ไฟล์ WebP คืออะไร มาตรฐานไฟล์ภาพที่มีผลต่อการทำ SEO

หากพูดถึงไฟล์ภาพที่ได้รับความนิยมในการนำมาแสดงผลบนเว็บไซต์มากที่สุด ก็คงหนีไม่พ้นไฟล์สกุล JPEG เนื่องจากเป็นไฟล์ภาพที่สามารถแสดงประสิทธิภาพได้ดี อีกทั้งขนาดของไฟล์ก็อยู่ในระดับที่ยอมรับได้ ในขณะที่ไฟล์สกุล GIF หรือ PNG นั้น แม้จะแสดงความละเอียดของภาพได้มากกว่า แต่เพราะไฟล์มีขนาดใหญ่มาก ทำให้หน้าเว็บไซต์โหลดช้า จึงไม่เป็นที่นิยมเท่า

โดยทั่วไปแล้ว การเช้าชมเว็บไซต์หนึ่งหน้านั้น มากกว่า 65% ของข้อมูลที่ผู้ใช้งานต้องรอโหลดก็คือ “รูปภาพ” โดยเฉพาะอย่างยิ่งในหน้าเพจที่เป็นคอนเทนต์ก็อาจสูงขึ้นไปถึง 80% เลยทีเดียว และยิ่งขนาดภาพของเราใหญ่มากเท่าไร หน้าเว็บไซต์ก็จะยิ่งโหลดช้าขึ้นเท่านั้น ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อการทำ SEO อย่างแน่นอน ดังนั้น เราจึงควรบีบอัดไฟล์ภาพให้มีขนาดเล็กเข้าไว้ เพื่อที่เว็บไซต์จะได้มีอันดับที่ดีบนหน้าผลการค้นหา

วันนี้ เราจะมาบอกหนึ่งในวิธีที่มีประสิทธิภาพในการแปลงไฟล์ให้เล็กกว่าไฟล์ภาพปกติ นั่นก็คือ การบีบอัดให้เป็น “WebP” นั่นเอง

WebP ช่วยเรื่อง SEO อย่างไร

WebP คืออะไร

เชื่อว่าคนที่ทำงานอยู่ในสายการตลาดหลายคนที่กำลังอ่านบทความนี้ ต้องเคยเจอกับเหตุการณ์ที่เซฟรูปมาจากเว็บไซต์ แล้วได้ไฟล์ภาพ WebP มา แถมพอดาวน์โหลดเสร็จแล้วยังเปิดไฟล์ไม่ได้อีก !

แล้วไฟล์ WebP คืออะไรกันล่ะ

ไฟล์เว็บพี หรือ WebP คือ ไฟล์ภาพรูปแบบหนึ่งของ Google ที่ถูกพัฒนาขึ้นเมื่อปี 2010 และได้กลายมาเป็นมาตรฐานไฟล์ภาพที่สามารถแสดงผลได้ในระดับดีเยี่ยม ผ่านการบีบอัดไฟล์ภาพแบบเต็มที่เพื่อให้ไฟล์มีขนาดเล็กลง โดยจะเล็กกว่าไฟล์ JPEG อยู่ที่ประมาณ 25-35% เป็นอย่างต่ำ แต่ยังคงคุณภาพความละเอียดที่ใกล้เคียงกับภาพต้นฉบับ อันจะนำมาซึ่งการโหลดเว็บไซต์ที่เร็วขึ้น และช่วยสร้างประสบการณ์ที่ดีแก่ผู้ใช้งาน

ทั้งนี้ ในขณะที่ไฟล์ภาพ WebP กำลังได้รับการพัฒนา ก็ได้ถูกนำไปทดสอบกับ Product ต่าง ๆ ของทาง Google เช่น หากใครเคยโหลดภาพมาจาก Play Store ก็อาจสังเกตเห็นว่ารูปที่ได้มามีสกุลไฟล์เป็น .webp เป็นต้น และความโดดเด่นของ WebP คือการแสดงผลแบบพื้นหลังโปร่งใสได้เหมือนไฟล์ PNG ซึ่งเรียกว่าเป็นไฟล์แบบ Lossless โดยที่ขนาดไฟล์ WebP แบบพื้นหลังใสจะใหญ่กว่า WebP ปกติประมาณ 22% แต่ถึงอย่างไรก็ยังเล็กกว่าไฟล์ภาพสกุล PNG ถึง 3 เท่าอยู่ดี นั่นทำให้ WebP สามารถแสดงผลบนเว็บไซต์ได้เร็วกว่าไฟล์ภาพสกุลอื่น ๆ เป็นอย่างมาก

นอกจากบน Product ของ Google เราจะเริ่มเห็นเว็บไซต์ต่าง ๆ โดยเฉพาะเว็บฯ สำนักข่าวใหญ่ ๆ ทั้งในไทยและต่างประเทศหันมาใช้ภาพ WebP กันบ้างแล้ว เนื่องจากช่วยลดภาระของทั้งผู้ใช้งานและเว็บไซต์ได้มาก เพราะอย่างที่ได้กล่าวไปว่าการใช้ไฟล์ WebP เว็บไซต์จะโหลดเร็วขึ้นกว่าเดิมเมื่อเทียบกับการใช้ไฟล์ภาพปกติอย่างตระกูล JPEG, GIF หรือ PNG ซึ่งความเร็วในการโหลดเว็บไซต์นั้นมีผลต่อคะแนน SEO ด้วย กล่าวคือ ยิ่งโหลดได้เร็วมากเท่าไร ผู้ใช้งานก็จะได้รับประสบการณ์ที่ดีมากเท่านั้น และอันดับเว็บไซต์ของเราก็จะดีขึ้นตามไปด้วย นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมผู้พัฒนาเว็บไซต์หลาย ๆ คนถึงได้นิยมใช้ไฟล์ภาพ WebP

