นักทำ SEO ต้องรู้! องค์ประกอบของเว็บไซต์ที่ดีควรมีอะไรบ้าง

สำหรับการตลาดออนไลน์ เว็บไซต์เปรียบเสมือนหน้าร้านที่ลูกค้าสามารถเข้ามาแวะเวียนเพื่อดูข้อมูลสินค้า เปรียบเทียบราคา หรือแม้แต่สั่งซื้อสินค้าและบริการที่สนใจ อย่างไรก็ดี เว็บไซต์ไม่ได้มีข้อดีเพียงเท่านั้น แต่นักการตลาดยังสามารถใช้เว็บไซต์ทำ SEO (Search Engine Optimization) เพื่อเพิ่มโอกาสให้กับแบรนด์เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย และช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือ ซึ่งท้ายที่สุดแล้วย่อมส่งผลถึงยอดขายและสร้างผลกำไรให้กับธุรกิจเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน

ดังนั้น เมื่อเว็บไซต์เป็นช่องทางที่มีความสำคัญขนาดนี้ เหล่าผู้ประกอบการจึงควรดีไซน์ให้มีความสวยงาม และออกแบบให้ใช้งานได้ง่าย รวมถึงเป็นมิตรกับพฤติกรรมของผู้บริโภคมากที่สุด และที่สำคัญควรคำนึงถึงหลัก SEO เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้เว็บไซต์ไปพร้อมกันด้วย

แล้วองค์ประกอบของเว็บไซต์มีอะไรบ้าง ที่จะตอบโจทย์กับทั้งผู้บริโภคและโดนใจการจัดอันดับของ Google มาหาคำตอบไปพร้อมกันได้เลย 

ข้อมูลควรรู้ เกี่ยวกับเว็บไซต์  

ก่อนจะไปถึงเรื่ององค์ประกอบเว็บไซต์ที่ดีว่าควรมีอะไรบ้าง เรามารู้จักกันก่อนว่าแท้จริงแล้วเว็บไซต์ (Website) คืออะไร

เว็บไซต์ (Website) คือหน้าเว็บเพจที่จัดทำขึ้นเพื่อนำเสนอข้อมูลต่าง ๆ โดยผู้ใช้งานสามารถเข้าถึงหน้าเว็บได้โดยการใช้เบราวเซอร์ หรืออีกทางหนึ่งคือพิมพ์ชื่อเว็บไซต์ที่ต้องการในเครื่องมือค้นหา โดยเมื่อเข้าไปที่เว็บไซต์ ระบบจะพาผู้ใช้งานไปยังหน้าแรกหรือโฮมเพจ ซึ่งโดยทั่วไปจะเป็นหน้าแนะนำธุรกิจหรือหน้านำเสนอข้อมูลสินค้า และจากหน้าแรกนี้ผู้ใช้งานก็สามารถท่องเว็บผ่านการกดเมนูต่าง ๆ ที่นักพัฒนาได้ออกแบบไว้ เพื่อไปสู่หน้าเว็บไซต์ที่ต้องการได้อีกทีหนึ่ง

เพื่อให้เว็บไซต์มีคุณภาพและถูกใจผู้ใช้งานมากที่สุด วันนี้เราได้รวบรวมองค์ประกอบของเว็บไซต์ที่ตอบโจทย์กับการใช้งานมาฝากกัน นักการตลาดคนไหนอยากทำเว็บให้มีคุณภาพจนสามารถติดอันดับต้น ๆ ในระบบ Search Engine ต้องห้ามพลาด! 

องค์ประกอบของเว็บไซต์ SEO ที่ดีควรมีอะไรบ้าง?

