WooCommerce คืออะไร ทำไมคนทำร้านค้าออนไลน์ต้องห้ามพลาด!

ในปัจจุบัน การทำ E-Commerce หรือร้านค้าออนไลน์เติบโตเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง หลังการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่เปลี่ยนวิถีชีวิตของเราทุกคน ไม่ว่าจะเป็นมาตรการการรักษาระยะห่าง พฤติกรรมการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป ซึ่งแน่นอนว่าผู้ประกอบการธุรกิจไม่ว่าจะขนาดไหนก็ต้องมีการปรับแผนการตลาดแล้วนำการทำ E-Commerce เข้ามาปรับใช้ เพื่อตอบสนองต่อสถานการณ์และพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป

ในบทความนี้ขอพาคุณมารู้จักกับ WooCommerce ที่จะช่วยให้การทำร้านค้าออนไลน์ของคุณเป็นเรื่องง่ายอย่างกับดีดนิ้ว!

WooCommerce คืออะไร

WooCommerce คือปลั๊กอินเสริมใน Content Management System (CMS) ชื่อดังอย่าง “WordPress” ที่จะช่วยคุณสร้างร้านค้าออนไลน์ได้ในเว็บไซต์ของคุณ ไม่เพียงเท่านั้น คุณยังสามารถจัดการปรับแต่ง ติดตามคำสั่งซื้อ แก้ไข/อัปเดตออร์เดอร์จากลูกค้าได้อีกด้วย

วิธีการติดตั้งปลั๊กอิน WooCommerce

  1. เข้าไปที่หน้า dashboard WordPress ที่คุณใช้สร้างเว็บไซต์ของคุณ
  2. เลือกที่ปุ่ม “ตัวเลือกปลั๊กอิน”
  3. พิมพ์ค้นหา “WooCommerce”
  4. กดดาวน์โหลดและติดตั้งปลั๊กอิน WooCommerce

เพียงเท่านี้คุณก็สามารถเริ่มใช้งาน WooCommerce ได้แล้ว ซึ่งตัวระบบจะมีการแนะนำขั้นตอนการสร้างเว็บไซต์รวมถึงวิธีการใช้งานร้านค้าออนไลน์ให้แก่คุณอีกด้วย 

woocommerce คืออะไร

WooCommerce มีฟีเจอร์อะไรบ้าง

สร้างร้านค้าออนไลน์

ฟีเจอร์แรกสุดของ WooCommerce คือการช่วยให้คุณเปลี่ยนเว็บไซต์ของคุณให้กลายเป็นเว็บไซต์ E-Commerce ได้เลย โดยที่คุณไม่ต้องเสียเวลาหรือเพิ่มงบประมาณในการสร้างเว็บไซต์ใหม่

เพิ่ม/จัดการสินค้า

ในการใช้งาน WooCommerce คุณสามารถเพิ่มและจัดการสินค้าต่าง ๆ ของคุณได้อย่างอิสระ ไม่ว่าจะเป็นการจัดการประเภทของสินค้า การจัดโปรโมชั่นส่งเสริมการขาย ไม่ว่าจะเป็นการลดราคา ของแถม หรือแม้แต่การจำหน่ายแบบ Bundle Sets อีกทั้ง WooCommerce ยังมีระบบช่วยตรวจสอบจำนวนสินค้าคงเหลือให้ด้วย

ดู/แก้ไข/จัดการออร์เดอร์

คุณสามารถดูสถานะการสั่งซื้อได้ทุกขั้นตอนในหน้า dashboard นับตั้งแต่วินาทีที่มีลูกค้าทำการสั่งซื้อสำเร็จ คุณก็สามารถปรินต์รายละเอียดที่อยู่ในการจัดส่งออกมาได้เลย หลังคุณจัดส่งเสร็จ คุณก็สามารถเพิ่มเลขติดตามพัสดุเข้าไปในระบบได้ และที่สำคัญที่สุด ถ้าหากมีข้อผิดพลาดใด ๆ เกิดขึ้นกับคำสั่งซื้อ คุณก็ยังสามารถเข้าไปแก้ไขรายละเอียดต่าง ๆ และจะอัปเดตให้ลูกค้าทราบด้วยเช่นกัน

ระบบชำระเงินที่ปลอดภัย

WooCommerce มีตัวเลือกที่จะทำให้ร้านค้าออนไลน์ของคุณรองรับการชำระเงินได้หลากหลายรูปแบบ ซึ่งคุณสามารถเลือกตั้งค่าได้ตามความต้องการได้เลย ไม่ว่าจะเป็นการโอนจากบัญชีธนาคาร บัตรเครดิต บัตรเดบิต การเก็บเงินปลายทาง นอกจากนี้ คุณยังสามารถเชื่อมต่อกับบัญชีการเงินได้ ไม่ว่าจะเป็น WooCommerce Payments, Paypal, Amazon Pay, Apple Pay, Google Pay และอื่น ๆ อีกกว่า 140 ช่องทาง ซึ่งถือว่ามีความครอบคลุมเป็นอย่างมาก

