บัญชีธุรกิจ FACEBOOK คืออะไร ทำไมถึงช่วยเพิ่มยอดขายได้!
หากคุณใช้ช่องทาง Facebook ในการทำการตลาดออนไลน์ เครื่องมือที่คุณไม่รู้จักไม่ได้ก็คือ Facebook Business Manager หรือบัญชีธุรกิจ Facebook โดยเครื่องมือประเภทนี้ถือเป็นระบบจัดการบัญชีต่าง ๆ ที่ช่วยทั้งการสร้างการรับรู้ (Brand Awareness) การมีส่วนร่วม (Engagement) รวมไปถึงสร้างผลกำไรและการเติบโตของธุรกิจ!
Facebook Business Manager คืออะไร? และสำคัญอย่างไรต่อการทำธุรกิจออนไลน์ เรารวบรวมทุกเรื่องที่คุณควรรู้มาให้แล้วในบทความนี้!
Table of Contents
Facebook Business Manager คืออะไร?
Facebook Business Manager หรือ Meta Business suite คือเครื่องมือจัดการบัญชีธุรกิจของ Facebook และ Instagram เปรียบเสมือนตัวกลางในการบริหารจัดการบัญชีธุรกิจทั้งหมดที่มี ซึ่งจัดการได้ตั้งแต่การเพิ่มหรือลบผู้ดูแลเพจ การสร้างแบนเนอร์ การสร้างโพสต์ การตั้งค่ากลุ่มเป้าหมาย ไปจนถึงการติดตามผลการโฆษณา ฯลฯ
ทำไมถึงควรใช้ Facebook Business Manager
Facebook Business Manager ถือเป็นเครื่องมือช่วยจัดการธุรกิจที่ดีตัวหนึ่ง อย่างไรก็ดี การใช้ Business Manager ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำธุรกิจออนไลน์ได้ดังนี้
1.หากลุ่มเป้าหมายยิงโฆษณาได้แม่นยำ
Facebook Business Manager คือเครื่องมือช่วยจัดการด้านการยิงโฆษณา ที่สามารถหากลุ่มเป้าหมายได้อย่างแม่นยำ โดยสามารถกำหนดกลุ่มเป้าหมายขึ้นได้ ไม่ว่าจะเป็น Custom Audiences (กลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเอง), Loolalike Audiences (กลุ่มเป้าหมายคล้ายคลึงกับลูกค้าเดิม) รวมไปถึง Saved Audiences (กลุ่มเป้าหมายที่บันทึกไว้ว่าเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของธุรกิจ) นอกจากนี้ยังสามารถทำ A/B Testing เพื่อทดสอบว่ากลุ่มเป้าหมายใดมีประสิทธิภาพสูงสุด จึงช่วยให้การยิงโฆษณาไปหากลุ่มเป้าหมายได้แม่นยำขึ้น
2.เพิ่มความสะดวกในการจัดการ เพราะรวมทุกอย่างไว้ในที่เดียว
Facebook Business Manager สามารถดูภาพรวมทั้งเพจและบัญชีโฆษณาได้หลาย ๆ เพจพร้อมกัน จึงทำให้ง่ายและสะดวกกับคนทำธุรกิจออนไลน์ ทั้งในแง่ของการจัดการ การผูกบัตรเครดิตสำหรับชำระเงิน รวมถึงการจัดการด้านสินทรัพย์ดิจิทัลอื่น ๆ
3.ช่วยให้บริหารทีมทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
Facebook Business Manager สามารถกำหนดบทบาทหน้าที่ได้หลากหลายมากกว่าบัญชีโฆษณาแบบส่วนตัว อีกทั้งยังสามารถดูสิทธิการเข้าถึงในแต่ละแคมเปญได้ด้วยเช่นกัน ดังนั้น หากธุรกิจเติบโตมากขึ้น มีทีมทำงานมากขึ้น การใช้ Facebook Business Manager จะช่วยให้การแบ่งงานมีประสิทธิภาพมากขึ้นได้