1. ข้อมูลครบถ้วน ทำให้ผู้ใช้งานไม่ต้องไปหาเพิ่มเติมจากเว็บไซต์อื่น

การทำให้กลุ่มเป้าหมายใช้เวลาอยู่ในเว็บไซต์ให้ได้มากที่สุด เป็นวิธีช่วยเพิ่ม Traffic ที่จะส่งผลต่อการจัดอันดับเว็บไซต์ให้ดีขึ้นได้  

เพราะฉะนั้น องค์ประกอบแรกในเว็บไซต์ที่ต้องพูดถึง คงจะหนีไม่พ้นเรื่องของเนื้อหาที่แบรนด์ควรใส่เอาไว้ให้ครบจบสมบูรณ์ เช่น การแนะนำที่มาหรือประวัติธุรกิจของตนเอง แนะนำประเภทสินค้าและบริการ บอกเล่าคุณสมบัติและประโยชน์สินค้า ชี้แจงข่าวสาร/กิจกรรม/โปรโมชันในเว็บไซต์ รวมถึงแจ้งช่องทางการติดต่อที่ง่ายและสะดวกที่สุด เพราะเมื่อมีข้อมูลเหล่านี้แสดงอยู่บนหน้าเว็บไซต์อย่างครบถ้วน ผู้ใช้งานก็ไม่จำเป็นต้องไปหาข้อมูลจากที่อื่น ทำให้มีโอกาสใช้เวลาอยู่ในเว็บไซต์มากขึ้น เพิ่ม Traffic มากขึ้น จนส่งผลให้การจัดอันดับ SEO ใน Search Engine ดีขึ้นได้

2.   Blog ที่เป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้งาน

Blog หรือบทความ เป็นองค์ประกอบของเว็บไซต์ SEO ที่ดีเช่นกัน เพราะนอกจากแบรนด์จะสามารถใช้บทความ (Blog) สื่อสารความเชี่ยวชาญและความเป็นตัวจริงในธุรกิจของตัวเองแล้ว ยังสามารถใส่คีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้อง เพื่อเพิ่มโอกาสให้ลูกค้าค้นพบสินค้าและเว็บไซต์ผ่านบทความที่โชว์ขึ้นในหน้า Google

และเพื่อให้ได้ผลลัพธ์การทำ SEO อย่างมีประสิทธิภาพมากที่สุด แนะนำให้เขียนอย่างน้อยเดือนละ 30-40 บทความ โดยมีเนื้อหาที่ไม่สั้นไม่ยาวจนเกินไป และที่สำคัญไม่ควรซ้ำหรือลอกเลียนมาจากเว็บใด ๆ เพียงเท่านี้ ก็จะช่วยให้ Google Bot ตรวจจับได้ถึงคุณภาพ จนทำให้เว็บไซต์ทะยานขึ้นสู่หน้าแรกของ Search Engine ได้ไม่ยาก

3.   คีย์เวิร์ดในหน้าเพจ

นอกจากการใส่คีย์เวิร์ดในบทความ (Blog) แล้ว องค์ประกอบของเว็บไซต์ SEO ที่ดี ยังควรใส่คีย์เวิร์ดให้กระจายอยู่ในหน้าเพจต่าง ๆ ด้วย เพราะคีย์เวิร์ดถือเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้ Google รู้ว่าจะนำหน้าเว็บไซต์ของคุณไปแสดงผลจากคำค้นหาอะไร

โดยคีย์เวิร์ดควรกระจายอยู่ทั้งใน Title, Description รวมถึง URL โดยที่จำนวนไม่ต้องเยอะจนเกินไป เพียงเท่านี้ก็จะช่วยเสริมให้เว็บไซต์มีคุณภาพมากพอสำหรับการไต่อันดับไปอยู่ในหน้าแรกแล้ว

4.   ความง่ายต่อการใช้งาน

เว็บไซต์ที่ดีต้องง่ายต่อการใช้งาน นักพัฒนาจึงควรออกแบบ UX (User Experience) ที่ช่วยสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้เข้าชมเว็บไซต์ โดยเน้นถึงเรื่องพื้นฐานอย่างเข้าใจได้ง่าย เข้าถึงง่าย และช่วยให้ตัดสินใจได้ง่าย

