค้นหาให้สูงขึ้นในสเกลระดับ Global โดยมีเป้าหมายที่จะปรับแต่งเว็บไซต์ Local SEO ให้เหมาะสมกับสถานที่ตั้งของดุสิตธานี ที่มีอยู่ทั้งหมด 20 แห่งจาก 14 ประเทศ เพื่อลดค่าใช้จ่ายจากการซื้อสื่อโฆษณาที่มีมูลค่าสูง

ดำเนินการด้วยกลยุทธ์ SEO

Dusit Thani ได้มอบหมายให้ Primal Digital Agency ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดดิจิทัลช่วยดูแลเรื่องการทำ SEO ในเว็บไซต์ โดยผู้เชี่ยวชาญจาก Primal ได้เข้ามาช่วยตรวจสอบเและวางแผนการทำ SEO ในเชิงลึก พร้อมปรับปรุงคุณภาพของเว็บไซต์ทั้ง On-page และ Off-page เพื่อให้ Dusit Thani เป็นเว็บไซต์ที่ได้รับการมองเห็นและมีรายได้ที่เพิ่มสูง 

ผลลัพธ์ความสำเร็จ

จากการให้ผู้เชี่ยวชาญช่วยวางแผนกลยุทธ์การทำ SEO เว็บไซต์ของดุสิตธานีมีอัตราการค้นหาคีย์เวิร์ดในหน้าแรกของ Google เพิ่มสูงขึ้นถึง 630% นอกจากนี้ยังได้รับผลตอบแทนจากการทำ SEO (Return on SEO spend) สูงถึง 123.5 เท่าภายในระยะเวลา 1 ปี ถือเป็นการใช้กลยุทธ์ SEO ที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดเคสหนึ่ง

 

สรุป

เมื่อโรคระบาดได้ผ่านไปแล้ว ต่อจากนี้ธุรกิจท่องเที่ยวก็จะเริ่มฟื้นตัวขึ้น ส่งผลให้คู่แข่งเพิ่มมากขึ้นด้วย ดังนั้น ถ้าธุรกิจใดไม่สามารถปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลงของโลกดิจิทัล หรือไม่นำกลยุทธ์การตลาดออนไลน์ไปปรับใช้ ก็อาจถูกผลักให้ออกจากสนามแข่งขันได้ จนไม่สามารถเข้าถึงกลุ่มนักเดินทางทั้งหน้าเก่าและใหม่ ทำให้เสียโอกาสเติบโตทางธุรกิจตามไปด้วย

หากผู้ประกอบการท่านใดยังไม่มั่นใจว่าจะนำกลยุทธ์เหล่านี้ไปปรับใช้อย่างไร ติดต่อ Primal Digital Agency ได้เลย เรามีผู้เชี่ยวชาญกว่า 150 คนที่พร้อมดูแลแผนการตลาดสำหรับธุรกิจท่องเที่ยวโดยเฉพาะ รวมถึงบริการรับทำการตลาดโรงแรมเพื่อช่วยขับเคลื่อนธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ กรอกรายละเอียดและปรึกษาเราได้เลยวันนี้!