4.ช่วยประหยัดต้นทุนค่าโฆษณา
Facebook Business Manager เป็นเครื่องมือที่สามารถแสดงข้อมูลเชิงลึกของเพจและบัญชีโฆษณา ทั้งในแง่ของการทำให้ทราบว่าโฆษณาใดให้ประสิทธิภาพดี โฆษณาใดไม่ควรทำซ้ำ กลุ่มเป้าหมายไหนที่ควรลงงบประมาณเพิ่มขึ้น/น้อยลง ฯลฯ ซึ่งข้อมูลเหล่านี้ก็จะช่วยให้สามารถวางแผนการใช้งบประมาณได้อย่างเหมาะสม ทำให้ประหยัดต้นทุนการใช้โฆษณาที่ไม่จำเป็นได้
5.ช่วยขยายฐานลูกค้าให้เพิ่มขึ้น
Facebook Business Manager ยังขยายฐานลูกค้าให้เพิ่มขึ้นได้ด้วย โดยทำได้ผ่านการสร้าง Lookalike Audience หรือลูกค้าที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับกลุ่มลูกค้าเดิม ก็จะช่วยขยายฐานลูกค้าที่มีศักยภาพได้แม่นยำมากขึ้น จึงไม่จำเป็นต้องหาลูกค้าใหม่ด้วยการหว่านงบประมาณไปในวงกว้าง
6.มีระบบรักษาความปลอดภัย 2 ขั้นตอน
Facebook Business Manager มีระบบยืนยันความปลอดภัย 2 ขั้นตอนหรือ Two-Factor Authentication ดังนั้น จึงตอบโจทย์ธุรกิจที่ต้องการเพิ่มความปลอดภัยในการเข้าถึงข้อมูลสำคัญอย่างมาก!
Facebook Business Manager ใช้งานยากไหม มีส่วนใดบ้าง?
Facebook Business Manager ไม่ได้ใช้งานยากอย่างที่คิด โดยสิ่งสำคัญของการเริ่มใช้งานคือการทำความรู้จักองค์ประกอบในส่วนต่าง ๆ โดยจะแบ่งได้เป็น 3 ส่วนหลักคือ ส่วนธุรกิจ (Business Setting) ส่วนบัญชีโฆษณา (Ad Account) และส่วนของหน้าเพจ (Page)
1.ธุรกิจ (Business Setting)
ส่วนธุรกิจ (Business Setting) ถือเป็นส่วนสำคัญที่สุด เพราะมีไว้บริหารจัดการบุคลากรและทรัพยากรของธุรกิจทุกแง่มุม โดยส่วนนี้สามารถใช้กำหนดตำแหน่งหน้าที่ของทีมงานแต่ละคนได้ รวมถึงการกำหนดสิทธิทางด้านการเงิน กำหนดสิทธิเข้าถึงบัญชีโฆษณา โดยสามารถกำหนดได้อย่างละเอียดถึงขั้นว่าบุคคลนั้น ๆ จะมีสิทธิหรือตำแหน่งหน้าที่ในการเข้าถึงบัญชีได้มากน้อยแค่ไหน ตัวอย่างการกำหนดสิทธิเข้าถึงข้อมูล เช่น กำหนดบุคคลเป็น Employee (ไม่มีสิทธิแก้ไขตำแหน่งคนอื่น) หรือกำหนดบุคคลเป็น Admin (มีสิทธิแก้ไข ลบ/เพิ่ม บุคคลอื่น)
นอกจากนี้ ส่วนการตั้งค่าธุรกิจยังสามารถกำหนด Partner ในกรณีที่คุณอาจต้องร่วมงานกับธุรกิจอื่น ๆ ได้ด้วย เช่น การจ้าง Digital Agency เข้ามาดูแลแคมเปญการตลาดออนไลน์ อีกทั้งยังสามารถกำหนดรายละเอียดอื่น ๆ อาทิ ทั้งการจัดการบิล การชำระเงิน กำหนดข้อมูลธุรกิจ เป็นต้น
2.บัญชีโฆษณา (Ad Account)
