Hreflang คืออะไร ? เทคนิคแก้ปัญหาเว็บไซต์ SEO หลายภาษา

ในยุคที่โลกเชื่อมต่อกันอย่างไร้พรมแดน การทำเว็บไซต์ที่สามารถรองรับผู้ใช้ได้หลายภาษาเป็นสิ่งสำคัญ แต่การจัดการเนื้อหาภาษาต่าง ๆ บนเว็บฯ ให้มีประสิทธิภาพนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย นี่จึงเป็นที่มาของ Hreflang – แท็กที่จะช่วยให้เว็บมาสเตอร์สามารถระบุความสัมพันธ์ระหว่างหน้าเว็บฯ ที่มีเนื้อหาเดียวกันแต่ภาษาต่างกันได้อย่างชัดเจน 

เพื่อให้ปรับปรุงเว็บไซต์ SEO (Search Engine Optimization) เกิดประโยชน์สูงสุด บทความนี้ขอพาไปรู้จักกันว่า Hreflang คืออะไร รวมถึงอธิบายความสำคัญและวิธีการใช้งาน รับรองว่าจะเป็นประโยชน์กับนักทำ SEO ทั้งมือใหม่และมืออาชีพอย่างแน่นอน

Hreflang คืออะไร

Hreflang ย่อมาจาก Hypertext Reference Language คือ Attribute ใน HTML ที่ใช้บอกให้ระบบ Search Engine รู้ว่าเว็บไซต์ของคุณในแต่ละเพจ มีเวอร์ชันที่เป็นภาษาอื่น ๆ อยู่ หรือเหมาะสำหรับผู้ใช้ในภูมิภาคอื่น ๆ เพื่อให้สามารถแสดงผลการค้นหาที่ถูกต้องและตรงตามความต้องการของผู้ใช้มากที่สุด

ทำไม Hreflang ถึงสำคัญ

Hreflang มีความสำคัญอย่างยิ่งในการปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้และการทำ SEO สำหรับเว็บไซต์หลายภาษาหรือหลายภูมิภาค โดยมีประโยชน์หลัก ๆ ดังนี้

ปรับปรุงประสบการณ์ผู้ใช้

• เนื้อหาตรงใจ : เมื่อผู้ใช้ค้นหาข้อมูลในภาษาหรือภูมิภาคของตนเอง แท็ก Hreflang จะนำเสนอเว็บฯ เพจที่เหมาะสมที่สุด ทำให้ผู้ใช้ได้รับข้อมูลที่ต้องการอย่างรวดเร็วและตรงจุด

• ใช้งานง่าย : การที่ผู้ใช้เห็นผลการค้นหาเป็นภาษาที่คุ้นเคย ทำให้การค้นหาและสำรวจเว็บไซต์เป็นไปอย่างสะดวกสบาย

ป้องกันปัญหาเนื้อหาซ้ำซ้อน

• หลีกเลี่ยงความสับสน : เมื่อเว็บไซต์มีเนื้อหาที่คล้ายกันในหลายภาษา หากไม่มีแท็ก Hreflang เครื่องมือค้นหาอาจไม่สามารถระบุได้ว่าควรแสดงเว็บฯ เพจใดก่อน

• จัดอันดับถูกต้อง : แท็ก Hreflang ช่วยให้เครื่องมือค้นหาเข้าใจว่าเว็บฯ เพจแต่ละเวอร์ชันมีความเกี่ยวข้องกับภาษาและภูมิภาคใด ทำให้การจัดอันดับผลการค้นหาเป็นไปอย่างถูกต้อง

เพิ่มโอกาสในการติดอันดับ SEO

• เข้าถึงผู้ชมเป้าหมาย : การใช้แท็ก Hreflang ช่วยให้เว็บไซต์ปรากฏในผลการค้นหาของผู้ใช้ที่พูดภาษาและอยู่ในภูมิภาคที่คุณต้องการเข้าถึง

• การแข่งขันที่น้อยลง : เมื่อเปรียบเทียบกับเว็บไซต์ที่ไม่ได้ใช้แท็ก Hreflang เว็บฯ ของคุณจะมีโอกาสติดอันดับสูงขึ้นในผลการค้นหาเฉพาะกลุ่ม

ขยายตลาดไปยังต่างประเทศ

• ดึงดูดลูกค้าใหม่ : การมีเว็บไซต์หลายภาษาและใช้แท็ก Hreflang อย่างถูกต้อง จะช่วยให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายในต่างประเทศได้มากขึ้น

