Search Engine คืออะไร เครื่องมือสำคัญของธุรกิจออนไลน์
Search Engine คือเครื่องมือที่สำคัญมากสำหรับทั้งฝั่งผู้ใช้งานและฝั่งเจ้าของธุรกิจ เพราะเป็นตัวกลางที่ทำให้ผู้บริโภคค้นหาสิ่งที่ต้องการพบอย่างง่ายดายในโลกออนไลน์ และเจ้าของธุรกิจก็สามารถนำเสนอในสิ่งที่อยากขายเช่นกัน ถ้าไม่มี Search Engine การใช้ชีวิตของเราก็คงไม่ง่ายอย่างทุกวันนี้
บทความนี้จะพาทุกคนไปรู้จักให้มากขึ้นว่า Search Engine คืออะไร มีประโยชน์อย่างไร มีกี่ประเภท และทำไมคนทำธุรกิจออนไลน์ถึงควรรู้จักสิ่งนี้ไว้
Table of Contents
Search Engine คืออะไร
Search Engine คือเครื่องมือค้นหาบนอินเทอร์เน็ตที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถค้นหาข้อมูลได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ โดยวิธีไม่ซับซ้อน เมื่อผู้ใช้พิมพ์คำหรือวลีที่ต้องการค้นหาลงไป ระบบจะทำการประมวลผลทันที จากนั้นจึงแสดงผลลัพธ์ที่เกี่ยวข้องออกมาในรูปแบบของรายการเว็บไซต์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นบทความ รูปภาพ วิดีโอ หรือแม้แต่ข้อมูลเฉพาะทาง เพื่อตอบโจทย์สิ่งที่ผู้ใช้ต้องการ
Search Engine ทำงานอย่างไร
Search Engine ทำงานด้วยขั้นตอนหลัก ๆ ดังนี้
- Crawling : ระบบจะใช้ซอฟต์แวร์ที่เรียกว่า “Web Crawler” หรือ “Spider” เพื่อรวบรวมข้อมูลจากหน้าเว็บต่าง ๆ โดยการติดตามลิงก์จากหน้าเว็บฯ หนึ่งไปยังอีกหน้าหนึ่ง กระบวนการนี้จะทำงานตลอดเวลาเพื่ออัปเดตข้อมูลใหม่ ๆ อยู่เสมอ
- Indexing : ข้อมูลที่รวบรวมได้จากขั้นตอนการ Crawling จะถูกจัดเก็บและจัดทำดัชนี (Indexing) เพื่อให้ระบบสามารถเข้าถึงและค้นหาได้อย่างรวดเร็วเมื่อมีการป้อนคำค้นหาเข้ามา
- Ranking : เมื่อผู้ใช้ป้อนคำค้นหา ระบบจะประมวลผลและจัดอันดับผลลัพธ์ตามความเกี่ยวข้อง โดยอัลกอริทึมของ Search Engine จะพิจารณาจากหลายปัจจัย เช่น ความเกี่ยวข้องของเนื้อหา คุณภาพของเว็บไซต์ และความนิยมของเนื้อหานั้น ๆ
- Displaying Results : หลังจากระบบทำการจัดอันดับผลลัพธ์แล้ว ผลการค้นหาที่เกี่ยวข้องที่สุดจะถูกแสดงบนหน้าแรกของ Search Engine เพื่อให้ผู้ใช้สามารถคลิกเข้าไปดูรายละเอียดได้
Search Engine มีกี่ประเภท
Search Engine แบ่งออกเป็น 3 ประเภทหลัก ดังนี้
-
Search Engine ทั่วไป
เริ่มจากประเภทที่คุ้นเคยที่สุด คือ Search Engine ทั่วไป เช่น Google, Bing และ Yahoo! ซึ่งให้บริการค้นหาข้อมูลทุกประเภทบนอินเทอร์เน็ต เครื่องมือเหล่านี้ผ่านการออกแบบมาเพื่อตอบสนองความต้องการค้นหาข้อมูลที่หลากหลายของผู้ใช้ทั่วไป
-
Meta Search Engine
ถัดมา Meta Search Engine คือระบบค้นหาที่ไม่ได้เก็บข้อมูลจากเว็บไซต์ต่าง ๆ โดยตรง แต่จะทำหน้าที่รวบรวมผลการค้นหาจากหลาย ๆ Search Engine มาประมวลผลและแสดงผลลัพธ์ในหน้าเดียวกัน ทำให้ผู้ใช้สามารถเห็นผลลัพธ์จากหลาย ๆ แหล่ง และเปรียบเทียบได้อย่างสะดวกรวดเร็ว
-
Vertical Search Engine
