เจาะลึกกลยุทธ์ Petsumer ดึงดูดใจกลุ่มทาสสัตว์เลี้ยงสายเปย์
ในยุคปัจจุบัน สัตว์เลี้ยงไม่ได้เป็นเพียงเพื่อนสี่ขา แต่ยังถูกยกระดับเป็นสมาชิกในครอบครัวที่สำคัญไม่แพ้คนอื่น ๆ ซึ่งนอกจากมุมมองที่เปลี่ยนไปนี้จะทำให้ตลาดสินค้าและบริการสำหรับสัตว์เลี้ยงเติบโตอย่างก้าวกระโดด ผู้ประกอบการหลายคนที่อาจไม่เคยสนใจมาก่อน ก็เริ่มมองว่าตลาดนี้มีศักยภาพ และพยายามหากลยุทธ์เพื่อเจาะความสนใจของเหล่าทาสเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง!
ทั้งนี้ กลยุทธ์ Petsumer ก็เป็นอีกหนึ่งกุญแจสำคัญในการดึงดูดใจ “ทาสรักสัตว์เลี้ยง” ที่นักการตลาดกำลังให้ความสนใจ ทว่า Petsumer คืออะไร? แล้วเราจะใช้วิธีไหนเจาะความสนใจพวกเขาได้บ้าง บทความนี้จะพาคุณเจาะลึกกลยุทธ์ Pet Marketing 5 รูปแบบ พร้อมตัวอย่างแบรนด์ที่ประสบความสำเร็จในตลาด Petsumer ติดตามกันเลย
Table of Contents
กลยุทธ์ Petsumer Marketing คืออะไร?
กลยุทธ์ Petsumer Marketing (Pet สัตว์เลี้ยง + Consumer ผู้บริโภค) หรือ Pet Marketing หมายถึง กลยุทธ์ทางการตลาดที่มุ่งเน้นไปที่กลุ่มเป้าหมายที่เลี้ยงสัตว์เลี้ยง โดยเฉพาะสุนัขและแมว กลยุทธ์นี้มุ่งสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับกลุ่มทาส (ผู้เลี้ยงสัตว์) ผ่านกลยุทธ์ต่าง ๆ เพื่อดึงดูดใจ สร้างการมีส่วนร่วม และกระตุ้นให้พวกเขาซื้อสินค้าและบริการที่เกี่ยวข้องกับสัตว์เลี้ยง
ทั้งนี้ กลยุทธ์ Petsumer ไม่จำเป็นต้องใช้กับสินค้าหรือบริการที่เกี่ยวข้องกับสัตว์เลี้ยงโดยตรงเท่านั้น แต่แบรนด์ยังสามารถใช้ “สัตว์เลี้ยง” เข้ามาเป็นอัตลักษณ์ส่วนหนึ่งของแบรนด์ เพื่อสร้างภาพจำหรือสร้างมูลค่าพิเศษบางอย่างขึ้น
แนวโน้มการเติบโตของตลาดธุรกิจสัตว์เลี้ยง Petsumer
ตลาด Petsumer เป็นตลาดที่มีศักยภาพเติบโตในระยะยาว และยังสามารถขยายสินค้าและบริการไปยังหลากหลายกลุ่ม โดยรายงานของ Global Pet Care Market เผยว่าตลาดสัตว์เลี้ยงทั่วโลกมีมูลค่า 242.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2021 และคาดว่าจะเติบโตถึง 338.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในปี 2028 ซึ่งมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) สูงถึง 6.4%
สำหรับแนวโน้มการเลี้ยงสัตว์ในประเทศไทย ก็มีแนวโน้มเติบโตไม่แพ้กัน โดยรายงานจาก Pet Market in Thailand 2022 คาดว่าจะเติบโตถึง 32,000 ล้านบาทภายในปี 2025 และข้อมูลจาก Euromonitor International ยังยืนยันในทำนองเดียวกันว่า ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีจำนวนประชากรสุนัขมากเป็นอันดับ 5 ของโลก มีครัวเรือนที่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงถึง 42% และคนไทยใช้จ่ายกับสัตว์เลี้ยงเฉลี่ยกว่า 6,900 บาทต่อปี
ทำไมตลาด Petsumer ถึงเติบโตอย่างต่อเนื่อง?
