Rich Snippets คืออะไร? เข้าใจแล้วจะทำเว็บไซต์ได้น่าสนใจขึ้น!

ในยุคที่การตลาดออนไลน์ยิ่งเฟื่องฟู่ขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้ไม่ว่าเว็บไซต์ไหนก็แย่งกันขึ้นอันดับหนึ่งบนหน้าแรกของผลการค้นหา แต่ความจริงแล้ว สมัยนี้แค่อันดับหนึ่งอาจไม่พออีกต่อไป เพราะเทรนด์ SEO เริ่มมีการแข่งขันเพื่อเป็น “อันดับศูนย์” กันแล้ว ซึ่งอันดับศูนย์ที่ว่านี้เรารู้จักกันในชื่อของ “Rich Snippets” โดยตัว Rich Snippets คือฟังก์ชันที่มีลักษณะเป็นการ์ดตัวอย่างข้อมูล (Answer Boxes) ที่แสดงขึ้นมาก่อนชื่อเว็บไซต์แรกบนหน้า Google ซึ่งมีหลากหลายประเภทให้เราได้เลือกใช้ดังที่จะอธิบายต่อไปนี้ แต่ก่อนอื่น เรามารู้จักกันก่อนดีกว่าว่า Rich Snippets คืออะไร

Rich Snippets คืออะไร?

ปัจจุบัน คนทำเว็บไซต์เริ่มหันมาให้ความสำคัญกับการทำให้คอนเทนต์แสดงบนหน้าผลการค้นหาให้ดูน่าสนใจมากกว่าแค่การติดอันดับธรรมดา ๆ เพื่อจะได้ให้ผู้ใช้งานรู้สึกว่าเว็บไซต์ของเราดูโดดเด่น สะดุดตา และคลิกเข้ามามากขึ้น ซึ่งจะช่วยเพิ่มจำนวนคนเข้าดูเว็บไซต์ (Traffic) ได้อย่างง่ายดาย และ Rich Snippets คือเทคนิคที่ตอบโจทย์นี้

Rich Snippets คือ ฟีเจอร์การแสดงผลหน้าการค้นหาบน Google ที่มีรูปแบบแตกต่างกันไป และมีข้อมูลในรูปแบบเชิงโครงสร้างที่โดดเด่น ไม่ว่าจะเป็นการแสดงผลโดยการให้ข้อมูลอธิบายเพิ่มเติม การตอบคำถาม การแสดงรูปภาพ ฯลฯ โดย Rich Snippets จะทำงานด้วยการดึงเอาข้อมูลในเว็บไซต์นั้น ๆ มาแสดง โดยที่ตำแหน่งการแสดงผลจะอยู่ในตำแหน่งพิเศษ หรือที่เราเรียกกันว่า “อันดับศูนย์ (Zero Position)” นั่นเอง

อย่างไรก็ตาม ต้องบอกก่อนว่าการที่เว็บไซต์หนึ่ง ๆ จะขึ้นไปอยู่อันดับศูนย์ได้นั้นสามารถเกิดได้จากปัจจัยหลายอย่างที่แม้แต่คนทำ SEO หลาย ๆ คนก็ยังหาคำตอบไม่ได้ เพราะดูเหมือนว่า Google จะเป็นคนเลือกเว็บไซต์ขึ้นมาเองเพื่อให้คำตอบที่ผู้ใช้งานเซิร์ชหาอย่างรวดเร็ว โดยเว็บไซต์นั้น ๆ ไม่จำเป็นต้องไต่อันดับขึ้นมาเรื่อย ๆ แต่อย่างใด ดังนั้น ทุกเว็บไซต์จึงมีโอกาสได้ Zero Position เท่า ๆ กัน ถ้าหาก Google มองว่าเว็บไซต์นั้นตอบคำถามดี

Rich Snippets มีกี่ประเภท?

Rich Snippets สามารถแบ่งได้เป็น 4 ประเภทหลัก ๆ ดังนี้

Featured Snippets

หลาย ๆ คนน่าจะเคยได้ยินชื่อ Featured Snippets กันมาบ้าง เนื่องจากเป็นประเภทที่ปรากฏให้เห็นบ่อยมากที่สุด แต่ก็อาจมีคนจำนวนหนึ่งที่ยังไม่รู้แน่ชัดว่า Featured Snippets คืออะไรกันแน่?

