Redirect Chains ปัญหาการ Redirect ที่นักทำ SEO ควรหลีกเลี่ยง!
สำหรับการทำ SEO (Search Engine Optimization) คือการปรับปรุงข้อมูลให้ทันสมัยเพื่อให้เว็บไซต์มีคุณภาพ ที่มีความสำคัญต่อการจัดอันดับเป็นอย่างมาก ดังนั้น ถ้าคอนเทนต์หรือบทความที่เราเคยอัปเดตเอาไว้ในเว็บไซต์ไม่ทันกับกระแสโลก หรือเป็นข้อมูลใหม่ ๆ ก็อาจส่งผลต่อการจัดอันดับให้ติดในหน้าแรกของ SEO ได้
นอกจากนี้ยังรวมถึงชื่อเว็บไซต์ (Domain Name) ที่เราจดทะเบียน หากไม่ตอบโจทย์ความต้องการอีกต่อไป เราก็ควรสร้างหน้าเว็บไซต์ใหม่ แล้วย้ายโดเมนเดิมไปแทนที่ เพื่อให้ตอบโจทย์กับพฤติกรรมการใช้งานของผู้เยี่ยมชมได้มากกว่า สิ่งเหล่านี้เป็นที่มาของการใช้ Redirect หรือเทคนิคข้ามโดเมนที่ทำให้การย้ายหน้าเว็บไซต์ไม่ต้องกังวลว่าอันดับแรงค์ SEO จะตกลง
แม้ Redirect จะเป็นเทคนิคย้ายโดเมนสุดเจ๋งที่ทำให้ Google เห็นว่า URL ใหม่ของเรานั้นเป็นเว็บไซต์ที่มีอยู่แล้วแต่เดิม อย่างไรก็ดี การทำ Redirect แต่ละครั้งก็มีจุดที่ต้องระวังเช่นกัน โดยนักทำ SEO ควรหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิด Redirect Chains หรือการย้ายโดเมนที่เกิดจาก Redirect ผิดวิธี เพราะปัญหานี้อาจร้ายแรงถึงขั้นทำให้เว็บไซต์ตกอันดับได้ทันทีเลยก็เป็นได้
สำหรับใครที่อยากทำความรู้จักกับ Redirect Chains ให้มากขึ้น รวมถึงต้องการรู้ถึงปัญหาที่เกิดจากการทำ Redirect ว่าแบบไหนเป็นวิธีที่ผิด และทำไมนักทำ SEO ถึงควรหลีกเลี่ยงการเกิดสิ่งนี้กับเว็บไซต์ของตนเอง บทความนี้มีคำตอบมาให้คุณแล้ว!
Table of Contents
ทำความรู้จัก Redirect
เพื่อให้เข้าใจปัญหา Redirect Chains มากขึ้น เราขอพาทุกคนไปทำความรู้จักเทคนิค Redirect กันก่อน
เทคนิค Redirect คือตัวช่วยเปลี่ยนเส้นทาง URL ในหน้าเว็บไซต์หนึ่งไปยัง URL อีกหน้าเว็บไซต์หนึ่ง โดยการทำให้ Google เข้าใจว่า URL ที่เปลี่ยนใหม่นั้นมีตัวตนมาก่อน โดนสาเหตุที่นักพัฒนาเว็บไซต์จำเป็นต้องใช้เทคนิค Redirect เพื่อเปลี่ยนหน้าเว็บ A ไปเป็นหน้าเว็บ B โดยไม่สร้างเว็บฯใหม่ขึ้นมา ก็เนื่องมาจากหลายสาเหตุ ไม่ว่าจะเป็น
- อยากเปลี่ยนชื่อเว็บไซต์หรือชื่อโดเมนใหม่ แต่เว็บฯ เดิมติดอันดับ SEO ไปแล้ว
- อยากเพียงเปลี่ยนชื่อ URL เพราะเว็บฯ เดิมยังมีอันดับ SEO ไม่ดีเท่าไรนัก
- อยากเปลี่ยนเส้นทาง URL เพราะหน้าเว็บฯ เดิมถูกลบ ทำให้เมื่อผู้ใช้งานคลิกเข้าไปแล้วเจอ Error 404 Page Not Found ทำให้ไม่สามารถเข้าถึงหน้าเว็บไซต์ที่พวกเขาสนใจได้
เทคนิค Redirect จึงเป็นการช่วยย้ายเส้นทาง URL ที่ยังคงทำให้เว็บไซต์ติดอันดับ SEO เหมือนเดิม และที่สำคัญยังช่วยนำทางให้ผู้ใช้งานเว็บไซต์นั้น ๆ สามารถไปยังหน้าเว็บฯ ใหม่ได้อย่างง่ายดาย แม้พวกเขาจะพิมพ์ค้นหาด้วยชื่อของเว็บไซต์เดิมก็ตาม
Redirect สำคัญอย่างไรต่อการทำ SEO?