การปรับแต่ง

คุณสามารถปรับแต่งรูปแบบ สี เค้าโครงร้านค้าออนไลน์ของคุณได้อย่างอิสระในการใช้งาน WooCommerce ซึ่งถือว่ามีประโยชน์อย่างมาก เพราะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณมีเอกลักษณ์ โดดเด่นเฉพาะตัว ไม่ดูเหมือนร้านค้าออนไลน์สำเร็จรูปอื่น ๆ อีกทั้งยังช่วยให้คุณปรับแต่งเพื่อให้สอดคล้องกับประเภทธุรกิจของคุณได้

รองรับการทำ SEO

หากคุณไม่อยากให้หน้าเว็บไซต์ของคุณมีแต่รายการสินค้าที่คุณขาย แต่คุณอยากจะนำเสนอคอนเทนต์ต่าง ๆ เพื่อส่งเสริมการโปรโมตเว็บไซต์ของคุณ WooCommerce เองก็มีฟีเจอร์ที่จะช่วยให้คุณสามารถอัปโหลดบทความหรือคอนเทนต์ SEO ต่าง ๆ ลงไปได้ด้วย

การทำโฆษณา

WooCommerce รองรับการใช้งานโฆษณาด้วย ซึ่งคุณสามารถทำโฆษณาไม่ว่าจะเป็นทาง Google Ads, Facebook Ads, Instagram Ads และอื่น ๆ อีกมากมาย โดยการกดตั้งค่าได้ในระบบเลย นอกจากนี้ ระบบยังมีการติดตามและประมวลผลให้อีกด้วย

ประมวลผล

แน่นอนว่าการประมวลต่าง ๆ นั้นสำคัญต่อการขายของออนไลน์อย่างมาก ซึ่งระบบของ WooCommerce ก็จะมีการแสดงผลต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นยอดขาย ค่าใช้จ่ายการขนส่ง กำไร รวมไปถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคและอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งระบบการวิเคราะห์และประมวลผลของ WooCommerce ถือว่าครบครันและมีความแม่นยำเป็นอย่างมาก คุณสามารถตรวจสอบดูแล้วนำไปปรับใช้กับแผนการตลาดอื่น ๆ ได้อย่างง่ายดาย

มีระบบให้ความช่วยเหลือ

ถ้าหากคุณพบเจอปัญหาหรือไม่เข้าใจการใช้งาน WooCommerce ตรงไหนก็ไม่ต้องเป็นกังวลไป เพราะระบบของ WooCommerce มีผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางที่คอยให้คำตอบและแนะนำวิธีการแก้ปัญหาการใช้งานแก่คุณตลอด 24 ชั่วโมง

Woocommerce มีค่าใช้จ่ายไหม

เฉกเช่นเดียวกับ WordPress คุณสามารถดาวน์โหลดและเริ่มต้นการใช้งาน WooCommerce ได้ฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ แต่ในการใช้งานฟีเจอร์เพิ่มเติมนั้นก็จะมีค่าใช้จ่าย ซึ่งก็มีมากมายให้คุณเลือกสรรตามความเหมาะสมและความต้องการของคุณ โดยมีค่าใช้จ่ายตั้งแต่หลักร้อยบาทไปจนถึงหลักหมื่นบาท (ราว ๆ $15 – $300) แต่โดยรวมแล้ว ฟีเจอร์เบื้องต้นที่ทาง WooCommerce มีให้มาก็ถือว่าครอบคลุมมาก ๆ แล้วสำหรับการใช้งานเว็บไซต์ E-Commerce

WooCommerce เหมาะสมกับใคร

WooCommerce เหมาะสมกับผู้ประกอบการธุรกิจทุกประเภทและทุกขนาดที่มีความสนใจในการสร้างทำธุรกิจ E-Commerce โดยมีข้อจำกัดอยู่ที่ว่าคุณจำเป็นต้องมีเว็บไซต์ที่สร้างจากแพลตฟอร์ม WordPress และมีความรู้ ความเข้าใจในการจัดการเว็บไซต์อยู่เสียนิดหน่อย แต่เชื่อเราเถอะว่าไม่มีอะไรยากเกินความพยายามโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ WordPress และ WooCommerce ที่ขึ้นชื่อเรื่องความสะดวกในการใช้งานและได้รับความนิยมมากที่สุดของโลก!