Telegram คืออะไร? รู้จักแอปฯ แชตสุดฮิตที่นักธุรกิจนิยมใช้

ปัจจุบันนี้ มีแอปพลิเคชันที่ใช้ส่งข้อความหากันให้เลือกใช้หลากหลายแพลตฟอร์ม อย่างที่ได้รับความนิยมในไทยมากที่สุดก็ได้แก่ “LINE” ส่วนที่มีความเป็นสากลก็จะเป็น “WhatsApp” หรือที่นิยมในจีนอย่าง “WeChat” ก็ตาม แต่อีกหนึ่งแอปพลิเคชันแชตที่มีกระแสขึ้นมาในช่วงนี้ให้ใครหลายคนได้รู้จักกันก็คือแอปฯ ที่ได้ชื่อว่าปลอดภัยที่สุดอย่าง “Telegram” (เทเลแกรม) นั่นเอง

บทความนี้จะพาทุกคนไปเจาะลึกกันว่าแอปฯ Telegram คืออะไร ใช้ยังไง อุปกรณ์ใดรองรับบ้าง ตลอดจนเพราะเหตุใด Telegram จึงขึ้นชื่อว่าเป็นโปรแกรมแชตที่ปลอดภัยที่สุด

Telegram คืออะไร?

ปฏิเสธไม่ได้ว่าขณะนี้ ชื่อของ Telegram นั้นได้รับความสนใจจากผู้คนจำนวนมากในสังคม เนื่องจากจุดขายของแอปพลิเคชันที่บอกว่ามีความปลอดภัยสูง เหมาะแก่การส่งข้อมูลที่อาจเป็นความลับในองค์กรถึงกัน เป็นเหตุให้นักธุรกิจหลายคนเริ่มหันมาศึกษาเกี่ยวกับตัวแอปฯ เพื่อนำไปใช้งานกันมากขึ้น

Telegram คือ แอปพลิเคชันแชตที่ถูกคิดค้นและพัฒนาขึ้นโดยสองพี่น้องชาวรัสเซีย Pavel Durov และ Nikolai Durov ในปี 2556 มีลักษณะที่สามารถใช้งานได้แบบสากล คล้ายกับ WhatsApp หรือ WeChat แต่มีจุดเด่นที่พิเศษกว่าในเรื่องของความรวดเร็ว ความปลอดภัย และการกระจายข้อมูลต่าง ๆ สู่คนจำนวนมากอย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด โดยการสร้างกรุปแชต (Group Chat) ในแต่ละครั้งของ Telegram นั้นจะสามารถเพิ่มจำนวนสมาชิกได้สูงสุดกว่าหลักแสนราย และเปิดโอกาสให้สร้างช่องทาง (Channel) ในการสื่อสารโดยตรงของผู้ใช้งานได้ไม่จำกัด ทั้งยังมีฟีเจอร์หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นวิดีโอคอล การโทร. การพูดคุยผ่านเสียง การส่งสติกเกอร์ การทำโพล และการทำบอท 

อย่างไรก็ตาม ฟีเจอร์ที่เรียกได้ว่าเป็นจุดขายของแอปฯ Telegram คือ “Secret Chats” ซึ่งเป็นห้องแชตที่ทำให้ทุกบทสนทนาที่เกิดขึ้นกลายเป็นข้อมูลลับสุดยอดที่ไม่มีใครสามารถนำออกจากห้องนั้นได้ เช่นนี้เองที่ทำให้กลุ่มบุคคลชั้นนำและนักธุรกิจให้ความไว้วางใจแอปพลิเคชันดังกล่าวเป็นอย่างมาก

Telegram ฟรีไหม?

Telegram คือรูปแบบแอปพลิเคชันที่สามารถใช้งานได้ฟรี ไม่มีฟีเจอร์ใดที่ต้องเสียค่าบริการเลย ส่งผลให้ผู้พัฒนาแพลตฟอร์มอย่างสองพี่น้อง Pavel กลายเป็นผู้สนับสนุนเงินทุนในการสร้างแอปฯ ด้วยจำนวนที่ถูกระบุว่ามหาศาลเลยทีเดียว เพื่อให้การสร้างและพัฒนา Telegram สามารถ ดำเนินงานไปได้อย่างราบรื่น โดยที่ไม่ต้องให้ผู้ใช้งานเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น ทว่าในขณะเดียวกัน ทางแอปพลิเคชันก็มีการระบุไว้ว่า หากในอนาคตตัวแพลตฟอร์มประสบปัญหาใดก็ตาม อาจจะต้องมีการเพิ่มทางเลือกแบบมีค่าใช้จ่ายให้ผู้ใช้งานได้รับรู้ล่วงหน้า

