SEO Magento คืออะไร ? แจกเทคนิคทำ SEO Magento ระดับมืออาชีพ
Magento คืออีกหนึ่งแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซยอดนิยม ที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถสร้างร้านค้าออนไลน์ที่แข็งแกร่งและเติบโตได้อย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ดี ในการทำให้ธุรกิจโดดเด่นและดึงดูดลูกค้าได้มากขึ้น การทำ SEO Magento คือสิ่งจำเป็นอย่างมาก
การทำ SEO Magento คืออะไร และมีเทคนิคการทำอย่างไร เพื่อช่วยสร้างยอดขายและทำให้ร้านค้าประสบความสำเร็จ บทความนี้จะพาไปหาคำตอบ !
Table of Contents
Magento คืออะไร ? แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่กำลังมาแรง
Magento เป็นแพลตฟอร์มจัดการเนื้อหาเว็บไซต์ (CMS) ที่ถูกออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์ธุรกิจ E-Commerce โดยเฉพาะ โดยมีคุณสมบัติเด่นดังนี้
- ใช้ภาษา PHP เป็นพื้นฐาน
- เป็น Open Source Software ที่มีความยืดหยุ่นสูง
- ผู้ใช้สามารถปรับแต่งและพัฒนาเว็บไซต์ได้ตามต้องการ
- รองรับฟังก์ชันหลักสำหรับร้านค้าออนไลน์อย่างครบครัน เช่น
- การจัดการสินค้า
- ระบบชำระเงิน
- การจัดส่ง
ด้วยคุณสมบัติที่ยืดหยุ่นและครอบคลุมเหล่านี้ Magento จึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการสร้างและจัดการเว็บไซต์ E-Commerce ของตนเอง อย่างไรก็ตาม การมีเว็บไซต์ที่ดีเพียงอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอในโลกดิจิทัลที่มีการแข่งขันสูง การทำให้เว็บไซต์ของคุณเป็นที่รู้จักและค้นพบได้ง่ายบน Search Engine จึงเป็นสิ่งสำคัญ นั่นจึงเป็นเหตุผลที่ว่า ทำไมการทำ SEO สำหรับ Magento จึงเป็นสิ่งที่ควรให้ความสนใจ
>> รายละเอียดเพิ่มเติมของ Magento อ่านต่อได้ที่นี่
การทำ SEO Magento คืออะไร
การทำ SEO Magento ก็เหมือนกับการทำ SEO ทั่วไป แต่จะเน้นไปที่การปรับแต่งเว็บไซต์ที่สร้างขึ้นบนแพลตฟอร์ม Magento โดยเฉพาะ เพื่อให้มีประสิทธิภาพในการค้นหาของ Google และให้ผู้คนสามารถค้นหาสินค้าหรือบริการของเราเจอได้ง่ายขึ้น
ข้อดีของการทำ SEO Magento สำหรับธุรกิจ
Magento คือแพลตฟอร์มที่ออกแบบมาเพื่อรองรับการทำ SEO ได้เป็นอย่างดี และเมื่อผสานกับกลยุทธ์ SEO ที่ถูกต้อง จะช่วยให้ธุรกิจได้ผลลัพธ์ต่าง ๆ ที่มีประสิทธิภาพ ดังนี้
- เพิ่มอันดับการค้นหาใน Google : Magento ช่วยปรับแต่งเว็บไซต์ให้เป็นมิตรแก่ Search Engine ได้อย่างครอบคลุม ทั้งการใส่ Keywords ในส่วนต่าง ๆ ของเว็บไซต์ การปรับแต่ง On-page SEO และการจัดการด้าน Technical SEO เช่น Sitemap และ URL Structure ซึ่งทั้งหมดนี้จะช่วยผลักดันให้เว็บไซต์ติดอันดับการค้นหาที่สูงขึ้น