สุดท้ายคือ Vertical Search Engine ซึ่งเน้นการค้นหาเฉพาะข้อมูลในหมวดหมู่หรืออุตสาหกรรมใดอุตสาหกรรมหนึ่ง ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจน ได้แก่ Pinterest สำหรับการค้นหาภาพ, YouTube สำหรับการค้นหาวิดีโอ หรือ Zillow สำหรับการค้นหาข้อมูลอสังหาริมทรัพย์ เครื่องมือประเภทนี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถเข้าถึงข้อมูลเฉพาะทางได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
Search Engine ที่นิยมมีอะไรบ้าง
เมื่อพูดถึง Search Engine ที่ได้รับความนิยมในตลาดโลก มีแพลตฟอร์มหลายแห่งที่โดดเด่นตามข้อมูลที่รวบรวมโดย HubSpot อัปเดตล่าสุดในปี 2024 ดังนี้
-
Google
-
- สัดส่วนการตลาด : Google ครองส่วนแบ่งการตลาดสูงสุด โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีส่วนแบ่งถึง 60%
- คุณสมบัติพิเศษ : Google ใช้ AI ที่ชื่อว่า Gemini ในการสรุปผลการค้นหา ซึ่งช่วยให้ผู้ใช้ได้รับข้อมูลที่ต้องการโดยไม่ต้องคลิกเข้าเว็บไซต์ แต่อาจต้องระวังเรื่องความแม่นยำของข้อมูลที่ได้รับจาก AI นี้
-
Microsoft Bing
-
- สัดส่วนการตลาด : Bing มีส่วนแบ่งการตลาดทั่วโลกประมาณ 3.23% และ 0.55% บนมือถือ แต่ยังคงเป็นเครื่องมือค้นหาที่สำคัญ โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา
- คุณสมบัติพิเศษ : Bing มีโปรแกรม Microsoft Rewards ที่ให้ผู้ใช้สะสมคะแนนจากการค้นหาหรือชอปปิงผ่าน Bing ซึ่งสามารถแลกเป็นบัตรของขวัญหรือบริจาคให้แก่องค์กรการกุศล นอกจากนี้ Bing ยังมี AI ชื่อ Copilot ที่ช่วยสรุปผลการค้นหาอีกด้วย
-
Yahoo!
-
- สัดส่วนการตลาด : Yahoo! มีส่วนแบ่งการตลาดทั่วโลกประมาณ 1.16% และยังคงเป็นหนึ่งใน Search Engine ที่ได้รับความนิยม โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา
- คุณสมบัติพิเศษ : Yahoo! ใช้ผลลัพธ์การค้นหาจาก Bing และยังมีผู้ใช้มากกว่า 4 พันล้านคนต่อเดือนในปี 2023
-
Yandex
-
- สัดส่วนการตลาด : Yandex เป็น Search Engine ที่ได้รับความนิยมสูงสุดในรัสเซีย โดยมีส่วนแบ่งการตลาดทั่วโลกประมาณ 1.62% และมีส่วนแบ่งในรัสเซียสูงถึงเกือบ 71%
- คุณสมบัติพิเศษ : Yandex มีระบบ Site Quality Index (SQI) ที่จะแสดงผลลัพธ์ตามคุณภาพของเว็บไซต์ และยังใช้ AI เพื่อปรับปรุงการค้นหาและการแสดงผลลัพธ์
-
DuckDuckGo
-
- สัดส่วนการตลาด : DuckDuckGo มีผู้ใช้งานมากกว่า 4.5 พันล้านคนต่อเดือนในปี 2023 โดยเป็นที่นิยมในหมู่ผู้ที่ให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัว
- คุณสมบัติพิเศษ : DuckDuckGo ไม่เก็บข้อมูลการค้นหาของผู้ใช้ ทำให้ไม่มีการแสดงโฆษณาที่เจาะจงเฉพาะบุคคล แต่ยังคงมีโฆษณาที่ไม่ระบุเป้าหมายเฉพาะเจาะจง
-
Baidu
-
- สัดส่วนการตลาด : Baidu เป็น Search Engine ที่ใหญ่ที่สุดในจีน โดยมีส่วนแบ่งการตลาดสูงถึง 52.15% ในประเทศจีน
- คุณสมบัติพิเศษ : Baidu มีลักษณะการแสดงผลคล้ายกับ Google และเพิ่มฟีเจอร์พิเศษในหน้าผลลัพธ์การค้นหา เพื่อให้ผู้ใช้ได้รับข้อมูลที่มีประโยชน์มากยิ่งขึ้น
Search Engine มีประโยชน์ในการทำธุรกิจออนไลน์อย่างไรบ้าง
มีเหตุผลสำคัญหลายประการที่ทำให้ Search Engine กลายเป็นปัจจัยที่ธุรกิจออนไลน์ไม่สามารถมองข้ามได้
-
การเพิ่มโอกาสในการค้นพบ (Visibility)