• เพิ่มยอดขาย : การนำเสนอผลิตภัณฑ์หรือบริการในภาษาของลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย จะช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างยอดขายได้มากขึ้น 

จัดการเนื้อหาได้ง่ายขึ้น

• โครงสร้างที่ชัดเจน : แท็ก Hreflang จะช่วยสร้างโครงสร้างที่ชัดเจนสำหรับเว็บไซต์หลายภาษา ทำให้การจัดการและอัปเดตเนื้อหาเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

• ลดความผิดพลาด : การใช้แท็ก Hreflang อย่างถูกต้องจะช่วยลดความผิดพลาดที่อาจเกิดขึ้นจากการจัดการเนื้อหาหลายเวอร์ชัน

สิ่งที่ควรรู้ก่อนใช้ Hreflang

แต่ก่อนจะเริ่มใช้งาน Hreflang ควรทำความเข้าใจถึงหลักการพื้นฐานเสียก่อน เพื่อการใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนี้

ความสัมพันธ์ของหน้าเว็บฯ

• หน้าเว็บฯ ต้องมีความเกี่ยวข้องกัน : หน้าเว็บฯ ที่ใช้ Hreflang เชื่อมโยงกันต้องมีความสัมพันธ์กัน เช่น เป็นหน้าผลิตภัณฑ์เดียวกันแต่มีรายละเอียดในภาษาที่แตกต่างกัน โดยการเชื่อมโยงหน้าที่ไม่มีความสัมพันธ์กัน อาจทำให้ Google สับสนและส่งผลเสียต่อการจัดอันดับได้ 

รหัสภาษา

• ใช้รหัสภาษาที่ถูกต้อง : ควรใช้รหัสภาษาที่เป็นไปตามมาตรฐาน ISO 639-1 เช่น
  • th : ภาษาไทย
  • en : ภาษาอังกฤษ
  • fr : ภาษาฝรั่งเศส

ภูมิภาค (ถ้ามี)

• ระบุภูมิภาค : หากต้องการกำหนดเป้าหมายไปยังภูมิภาคที่แตกต่างกัน สามารถเพิ่มรหัสภูมิภาคลงไปใน Hreflang ได้ (เช่น th-TH สำหรับภาษาไทยในประเทศไทย, en-US สำหรับภาษาอังกฤษในสหรัฐอเมริกา)
• ใช้รหัสภูมิภาคที่ถูกต้อง : ควรใช้รหัสภูมิภาคที่เป็นไปตามมาตรฐาน ISO 3166-1 alpha-2

หน้าหลัก

• ทุกภาษาต้องมีหน้าหลัก : หน้าหลักของเว็บฯ แต่ละภาษาควรมีแท็ก Hreflang ชี้ไปยังหน้าหลักของภาษาอื่น ๆ
• ความสัมพันธ์แบบสองทาง : หน้าหลักภาษาไทยควรมี Hreflang ชี้ไปยังหน้าหลักภาษาอังกฤษ และในทางกลับกัน หน้าหลักภาษาอังกฤษก็ควรมี Hreflang ชี้กลับมาที่หน้าหลักภาษาไทย

วิธีการใช้ Hreflang

การใช้ Hreflang เพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพเว็บฯ และ SEO มีหลักง่าย ๆ ดังนี้

ระบุเวอร์ชันต่าง ๆ ของหน้าเว็บฯ

ก่อนจะเพิ่มแท็ก Hreflang คุณต้องมีเวอร์ชันของหน้าเว็บฯ ที่เหมาะสมกับแต่ละภาษาและภูมิภาคที่ต้องการเจาะกลุ่มเป้าหมาย ตัวอย่างเช่น

• ภาษาอังกฤษสำหรับสหรัฐอเมริกา (en-US)
• ภาษาอังกฤษสำหรับสหราชอาณาจักร (en-GB)
• ภาษาไทย (th)

เพิ่มแท็ก hreflang ลงใน <head> ของหน้าเว็บฯ

เพิ่มแท็ก Hreflang ในส่วน <head> ของแต่ละหน้าเว็บฯ ที่มีหลายเวอร์ชัน ดังนี้

html

<link rel=”alternate” href=”https://example.com/en/” hreflang=”en” />

<link rel=”alternate” href=”https://example.com/th/” hreflang=”th” />

<link rel=”alternate” href=”https://example.com/en-us/” hreflang=”en-US” />

<link rel=”alternate” href=”https://example.com/en-gb/” hreflang=”en-GB” />

ในตัวอย่างนี้

• Href คือ URL ของหน้าเว็บฯ ที่เป็นเวอร์ชันอื่น
• Hreflang คือรหัสภาษาและภูมิภาคที่ตรงกัน