- เพิ่มปริมาณการเข้าชมเว็บไซต์ : เมื่อเว็บไซต์ติดอันดับสูงในผลการค้นหา ย่อมดึงดูดผู้เข้าชมจากการค้นหาแบบออร์แกนิกได้มากขึ้น นอกจากนี้ Magento ยังสามารถใช้ Long-Tail Keywords เพื่อเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเฉพาะทางได้อย่างแม่นยำ
- เพิ่มอัตราคอนเวอร์ชัน : Magento ช่วยให้สามารถสร้างหน้าผลิตภัณฑ์ที่น่าสนใจและมีข้อมูลครบถ้วน ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสในการปิดการขายได้มากขึ้น
- สร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง : การปรากฏในอันดับต้น ๆ ของผลการค้นหา จะช่วยเพิ่มการรับรู้และจดจำแบรนด์ อีกทั้งยังสร้างความน่าเชื่อถือและความเป็นผู้เชี่ยวชาญในสายตาของลูกค้า ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญในการสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง
- เพิ่ม ROI : การทำ SEO เป็นการลงทุนระยะยาวที่คุ้มค่า เมื่อเทียบกับการทำโฆษณาออนไลน์ เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายต่ำกว่าและให้ผลลัพธ์ยั่งยืน ดังนั้น การเพิ่มขึ้นของปริมาณการเข้าชมและอัตราคอนเวอร์ชันจะส่งผลโดยตรงต่อการเพิ่มยอดขายและผลกำไรของธุรกิจ
11 เทคนิคการทำ SEO Magento เพิ่มยอดขายให้ธุรกิจได้จริง !
สำหรับคนที่อยากสร้างธุรกิจออนไลน์ให้แข็งแกร่งยิ่งกว่าเดิม เรามี 11 เทคนิคการทำ SEO Magento มาแนะนำ รับรองว่ามือใหม่ทำตามได้ ไม่ยากอย่างที่คิด
สร้าง URL ให้ถูกต้องตามหลัก
- สร้าง URL ที่สั้น กระชับ และมีความหมาย เช่น https://ตัวอย่างเว็บไซต์.com/หมวดหมู่-สินค้า/ชื่อ-สินค้า
- ใช้เฉพาะตัวอักษรภาษาอังกฤษและขีดกลาง (-) หลีกเลี่ยงตัวอักษรพิเศษหรือสัญลักษณ์อื่น ๆ
- หลีกเลี่ยงการใช้ตัวเลขที่ไม่จำเป็น ยกเว้นในกรณีจำเป็น เช่น หมวดหมู่สินค้า
- ใช้คีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาเพื่อช่วยให้ Google เข้าใจหน้าเพจได้ง่ายขึ้น
ค้นหาคีย์เวิร์ดที่ตรงกับธุรกิจและกระจายคีย์เวิร์ดตามหน้าหลัก
- ใช้เครื่องมือค้นหาคีย์เวิร์ด เช่น Google Keyword Planner, Ahrefs, SEMrush
- เลือกคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องกับสินค้าและบริการ โดยเน้นคำที่ผู้บริโภคใช้ค้นหา
- กระจายคีย์เวิร์ดไปตามหน้าต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ไม่ควรใช้คีย์เวิร์ดซ้ำในทุกหน้า
เขียนเนื้อหาที่มีคุณภาพ
- สร้างเนื้อหาที่เป็นเอกลักษณ์ ไม่ซ้ำใคร เพื่อสร้างความแตกต่างให้แก่เว็บไซต์
- เนื้อหาควรเกี่ยวข้องกับสินค้าและบริการ ตอบคำถามและแก้ปัญหาให้แก่ลูกค้า
- ใช้คีย์เวิร์ดที่เหมาะสม แต่ไม่ควรยัดเยียดจนเกินไป
เพิ่ม Meta Title และ Meta Description