Search Engine ช่วยให้ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายค้นพบธุรกิจออนไลน์ได้ง่ายขึ้น โดยหากเว็บไซต์ของธุรกิจถูกปรับแต่งให้มีอันดับสูงในหน้าผลลัพธ์การค้นหา (Search Engine Results Page หรือ SERP) จะทำให้มีโอกาสที่ลูกค้าจะเข้าชมเว็บไซต์มากขึ้น ซึ่งส่งผลต่อยอดขายและการเติบโตของธุรกิจ
-
การเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย
ด้วยการใช้เทคนิค SEO (Search Engine Optimisation) ธุรกิจสามารถปรับแต่งเนื้อหาให้ตรงกับความต้องการและพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมายได้ โดยเว็บไซต์ที่ผ่านการปรับแต่งมีโอกาสสูงที่จะปรากฏบนหน้าแรกของผลการค้นหา ทำให้ลูกค้าเข้าถึงข้อมูลและเกิดความสนใจ
-
การสร้างความน่าเชื่อถือ
เว็บไซต์ที่มีอันดับสูงบน Search Engine มักถูกมองว่ามีความน่าเชื่อถือมากกว่าคู่แข่งที่อยู่ในอันดับต่ำกว่า นอกจากนี้ การที่เว็บไซต์ธุรกิจปรากฏบนหน้าแรกของ Google หรือ Search Engine อื่น ๆ ก็จะช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีและเพิ่มความไว้วางใจในกลุ่มลูกค้า
-
การเพิ่มยอดขายและรายได้
การที่เว็บไซต์ของธุรกิจปรากฏในตำแหน่งที่ดีบน Search Engine สามารถนำไปสู่การเพิ่มยอดขายได้อย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากลูกค้าที่เข้ามาจากการค้นหาบน Search Engine มักมีความต้องการซื้อหรือค้นหาบริการอยู่แล้ว ทำให้การแปลงผู้เข้าชมเว็บไซต์เป็นลูกค้าทำได้ง่ายขึ้น
-
การใช้โฆษณาออนไลน์อย่างมีประสิทธิภาพ
Search Engine ยังเป็นแพลตฟอร์มที่ใช้สำหรับการโฆษณาออนไลน์ เช่น Google Ads ที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้อย่างแม่นยำด้วยการโฆษณาแบบ Pay-Per-Click หรือ PPC ซึ่งเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการเพิ่มการเข้าชมเว็บไซต์และสร้างยอดขาย
-
การวัดผลและปรับปรุงกลยุทธ์
การใช้ Search Engine ยังช่วยให้ธุรกิจสามารถติดตามและวัดผลการทำ SEO และการโฆษณาออนไลน์ได้อย่างละเอียด ธุรกิจสามารถใช้ข้อมูลจากเครื่องมืออย่าง Google Analytics เพื่อวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้ใช้ ปรับปรุงเว็บไซต์ และปรับกลยุทธ์การตลาดให้ตรงกับความต้องการของลูกค้ามากขึ้น
-
การเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน
ในยุคที่การแข่งขันทางธุรกิจออนไลน์เพิ่มสูงขึ้น การมีเว็บไซต์ที่ปรากฏในอันดับที่ดีบน Search Engine เป็นข้อได้เปรียบที่สำคัญ การใช้ SEO และกลยุทธ์ Search Engine Marketing (SEM) ที่มีประสิทธิภาพจะช่วยให้ธุรกิจสามารถเอาชนะคู่แข่งและครองตลาดได้
สรุป
Search Engine คือเครื่องมือสำคัญสำหรับธุรกิจออนไลน์ และการใช้กลยุทธ์การตลาดผ่าน Search Engine อย่างถูกวิธีจะช่วยให้ธุรกิจเติบโตและประสบความสำเร็จในโลกออนไลน์ที่มีการแข่งขันสูงนี้
หากคุณกำลังประสบปัญหาในการทำธุรกิจออนไลน์ หรือไม่มั่นใจที่จะทำ SEO ด้วยตัวเอง ติดต่อ Primal ได้เลยวันนี้ เราเป็นบริษัทที่มีบริการรับทำ SEO ชั้นนำของไทย ที่จะช่วยพาธุรกิจของคุณไปสู่ความสำเร็จที่คุณคาดหวัง
Join the discussion - 0 Comment