AI คืออะไร ? เข้าใจเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ที่กำลังเปลี่ยนโลก

เทคโนโลยี “AI” หรือ “ปัญญาประดิษฐ์” กลายเป็นคำที่เราได้ยินกันบ่อยมากขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ว่าจะเป็นในข่าวสาร สื่อสังคมออนไลน์ หรือแม้แต่ในชีวิตประจำวัน 

ทว่า เทคโนโลยี AI ที่เราพูดถึงกันอยู่นี้คืออะไร มีหลักการทำงานอย่างไร และสามารถนำไปใช้ประโยชน์อะไรได้บ้าง บทความนี้จะพาคุณไปเจาะลึกทุกแง่มุมให้ได้รู้กัน

AI คือเทคโนโลยีที่เป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของผู้คนยุคปัจจุบัน

AI คืออะไร

ปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI (Artificial Intelligence) คือเทคโนโลยีที่พัฒนาขึ้นเพื่อเลียนแบบความสามารถของมนุษย์ในด้านการคิด การเรียนรู้ และการแก้ปัญหา โดยอาศัยระบบคอมพิวเตอร์และซอฟต์แวร์ที่ซับซ้อน โดยเทคโนโลยี AI ในปัจจุบัน มีความสามารถในการประมวลผลข้อมูลจำนวนมากอย่างรวดเร็วและแม่นยำ จึงถูกนำมาใช้ทำงานที่ต้องวิเคราะห์และตัดสินใจ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด 

ความสามารถของ AI ครอบคลุมหลายด้าน เช่น การจดจำเสียงและภาพ การวางแผน และการแก้ไขปัญหาที่ซับซ้อน จึงกลายเป็นเครื่องมือสำคัญที่เข้ามาช่วยเหลือมนุษย์ในด้านต่าง ๆ ทั้งในการใช้ชีวิตประจำวัน รวมถึงภาคธุรกิจ อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีความสามารถที่เหนือกว่ามนุษย์ในหลายด้าน แต่ AI ยังมีข้อจำกัดในเรื่องของการใช้ประสาทสัมผัสและการตัดสินใจที่ต้องอาศัยอารมณ์หรือจริยธรรม ซึ่งเป็นคุณสมบัติเฉพาะของมนุษย์


องค์ประกอบหลัก 4 อย่างของ AI มีอะไรบ้าง

AI มีองค์ประกอบหลัก ๆ ที่ทำงานร่วมกันเพื่อให้สามารถเรียนรู้ คิดวิเคราะห์ และปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ได้แก่

ข้อมูล (Data)

ข้อมูลเป็นเหมือนเชื้อเพลิงที่ขับเคลื่อน AI ให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ยิ่งได้รับข้อมูลที่มีคุณภาพและปริมาณมากเท่าไร ก็จะยิ่งสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้ดียิ่งขึ้น

อัลกอริทึม (Algorithms)

อัลกอริทึมคือชุดคำสั่งที่บอกให้ AI ทำงานอย่างไร สำหรับอัลกอริทึมที่ใช้ในการพัฒนา AI มีอยู่หลากหลายประเภท เช่น อัลกอริทึมสำหรับการเรียนรู้ของเครื่อง (Machine Learning) อัลกอริทึมสำหรับการประมวลผลภาษาธรรมชาติ (Natural Language Processing) และอัลกอริทึมสำหรับการมองเห็นด้วยคอมพิวเตอร์ (Computer Vision)

กำลังประมวลผล (Computational Power)

การจะประมวลผลข้อมูลจำนวนมหาศาลเพื่อใช้ในการฝึกอบรม AI นั้น จะต้องอาศัยกำลังประมวลผลที่สูงมาก ด้วยหน่วยประมวลผลกลาง (CPU) และหน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU) ซึ่งเป็นอุปกรณ์สำคัญในการให้กำลังประมวลผลให้แก่ AI

มนุษย์ (Human)

แม้ว่า AI จะมีความสามารถในการเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้ แต่ก็ยังคงต้องการมนุษย์เข้ามาเกี่ยวข้องในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การรวบรวมข้อมูล การออกแบบอัลกอริทึม การประเมินผล และการนำไปใช้งานจริง มนุษย์จึงยังคงมีบทบาทสำคัญในการกำหนดทิศทางและควบคุมการทำงานของ AI

 

