How To สร้างฟิลเตอร์ไอจี กระตุ้นการมีส่วนร่วมจากลูกค้า
สำหรับการตลาดยุคใหม่ เราสามารถโปรโมตแบรนด์ให้เข้าถึงผู้บริโภคได้ง่ายกว่าเดิมมาก เพราะเรามีโซเชียลมีเดียอันถือเป็นปัจจัยสำคัญที่ผู้คนใช้ดำเนินชีวิต ซึ่งหนึ่งในแพลตฟอร์มที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในปัจจุบัน ได้แก่ Instagram แอปพลิเคชันในเครือ Meta ที่เน้นคอนเทนต์รูปภาพและวิดีโอในเชิงไลฟ์สไตล์เป็นส่วนใหญ่ ถึงจำนวนผู้ใช้งานจะยังไม่เยอะเท่า Facebook (Meta) แต่ในแง่ช่วงอายุของผู้ใช้งานนั้นค่อนข้างหลากหลายกว่า ส่งผลให้แบรนด์ต่าง ๆ หันมาทำการตลาดบน Instagram กันมากขึ้น
แม้จะเข้าถึงผู้บริโภคได้ง่าย แต่เมื่อมีธุรกิจจำนวนมากโปรโมตแบรนด์บนแพลตฟอร์มเดียวกัน การแข่งขันก็เพิ่มสูงขึ้น หลายแบรนด์จึงพยายามคิดค้นหาวิธีทำการตลาดที่จะให้ตนเองโดดเด่นที่สุด และหนึ่งในนั้นก็คือการ “สร้างฟิลเตอร์ไอจี“ เป็นของแบรนด์เอง เพื่อให้ผู้ใช้งานเข้ามามีส่วนร่วม เกิดการแชร์ต่อ และสิ่งที่ตามมาคือการรับรู้แบรนด์ (Brand Awareness) ไม่ว่าผู้ใช้เหล่านั้นจะสนใจสินค้าและบริการของเราหรือไม่ก็ตาม แต่การทำให้ชื่อแบรนด์เป็นที่จดจำในหมู่ผู้บริโภคก็นับว่าประสบความสำเร็จในขั้นแรกแล้ว
Table of Contents
การสร้างฟิลเตอร์ไอจี สำคัญกับธุรกิจอย่างไร
ฟิลเตอร์ไอจี คือ ระบบ AR ที่ช่วยให้การลงสตอรีของเรามีสีสันมากขึ้น โดยอาจอยู่ในรูปแบบของการแต่งสีภาพอัตโนมัติ การแต่งหน้าอัตโนมัติ หรือการใส่เครื่องหัว หน้ากากต่าง ๆ ให้ผู้ใช้โดยอัตโนมัติก็ได้ ซึ่งต้องบอกว่ามีหลายฟิลเตอร์ทีเดียวที่สวยจนมียอดผู้ใช้งานหลักล้านเซฟเก็บไว้ใช้ อีกทั้งเรายังสังเกตได้ด้วยว่า ทุกวันนี้เวลาเปิดดูสตอรีเพื่อนคนไหน แทบไม่มีใครไม่ใช้ฟิลเตอร์เลย นั่นเป็นเพราะว่าการแต่งสีของฟิลเตอร์นั้น นอกจากจะช่วยให้ใบหน้าของเราดูดีขึ้นแล้ว ยังทำให้สีรูปสวย ดูน่ารัก มีกิมมิก สะดุดตากว่ารูปออริจินัลที่ไม่ผ่านการปรุงแต่งใด ๆ อย่างสิ้นเชิง
ดังนั้น ธุรกิจต่าง ๆ ควรใช้โอกาสนี้ในการสร้างฟิลเตอร์ไอจีเป็นของตัวเอง เพื่อกระตุ้นให้ผู้บริโภคเข้ามามีส่วนร่วมกับแบรนด์มากขึ้น เพราะเมื่อเราสร้างฟิลเตอร์ไอจีที่ตอบโจทย์ผู้ใช้งานได้แล้ว ก็จะเกิดการแชร์ฟิลเตอร์ต่อไปเรื่อย ๆ จนเป็นไวรัล แม้ว่าผู้ใช้งานเหล่านั้นจะไม่เคยรู้จักแบรนด์เรามาก่อนเลยก็ตาม แต่การที่นำฟิลเตอร์ของเราไปใช้ก็ถือว่าเป็นการสร้างการรับรู้แบรนด์ได้ทางหนึ่ง โดยส่วนมาก ธุรกิจจะนิยมใส่ชื่อแบรนด์ไว้ในฟิลเตอร์แบบเนียน ๆ ด้วย อาจจะไม่ต้องเด่นมากนัก เพราะสำหรับผู้บริโภคบางคน ถ้าเขามองออกว่าเป็นการโปรโมตแบรนด์มากจนเกินไป ก็จะหลีกเลี่ยงไม่ใช้ฟิลเตอร์นั้น ๆ แล้วไปใช้ฟิลเตอร์อื่นแทน