Featured Snippets คือ การแสดงชุดคำตอบสั้น ๆ ของเรื่องที่ผู้ใช้งานเซิร์ชหา ตามด้วยเนื้อหาที่เกี่ยวข้อง พร้อมลิงก์ไปยังเว็บไซต์นั้น ๆ ซึ่งตัว Snippets นั้นอย่างที่ได้กล่าวไปว่าจะปรากฏเหนือผลการค้นหาทั่วไปใน Google หรือแสดงอยู่ที่อันดับศูนย์ ทำให้ Featured Snippets มีข้อดีคือ หน้าตาโดดเด่น สะดุดตา และดึงดูดให้คนคลิกเข้ามาที่เว็บไซต์ของเรามากขึ้น

FAQ Snippets

FAQ Snippets คือ หน้าคำถามที่พบบ่อย ซึ่งจะมีรายการคำถามและคำตอบที่เชื่อมโยงกันแสดงผลขึ้นมา ช่วยให้คนที่ค้นหาสามารถคลิกไปยังคำถามต่าง ๆ ที่สงสัยได้ง่ายขึ้น

Review Snippets

Snippets ประเภทนี้เป็นรูปแบบการแสดงผลที่พบได้บ่อย มักมาจากการค้นหาสินค้าที่เป็นผลิตภัณฑ์อาหาร หรือสูตรอาหาร ซึ่ง Review Snippets จะมีการให้เรตติงที่แบ่งเป็น 2 แบบ คือ คะแนนจากผู้ใช้ (Individual Reviews) และคะแนนจากผู้เขียนเนื้อหา (Aggregate Reviews) โดยจะแสดงรายละเอียดว่าให้คะแนนเท่าไรและโดยใคร ซึ่งช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือให้แก่เว็บไซต์

Product Snippets

Product Snippets เป็นภาพของผลิตภัณฑ์ที่เราอัปโหลดลงเว็บไซต์ ซึ่งควรจะมีรายละเอียดของสินค้า ราคา สถานะของสินค้า และถ้าหากมีคะแนนรีวิวสินค้าด้วยก็จะดีมาก เพื่อช่วยให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้น

ความสำคัญของ Rich Snippets คืออะไร?

มีผลการวิจัยจากหลายแหล่งระบุว่า การติดอันดับศูนย์บนหน้าการค้นหา หรือ Rich Snippets นั้นมีผลดีต่อเว็บไซต์เป็นอย่างมาก เช่น Search Engine Land รายงานว่า หลังจากที่เว็บไซต์ของเขาได้แสดงผลแบบ Rich Snippets ยอด CTR หรืออัตราการคลิกเข้าเว็บฯ ก็เพิ่มขึ้นจาก 2% เป็น 8% ทันที รวมไปถึงรายได้จากคนเข้าเว็บฯ เองก็เพิ่มขึ้นถึง 677% ด้วย นอกจากนี้ เว็บไซต์ ConfluentForms.com ยังระบุว่า หลังจากติดอันดับศูนย์บนหน้าการค้นหาแล้ว พบว่ามีคนเข้าเว็บไซต์เพิ่มขึ้นถึง 20-30%

กระนั้น ก็ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าบางครั้ง Rich Snippets ก็อาจทำให้มีคนคลิกน้อยลงได้หากผู้อ่านได้คำตอบจากหน้าการค้นหาเรียบร้อยแล้วโดยไม่ต้องกดเข้ามาอ่านถึงภายในเว็บไซต์ ซึ่งส่วนมากมักเป็นคำถามที่ต้องการคำตอบสั้น ๆ เช่น บริษัท Primal อยู่ที่ไหน เป็นต้น

ทำคอนเทนต์อย่างไรให้เว็บไซต์แสดงผลแบบ Rich Snippets?

เนื่องจากการติดอันดับศูนย์ หรือการถูก Google เลือกให้แสดงผลแบบ Rich Snippets นั้น หมายความว่าเราจะได้พื้นที่บนหน้าผลการค้นหามากขึ้น เมื่อเป็นเช่นนั้นก็จะมีคนเห็นเว็บไซต์ของเรามากขึ้นตามไปด้วย และที่สำคัญยังทำให้เว็บไซต์ดูมีความน่าเชื่อถือเพราะได้แสดงผลในอันดับศูนย์ ซึ่งเป็นตำแหน่งที่อยู่เหนืออันดับแรกขึ้นไปอีก

ส่วนเรื่องที่ว่าต้องทำคอนเทนต์อย่างไรให้เว็บไซต์แสดงผลแบบ Rich Snippets นั้น จริง ๆ ตอนนี้ยังไม่มีคำตอบที่เป็นทางการ แต่จากผลการวิจัยโดย SEMrush พบว่า จากการค้นหาทั้งหมด มีประมาณ 19% ที่มีผลการค้นหาแบบ Rich Snippets ขึ้นมา และรูปแบบเนื้อหาที่ติดอันดับศูนย์เยอะที่สุด ได้แก่ Featured Snippets คือแบบตัวหนังสือปกติ (Paragraph) ซึ่งคิดเป็น 70% เลยทีเดียว ดังนั้น เราจึงสามารถทำคอนเทนต์ให้มีคุณภาพมากขึ้นเพื่อเพิ่มโอกาสในการถูกพิจารณาให้ขึ้นไปอยู่อันดับศูนย์ได้ ดังนี้