การทำ Redirect ถือเป็นกระบวนการที่สำคัญอย่างมากสำหรับผู้ที่ทำ SEO ทุกคน เพราะการที่ผู้ใช้งานกดเข้าหน้า Landing Page ในเว็บไซต์แล้วเกิด Error นอกจากจะทำให้ประสบการณ์ที่ดีในการเข้าชมเว็บไซต์หายไป ยังทำให้อัตรา Bounce Rate หรืออัตราที่เกิดขึ้นจากยอดผู้ใช้งานกดออกจากเว็บไซต์เพิ่มสูงขึ้น พร้อมกันนั้นหากเว็บไซต์ขึ้นหน้า 404 Not Found บ่อยครั้ง ก็จะทำให้ Google Bot ประเมินคุณภาพเว็บไซต์ต่ำลง Backlink ที่สร้างมาอย่างยากเย็นก็จะสูญเปล่า ทั้งหมดนี้ไม่เพียงส่งผลต่อคะแนนการจัดอันดับ SEO แต่ยังทำให้ลูกค้าที่ตั้งใจเข้ามาซื้อสินค้าเกิดความไม่ประทับใจและอยากหน้าจากเว็บไซต์ในที่สุด นอกจากนี้ ยังอาจทำให้กลุ่มเป้าหมายไปซื้อสินค้าจากเว็บฯ ของคู่แข่งเพราะตอบโจทย์กับความต้องการของพวกเขาได้มากกว่า ส่งผลให้ยอด Conversion และยอดขายลดลง
Redirect Chains ปัญหาการ Redirect ที่นักทำ SEO ทุกคนควรหลีกเลี่ยง!
แล้ว Redirect Chains คืออะไร? ทำไมถึงเป็นปัญหาใหญ่ที่คนทำ Redirect ควรหลีกเลี่ยง?
Redirect Chain หรือเรียกได้อีกอย่างว่า Redirect Chains and Loop หมายถึงการใช้เทคนิค Redirect เพื่อย้ายหน้าเว็บไซต์จากหน้า A ไปยังหน้า B และมีการทำ Redirect อีกครั้ง จากหน้า B ไปยังหน้า C ซึ่งการทำ Redirect สองต่อในลักษณะนี้อาจทำให้เว็บไซต์เกิดปัญหาได้ จนที่สุดแล้วอาจส่งผลให้เว็บไซต์ต้องตกแรงค์จากที่เคยอยู่ในหน้าแรกไป
สำหรับปัญหา Redirect Chains มักเจอในกรณีที่เว็บไซต์ A เคยมีประวัติเปลี่ยนโครงสร้างเป็น B มาก่อน จากนั้นมีการเปลี่ยนโครงสร้างเว็บไซต์จาก B เป็น C อีกครั้งหนึ่ง ส่วนปัญหาของการเกิด Redirect Loop นั้น จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อมีการเปลี่ยนโครงสร้างมาจนถึงหน้า C จากนั้นอยู่ดี ๆ ก็ย้ายจากหน้า C กลับไปหาหน้า A อีกครั้ง ซึ่งการทำ Redirect หลายทอดกลับไปกลับมาเช่นนี้ อาจทำให้หน้าเว็บฯ ใหม่ (ปลายทาง) ไม่ได้เก็บเนื้อหาเดิมจากต้นทางได้อย่างครบถ้วน โดยอาจลืมส่วนสำคัญบางอย่างไป เช่น Internal link หรือแม้แต่ไม่ได้ย้ายคีย์เวิร์ดตามมาด้วย จนบางครั้งทำให้หน้าปลายทางที่ย้ายไปไม่สามารถตอบสนองการใช้งานของผู้ใช้งานได้อย่างควรจะเป็น จน Google มองว่าเป็นเว็บไซต์ที่ไม่มีคุณภาพ และไม่ควรถูกจัดอันดับให้อยู่ในหน้าแรกอีกต่อไป
Redirect Chains ทำให้อันดับ SEO ร่วงได้จากสาเหตุใดบ้าง?