ตลาดธุรกิจสัตว์เลี้ยงเติบโตอย่างก้าวกระโดดด้วยปัจจัยหลายอย่าง
- การขยายตัวของเศรษฐกิจ: ผู้คนมีรายได้มากขึ้น มีกำลังซื้อสินค้าและบริการที่เกี่ยวข้องกับสัตว์เลี้ยงมากขึ้น
- การเปลี่ยนแปลงทางสังคม: ครอบครัวมีขนาดเล็กลง ผู้คนเลี้ยงสัตว์เลี้ยงเสมือนลูก
- การเข้าถึงข้อมูล: ผู้คนสามารถค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับการดูแลสัตว์เลี้ยงได้ง่ายและสะดวกมากกว่าอดีต
- เทคโนโลยี: มีสินค้าและบริการใหม่ ๆ ที่ตอบสนองความต้องการของสัตว์เลี้ยงเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้เกิดการซื้อขายเพิ่มขึ้นด้วย
Petsumer Insight: พฤติกรรมและความต้องการของกลุ่ม Pet Lover
Petsumer Insight เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้ผู้ประกอบการเข้าใจความต้องการของคนรักสัตว์เลี้ยง ช่วยให้สามารถพัฒนาสินค้าและบริการให้ตอบโจทย์พวกเขาได้
โดนข้อมูลเชิงลึกของคนรักสัตว์เลี้ยงที่น่าสนใจ มีดังนี้
1. Pet Parent: เลี้ยงเพื่อเป็นลูก
คนในตลาด Petsumer มองว่าสัตว์เลี้ยงเหมือนลูกหรือคนในครอบครัว โดยจะทุ่มเทความรัก ความเอาใจใส่ และเวลาให้กับสัตว์เลี้ยงอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด ซึ่งสอดคล้องกับอัตราการเกิดของเด็กทารกที่ลดลงอย่างมีนัยสำคัญ แสดงให้เห็นว่าคนอาจมีลูกน้อยลง และหันมาเลี้ยงสัตว์แทนลูกมากขึ้น
2. Pet Prestige: เลี้ยงเพื่อสถานะทางสังคม
กลุ่มคนรักสัตว์เลี้ยงใช้สัตว์เลี้ยงแสดงสถานะทางสังคมอีกรูปแบบหนึ่ง โดยมักเลือกเลี้ยงสายพันธุ์หายาก ราคาแพง เพื่อส่งเสริมภาพลักษณ์และสะท้อนความร่ำรวย เช่น การเลี้ยงสิงโต หรือสัตว์หายากที่มีราคาสูง
3. Pet Healing: เลี้ยงเพื่อช่วยเหลือ ช่วยบำบัดรักษา
การเลี้ยงสัตว์ยังเพื่อวัตถุประสงค์ในการช่วยเหลือและบำบัดรักษา เช่น สุนัขช่วยเหลือผู้พิการ แมวบำบัดผู้ป่วยที่มีปัญหาทางจิตใจ ม้าบำบัดผู้พิการ ช่วยให้ผู้ป่วยมีพัฒนาการด้านการทรงตัว เป็นต้น
ทั้งนี้ มีงานวิจัยระบุชัดเจนว่า การเลี้ยงสัตว์เป็นวิธีการเพิ่มความสุขและกระตุ้นอารมณ์เชิงบวกที่ได้ผลอย่างมาก โดยงานวิจัยโดยมหาวิทยาลัย Basel ประเทศสวิตเซอร์แลนด์เผยว่า การสัมผัสกับสุนัขเพียง 10 นาที สามารถเพิ่มระดับสาร Oxytocin ในร่างกายมนุษย์ได้ถึง 20% ในขณะเดียวกัน ข้อมูลจากงานวิจัยของมหาวิทยาลัย Gothenburg ประเทศสวีเดนก็ระบุว่า เจ้าของสุนัขที่มีภาวะหลอดเลือดหัวใจตีบมีโอกาสรอดชีวิตมากกว่าผู้ไม่มีสัตว์เลี้ยงภายในบ้านถึง 9 เท่า!