UX ที่ออกแบบควรเน้นการจัดเรียงข้อมูลให้ตรงประเด็นและเป็นระบบ โดยอาจออกแบบ Sitemap และ Grouping ประเภทของสินค้าให้เป็นหมวดหมู่เพื่อง่ายต่อการค้นหา เช่น สินค้าประเภทเดียวกันจัดให้อยู่ใกล้ ๆ กัน นอกจากนี้ยังควรวางข้อมูลต่าง ๆ ที่ง่ายต่อการคลิก และใส่ฟังก์ชันเท่าที่จำเป็น เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ใช้งานเกิดความสับสน รวมถึงยังช่วยให้เว็บไซต์ดาวน์โหลดได้เร็วขึ้นด้วย 

5.   ดีไซน์น่าสนใจ ง่ายต่อการจดจำ

ไม่เพียงแต่เนื้อหา แต่ดีไซน์สวย ๆ ของเว็บไซต์ก็เป็นอีกปัจจัยที่ช่วยดึงดูดให้กลุ่มเป้าหมายอยากใช้เวลาท่องเว็บฯ ของเราเพิ่มมากขึ้น แบรนด์จึงควรดีไซน์ทั้งเรื่องสี ฟอนต์ และรูปภาพให้มีความสอดคล้องกัน อาจใช้ CI ของบริษัท หรือใช้ภาพและวิดีโอใน Mood and Tone แบบเดียวกัน เพียงเท่านี้ผู้ใช้งานก็จะมีอารมณ์ร่วมขณะท่องเว็บไซต์ รวมถึงเข้าใจความเป็นแบรนด์มากขึ้น

6.   ดาวน์โหลดเร็ว ไม่เสียเวลารอ

ความเร็วในการดาวน์โหลดเป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญของเว็บไซต์ที่ดี ซึ่งโดยธรรมชาติแล้วผู้เข้าใช้งานมักมีความอดทนรอไม่มากนัก หากการเข้าเว็บไซต์ทำให้พวกเขาเสียเวลามากเกินไป ผู้เข้าใช้งานอาจออกจากเว็บไซต์ทันที ดังนั้น นักพัฒนาจึงควรโฟกัสเรื่องความเร็วในการดาวน์โหลดเป็นพิเศษ อย่างเช่น การเลือกใช้ภาพขนาดไม่ใหญ่นัก เลือกตั้งค่าไม่ให้วิดีโอเล่นอัตโนมัติ เลือกใช้บริการ Web Hosting ที่มีความเร็วในการรับส่งข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตที่มีประสิทธิภาพ และควรทดสอบความเร็วการแสดงผลของเว็บไซต์ก่อนตลอดเวลา เพียงเท่านี้ เว็บไซต์ก็จะดาวน์โหลดได้เร็วขึ้นแล้ว

7.   ตอบโจทย์การแสดงผลทุกอุปกรณ์

ด้วยปัจจุบันผู้ใช้งานเข้าเบราวเซอร์เว็บไซต์ผ่านอุปกรณ์มากมาย ทั้งคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต รวมถึงสมาร์ทโฟน ดังนั้น องค์ประกอบของเว็บไซต์ที่ดี ยังจะต้องสามารถแสดงผลผ่านหน้าจอต่าง ๆ ได้อย่างมีคุณภาพทัดเทียมกัน เพื่อให้ตอบโจทย์พฤติกรรมการใช้งานของผู้บริโภคยุคใหม่มากที่สุด

8.   มีปุ่ม CTA (Call To Action)