กระนั้น ต่อให้ไม่ใส่อะไรเกี่ยวกับแบรนด์ลงไปในฟิลเตอร์เลยก็ไม่เป็นไรเช่นกัน เนื่องจากเวลาที่ผู้ใช้งานเซฟฟิลเตอร์ไปใช้ต่อ ระบบจะแสดงชื่อแอ็กเคานต์ของผู้สร้างฟิลเตอร์ไอจี ซึ่งก็คือชื่อบัญชีของธุรกิจเรานั่นเอง หากมีใครที่สนใจอยากดูฟิลเตอร์อื่น ๆ เพิ่มเติม พวกเขาก็จะกดเข้ามาดูหน้าโพรไฟล์เราเองโดยที่ไม่จำเป็นต้องรู้จักแบรนด์เรามาก่อน ซึ่งหากเรามีหน้าฟีดที่ดูสวยงาม น่าดึงดูด ก็จะทำให้ได้ผู้ติดตามเพิ่มขึ้นด้วย
วิธีสร้างฟิลเตอร์ไอจี
สำหรับวิธีสร้างฟิลเตอร์ไอจีก็ไม่มีอะไรยาก ขั้นตอนอาจจะซับซ้อนนิดหน่อย แต่รับรองว่ามือใหม่ทำได้แน่นอน ! โดยสามารถทำตามขั้นตอนดังต่อไปนี้ได้เลย
- ดาวน์โหลด Spark AR Studio ลงบนคอมพิวเตอร์ (รองรับทั้ง Mac OS และ Windows)
- เข้าไปที่หน้า Create New ระบบจะแสดงตัวอย่างเอฟเฟกต์ขึ้นมาให้เลือก ถ้ามีที่ถูกใจก็สามารถเลือกใช้ได้เลย หรือถ้าอยากสร้างใหม่เองก็ให้กดสร้างโพรเจ็กต์ใหม่ (Blank Project) โดยเป็นการปรับจากเทมเพลตเดิมที่มีให้
- เมื่อเลือกได้แล้วก็สามารถทำการปรับแต่งฟิลเตอร์ได้ตามใจชอบ โดยระบบจะแสดงหน้าที่คล้ายกับโปรแกรมแต่งรูปขึ้นมา และมีจุดกึ่งกลาง (Viewport) ซึ่งเป็นตำแหน่งที่ให้เราทำการปรับแต่งฟิลเตอร์ของตนเองได้ แต่สำหรับใครที่งง ๆ ในขั้นตอนนี้ก็ไม่ต้องกังวล เพราะมุมบนขวาจะมีแสดงตัวอย่างให้ดู แล้วยังสามารถเลือกเปลี่ยนรุ่นโทรศัพท์ได้ตามต้องการด้วย
- อัปโหลดภาพกราฟิก 3D โดยสามารถเลือกจากที่มีอยู่แล้วใน AR Library หรือจะเป็นภาพที่ทำขึ้นเองก็ได้
- ปรับแต่งภาพดังกล่าวโดยใช้แถบเครื่องมือที่อยู่ด้านซ้าย เช่น ตัดภาพให้แยกออกจากกันเป็นกิมมิก หรือทำให้เคลื่อนไหวได้ตามต้องการ
- เมื่อปรับแต่งเสร็จแล้ว ให้ลองทดสอบเอฟเฟกต์ดูว่าเป็นไปตามที่ต้องการหรือไม่ และอยากปรับแต่งตรงไหนเพิ่มเติม
- เมื่อได้เอฟเฟกต์ที่ต้องการแล้ว ก็ให้ส่งออก (Export) ฟิลเตอร์ดังกล่าวไปที่ Meta Spark Hub โดยล็อกอินผ่าน Facebook (Meta)
- เข้าไปที่หน้าหลัก แล้วกดเผยแพร่เอฟเฟกต์
- ตั้งชื่อเอฟเฟกต์ให้ไม่ซ้ำกับชื่อที่คนอื่นใช้อยู่แล้ว โดยสามารถใช้ได้ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ
- อัปโหลดไฟล์เอฟเฟกต์ที่เซฟมาจาก Spark AR Studio
- เลือกเฉพาะแพลตฟอร์ม Instagram เท่านั้น หรือหากอยากลง Facebook ด้วยก็สามารถเลือกทั้งสองแพลตฟอร์มได้
- เลือกแอ็กเคานต์ผู้เผยแพร่เอฟเฟกต์เป็นบัญชีร้านของเรา
- เลือกหมวดหมู่และใส่คีย์เวิร์ด สำหรับให้ผู้ใช้งานค้นหาเราเจอ เช่น Cute, Sparkle, Minimal เป็นต้น
- กดบันทึก แล้วรออนุมัติประมาณ 5 วัน เมื่อได้รับการอนุมัติแล้ว ก็สามารถเผยแพร่ฟิลเตอร์ให้คนอื่นใช้บน Instagram ได้เลย !