AI มีกี่ประเภทหลัก

AI แบ่งออกได้หลายประเภทตามระดับความสามารถและวิธีการทำงาน ได้แก่

Narrow AI หรือ Weak AI

เป็น AI ที่ถูกออกแบบมาเพื่อทำงานเฉพาะอย่าง เช่น ระบบแนะนำสินค้าบนเว็บไซต์ โปรแกรมแปลภาษา หรือรถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ โดย AI ประเภทนี้สามารถพบเห็นได้ทั่วไปในปัจจุบัน

General AI หรือ Strong AI

เป็น AI ที่มีความสามารถในการเรียนรู้และทำความเข้าใจทุกสิ่งได้เหมือนกับมนุษย์ สามารถแก้ปัญหาที่ซับซ้อนและคิดสร้างสรรค์ได้ แต่ปัจจุบันยังไม่มีใครสามารถพัฒนา AI ประเภทนี้ได้สำเร็จ

Superintelligence

 เป็น AI ที่มีความฉลาดเหนือมนุษย์ในทุกด้าน สามารถแก้ปัญหาที่มนุษย์ไม่สามารถแก้ไขได้ และอาจเป็นภัยคุกคามต่อการดำรงอยู่ของมนุษย์ในอนาคต


หลักการทำงานของ AI

AI ทำงานโดยอาศัยข้อมูลจำนวนมากในการเรียนรู้และพัฒนาตนเอง กระบวนการเรียนรู้สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภทหลัก คือ

  • Machine Learning : เป็นกระบวนการที่ AI เรียนรู้จากข้อมูลโดยอัตโนมัติ ที่ไม่ต้องมีการเขียนโปรแกรมโดยตรง โดย AI จะค้นหารูปแบบและความสัมพันธ์ในข้อมูล เพื่อนำมาใช้ในการทำนายผลลัพธ์ในอนาคต
  • Deep Learning : เป็นสาขาหนึ่งของ Machine Learning ที่ใช้โครงข่าย Neural Network ในการเรียนรู้ข้อมูลที่มีความซับซ้อน เช่น ภาพ เสียง และข้อความ นอกจากนี้ Deep Learning ยังทำให้ AI มีความสามารถในการเรียนรู้ภาษาได้ตามธรรมชาติ รวมถึงการจดจำภาพ และแปลภาษาได้อย่างแม่นยำ

ข้อดีและข้อเสียของ AI

ข้อดีของ AI

  1. ความเร็วและความแม่นยำ : สามารถประมวลผลข้อมูลและตัดสินใจได้เร็วและแม่นยำกว่ามนุษย์
  2. การทำงานอัตโนมัติ : ช่วยลดการทำงานที่ต้องทำซ้ำซ้อน และทำให้กระบวนการต่าง ๆ มีประสิทธิภาพมากขึ้น
  3. การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก : สามารถวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมากได้รวดเร็วและแม่นยำ ทำให้สามารถค้นหาความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนได้
  4. การปรับตัวและการเรียนรู้ : สามารถปรับตัวและพัฒนาตนเองจากข้อมูลและประสบการณ์ใหม่ ๆ

ข้อเสียของ AI

  1. ความเสี่ยงด้านความปลอดภัย : การใช้งาน AI ที่ไม่ถูกต้องหรือถูกควบคุมโดยบุคคลที่ไม่หวังดีอาจก่อให้เกิดภัยคุกคาม
  2. การสูญเสียงาน : อาจทำให้งานบางประเภทที่มนุษย์เคยทำถูกแทนที่ด้วย AI ส่งผลให้เกิดการว่างงานในบางอาชีพ
  3. ความไม่เข้าใจ : อาจตัดสินใจหรือทำงานในแบบที่มนุษย์เข้าใจได้ไม่ดีนัก ซึ่งอาจก่อให้เกิดปัญหาในบางสถานการณ์
  4. การพึ่งพา AI มากเกินไป : การพึ่งพา AI ในการตัดสินใจหรือดำเนินการบางอย่างอาจทำให้มนุษย์ขาดทักษะและความสามารถในการแก้ปัญหาด้วยตนเอง 