ส่วนบัญชีโฆษณา (Ad Account) คือส่วนสำหรับจัดการบัญชีที่เราใช้ในการรับทำโฆษณา Facebook ออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นการซื้อโฆษณาเพื่อสร้างการรับรู้ (Brand Awareness) การมีส่วนร่วม (Engagement) และอื่น ๆ โดยสามารถใช้บริหารจัดการทั้งในส่วนของงบประมาณและบุคคลที่ดูแล โดยผู้ใช้ 1 คนสามารถบริหารจัดการบัญชีโฆษณาได้สูงสุด 25 บัญชีและใน 1 บัญชีก็สามารถมีผู้บริหารจัดการได้สูงสุด 25 คน
3.เพจ (Page)
เพจ (Page) เป็นส่วนสำหรับบริหารจัดการเพจธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นผู้ดูแล บัญชีโฆษณาที่จะใช้สำหรับการซื้อโฆษณาสำหรับเพจนั้น ๆ
เมนูสำคัญใน Facebook Business Manager
เมนูสำคัญสำหรับการดูแลบัญชีธุรกิจใน Facebook Business Manager อาจแบ่งได้เป็น 5 ส่วนหลัก คือ Manager Business: เมนูจัดการธุรกิจ Advertising: การโฆษณา และ Analise and Report การวิเคราะห์และรายงาน Engage Customers : การดึงดูดลูกค้า Sell Product and Service เมนูด้านการขายสินค้าและบริการ
1.Manager Business เมนูจัดการธุรกิจ
- Events Manager : เครื่องมือเชื่อมต่อข้อมูลจากเว็บไซต์ เกม หรือแอปพลิเคชัน
- Business setting : เครื่องมือตั้งค่าองค์ประกอบต่าง ๆ ทั้งในส่วนของผู้ใช้งาน บัญชีแอ็กเคานท์ และส่วนอื่น ๆ
- Brand Safety : เครื่องมือสำหรับตั้งค่าเรื่องความปลอดภัย เช่น การตั้งค่าระบุพื้นที่ที่ไม่ต้องการให้โฆษณาแสดงผล เป็นต้น
- Shop Location : ตำแหน่งที่ตั้งร้านค้า เครื่องมือสำหรับใส่ข้อมูลต่าง ๆ ในร้านค้าออนไลน์ของเรา ไม่ว่าจะเป็นที่ตั้งร้านค้าและการโฆษณาเพื่อเพิ่มจำนวนคนเข้า
- Images and Videos : คลังรูปภาพและวิดีโอสำหรับใช้งานบนหน้าเพจ
- Billing : เครื่องมือตั้งค่าการชำระเงินต่าง ๆ พร้อมทั้งเป็นเครื่องมือตรวจสอบประวัติการทำธุรกรรมสำหรับเพจธุรกิจ
- Account Quality : เครื่องมือตรวจสอบคุณภาพบัญชี ตรวจสอบทั้งโฆษณาและโพสต์เพื่อให้เป็นไปตามนโยบายหรือมาตรฐานของ Facebook ที่กำหนดไว้
2.Advertising: เมนูเกี่ยวกับการโฆษณา
- Ads Manager : เครื่องมือสร้าง จัดการและประมวลผลแคมเปญโฆษณาแบบครบวงจรบนโซเชียลมีเดียแพลตฟอร์มในเครือ Meta ทั้ง Facebook, Messenger และ Instagram มีทั้งรูปแบบเว็บไซต์และแอปพลิเคชัน ทั้งสำหรับระบบปฏิบัติการ iOS และ Android (อ่านเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Ads Manager ได้ที่นี่)
- Audience : เครื่องมือกำหนดกลุ่มเป้าหมายรูปแบบต่าง ๆ ตามความต้องการและเหมาะสมของแคมเปญ เช่น กลุ่ม Custom Audience: กลุ่มเป้าหมายที่กำหนดเอง กลุ่ม Lookalike Audience: กลุ่มเป้าหมายคล้ายคลึง เป็นต้น
