SCXO คืออะไร ? เทคนิคลับจาก Primal ที่เปลี่ยนผู้ชมเป็นยอดขาย
เชื่อว่านักการตลาดสมัยใหม่คงไม่มีใครไม่รู้จักเทคนิคการทำ SEO (Search Engine Optimisation) ซึ่งเป็นการปรับปรุงเว็บไซต์ให้ขึ้นไปอยู่อันดับแรก ๆ บนหน้าผลการค้นหา แต่สิ่งที่ยากคือ Google มีการอัปเดตกฎเกณฑ์ใหม่ ๆ อยู่เรื่อย ๆ ทำให้บางครั้ง อะไรที่ทำในวันนี้ อาจไม่ได้ผลในวันพรุ่งนี้อีกต่อไป จะดีกว่าหรือไม่หากเรามีกลยุทธ์ทางเลือกอื่น ๆ ที่สามารถนำพาธุรกิจไปสู่ความสำเร็จได้ด้วยหลักการคล้าย ๆ กัน แต่เหนือชั้นกว่า
บทความนี้จะพาทุกคนไปรู้จักกับ “SCXO (Search Conversion Experience Optimisation)” แนวทางใหม่จาก Primal ที่มากกว่าแค่การทำ SEO ธรรมดา มาดูกันเลยว่า SCXO คืออะไร และจะช่วยธุรกิจคุณอย่างไรได้บ้าง !
Table of Contents
SCXO คืออะไร ?
อย่างที่เรารู้กันว่าการทำ SEO นั้นประกอบไปด้วยเทคนิควิธีที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการปรับปรุงโครงสร้างเว็บไซต์ การเขียนคอนเทนต์คุณภาพ การทำ Backlink ฯลฯ ซึ่งมีจุดมุ่งหมายหลักคือการดันเว็บไซต์ขึ้นไปอยู่อันดับต้น ๆ บนหน้าผลการค้นหา เพื่อให้ได้ยอดผู้เข้าชมเว็บไซต์ที่สูงขึ้น แต่ SCXO คือ กลยุทธ์ที่จะมาแปลงยอดผู้เข้าชมเหล่านั้นให้กลายเป็นยอดขาย ! นั่นเป็นสาเหตุว่าทำไม Primal จึงกล้าบอกว่า SCXO คือเทคนิคที่ล้ำกว่า SEO ไปอีกขั้น
โดยสรุปแล้ว Search Conversion Experience Optimisation หรือ SCXO คือ กลยุทธ์ที่ผสมผสานเทคนิคหลัก ๆ ของการทำ SEO เข้าด้วยกัน เพื่อประสิทธิภาพสูงสุดในการทำธุรกิจ ไม่ใช่แค่สร้างการรับรู้แบรนด์ (Brand Awareness) เพียงอย่างเดียว แต่มีจุดประสงค์เพื่อดึงคนเข้ามาที่เว็บไซต์ แล้วเปลี่ยนตัวเลขของยอดผู้เข้าชมมาเป็นยอดขาย ตลอดจนสร้างผลลัพธ์อื่น ๆ ตามความต้องการของธุรกิจ
หลักการของ Primal SCXO คืออะไรบ้าง ?
อย่างที่ได้บอกไปว่า SCXO คือการรวมเอาเทคนิค SEO ต่าง ๆ เข้าไว้ด้วยกัน Primal จึงได้สร้างหลักการในการทำ SCXO ให้เป็นแบบองค์รวม (Holistic SEO Approaches) ซึ่งประกอบไปด้วย 7 เทคนิคหลัก ดังนี้
การทำ CRO (Conversion Rate Optimisation)
กระบวนการที่เป็นหัวใจหลักของ SCXO คือ การทำ CRO หรือการปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพของเว็บไซต์หรือแคมเปญการตลาด เพื่อเปลี่ยนยอดผู้เข้าชมให้เป็นยอดขาย เริ่มจากการวิเคราะห์และวัดผลการดำเนินงานโดยใช้เครื่องมือต่าง ๆ เช่น Google Analytics เพื่อหาจุดที่ต้องปรับปรุง จากนั้นจึงกำหนดเป้าหมาย KPI ที่ต้องการบรรลุ ซึ่งอาจเป็นอัตราการแปลงผู้เข้าชมเป็นลูกค้า ยอดขาย หรือมูลค่าการสั่งซื้อเฉลี่ยก็ได้
การทำ Keyword Research
ไม่ว่าจะเป็น SEO หรือ SCXO การทำ Keyword Research ก็เป็นสิ่งสำคัญที่ขาดไม่ได้ หากต้องการให้เว็บไซต์อยู่อันดับแรก ๆ บนหน้าผลการค้นหา โดยทีมงานของเราจะช่วยคุณค้นหาและรวบรวมคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจหรืออุตสาหกรรมของคุณ ด้วยการใช้เครื่องมือต่างๆ เช่น Google Keyword Planner, Ubersuggest หรือ Ahrefs เพื่อวิเคราะห์ปริมาณการค้นหาต่อเดือน ระดับการแข่งขัน ความเกี่ยวข้อง และความตั้งใจในการซื้อของผู้ค้นหา เพื่อจัดลำดับความสำคัญและเลือกคีย์เวิร์ดที่มีศักยภาพมากที่สุด
จุดประสงค์ในการค้นหา (User & Search Intent)