ถ้าอยากปั้นเว็บไซต์ให้ได้ใจกลุ่มเป้าหมาย องค์ประกอบของเว็บไซต์ที่ควรจะมีก็คือ ปุ่ม CTA (Call To Action) ในหน้าเพจ สำหรับปุ่มนี้ไม่ได้ออกแบบมาเพื่อกระตุ้นให้ผู้ใช้งานกดสินค้าลงตะกร้าหรือซื้อสินค้าเพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังมีไว้เพื่อวัดประสิทธิภาพการมีส่วนร่วมของผู้ใช้งานในเว็บไซต์ เพราะนักการตลาดสามารถ Track ข้อมูลที่ผู้ใช้งานกดคลิก เพื่อนำไปวัดผลเชิง Data เพราะหากมีปริมาณคนคลิกน้อย จะได้นำข้อมูลมาพัฒนาเพื่อปรับปรุงเว็บไซต์ เพื่อเพิ่มปริมาณคนกดให้มากขึ้น

9.   มีความน่าเชื่อถือ

แม้ปัจจุบัน ร้านค้าจะหันมาใช้เว็บไซต์เป็นช่องทางการจำหน่ายสินค้ากันมากขึ้น แต่ก็ยังมีผู้บริโภคหลายคน ไม่กล้าตัดสินใจซื้อสินค้าออนไลน์อยู่ดี ดังนั้น ความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์ จึงเป็นองค์ประกอบสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม โดยอาจโฟกัสไปที่ดีไซน์การออกแบบที่สื่อให้รู้ถึงความน่าเชื่อถือและเป็นมืออาชีพ มีเนื้อหาครบถ้วน มีรูปภาพสินค้าและบริการจัดเป็นหมวดหมู่อย่างชัดเจน พร้อมกันนั้น ยังควรมีช่องทางการติดต่อเพื่อยืนยันการมีตัวตนของแบรนด์ เพียงเท่านี้ เว็บไซต์ก็จะดูน่าเชื่อถือ ไม่ดูเหมือนเว็บหลอกลวง ทำให้ผู้บริโภคเกิดความเชื่อมั่น และสนใจที่จะเข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์มากขึ้นด้วย  

10. ความ Active ไม่ปล่อยให้เว็บฯ ร้าง

ไม่ว่าองค์ประกอบด้านอื่น ๆ ในเว็บไซต์จะดีอย่างไร แต่หากไม่ได้มีการอัปเดตให้ทันสมัย เว็บไซต์นั้น ๆ ก็อาจไม่ได้รับความสนใจจากผู้ใช้ และไม่เป็นผลดีกับคะแนนการจัดอันดับ SEO ด้วย ดังนั้น เจ้าของเว็บไซต์จึงควรอัปเดตเว็บไซต์อย่างสม่ำเสมอ ด้วยการลงบทความหรืออัปเดตเนื้อหาให้ตรงตามข้อมูลที่เปลี่ยนแปลงไป เพียงเท่านี้ ก็จะช่วยให้เว็บไซต์ตอบโจทย์กับผู้ใช้งานแล้ว

สรุป

แม้แบรนด์จะสร้างสรรค์สินค้าคุณภาพดีออกมาแค่ไหน แต่หากมีการวางแผนด้านการตลาดที่ไม่น่าสนใจ รวมถึงมีเว็บไซต์ที่เป็นเสมือนตัวกลางนำเสนอข้อมูลที่ไม่มีคุณภาพมากพอ ก็อาจทำให้ผู้บริโภคเปลี่ยนใจไปเลือกใช้สินค้าจากคู่แข่งได้ ดังนั้น เหล่าผู้ประกอบจึงควรปรับปรุงองค์ประกอบของเว็บไซต์ให้ครบถ้วน เพื่อเพิ่มความสำเร็จให้กับธุรกิจในระยะยาว

แต่หากผู้ประกอบการท่านใด ไม่รู้ว่าจะเริ่มปรับปรุงองค์ประกอบเว็บไซต์ให้ดีตามหลัก SEO ได้อย่างไร Primal Digital Agency ขออาสาเป็นผู้ช่วย เรามีผู้เชี่ยวชาญด้าน SEO โดยตรงที่พร้อมให้คำแนะนำ หากสนใจสามารถติดต่อเพื่อรับคำปรึกษาและแผนการตลาดฟรีได้เลยตอนนี้!