- Automated Rules : เครื่องมือจัดการการซื้อโฆษณาอัตโนมัติ หลักการทำงานคือเมื่อแคมเปญโฆษณาเป็นไปตามกฎของ Facebook ระบบก็จะทำการ Automated ตามคำสั่งที่ตั้งไว้ ทำให้ผู้ใช้งานควบคุมโฆษณาได้ง่ายยิ่งขึ้น
- Creative Hub : เครื่องมือจำลองโพสต์โฆษณา (Mock up) เพื่อดูเป็นตัวอย่างและทดสอบโฆษณาก่อนเผยแพร่จริง
- Ad Account Setting : เครื่องมือตั้งค่าบัญชีโฆษณา รวมไปถึงตั้งค่าการชำระเงิน
3.Analise and Report การวิเคราะห์และรายงาน
- Experiment : เครื่องมือสำหรับการทดลองเพื่อเฟ้นหากลยุทธ์การตลาดที่มีประสิทธิภาพสูงสุด
- Attribution : เครื่องมือวัดผลลัพธ์โฆษณาแคมเปญต่าง ๆ
- Ads Reporting : เครื่องมือรายงานข้อมูลต่าง ๆ ของแคมเปญโฆษณา เพื่อใช้วิเคราะห์กลยุทธ์ในอนาคต
- Analytics : เครื่องมือวิเคราะห์ข้อมูลการใช้งานเชิงลึกของผู้ใช้ที่มีส่วนร่วมกับธุรกิจของเรา
- Brand Collabs Manager : ตัวจัดการการร่วมงานกับแบรนด์ สำหรับจัดการกิจกรรมหรือการร่วมมือกับแบรนด์ต่าง ๆ ในการทำการตลาด
- Traffic Analysis Manager : เครื่องมือรายงานวิเคราะห์จำนวนผู้เข้าชม เข้าดูได้เฉพาะเพจที่เรามีสิทธิเท่านั้น
4.Engage Customers : การดึงดูดลูกค้า
- Page Post : เครื่องมือดูข้อมูลโพสต์รวมถึงการโฆษณาทั้งหมด แสดงประสิทธิภาพโฆษณา พร้อมทั้งยังสามารถสร้างโพสต์ได้โดยตรงที่เครื่องมือนี้
5.Sell Product and Service เมนูด้านการขายสินค้าและบริการ
- Commerce Manager : เครื่องมือสร้าง จัดการ รวมถึงดูข้อมูลเชิงลึกของร้านค้า ทั้งในแง่ของการสั่งซื้อรวมถึงการรับชำระเงิน
- Catalogue Manager : เครื่องมือจัดการแค็ตตาล็อกบนเพจ ซึ่งรวมถึงร้านค้าใน Instagram ด้วยเช่นกัน
บัญชีธุรกิจ FACEBOOK ต่างจากบัญชี FACEBOOK ปกติอย่างไร?
บัญชี Facebook ปกติ : เหมาะกับเจ้าของธุรกิจขนาดเล็กที่ทำทุกอย่างด้วยตัวคนเดียว หรือมีแอดมินช่วยตอบคำถาม 2-3 คน เนื่องจากทั้งการบริหารจัดการและซื้อโฆษณาไม่จำเป็นต้องเข้าถึงข้อมูลเชิงลึก โดยหากใช้บัญชี Facebook ส่วนตัวแล้วต้องการซื้อโฆษณาในเพจต่าง ๆ ที่ตนเองดูแลอยู่ ก็จำเป็นต้องใช้บัญชีส่วนตัวนั้น ๆ เป็นตัวสร้างโฆษณาเพียงบัญชีเดียวเท่านั้น
บัญชี Facebook ธุรกิจ : เหมาะสำหรับคนทำธุรกิจที่ต้องการตัวกลางการจัดการรายละเอียดทางบัญชีที่ซับซ้อนมากกว่า โดย Business Manager จะดีกว่าตรงที่ช่วยให้การจัดการเป็นไปอย่างระบบและปลอดภัย ทั้งในแง่ของบุคคล บัญชีโฆษณา บัญชีเพจ พาร์ตเนอร์ รวมถึงระบบการเงิน อีกทั้งบัญชี Facebook ธุรกิจยังสามารถสร้างบัญชีโฆษณาแยกสำหรับแต่ละเพจ จึงช่วยให้ง่ายต่อการจัดการบัญชีมากยิ่งขึ้น
Facebook Business Manager เสียเงินหรือมีค่าใช้จ่ายไหม?