ใช้แท็ก Hreflang ใน XML Sitemap

นอกจากการเพิ่มแท็ก Hreflang ใน <head> ของหน้าเว็บฯ แล้ว ยังสามารถระบุ Hreflang ใน XML Sitemap ของเว็บไซต์ได้ เพื่อให้เครื่องมือค้นหาสามารถเข้าใจการเชื่อมโยงระหว่างเวอร์ชันต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

xml

<urlset xmlns=”http://www.sitemaps.org/schemas/sitemap/0.9″ xmlns:xhtml=”http://www.w3.org/1999/xhtml”>

  <url>

    <loc>https://example.com/en/</loc>

    <xhtml:link rel=”alternate” hreflang=”en” href=”https://example.com/en/” />

    <xhtml:link rel=”alternate” hreflang=”th” href=”https://example.com/th/” />

    <xhtml:link rel=”alternate” hreflang=”en-US” href=”https://example.com/en-us/” />

    <xhtml:link rel=”alternate” hreflang=”en-GB” href=”https://example.com/en-gb/” />

  </url>

</urlset>

ตรวจสอบความถูกต้อง

ตรวจสอบให้แน่ใจว่า

• ทุกหน้าที่มีเวอร์ชันต่าง ๆ ได้รับการระบุ Hreflang อย่างถูกต้อง
• URL ที่ระบุในแท็ก hreflang สามารถเข้าถึงได้

ใช้เครื่องมือสำหรับตรวจสอบ

ใช้เครื่องมือ SEO หรือเครื่องมือสำหรับตรวจสอบ Hreflang เช่น Google Search Console เพื่อแน่ใจว่าแท็กทำงานได้อย่างถูกต้องและไม่มีข้อผิดพลาด

ข้อควรระวังในการใช้ Hreflang

ข้อควรระวังเพิ่มเติมในการใช้ Hreflang ที่เราอยากแนะนำ มีดังนี้

หลีกเลี่ยงการใช้ Hreflang กับหน้าเว็บฯ ที่แตกต่างกันมาก

• หน้าผลิตภัณฑ์และหน้าหมวดหมู่ : หน้าเหล่านี้มีความแตกต่างกันในเชิงโครงสร้างและเนื้อหา การใช้ Hreflang เชื่อมโยงกันอาจทำให้ Google สับสน
• หน้าเว็บฯ ที่ให้บริการแตกต่างกัน : หลีกเลี่ยงการใช้ในหน้าเว็บฯ ที่ให้บริการแตกต่างกัน เช่น หน้าลงทะเบียนและหน้าติดต่อ ก็ไม่ควรใช้ Hreflang ที่เชื่อมโยงกัน

ตรวจสอบความถูกต้องของ URL

• URL ต้องใช้งานได้ : ตรวจสอบให้แน่ใจว่า URL ที่ระบุใน Hreflang สามารถเข้าถึงได้และมีอยู่จริง
• หลีกเลี่ยง URL ที่เสีย : URL ที่เสียหรือมีการเปลี่ยนแปลงอาจส่งผลต่อการจัดอันดับของเว็บไซต์

อัปเดต Hreflang เป็นประจำ

• เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงโครงสร้าง : เมื่อมีการเพิ่ม ลบ หรือย้ายหน้าเว็บฯ ควรอัปเดต Hreflang ให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลง
• เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงภาษา : หากมีการเพิ่มหรือลบภาษา ควรอัปเดต Hreflang ให้ครอบคลุมทุกภาษาที่ใช้งาน

Hreflang คือหนึ่งในกระบวนการปรับปรุงเว็บฯ SEO หลายภาษาที่มีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจดันเว็บไซต์ให้ติดหน้าแรกบน Google และเข้าถึงกลุ่มลูกค้าทั่วโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพ Primal ยินดีให้บริการ เราคือเอเจนซีที่มีบริการรับทำ SEO ไม่ว่าจะ Hreflang หรือเทคนิคอื่น ๆ เราก็พร้อมวางแผนกลยุทธ์ที่ครอบคลุม เพื่อให้เว็บฯ ของคุณโดดเด่นและเป็นที่รู้จัก สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมและปรึกษาทีมกลยุทธ์ของเราได้เลยตอนนี้