4. Pet Influencer: เลี้ยงเพื่อสร้างคอนเทนต์
ในตลาดของคนรักสัตว์เลี้ยง มีกลุ่มของคนที่มีสัตว์เลี้ยงเพื่อวัตถุประสงค์ในการสร้างคอนเทนต์และหารายได้ด้วยเช่นกัน โดยมากมักเป็นกลุ่มอินฟลูเอนเซอร์ที่มีสัตว์เลี้ยงอยู่แล้ว และสร้างคอนเทนต์ไลฟ์สไตล์ร่วมกับสัตว์เลี้ยงของตนเองจนมีชื่อเสียง
หลักการสำคัญของกลยุทธ์ Petsumer
เมื่อตลาดคนรักสัตว์เลี้ยงกำลังเติบโต นักการตลาดจึงควรมุ่งหาโอกาสและแนวทางเจาะตลาดกลุ่มนี้ เพื่อเพิ่มโอกาสการเติบโตของธุรกิจให้ได้มากที่สุด
ทั้งนี้ การเจาะตลาด Petsumer ให้สำเร็จ เราอยากให้เข้าใจหลักการสำคัญที่ควรรู้ก่อน ดังนี้
- เข้าใจความต้องการของทาส: ทาสแต่ละคนมีความต้องการและความชอบที่แตกต่างกัน แบรนด์ควรศึกษาและเข้าใจความต้องการของทาส เพื่อนำเสนอสินค้า บริการ หรือคอนเทนต์ที่ตรงใจ
- สร้างความผูกพันทางอารมณ์: สัตว์เลี้ยงเป็นสิ่งมีชีวิตที่มอบความรักและความสุขแก่ผู้เลี้ยง แบรนด์ควรสร้างกลยุทธ์ที่กระตุ้นอารมณ์ สร้างความประทับใจ และจดจำ
- นำเสนอคอนเทนต์ที่มีคุณภาพ: ทาสต้องการข้อมูลและความรู้เกี่ยวกับการดูแลสัตว์เลี้ยง แบรนด์ควรสร้างคอนเทนต์ที่หลากหลาย เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของทาส
5 กลยุทธ์ Petsumer ดึงดูดใจทาสรักสัตว์เลี้ยง
ทั้งนี้ เรามี 5 กลยุทธ์มัดใจทาสรักสัตว์เลี้ยงที่น่าสนใจมาแนะนำ บอกเลยว่าทุกแบรนด์นำไปปรับใช้ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นแบรนด์ที่ขายสินค้าหรือบริการเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงเท่านั้น!
-
กลยุทธ์ Emotional Marketing: สื่อสารผ่านอารมณ์ จับใจทาส
Emotional Marketing เป็นกลยุทธ์การสื่อสารที่มุ่งเน้นไปที่การกระตุ้นอารมณ์และความรู้สึกของกลุ่มเป้าหมาย เพื่อสร้างความประทับใจ นำเสนอประสบการณ์ที่ดี และสร้างความผูกพัน ซึ่งนักการตลาดสามารถใช้กลยุทธ์นี้ดึงดูดใจทาสด้วยการนำเสนอความรู้สึกที่ทาสมีต่อสัตว์เลี้ยง เช่น ความรักของทาสที่มีให้สัตว์เลี้ยงเหมือนเพื่อนและสมาชิกในครอบครัว ความผูกพันที่ทาสมีกับสัตว์เลี้ยงและต้องการมอบสิ่งที่ดีที่สุด หรือความสุขที่ทาสรู้สึกดีเมื่อเห็นสัตว์เลี้ยงสุขภาพดีและร่าเริง
-
กลยุทธ์ Content Marketing: สร้างคอนเทนต์โดนใจ ตอบโจทย์ความต้องการ
สำหรับการใช้ Content Marketing ดึงดูดเหล่าทาส สามารถทำในรูปแบบคอนเทนต์ให้ความรู้หรือความบันเทิงโดยเผยแพร่ผ่านแพลตฟอร์มต่าง ๆ ที่กลุ่มเป้าหมายใช้งาน เช่น การทำคอนเทนต์รีวิวอาหาร ของเล่น อุปกรณ์ และสถานที่ท่องเที่ยวสำหรับสัตว์เลี้ยงใน YouTube การทำบทความให้ความรู้เกี่ยวกับการดูแลสุขภาพของสัตว์เลี้ยงลงเว็บไซต์
-
กลยุทธ์ Influencer Marketing: ดึงพลัง Influencer เจาะกลุ่มเป้าหมาย