เมื่อผู้ใช้พิมพ์คำค้นหาลงใน Seach Engine พวกเขามักจะมีความตั้งใจหรือเป้าหมายที่แตกต่างกัน เช่น บางคนอาจค้นหาเพื่อศึกษาข้อมูลเบื้องต้น บางคนอาจต้องการข้อมูลเจาะลึก หรือบางคนอยากได้ข้อมูลเพื่อการตัดสินใจซื้อสินค้า โดยการเข้าใจจุดประสงค์เหล่านี้อย่างถ่องแท้จะช่วยให้ธุรกิจสามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ได้อย่างตรงจุด ทำให้ประสบการณ์การใช้งานของลูกค้าดีขึ้น อันจะส่งผลให้อัตราการแปลงผู้ชมเป็นลูกค้า (Conversion Rate) สูงขึ้นตามไปด้วย
การทำ Content Marketing
การทำ Content Marketing มีจุดประสงค์หลักเพื่อสร้างความผูกพันกับผู้บริโภค และดึงดูดกลุ่มเป้าหมายให้เข้ามาสู่ธุรกิจ ผ่านการสร้างและเผยแพร่เนื้อหาที่มีคุณค่า น่าสนใจ และเกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ขายอยู่ โดยเริ่มจากการกำหนดจุดประสงค์ที่ชัดเจน เช่น สร้างการรับรู้แบรนด์ สร้างรายได้ หรือสร้างฐานลูกค้าที่มีความจงรักภักดี (Customer Loyalty) จากนั้นจึงทำการวิจัยและวางแผนเนื้อหา โดยพิจารณาว่าเนื้อหาใดที่จะสามารถตอบโจทย์ความต้องการและความสนใจของกลุ่มเป้าหมายได้ดีที่สุด
การตรวจสอบเว็บไซต์ (Audit)
การทำ Audit เป็นอีกหนึ่งกระบวนการที่สำคัญในการปรับปรุงประสิทธิภาพของเว็บไซต์ โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อค้นหาจุดบกพร่องและช่องว่างที่จำเป็นต้องได้รับการแก้ไข เพื่อเพิ่มประสบการณ์ที่ดีให้แก่ผู้ใช้งาน และช่วยให้เว็บไซต์บรรลุเป้าหมายทางธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เช่น การตรวจสอบการจัดโครงสร้างและการนำทางของเว็บไซต์ การตรวจสอบเนื้อหา การตรวจสอบองค์ประกอบทางเทคนิค ฯลฯ
การปฏิบัติตามหลัก E-E-A-T Factors
E-E-A-T Factors เป็นปัจจัยสำคัญที่ Google ใช้ในการประเมินความน่าเชื่อถือและคุณภาพของเว็บไซต์และเนื้อหา เพื่อจัดอันดับผลการค้นหาให้แสดงเว็บไซต์ที่มีคุณภาพสูงสุด ประกอบไปด้วย 4 ปัจจัยหลัก ได้แก่ Expertise (ความเชี่ยวชาญ) Experience (ประสบการณ์) Authoritativeness (ความเป็นเจ้าของ) และ Trustworthiness (ความน่าเชื่อถือ) โดยเว็บไซต์ที่ปฏิบัติตามเกณฑ์เหล่านี้จะช่วยเพิ่มโอกาสในการจัดอันดับที่สูงขึ้น
การสร้างลิงก์ที่มีคุณภาพ (Backlink)
เป็นการสร้างลิงก์ที่เชื่อมโยงจากเว็บไซต์อื่น ๆ มายังเว็บไซต์ของคุณ ซึ่ง Google จะให้น้ำหนักความน่าเชื่อถือแก่เว็บไซต์ของคุณมากขึ้นตามจำนวนและคุณภาพของ Backlink ที่ได้รับ กล่าวคือ เว็บไซต์ที่เป็นต้นทางจะต้องเป็นเว็บไซต์ที่มีชื่อเสียงดี น่าเชื่อถือ มีผู้เข้าชมจำนวนมาก และเกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณ ในทางตรงกันข้าม หาก มี Backlink เชื่อมมาจากเว็บไซต์ที่น่าสงสัยหรือไม่น่าเชื่อถือ ประสิทธิภาพเว็บไซต์ของคุณก็จะลดลง
ดังนั้น SCXO คือ กลยุทธ์การปรับปรุงประสิทธิภาพของธุรกิจออนไลน์ ด้วยการผสมผสานทั้ง 7 เทคนิคหลักของการทำ SEO เหล่านี้เข้าไว้ด้วยกัน เพื่อให้ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่แค่การสร้างการรับรู้หรือเพิ่มจำนวนคนเข้าเว็บไซต์เพียงอย่างเดียว แต่เป็นการเปลี่ยนยอดผู้ชมให้กลายเป็นยอดขายด้วย อันจะนำมาซึ่งศักยภาพในการสร้างกำไรที่ยั่งยืน
อยากพาธุรกิจของคุณไปให้ไกลกว่าที่เคย อย่าลืมต่อยอดแผนการตลาดของคุณด้วยกลยุทธ์ SCXO ทางเลือกใหม่ที่บริษัทรับทำ SEO ชั้นนำในไทยอย่างพวกเราคิดค้นขึ้นเพื่อตอบโจทย์เป้าหมายธุรกิจออนไลน์แบบองค์รวม ติดต่อ Primal Digital Agency เพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม และรับคำปรึกษาฟรีได้แล้ววันนี้
Join the discussion - 0 Comment