ทั้งนี้ Telegram ก็มีจุดยืนของแอปพลิเคชันที่ชัดเจนว่าไม่ต้องการแสวงหาผลกำไรจากผู้ใช้งานอย่างแน่นอน และในส่วนนี้เองที่อาจเป็นเหตุผลให้จำนวนคนใช้งานแพลตฟอร์มพุ่งทะลุถึง 400 ล้านคนต่อเดือนในช่วงต้นปี 2563 ที่ผ่านมา และมีปริมาณของผู้ใช้หน้าใหม่ (New Users) ไม่ต่ำกว่า 1.5 ล้านคนต่อวัน อีกทั้งการเข้าใช้งานสติกเกอร์บนแอปฯ ยังเพิ่มขึ้นกว่า 200,000 เซต ด้วยความนิยมที่สูงขึ้นเรื่อย ๆ นี้เอง จึงทำให้กลายเป็นประเด็นขึ้นมาว่า Telegram จะเป็นแอปพลิเคชันแชตที่มาแรงแซงทางโค้งในยุคนี้

Telegram ปลอดภัยแค่ไหน?

หากพูดถึงเรื่องความปลอดภัยของ Telegram แล้วล่ะก็ เรียกได้ว่าแอปพลิเคชันนี้มีระบบรักษาความปลอดภัยที่สูงกว่าแอปฯ แชตอื่น ๆ มาก เนื่องจากมีการแสดงให้เห็นถึงจุดเด่นของระบบที่มีความแตกต่างด้าน “การเข้ารหัสปลายทาง” หรือที่เรียกว่าเป็น “End To End Encryption” กล่าวคือ เป็นการเข้ารหัสตั้งแต่อุปกรณ์ของผู้ส่ง แล้วไปทำการแกะข้อความหรือการพูดคุยที่อุปกรณ์ของผู้รับ โดยเราจะสามารถเข้ารหัสได้เมื่อใช้ฟีเจอร์ Secret Chats เท่านั้น

สำหรับการใช้งานกลุ่มสนทนา ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มทั่วไป กลุ่มบุคคล หรือกลุ่มส่วนตัว จะมีการใช้รูปแบบของการเข้ารหัสข้อมูลและการส่งรหัสในแบบที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว ภายใต้ชื่อ MTProtocal ที่ถูกอัปเดตไว้ในรุ่น 2.0 โดยจะสามารถเข้ารหัสระหว่างเซิร์ฟเวอร์ของผู้ใช้งานที่สนทนากัน และอุปกรณ์ของผู้ใช้ดังกล่าวจะเข้ารหัสนี้ก่อนมีการรับส่งข้อมูลซึ่งกันและกัน ผ่านการใช้ “กุญแจ” ในการเข้ารหัสแบบหลายระดับ ซึ่งกุญแจที่ว่านั้นจะถูกสร้างขึ้นเพื่อเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ใดอุปกรณ์หนึ่งโดยเฉพาะ และการสนทนาครั้งใดครั้งหนึ่งเท่านั้น จะไม่มีการส่งข้ามเครือข่ายแต่อย่างใด

นอกจากนี้ Telegram ยังมีโคดรหัสต่าง ๆ ที่แสดงให้เห็นถึงความโปร่งใสของการใช้งาน รวมถึงโคดต้นฉบับที่ผู้ใช้งานสามารถเข้าไปดูได้ โดยในแอปพลิเคชันของเวอร์ชันระบบปฏิบัติการทั้ง iOS และ Android จะมีรายละเอียดของ MTProtocal ให้เราได้ศึกษาและตรวจสอบเพื่อการใช้งานได้อย่างมั่นใจ

ยิ่งไปกว่านั้น ผู้พัฒนาแอปฯ ยังได้ประกาศจุดยืนอีกประการหนึ่งเอาไว้ว่าแอปฯ Telegram คือแพลตฟอร์มที่สนับสนุนเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น โดยทีมงานจะไม่เข้าไปยุ่งหรือเกี่ยวข้องใด ๆ กับการแสดงความคิดเห็นของผู้ใช้ แม้แต่กับเรื่องการเมืองก็ตาม ดังข้อความที่ระบุไว้ในแอปพลิเคชันว่า “Telegram won’t be a part of such politically motivated censorship” (เทเลแกรมจะไม่เป็นแอปฯ ที่กีดกันความคิดเห็นทางการเมือง) นั่นหมายความว่าทุกคนสามารถเข้าใช้งานแพลตฟอร์มได้อย่างอิสระโดยที่ไม่ต้องกังวลเรื่องถูกแบนนั่นเอง ด้วยเหตุผลเหล่านี้เองจึงทำให้ Telegram คือแอปฯ ที่ได้การยอมรับว่ามีความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัวสูง

Telegram ใช้ยังไง มีฟีเจอร์อะไรบ้าง?