ข้อควรระวังในการสร้างฟิลเตอร์ไอจี
ถึงแม้ช่วงหลังมานี้ธุรกิจต่าง ๆ จะนิยมสร้างฟิลเตอร์ไอจีเพื่อโปรโมตแบรนด์แบบเนียน ๆ กันเยอะ แต่ก็มีข้อควรระวังที่หลายคนยังไม่รู้ และไปละเมิดนโยบายบางอย่างที่ทางแพลตฟอร์มกำหนดไว้ ทำให้เอฟเฟกต์ที่ตั้งใจสร้างไม่ผ่านการอนุมัติ
มาดูกันว่าการสร้างฟิลเตอร์ไอจีเป็นของตัวเองมีข้อควรระวังอะไรบ้าง
- ห้ามมีโลโก้แบรนด์เกิน 1 อัน โดยหากอยากใส่ ต้องทำให้เนียนและกลมกลืนไปกับตัวเอฟเฟกต์ เช่น หากใบหน้าขยับ โลโก้ก็ต้องขยับตามด้วย ไม่สามารถแปะไว้แบบนิ่ง ๆ จนดูเหมือนเป็นการโฆษณาแบบโต้ง ๆ ได้
- ไม่ควรมีตัวหนังสือเยอะเกินไปจนบดบังทัศนียภาพหรือใบหน้าของผู้ใช้
- ห้ามใช้รูปบุคคลจริง แม้ว่าจะเป็นบุคคลสาธารณะอย่างดารา นักร้อง หรือไอดอลก็ตาม
- หากอยากสร้างฟิลเตอร์ที่อิงกระแสช่วงเวลานั้น ๆ หรือตามเทศกาล เช่น วันวาเลนไทน์ วันสงกรานต์ ฯลฯ ควรส่งฟิลเตอร์เพื่อรออนุมัติล่วงหน้าสักประมาณ 1-2 อาทิตย์ เผื่อแพลตฟอร์มใช้เวลาอนุมัตินาน หรือโดนปฏิเสธกลับมาแล้วต้องยื่นขออนุมัติใหม่
สร้างฟิลเตอร์ไอจี อีกหนึ่งทางเลือกทำการตลาดแบบใหม่
แม้จะมีหลายขั้นตอน แต่การสร้างฟิลเตอร์ไอจีก็ไม่ยากเกินความสามารถ รับรองว่าคุ้มค่ากับเวลาที่เสียไปอย่างแน่นอน เพราะก่อนจะทำการตลาดให้ประสบความสำเร็จได้ เราก็ต้องสร้างการรับรู้แบรนด์ในวงกว้างให้ได้ก่อน ซึ่งการสร้างฟิลเตอร์ไอจีก็เป็นหนึ่งในวิธีที่ช่วยโปรโมตแบรนด์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ กล่าวคือ เมื่อเราเผยแพร่เอฟเฟกต์ไปแล้วมีคนเข้ามาใช้เยอะเท่าไร ก็เท่ากับว่ามีคนมองเห็นแบรนด์ของเราเยอะขึ้นเท่านั้น ต่อให้คนกลุ่มดังกล่าวจะไม่เคยได้ยินชื่อแบรนด์เรามาก่อน หรือไม่รู้ว่าเราขายอะไรก็ตาม แต่การที่เราเอาตัวเองเข้าไปอยู่ในสายตาของผู้บริโภคเพื่อสร้างการจดจำได้ ก็นับว่าประสบความสำเร็จในระดับหนึ่งแล้ว
อย่างไรก็ตาม หลังจากเผยแพร่ฟิลเตอร์ไปแล้ว แนะนำให้คอยเช็กกระแสตอบรับที่ Dashboard อยู่เรื่อย ๆ ด้วยว่ายอดผู้ใช้งานเป็นไปตามที่ตั้งเป้าหมายไว้หรือไม่ แล้วนำข้อมูลมาปรับปรุงและพัฒนากลยุทธ์การตลาดผ่านการสร้างฟิลเตอร์ไอจีให้ดียิ่งขึ้น จนแบรนด์สามารถเป็นไวรัลบนแพลตฟอร์ม Instagram ได้ในที่สุด
ไม่ถนัดเรื่องการตลาดโซเชียลมีเดียใช่ไหม หรือไม่มีเวลาโฟกัสผลลัพธ์ในทุก ๆ ช่องทางใช่หรือเปล่า Primal Digital Agency บริษัทรับทำการตลาดชั้นนำของไทยพร้อมให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการทุกราย ในการขับเคลื่อนธุรกิจให้ไปสู่จุดที่เหนือกว่าเดิม ติดต่อเราได้เลยวันนี้
Join the discussion - 0 Comment