โควิด 19 กับผู้บริโภคไทย เผยสถิติพฤติกรรมการซื้อของคนไทยช่วงโควิด 19 ผ่านช่องทาง Social Commerce
เรื่องที่หลายคนน่าจะกำลังเริ่มรู้สึกเหมือนๆ กันคือตอนนี้เราแทบจะลืมวิถีชีวิตแบบเก่าๆ กันไปเสียหมดแล้ว เช่นการต้องออกไป Supermarket ทุกๆ ต้นเดือนเพื่อซื้อของใช้เข้าบ้าน หรือแม้แต่การออกไปห้างสรรพสินค้าเพื่อช้อปปิ้งของที่อยากได้ เพราะคำว่า New Normal ที่มาพร้อมเทคโนโลยีสมัยใหม่ซึ่งเราทุกคนสามารถเข้าถึงได้อย่างสะดวก ทำให้พฤติกรรมผู้บริโภคหลังโควิด การบริโภคสิ่งต่างๆ ต้องถูกปรับเปลี่ยนไป
Social Commerce อีกหนึ่งคำศัพท์ทางการตลาดที่เราได้ยินกันมาสักระยะถึงพลานุภาพของการทำธุรกิจบนสื่อ Social Media ซึ่งกลายเป็นบทบังคับให้ทุกๆ ธุรกิจไม่ว่าจะขนาดใดก็ตามต้องเร่งขับเคลื่อนปรับตัวให้ทันความเปลี่ยนแปลงนี้ ดังนั้นในปัจจุบันจึงเห็นธุรกิจที่คุณอาจเคยคิดว่า “ไม่น่าจะมาขายบนออนไลน์ได้” มีสินค้าวางขายบน Facebook Marketplace, Instagram Shopping และช่องทางออนไลน์อื่นๆ กันหมดแล้ว
Social Commerce คืออะไร
ก่อนจะไปดูสถิติโควิด 19 กับผู้บริโภคไทยและตัวเลขต่างๆ เรามาขยายความคำว่า Social Commerce กันสักเล็กน้อยว่าคำๆ นี้จำกัดความถึงอะไรบ้าง แปลตรงๆ ตัวเลยก็คือการค้าขายบนแพลตฟอร์ม Social Media ต่างๆ อาทิ Facebook (Facebook Marketplace), Instagram (IG Shopping), LINE Official Account (LINE Shop, Chat) เป็นต้น ซึ่งไม่นับรวม Lazada, Shopee, JD Central หรือเว็บไซต์ของแบรนด์ต่างๆ เพราะเหล่านั้นจะเรียกว่า E-Commerce
อันที่จริงแล้วก่อนหน้านี้เราก็เริ่มเห็นกระแสของสภาวะการซื้อง่ายขายคล่องบนแพลตฟอร์ม Social Media ต่างๆ มาบ้างแล้ว แต่พอเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ทำให้กลับกลายเป็นเสมือนการกดปุ่ม Fast Forward บนรีโมททีวีที่ทำให้ทุกๆ อย่างซึ่งเคยเป็นเรื่องอนาคต นำมาสู่สิ่งที่เราทุกคนต้องใช้ดำเนินชีวิตปัจจุบันแทบทั้งสิ้น ตัวอย่างเช่น จากเมื่อก่อนถ้าเรานึกถึงของอร่อยแน่นอนว่าเมืองไทยเรามีร้านดังทั่วทั้งหัวมุมถนน ต้องไปต่อคิวเพื่อที่จะได้ลิ้มรสอันโอชะของร้านนั้นๆ แต่ปัจจุบันคุณไม่ต้องไปต่อคิวเองอีกแล้วเพราะมีบริการ Delivery ที่พร้อมจะไปยืนต่อแถวและนำอาหารมาเสิร์ฟให้คุณถึงบ้าน หรือถ้าคุณต้องการซื้อคอมพิวเตอร์เครื่องใหม่ก็ต้องเดินทางไปที่ร้านเพื่อเลือกส่วนประกอบบในสเปคที่ต้องการแล้วยืนรอให้พนักงานประกอบให้จากนั้นก็ต้องขนกลับบ้านเอง แต่ในวันนี้แค่กดสั่งออนไลน์เลือกรุ่นที่ใช่ รอไม่ถึงครึ่งวันคอมฯ เครื่องนั้นก็พร้อมส่งมาถึงหน้าบ้านแล้ว ถ้าสองตัวอย่างที่ยกไปคุณยังนึกภาพไม่ออกลองมาดูตัวเลขเหล่านี้ไปพร้อมกัน