- กำหนดให้ Meta Title หรือหัวข้อของหน้าเพจที่แสดงในผลการค้นหา ไม่เกิน 50-60 ตัวอักษร
- กำหนด Meta Description หรือคำอธิบายสั้น ๆ เกี่ยวกับเนื้อหาของหน้าเพจ ไม่เกิน 155 ตัวอักษร
- ทั้งสองส่วนควรมีคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้อง
ปรับปรุงความเร็วของเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซ
- บีบอัดรูปภาพเพื่อลดขนาดไฟล์
- ลดจำนวน Plugin ที่ไม่จำเป็นเพื่อลดภาระของเซิร์ฟเวอร์
- ใช้ CDN เพื่อช่วยให้เว็บไซต์โหลดเร็วขึ้น
สร้าง Internal Link
- ใส่ Internal Link เชื่อมโยงหน้าต่าง ๆ ภายในเว็บไซต์เพื่อช่วยให้ Google เข้าใจโครงสร้างของเว็บไซต์
- ใช้ Anchor Text ที่เกี่ยวข้องเพื่อช่วยให้ Google เข้าใจเนื้อหาของหน้าที่ถูกเชื่อมโยง
สร้าง External Link
- สร้าง External Link เชื่อมโยงไปยังเว็บไซต์ที่มีความน่าเชื่อถือเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือให้แก่เว็บไซต์ของคุณ
- หลีกเลี่ยงการสร้าง Backlink ที่มีคุณภาพต่ำ ซึ่งอาจส่งผลเสียต่ออันดับของเว็บไซต์
ปรับปรุงคุณภาพรูปภาพ
- บีบอัดรูปภาพเพื่อลดขนาดไฟล์
- ตั้งชื่อไฟล์ภาพให้มีความหมาย เพื่อช่วยให้ Google เข้าใจเนื้อหาของภาพ
- ใส่ Alt Text เพื่ออธิบายเนื้อหาของภาพสำหรับผู้ที่มองไม่เห็นภาพ
ตรวจสอบ Mobile-Friendliness
- ตรวจสอบว่าเว็บไซต์สามารถแสดงผลได้อย่างถูกต้องบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ เนื่องจากปัจจุบันผู้คนส่วนใหญ่เข้าถึงอินเทอร์เน็ตผ่านมือถือ
ติดตั้ง Google Analytics
- ใช้เพื่อติดตามผลการทำ SEO และวิเคราะห์พฤติกรรมของผู้ใช้งาน
- นำข้อมูลที่ได้มาปรับปรุงกลยุทธ์ SEO ให้ดียิ่งขึ้น
สร้างไฟล์ Robots.txt
- สร้างไฟล์ “robots.txt” ในโฟลเดอร์หลักของเว็บไซต์ โดยใช้คำสั่ง “Allow” และ “Disallow” เพื่อควบคุมการเข้าถึงของ Bot Google
- ใช้การสร้างไฟล์ “robots.txt” เพื่อบอกให้ Google รู้ว่าควร crawl หน้าเพจใดบ้าง ช่วยให้ Google เข้าใจโครงสร้างของเว็บไซต์ได้ดียิ่งขึ้น
การทำ SEO Magento คือกลยุทธ์สำคัญที่จะช่วยให้ร้านค้าออนไลน์โดดเด่นและเข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น เพียงทำตามเทคนิคต่าง ๆ ที่กล่าวมา คุณก็จะสามารถปรับปรุงเว็บไซต์ Magento ให้ติดอันดับสูงในผลการค้นหาและสร้างยอดขายที่เพิ่มขึ้นได้
อย่างไรก็ดี เทคนิคการทำ SEO Magento ไม่ได้มีเพียงเท่านี้ ถ้าต้องการทำ SEO Magento อย่างมืออาชีพ ปรึกษา Primal ของเราได้เลย เราคือเอเจนซีการตลาดและบริษัทรับทำ SEO ชั้นนำที่มีผู้เชี่ยวชาญการตลาดออนไลน์กว่า 150 คน ที่จะช่วยขับเคลื่อนธุรกิจของคุณให้เติบโตอยู่เหนือคู่แข่ง เพียงกรอกรายละเอียดเพื่อรับแผนการตลาดกับเราฟรีตอนนี้ !
Join the discussion - 0 Comment