Facebook Business Manager สามารถสมัครได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย! โดยทาง Facebook ออกแบบระบบมาเพื่อช่วยเหลือให้ร้านค้าออนไลน์สามารถจัดการทั้งแคมเปญ โปรโมชัน และวางแผนการตลาดให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยทาง Facebook จะไปคิดค่าใช้จ่ายเฉพาะในส่วนของการซื้อโฆษณาเท่านั้น
1 บัญชี Facebook สร้างได้กี่บัญชีธุรกิจ?
1 บัญชี Facebook จะสามารถสร้างบัญชีธุรกิจได้สูงสุด 2 บัญชีเท่านั้น! ดังนั้นหากต้องการทำงานมากกว่า 2 บัญชีธุรกิจ อาจทำได้ด้วยการขอสิทธิเข้าถึงในบัญชีธุรกิจของผู้อื่น ไม่ว่าจะในฐานะ Admin หรือ Employee
วิธีสร้างบัญชี BUSINESS FACEBOOK
- เข้าไปที่ https://business.facebook.com/overview
- คลิกปุ่ม “Create Account” (สร้างบัญชี)
- กรอกรายละเอียดข้อมูลต่าง ๆ ทั้งชื่อบัญชีธุรกิจ ชื่อของคุณ และอีเมลของธุรกิจ จากนั้นคลิก “Next” (ถัดไป)
- กรอกรายละเอียดเกี่ยวกับธุรกิจเพิ่มเติม จากนั้นคลิก “Submit “> สำหรับรายละเอียดการสร้างบัญชี Facebook Business อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
วิธีลบบัญชี Business Facebook
การลบบัญชี Facebook Business สามารถทำได้ โดยทาง Facebook จะลบทั้งบัญชีธุรกิจและสิทธิการเข้าถึงที่คุณมีในบัญชีธุรกิจอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น เพจ บัญชีโฆษณา ฯลฯ ไปด้วยพร้อมกัน วิธีการลบบัญชีมีดังนี้!
- คลิกไปที่ “Business Settings” (การตั้งค่าธุรกิจ)
- คลิก “Business info” (ข้อมูลธุรกิจ)
- คลิก “Permanently delete business” (ลบบัญชีธุรกิจถาวร) จากนั้นทำตามคำแนะนำที่แสดงบนหน้าจอ
โดยเพื่อความปลอดภัย ทาง Facebook จะใช้ระยะเวลาดำเนินการและพักการใช้งานเป็นเวลา 24 ชั่วโมง และทำการลบบัญชี Facebook Business หลังจากนั้น
วิธีเพิ่มบัญชีโฆษณา Facebook Business
- กดเข้าไปยังเพจธุรกิจที่ต้องการเพิ่มบัญชีโฆษณา
- คลิก “Ad Account” (บัญชีโฆษณา)
- คลิก “Add” (เพิ่ม)
- คลิกเพื่อเลือกวิธีการเพิ่มบัญชีธุรกิจที่ต้องการ
- เลือก “Add an Ad Account” กรณีเป็นบัญชีโฆษณาส่วนตัวที่มีอยู่แล้ว
- เลือก Request Access to an Ad Account” เพื่อขออนุญาตเข้าถึงบัญชีโฆษณาขององค์กรอื่นกรณีที่เป็นคนละธุรกิจกัน
- เลือก “+ Create a New Ad Account” กรณีต้องการสร้างบัญชีโฆษณาใหม่เพื่อดำเนินธุรกิจ
สรุป
หากการใช้ Facebook Business Manager จัดการแคมเปญยุ่งยากเกินไป ก็สามารถปรึกษา Primal Digital Agency ของเราได้เลย เราคือเอเจนซีการตลาดชั้นนำของเมืองไทยที่มีผู้เชี่ยวชาญด้านการทำการตลาดผ่าน Social Media โดยเฉพาะ ถ้าพร้อมแล้วก็กรอกรายละเอียดเพื่อปรึกษาเราตอนนี้!
Join the discussion - 0 Comment