Redirect Chains มีผลต่อคะแนนการจัดอันดับเว็บไซต์ SEO ทั้งในแง่ของการทำให้เว็บไซต์ดาวน์โหลดช้าลง จนทำให้ Google Bot ไม่สามารถเข้าถึงและประเมินคุณภาพของเว็บฯ ได้อย่างเต็มที่ และที่สำคัญยังขัดขวางการเชื่อมโยงข้อมูลที่ควรจะเป็นในแต่ละหน้าเว็บไซต์ ทำให้การปรับปรุงเว็บไซต์ให้มีคุณภาพเป็นไปได้ยาก ดังนั้น หากปัญหา Redirect Chains เกิดขึ้นมากเท่าไร ก็จะยิ่งส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการทำงานในเว็บไซต์มากขึ้นเท่านั้น ซึ่งสาเหตุเหล่านั้นมีดังนี้
-
ทำให้เว็บไซต์ดาวน์โหลดช้าลง (Website Speed)
แค่ทำ Redirect เปลี่ยนเส้นทาง URL จากหน้าเว็บหนึ่งไปยังอีกหน้าเว็บหนึ่ง เว็บไซต์ก็ใช้เวลาเข้าถึงนานขึ้นกว่าปกติแล้ว แต่หากเกิดปัญหาเปลี่ยนเส้นทาง URL กลับไปกลับมามากกว่าเดิมเพิ่มขึ้นอีก เว็บไซต์อาจต้องใช้เวลาประมวลผลมากขึ้น ส่งผลให้ผู้ใช้งานต้องใช้เวลาเข้าถึงหน้าเว็บฯ ปลายทางนานขึ้นกว่าเดิม จนอาจทำลายประสบการณ์การเยี่ยมชมเว็บไซต์ที่ดีของผู้ใช้งานได้ ดังนั้น การทำ Redirect Chains จึงมีผลต่อความเร็วในการเข้าถึงเว็บไซต์โดยตรง และอาจเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เว็บไซต์ไม่สามารถไต่แรงค์สู่หน้าแรกในการทำ SEO ได้
-
ทำให้ Google Bot ไม่สามารถรวบรวมข้อมูลไปประเมินการจัดอันดับได้อย่างครบถ้วน
ปัญหาที่เกิดจาก Redirect Chains ยังส่งผลต่อความสามารถในการรวบรวมข้อมูลเพื่อประเมินอันดับเว็บไซต์ของ Google Bot ด้วย โดยทั่วไปแล้ว Google Bot มีความสามารถเข้าถึงหน้าเว็บไซต์ได้อย่างจำกัด และจะหยุดเข้าถึงการเปลี่ยนเส้นทางเว็บไซต์ (Redirect) ในลิงก์ที่ 3 หรือ 4 เท่านั้น เพราะฉะนั้นการทำ Redirect Chains เปลี่ยนเส้นทางเว็บไซต์หลายทอดจนเกินไป Google Bot ก็อาจไม่สามารถเข้าไปรวบรวมข้อมูลที่ดีที่สุดจากหน้าเว็บฯ ปลายทางได้ จนทำให้ข้อมูลที่นำไปจัดอันดับไม่ดีพอ ส่งผลให้แรงค์ตก และยังทำให้เจ้าของเว็บฯ สิ้นเปลืองงบประมาณเพื่อปรับปรุงหน้าเว็บไซต์ปลายทางโดยใช่เหตุด้วย
-
ทำให้หน้าเว็บฯ ปลายทางคุณภาพน้อยกว่าเว็บฯ ต้นทาง
อย่างที่บอกไปว่า การใช้วิธี Redirect เปลี่ยนเส้นทางเว็บไซต์เพียงทอดเดียว อาจทำให้เก็บคุณภาพหน้าเว็บฯ ต้นทาง ตั้งแต่ Internal link ไปจนถึง Backlink ย้ายไปสู่เว็บปลายทางได้อย่างครบถ้วน เพื่อให้ Google เห็นว่า URL ใหม่ของเรานั้นเป็นเว็บไซต์ที่มีอยู่แล้วแต่เดิมและมีคุณภาพไม่แพ้ของเดิม จึงทำให้ไม่มีผลต่อการลดอันดับ SEO ในหน้าแรก
แต่หากมีการ Redirect หลายเส้นทางเกินไป จนเกิดเป็น Redirect Chains ขึ้นมา ก็อาจส่งผลต่อคุณภาพของ SEO ในหน้าเว็บปลายทางได้ เพราะยิ่ง Redirect หลายทอดมากเท่าไร ก็จะยิ่งมีโอกาสที่เว็บไซต์ปลายทางจะถูกลดคุณภาพจากหน้าเว็บฯ ต้นทางได้มากขึ้นเท่านั้น และส่งผลให้ Google ลดอันดับเว็บไซต์ลงมา
สรุป
ในการทำ Redirect เพื่อเปลี่ยนเส้นทางเว็บไซต์ นักพัฒนาเว็บฯ จึงควรตรวจสอบขั้นตอนการทำอย่างถี่ถ้วน ไม่ว่าจะเป็นการประชาสัมพันธ์ชื่อโดเมนใหม่บนเว็บไซต์เก่าเพื่อดึงฐานลูกค้าเดิมมาสู่ URL ใหม่ และเมื่อย้ายไปหน้าเว็บฯ ปลายทางก็ควรคงโครงสร้างของหน้าเว็บไซต์เดิมเอาไว้ เพื่อให้ง่ายต่อผู้ใช้และง่ายต่อการ Redirect และที่สำคัญควรระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการทำ Redirect Chains หรือเปลี่ยนเส้นทางเว็บฯ หลายทอด เพราะจะกลายเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้เว็บไซต์ตกอันดับในหน้าแรกของการทำ SEO
และหากผู้ประกอบการท่านใด อยาก Redirect หน้าเว็บไซต์ใหม่แบบไม่ให้อันดับ SEO ร่วง Primal พร้อมให้ความช่วยเหลือ เรามีผู้เชี่ยวชาญการทำ SEO กว่า 150 คนที่พร้อมออกแบบแผนการตลาดให้คุณทุกขั้นตอน หากพร้อมแล้วสามารถติดต่อเราเพื่อปรึกษาแผนการตลาดฟรีได้เลยวันนี้!
Join the discussion - 0 Comment