ร่วมมือกับอินฟลูเอนเซอร์ที่มีอิทธิพลในกลุ่มทาสรักสัตว์เลี้ยง ไม่ว่าจะเป็นอินฟลูเอนเซอร์คน หรืออินฟลูเอนเซอร์ที่เป็นสัตว์เลี้ยงโดยตรง โดยเลือกประเภทตามวัตถุประสงค์ทางการตลาดและงบประมาณที่มี เพื่อเพิ่มการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย สร้างความน่าเชื่อถือ และกระตุ้นการตัดสินใจซื้อ
-
กลยุทธ์ Personalization: เติมเต็มความต้องการเฉพาะบุคคล
นำเสนอสินค้าและบริการที่ตรงกับความต้องการของสัตว์เลี้ยงแต่ละตัว เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของเหล่าทาสที่สุด เช่น ร้านขายอาหารสัตว์ที่มีอาหารหลากหลายชนิดให้เลือกซื้อตามสายพันธุ์ อายุ และสุขภาพของสัตว์เลี้ยง หรือร้านรับฝากสุนักที่มีบริการดูแลสัตว์เลี้ยงแบบ 1 ต่อ 1 เพื่อมอบการดูแลที่มีประสิทธิภาพสูงสุด
-
กลยุทธ์ Community Marketing: สร้างสังคมทาส แชร์ประสบการณ์
สร้างพื้นที่ให้ทาสได้พบปะ พูดคุย แลกเปลี่ยนประสบการณ์ผ่านช่องทางออนไลน์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่ม Facebook หรือแอปพลิเคชัน เพื่อที่จะรวบรวมกลุ่มเป้าหมายที่มีความสนใจคล้ายคลึงกัน และสร้างสรรค์คอนเทนต์เพื่อตอบสนองความต้องการหรือทำการตลาดกับพวกเขาต่อไป
กรณีศึกษา: กลยุทธ์ Petsumer ของแบรนด์ดัง
- แบรนด์อาหารสุนัข Pedigree: มัดใจทาสด้วยกลยุทธ์ Emotional Marketing เช่น
- โฆษณา “100 Days of Love” เล่าเรื่องราวความผูกพันของเด็กชายกับลูกสุนัข
- แคมเปญ “Pedigree Fun Day” ให้ทาสและสุนัขได้ร่วมกิจกรรม เล่นเกม ถ่ายรูป
- แบรนด์อาหารแมว Whiskas: ใช้กลยุทธ์ Content Marketing นำเสนอเนื้อหาที่มีประโยชน์และตอบข้อสงสัยของกลุ่มเป้าหมาย เช่น
- บทความ “5 สัญญาณเตือนว่าแมวของคุณกำลังป่วย”
- วิดีโอ “วิธีฝึกแมวให้ใช้กระบะทราย”
- แบรนด์อาหารสำหรับสัตว์เลี้ยง Purina: ร่วมมือกับ Influencer หรือผู้มีอิทธิพลในกลุ่มทาส เพื่อนำเสนอสินค้าและบริการ สร้างการรับรู้ และกระตุ้นการตัดสินใจซื้อ เช่น
- เน็ตไอดอล “เนย โปรเจกต์ แคท” รีวิวอาหารแมว Purina Pro Plan
- แบรนด์อาหาร Me-O: ใช้กลยุทธ์ Community Marketing สร้างชุมชนให้ทาส พูดคุย และแชร์ประสบการณ์เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงของตัวเอง
- กลุ่ม Facebook “ทาสแมว” มีสมาชิกกว่า 1 ล้านคน
- แอปพลิเคชัน “Pet Me” มีฟีเจอร์ “Community” ให้ทาสได้แชร์ประสบการณ์ รูปภาพ วิดีโอ
- แบรนด์ทิชชูสก๊อตต์ (Scott): ใช้กลยุทธ์สร้างภาพลักษณ์แบรนด์ที่ผูกพันกับสัตว์เลี้ยงและเข้าถึงกลุ่มลูกค้าผู้รักสัตว์ ผ่านการดึงเอาน้องหมามาเป็นอัตลักษณ์หลักของสินค้า
สรุป
Petsumer เป็นตลาดที่กำลังเติบโตอย่างมากทั้งไทยและต่างประเทศ อย่างไรก็ดี ถ้าคุณอยากจะลองเจาะตลาดกลุ่มนี้ดูบ้าง แต่ไม่รู้จะเริ่มต้นอย่างไรก็ปรึกษา Primal Digital Agency ของเราได้เลย เราคือเอเจนซีรับทำโซเชียลมีเดียชั้นนำในไทยที่มีทีมพัฒนากลยุทธ์ที่ออกแบบเพื่อธุรกิจคุณโดยเฉพาะ รับรองว่าธุรกิจของคุณจะเติบโตไม่แพ้ตลาด Petsumer แน่นอน
Join the discussion - 0 Comment