AI นำมาใช้ทำอะไรได้บ้าง 

AI ถูกนำมาประยุกต์ใช้ในหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น

  • อุตสาหกรรมการแพทย์ : ช่วยในการวินิจฉัยโรค พัฒนาตัวยา และให้คำแนะนำการรักษา
  • อุตสาหกรรมการเงิน : ช่วยในการวิเคราะห์ข้อมูลทางการเงิน ตรวจจับการฉ้อโกง และให้คำแนะนำด้านการลงทุน
  • อุตสาหกรรมการผลิต : ช่วยในการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ลดต้นทุน และควบคุมคุณภาพผลิตภัณฑ์
  • อุตสาหกรรมบริการ : สามารถใช้บริการลูกค้าผ่านแชตบอต เพื่อช่วยปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้าให้รู้สึกดีกับแบรนด์ 
  • อุตสาหกรรมขนส่ง : ช่วยในการพัฒนารถยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ และระบบขนส่งสาธารณะอัจฉริยะ 

ประโยชน์ของการใช้ AI ทำการตลาด ! ผลลัพธ์จะดีได้ถ้าให้ AI ช่วย  

           เพื่อให้นักการตลาดสามารถนำ AI ไปปรับใช้กับแผนธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ เราขอรวบรวมประโยชน์ดี ๆ ที่ AI จะช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโต แถมอาจช่วยลดต้นทุนได้อีกด้วย

  • ใช้ AI ทำโฆษณา : AI ช่วยปรับแต่งโฆษณาให้มีประสิทธิภาพ โดยจะวิเคราะห์ความสนใจของผู้ชมและคำนวณงบประมาณภายใต้ต้นทุนต่ำสุด เช่น Subway ร่วมกับ IBM Watson ใช้ AI ปรับแต่งโฆษณาตามสภาพอากาศและยอดขาย ทำให้ลูกค้าเพิ่ม 31% และลดค่าโฆษณา 53%
  • ใช้ AI สร้างภาพลักษณ์แบรนด์ให้ทันสมัย : AI ช่วยออกแบบเว็บไซต์ให้น่าดึงดูดและสร้าง Landing Page ที่เหมาะกับผู้ใช้ นอกจากนี้ การนำเรื่อง AI มาทำคอนเทนต์โปรโมตยังแสดงถึงความทันสมัยของแบรนด์ด้วย
  • ใช้ AI สร้างคอนเทนต์โซเชียลมีเดีย : สามารถนำ AI มาวิเคราะห์กลุ่มเป้าหมาย แนะนำเนื้อหา และแปลงรูปแบบคอนเทนต์ เช่น จากบล็อกเป็นวิดีโอ ซึ่งจะช่วยประหยัดเวลาและเพิ่มความหลากหลายได้ 
  • ใช้ AI สร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า : สามารถให้ AI ทำหน้าที่เป็นแชตบอต ที่ให้บริการได้ 24 ชั่วโมง เพื่อตอบคำถามลูกค้าอย่างรวดเร็วและแม่นยำ ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการปิดการขายได้ดีกว่าใช้มนุษย์เพียงอย่างเดียว
  • ใช้ AI ทำการตลาดแบบเจาะจงกลุ่มเป้าหมาย : AI ช่วยทำ Personalized Marketing ได้โดยวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้ารายบุคคลเพื่อนำเสนอสินค้าหรือบริการที่เหมาะสมที่สุด เช่น Netflix ใช้ AI วิเคราะห์พฤติกรรมการรับชม เพื่อแนะนำเนื้อหาที่ตรงใจ ทำให้ผู้ชมประหยัดเวลาเลือก เกิดความประทับใจ และกลับมาใช้บริการบ่อยขึ้น
  • ใช้ AI ช่วยทำ SEO : สามารถใช้ AI ช่วยวิเคราะห์คีย์เวิร์ด ปรับแต่งหน้าเว็บฯ และประเมินผลการจัดอันดับ ช่วยให้การทำ SEO มีประสิทธิภาพมากขึ้น


นึ่งในข้อดีของ AI คือการใช้ปรับปรุงเว็บไซต์ SEO ได้มีประสิทธิภาพ

 

สนใจใช้ AI ช่วยทำ SEO

สนใจนำ AI มาใช้ปรับปรุงเว็บไซต์ SEO ของคุณ ติดต่อ Primal ได้เลย เราคือเอเจนซีรับทำ SEO ของประเทศไทยที่พร้อมใช้เครื่องมือทันสมัย ออกแบบกลยุทธ์ที่เหมาะกับธุรกิจของคุณโดยเฉพาะ กรอกรายละเอียดเพื่อปรึกษาแผนการตลาดกับเราได้เลยวันนี้