หาเพจเจอให้ง่ายขึ้นด้วย 8 วิธีทำ SEO Facebook ที่พลาดไม่ได้

เจ้าของธุรกิจออนไลน์ที่มีเว็บไซต์เป็นของตัวเอง น่าจะคุ้นเคยกับการทำ SEO บน Google เป็นอย่างดี เพราะ SEO หรือ Search Engine Optimisation ถือเป็นกลยุทธ์ที่นักการตลาดยุคใหม่จะพลาดไปไม่ได้ หากอยากให้แบรนด์ของตนเองถูกมองเห็นบนโลกออนไลน์มากขึ้น ด้วยการไต่แรงก์ขึ้นไปอยู่อันดับต้น ๆ บนหน้าแรกของผลการค้นหา ให้ผู้ใช้งานที่เซิร์ชคีย์เวิร์ดเกี่ยวกับธุรกิจของเราเจอเว็บไซต์เราได้ในทันที แต่รู้หรือไม่ว่า ไม่ใช่แค่เพียงเว็บไซต์เท่านั้นที่เราสามารถทำให้ติดอันดับบนหน้าแรกของ Google ได้ เพราะ Facebook Page ของเราก็สามารถถูกทำให้ติดได้เช่นกัน

ดังนั้น เราจึงจะมาบอก “8 วิธีทำ SEO Facebook“ ที่นักธุรกิจทุกคนต้องรู้ เพื่อที่กลุ่มเป้าหมายจะได้ค้นหาเพจเราเจอได้ง่ายกว่าเดิม บอกเลยว่าไม่ได้ยากอย่างที่คิด !

8 วิธีทำ SEO Facebook

วิเคราะห์คีย์เวิร์ด หรือเลือกคำที่เราอยากทำ SEO

เช่นเดียวกับการทำ SEO บนเว็บไซต์ การวิเคราะห์คีย์เวิร์ด หรือการทำ Keyword Research ที่ดี จะช่วยทำให้เราถูกค้นเจอได้ง่ายขึ้น แต่ข้อควรระวัง คือ พยายามอย่าใช้คีย์เวิร์ดกว้าง ๆ เพราะอาจจะต้องไปแข่งขันกับพวกเว็บไซต์ต่าง ๆ ที่ทำ SEO ในคีย์เวิร์ดเดียวกัน ซึ่งในขณะที่หน้าเว็บไซต์สามารถปรับแต่งอย่างไรก็ได้ให้ตรงตามเงื่อนไขของ Google เพื่อให้ถูกคัดเลือกไปจัดอันดับอยู่ด้านบน ๆ Facebook กลับไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ จึงปฏิเสธไม่ได้ว่าการทำ SEO บน Facebook ยังเป็นรองเว็บไซต์อยู่ดี ดังนั้น เราจึงควรเลือกใช้คีย์เวิร์ดที่ค่อนข้างเฉพาะ หรือ Long-tail Keyword ที่แม้จะยาวไปสักหน่อยแต่ก็มีความชัดเจน แข่งขันน้อยกว่า และสามารถเจาะกลุ่มเป้าหมายได้ตรงจุดมากกว่า

ทั้งนี้ เราสามารถใช้เครื่องมืออย่าง Google Keyword Planner หรือ Ubersuggest เข้ามาช่วยในการหาคีย์เวิร์ดได้ และที่สำคัญ ต้องใส่คีย์เวิร์ดในปริมาณที่ไม่มากเกินไปจนทำให้ดูเหมือนสแปม แต่ก็ต้องไม่น้อยเกินไปจนทำให้อัลกอริทึมจับไม่ได้ว่าเนื้อหาหลักของบทความเราเกี่ยวกับอะไร กล่าวคือ ต้องดูบริบทและความเหมาะสม เพื่อให้เนื้อหาของเรามีความเป็นธรรมชาติมากที่สุด

ชื่อ Facebook ต้องจำง่าย และมีความเกี่ยวข้องกับธุรกิจ

ชื่อ Facebook Page ของเราถือเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญของวิธีทำ SEO Facebook เพราะนอกจากจะเป็นสิ่งแรกที่คนเห็นแล้ว ชื่อเพจยังเป็นสิ่งที่จะไปปรากฏอยู่บนหน้าการค้นหาของ Google ด้วย เราจึงควรตั้งชื่อเพจให้อ่านง่าย ไม่ยาวเกินไป เข้าใจได้ทันที และหากชื่อติดหูด้วยก็จะยิ่งสร้างการจดจำได้มากขึ้นไปอีก ที่สำคัญ ต้องเป็นชื่อที่สามารถสื่อถึงสินค้าหรือบริการของเราได้ หรือชื่อที่ลูกค้าเห็นแล้วรู้เลยว่าร้านเราขายอะไร

ทั้งนี้ แนะนำว่าควรใส่คีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของเราเข้าไปในชื่อเพจด้วย เพื่อที่เวลาผู้ใช้งานเซิร์ชหาคีย์เวิร์ดนั้น ๆ จะได้เจอเพจของเราง่ายขึ้น เช่น ร้านเสื้อผ้าแฟชั่น บริษัทรับทำ SEO คลินิกเสริมความงาม เป็นต้น