อย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้นว่า ความโดดเด่นของแอปฯ Telegram คือเรื่องของฟีเจอร์ที่น่าสนใจ สามารถส่งข้อความทั้งแบบส่วนตัวและแบบกลุ่มได้ง่ายและรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นการส่งรูปภาพ ไฟล์เสียง สติกเกอร์ หรือแม้แต่การวิดีโอคอล ทั้งยังมีระบบความปลอดภัยที่แน่นหนา แต่นอกจากนี้ Telegram ก็ยังมีฟีเจอร์ที่เด่น ๆ อีกหลายด้าน ได้แก่

• สามารถเข้ารหัสปลายทางในการใช้งานฟีเจอร์ Secret Chats และตั้งเวลาในการลบข้อความถาวรได้อีกด้วย
• สามารถเข้าใช้งานได้จากหลายอุปกรณ์ในเวลาเดียวกัน ยกเว้นแต่ว่าจะใช้งาน Secret Chats ที่จำเป็นต้องใช้จากเครื่องเดียวกันเท่านั้นเพื่อความปลอดภัย
• สามารถส่งข้อความแบบตั้งเวลา หรือเลือกส่งข้อความเมื่ออีกฝ่ายออนไลน์ได้
• สามารถซ่อนข้อความแบบไม่แจ้งเตือนได้
• สามารถใช้สติกเกอร์ได้ทั้งแบบนิ่งและแบบเคลื่อนไหว หรือจะสร้างสติกเกอร์เองก็ได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น
• สามารถสร้างช่องทางในการส่งข้อความให้ผู้รับพร้อมกันหลาย ๆ คนได้โดยไม่จำกัดจำนวนสมาชิก
• การสร้างกลุ่มที่มีจำนวนสมาชิกสูงถึง 2 แสนคนนั้นจำเป็นต้องมีแอดมินในการดูแล แต่สามารถซ่อนสถานะของแอดมินได้หากไม่ต้องการระบุตัวตน
• ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหน เหตุการณ์ใด ก็สามารถส่งพิกัดในแชตได้ทันที
• การใช้งานห้องแชตต่าง ๆ จะแบ่งออกเป็นหมวดหมู่ที่ชัดเจน ลดความสับสนและทำให้เลือกเข้าห้องได้ง่าย หมดปัญหาส่งแชตผิดกลุ่ม
• การตั้งค่าความเป็นส่วนตัวบนแอปฯ สามารถทำได้หลากหลาย โดยเราสามารถเลือกให้ผู้คนเห็นข้อมูลบางส่วนของตนเองได้ หรือจะปกปิดไม่ให้เห็นเลยก็ได้
• สามารถสร้างธีมที่ชอบได้เอง โดยจะสร้างเป็นโหมดมืด โหมดสว่าง หรือจะตั้งค่าให้โหมดสัมพันธ์กับแสงสว่างภายนอกก็ได้
• สามารถใช้งานแอปพลิเคชันผ่านเว็บเบราว์เซอร์ได้
• การลบแคช (Cache) ของวิดีโอ รูปภาพ ไฟล์ดาวน์โหลด และเสียง สามารถทำแยกกันได้ และตั้งเวลาลบอัตโนมัติได้ด้วย
• ลิงก์ต่าง ๆ ที่ถูกส่งไว้ในแชต จะมีการแสดงผลเป็น Instant View กล่าวคือ จะไม่แสดงเนื้อหาออกมาเป็นหน้าเว็บฯ เพื่อทำให้การเปิดดูรวดเร็วขึ้น
• สามารถเพิ่มการใช้งานบอทเข้ากลุ่มได้โดยไม่จำกัดจำนวนกลุ่ม

สรุป

จะเห็นได้ว่า Telegram คือแอปพลิเคชันที่มีลูกเล่นหลากหลาย สร้างความเพลิดเพลินให้แก่ผู้ใช้งานได้เป็นอย่างดี ทำให้ได้รับความนิยมสูงในกลุ่มของนักธุรกิจ รวมถึงผู้ที่ชื่นชอบถกประเด็นเกี่ยวกับการเมือง เพราะห้องแชตของ Telegram สามารถเก็บความลับได้ดีมาก ทั้งยังซ่อนข้อมูลต่าง ๆ เกี่ยวกับแอดมินประจำกลุ่มและสมาชิกในกลุ่มทั้งหมดเอาไว้ได้อย่างมิดชิดอีกด้วย ดังนั้น Telegram จึงถือเป็นหนึ่งในแอปพลิเคชันดี ๆ ที่จะทำให้การพูดคุยแบบส่วนตัวเป็นเรื่องส่วนตัวจริง ๆ ร้อยเปอร์เซ็นต์ โดยไม่ต้องกังวลว่าจะถูกรบกวนจากบุคคลภายนอก