จากการศึกษาพฤติกรรมการซื้อของคนไทยช่วงโควิด 19 ผ่านช่องทางออนไลน์ต่างๆ โดย YouGov พบว่าคนไทยมีการสั่งซื้อสินค้าผ่าน Social Commerce เพิ่มขึ้น 56% และกว่า 62% พบว่าพึงพอใจกับการซื้อของออนไลน์ผ่านช่องทางดังกล่าว ในช่วงเดือนมีนาคม 2564 ที่ผ่านมาพบว่ากว่า 45% ผู้คนมีการซื้อของผ่าน Social Commerce เป็นจำนวนเงินเฉลี่ยอยู่ที่ 1,000 – 3,000 บาทต่อคนและมากกว่า 50% คือคนทำงานประจำและนักเรียนนักศึกษาจะใช้เวลา 2-3 ชั่วโมงต่อวันในการเข้าไปยังแพลตฟอร์มต่างๆ เพื่อมองหาและซื้อของที่ตัวเองต้องการ
แน่นอนว่าแพลตฟอร์มยอดนิยมสูงสุดในบ้านเราคงเป็นใครไม่ได้นอกซะจาก Facebook เพราะมีจำนวนผู้ที่เลือกใช้ในการซื้อสินค้ากว่า 58% รองลงมาจะเป็น LINE อยู่ที่ 35% Instagram 21% และ Twitter 11% ตามลำดับ โดยใน Facebook กลุ่มคนที่เข้าไปช้อปสินค้ามากที่สุดจะอยู่ในช่วงอายุ 35-44 ปี คิดเป็น 64% ของจำนวนทั้งหมด ในขณะที่ Twitter จะเป็นกลุ่มคนอายุ 18 – 24 ปี คิดเป็น 19% ของผู้ใช้งาน
อ่านมาถึงตรงนี้คุณคงสงสัยใช่ไหมว่าคนเหล่านี้เขาซื้ออะไรกันบน Social Commerce โดยสินค้าที่ได้รับความสนใจจากกลุ่มลูกค้าผู้หญิง 62% คือสินค้าแฟชั่นเสื้อผ้าต่างๆ และ 59% จะเป็นสินค้าความงาม อาหารเสริม ครีมบำรุง ฯลฯ ในขณะที่กลุ่มลูกค้าผู้ชาย 25% จะสนใจสินค้าในกลุ่ม Gadget และ 21% จะเป็นสินค้าจำพวกเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งบ้าน
ถ้าคุณเป็นหนึ่งคนที่กำลังคิดจะทำธุรกิจในช่วงนี้ หรือมีธุรกิจอยู่แล้วแต่ต้องการขยับขยายเพื่อเข้าถึงลุ่มลูกค้ามากขึ้น Social Commerce ก็เป็นอีกหนึ่งช่องทางที่ไม่เสียหายและน่าสนใจอย่างมากซึ่งคุณไม่ควรมองข้ามเพราะคุณสามารถเข้าไปใช้งานได้ฟรีและลูกค้าก็เข้าถึงได้สะดวกรวมทั้งระบบการสั่งซื้อต่างๆ ก็เอื้ออำนวยให้เราสามารถทำธุรกิจได้ง่ายยิ่งขึ้น เพราะสิ่งสำคัญของการทำธุรกิจในปัจจุบันไม่ใช่ว่าสินค้าต้องมีคุณภาพ บริการต้องเป็นที่ประทับใจเพียงอย่างเดียว แต่การเข้าถึงกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายได้ก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่จะทำให้ธุรกิจของคุณไปต่อได้ในสภาวะที่ทั่วทั้งโลกต่างปรับเปลี่ยนวิถีการดำเนินชีวิตกันหมด เพราะเราต่างมีข้อมูลพฤติกรรมออนไลน์ของผู้บริโภคในช่วงโควิด 19 ให้เห็นเป็นหลักฐานแล้ว
Join the discussion - 0 Comment