• หมั่นตรวจสอบและปรับปรุงหน้าเว็บเพจอย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหน้าที่ติดอันดับ SEO อยู่แล้ว แต่ยังไม่ได้ถูกคัดเลือกให้แสดงผลแบบ Rich Snippets วิธีการทำก็คือให้ลองเอามาเปรียบเทียบดูว่าหน้าเว็บฯ ของเรากับหน้าเว็บฯ ที่ถูก Google เลือกนั้นมีความแตกต่างกันในจุดไหน อะไรที่เขามีแล้วเรายังไม่มี เขาใช้คีย์เวิร์ดแบบไหน และเราจะสามารถนำข้อมูลที่ได้มาพัฒนาโครงสร้างคอนเทนต์ของตนเองให้ดีขึ้นได้อย่างไร
• คีย์เวิร์ดหลักอยู่ในรูปแบบของคำถามและมีเนื้อหาเป็นคำตอบ เนื่องจาก Google มักเลือกเนื้อหาที่เป็นคำตอบและมีข้อมูลสั้น ๆ อธิบาย ซึ่งส่วนใหญ่จะมาในรูปแบบของการถาม-ตอบ มาแสดงผลอยู่ในอันดับศูนย์ ดังนั้น เราก็อาจเน้นไปที่การทำคอนเทนต์แบบเน้นถาม-ตอบมากขึ้น
• ทำ Keyword Research ให้ลึกและหลากหลาย ด้วยการดูว่าโดยปกติแล้วคนทั่วไปชอบค้นหาอะไรเกี่ยวกับคีย์เวิร์ดที่เราต้องการใช้ ซึ่งในส่วนนี้เราสามารถดูได้จากหัวข้อ Related searches หรือ People also ask ได้เลย
• เขียน Heading ให้ชัดเจน เพราะ Heading ถือเป็นส่วนสำคัญที่สุดของคอนเทนต์ เราจึงต้องเขียนให้ชัดเจน กระชับ เพื่อให้ทั้งผู้อ่านและอัลกอริทึมของ Google รู้ได้ทันทีว่าคอนเทนต์ของเรามีเนื้อหาเกี่ยวกับอะไร
• เลือกทำคอนเทนต์ให้เหมาะสมกับเนื้อหาและประเภท เช่น หากมีเนื้อหาที่เหมาะกับการทำรูปประกอบก็ควรใช้เป็นรูปภาพ หรือหากเหมาะกับการทำเป็นตารางก็ให้ทำเป็นตาราง เป็นต้น

วิธีเช็กว่าเว็บไซต์ของเราติด Rich Snippets แล้วหรือยัง

สำหรับวิธีการเช็ก Rich Snippets นั้น เราสามารถเข้าไปได้ที่ Rich Result Test โดยใส่ URL ของหน้าเว็บฯ ที่ต้องการเช็กลงไป จากนั้น ระบบของ Rich Result Test ก็จะทำการประมวลผลและแสดงผลออกมา โดยถ้าหากขึ้นแสดงผล ก็หมายความว่าการทำ Rich Snippets ของเราสำเร็จแล้ว ให้รอติดอันดับได้เลย แต่ถ้าไม่แสดงผลก็อาจจะต้องมาดูอีกทีว่ามีเนื้อหาส่วนไหนที่เรายังสามารถแก้ไขหรือพัฒนาให้มีคุณภาพมากยิ่งขึ้นได้อีกบ้าง

สรุป

สุดท้ายแล้ว การติดอันดับศูนย์ หรือการแสดงผลแบบ Rich Snippets คือฟีเจอร์ที่ถูกออกแบบขึ้นมาเพื่อให้ผู้ใช้งานทุกคนได้คำตอบจากคีย์เวิร์ดที่ค้นหาได้อย่างรวดเร็วที่สุด ดังนั้น ไม่ว่าเราจะทำคอนเทนต์อะไรก็ตาม ควรมีเนื้อหาที่กระชับ ได้ใจความ เข้าใจง่ายทั้งต่อคนทั่วไปและอัลกอริทึมของ Google เพื่อประสิทธิภาพที่ดีที่สุดในการทำ SEO ซึ่งจะเป็นการดีอย่างยิ่งหากว่าเว็บไซต์ของเราไม่ได้แค่เพียงติดอันดับแรกของหน้าการค้นหา แต่ติดอันดับศูนย์ เพราะพื้นที่ของอันดับศูนย์นั้นมีความโดดเด่น สะดุดตา และสามารถดึงดูดความสนใจจากผู้ค้นหาได้มากขึ้น

อย่างไรก็ตาม เนื่องจาก Rich Snippets นั้นมีหลากหลายรูปแบบดังที่ได้กล่าวไป เราจึงต้องอย่าลืมเช็กดูก่อนว่าคอนเทนต์ที่ต้องการทำนั้นเหมาะกับ Snippets ประเภทใด เพื่อช่วยเพิ่มโอกาสในการที่ Google จะดึงเราขึ้นไปสู่อันดับศูนย์และพาคนเข้ามายังเว็บไซต์ของเรามากขึ้นนั่นเอง