 

ไฟล์ WebP มีข้อดีและข้อจำกัดอย่างไร

ข้อดีของไฟล์ WebP

  • หน้าเว็บไซต์โหลดเร็วขึ้น อันจะนำมาซึ่งประสบการณ์ที่ดีของผู้ใช้งาน ทำให้ผู้ใช้งานรู้สึกประทับใจเว็บไซต์ของเรา และเพิ่มโอกาสในการกลับมาใช้ซ้ำ
  • ช่วยเพิ่มคะแนน SEO ซึ่งจะทำให้อันดับเว็บไซต์ในหน้าผลการค้นหาดีขึ้น
  • สามารถใช้งานกับเบราว์เซอร์ต่าง ๆ ได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น Google Chrome, Edge, Firefox และ Opera
  • WebP คือไฟล์แบบ Open Source กล่าวคือ ใครก็ตามที่ดาวน์โหลดไปจะสามารถนำไฟล์ไปปรับปรุงให้ดีขึ้นได้
  • การบีบอัดรูปภาพให้เล็กลงจะช่วยประหยัดพื้นที่จัดเก็บข้อมูลได้มากขึ้น

ข้อจำกัดของไฟล์ WebP

  • แม้ไฟล์ WebP จะถูกเคลมว่าต่อให้บีบอัดรูปแต่คุณภาพก็แทบไม่ต่างจากเดิม ทว่าหากภาพที่เราจะนำมาบีบอัดเป็นภาพใหญ่ มีความละเอียดสูง การนำมาแปลงสกุลไฟล์ก็ย่อมต้องลดทอนคุณภาพของไฟล์อยู่ดีไม่มากก็น้อย
  • เหมาะสำหรับการใช้งานบนออนไลน์เท่านั้น
  • บางอุปกรณ์อาจไม่รองรับภาพ WebP ส่งผลให้ในขั้นตอนการนำมาใช้ จำเป็นต้องวางภาพ JPEG ไว้คู่กันทุกครั้ง เพื่อให้อุปกรณ์ที่ไม่สามารถมองเห็นภาพ WebP ได้ เห็นเป็นภาพ JPEG แทน
  • เบราว์เซอร์รุ่นเก่าบางส่วน เช่น Internet Explorer อาจไม่สามารถรองรับรูปภาพ WebP ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

วิธีสร้างและแก้ไขไฟล์ WebP

ก่อนอื่น การที่เราจะเปิดไฟล์ WebP ได้ เราจะต้องมีเบราว์เซอร์ที่รองรับไฟล์ประเภทนี้เสียก่อน จากนั้น ให้เปิดโฟลเดอร์ที่บันทึกไฟล์ดังกล่าวเอาไว้ แล้วเมื่อดับเบิลคลิก ระบบจะเปิดรูปภาพขึ้นมาโดยอัตโนมัติ

แต่สำหรับการสร้างและแก้ไขไฟล์ WebP นั้น จะต้องมีการติดตั้งปลั๊กอินที่เหมาะสมกับอุปกรณ์ แล้วดำเนินการผ่าน Adobe Photoshop ด้วยวิธีการดังต่อไปนี้

  • สร้างหรือแก้ไขภาพผ่านโปรแกรม Photoshop จากนั้นคลิกที่ Save As (บันทึกเป็น)
  • บันทึกไฟล์เป็น WebP โดยใช้เมนู Format (รูปแบบ)
  • เลือกชื่อและตำแหน่งที่ต้องการบันทึกไฟล์ WebP ใหม่ แล้วคลิกที่ Save (บันทึก)
  • ในกรณีที่ต้องการปรับแต่งไฟล์เพิ่มเติม แผงการตั้งค่าและตัวเลือกในการแก้ไขไฟล์เพิ่มเติมจะปรากฏขึ้นหลังจากกด Save

 

สรุป

สรุปง่าย ๆ ได้ว่า ไฟล์ WebP คือ มาตรฐานไฟล์ภาพที่ถูกพัฒนาโดย Google มีวัตถุประสงค์เพื่อลดระยะเวลาในการโหลดหน้าเว็บไซต์ รวมถึงช่วยให้เว็บไซต์ต่าง ๆ แสดงรูปภาพที่มีคุณภาพสูงในขณะที่ไฟล์ภาพเล็กกว่าเดิม เรียกได้ว่า WebP เป็นที่นิยมอย่างมากในปัจจุบัน เพราะนอกจากจะทำให้เว็บไซต์ไหลลื่นขึ้นแล้ว ยังส่งผลดีต่อการทำ SEO ซึ่งจะทำให้เว็บไซต์ของเรามีอันดับที่สูงขึ้นอีกด้วย

สำหรับใครที่กังวลเกี่ยวกับขั้นตอนการทำ SEO ไม่รู้ว่าจะเริ่มจากส่วนไหนดี ไม่เข้าใจกฎเกณฑ์ต่าง ๆ ของ Google หรือแม้แต่ทำอย่างไรอันดับเว็บไซต์ก็ไม่เพิ่ม ให้เรา Primal Digital Agency เอเจนซีรับทำ SEO อันดับหนึ่งในไทยช่วยเหลือ เพื่อให้คุณได้มีเวลาไปโฟกัสในส่วนอื่นมากขึ้น!