ตั้ง URL Facebook Page

URL Facebook Page เป็นส่วนสำคัญของ Facebook SEO ที่หลายคนไม่ได้ให้ความสนใจเท่าที่ควร ปกติแล้ว Username หรือ URL บน Facebook จะแสดงในรูปแบบ www.facebook.com/username ซึ่งตรงส่วน Username นี้เองที่เราต้องคิดว่าจะใช้คำไหน แนะนำว่าควรเป็นคำที่สั้น กระชับ และเป็นคำที่คนมักใช้เซิร์ช โดยอาจใช้เป็นชื่อแบรนด์ก็ได้ เพื่อให้ลูกค้าสามารถค้นหาเพจของเราเจอ และเพิ่มโอกาสในการติดอันดับมากขึ้น

ใส่ข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจ (About) ให้ครบถ้วน

การใส่ข้อมูลในส่วน About (เกี่ยวกับ) ก็เป็นอีกเรื่องที่เราจะลืมไปไม่ได้เด็ดขาด เพราะตรงนี้เป็นส่วนที่จะช่วยให้คนเข้าใจธุรกิจของเรามากขึ้น โดยจะต้องใส่ให้ครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ตั้ง หมวดหมู่ เบอร์โทร เวลาเปิด-ปิดทำการ ตลอดจนเว็บไซต์ธุรกิจที่ผ่านการตรวจสอบและลงทะเบียนบน Google เรียบร้อยแล้ว

ส่วนใครที่มี Business Profile Facebook ก็ให้ไปลงทะเบียนโดเมนในหน้า Business Information ก่อน เพราะจะช่วยให้ Facebook รู้จักหน้าเว็บไซต์ของเรา ซึ่งปัจจุบัน Facebook ได้ออกกฎหมายบังคับให้ลงชื่อธุรกิจจริงแล้ว เพื่อเพิ่มความไว้วางใจของลูกค้าที่มีต่อแบรนด์ในการซื้อ-ขายกันบนแพลตฟอร์มมากขึ้น

ใส่ Alt Text ในรูปภาพ

บางคนอาจจะคิดว่า ชื่อไฟล์รูปก็มีแล้ว ทำไมยังต้องใส่ Alt Text อีก แต่ความจริงแล้วต่างกัน เพราะ Alt Text หรือ Alternative Text นั้นมีไว้สำหรับอธิบายรูปภาพ  ซึ่งโดยปกติเราจะมองไม่เห็น Alt Text เวลาใช้งานบนเว็บไซต์ เพราะเป็นสิ่งที่มีไว้หลังบ้านเพื่อให้ Google Bot เข้าใจว่ารูปนี้คืออะไรเท่านั้น จึงกล่าวได้ว่า Alt Text คือหนึ่งในปัจจัยที่มีผลต่อการทำ Facebook SEO อย่างยิ่ง

วิธีใส่ Alt Text บน Facebook สามารถทำได้ ดังนี้

• เข้าไปที่ Facebook Page ของเรา
• ไปที่แถบรูปภาพ
• กดเมนู Edit ที่เป็นจุด 3 จุดด้านขวาบน
• เลือก Edit Alt Text
• ใส่คำอธิบายภาพเป็นภาษาอังกฤษให้ชัดเจน สั้น กระชับ เพื่อให้ Google Bot เข้าใจได้ง่าย

อย่าลืมใส่ Backlink

Backlink คือ ลิงก์จากเว็บไซต์อื่นที่เชื่อมกลับมายังเว็บไซต์เรา หรือในที่นี้ก็คือหน้า Facebook Page ของเราเอง หรือถ้าธุรกิจมีแพลตฟอร์มอื่น ๆ เช่น เว็บไซต์ บล็อก อีคอมเมิร์ซ หรือช่องทางโซเชียลมีเดียต่าง ๆ เราก็สามารถเพิ่ม Backlink ในหน้าเพจของตนเองได้เช่นกัน โดย Backlink เป็นหนึ่งในปัจจัยลำดับต้น ๆ ที่ Google ใช้เป็นตัวชี้วัดว่าเว็บไซต์ของเรามีคนพูดถึงและมีความน่าเชื่อถือมากน้อยแค่ไหน หากมีคนพูดถึงเรามาก หรือลิงก์กลับมาหาเรามาก ก็หมายความว่าเว็บไซต์หรือหน้าเพจของเรามีคอนเทนต์ที่ดี ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งานได้ ดังนั้น ยิ่งเรามี Backlink มากเท่าไร ก็จะยิ่งมีค่า PageRank มากขึ้นเท่านั้น แล้วยังมีโอกาสติดอันดับ SEO มากขึ้นอีกด้วย

เพิ่ม CTA กระตุ้นให้เกิด Conversion

การเพิ่ม CTA หรือ Call to Action ลงในเพจ Facebook ของเราจะเป็นตัวช่วยกระตุ้นให้กลุ่มเป้าหมายดำเนินการอะไรบางอย่างกับธุรกิจ ซึ่งเราสามารถทำ CTA ได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นปุ่ม ซื้อเลย สมัครเลย ลงทะเบียน ติดต่อเรา หรือเป็นคำบรรยายที่ชักชวนให้ผู้อ่านกระทำการอะไรบางอย่าง เช่น สอบถามเพิ่มเติมผ่านทางอินบ็อกซ์ได้เลย เป็นต้น โดย CTA ที่เราเลือกใช้จะต้องสอดคล้องกับเนื้อหาและวัตถุประสงค์ในการใช้งานด้วย และควรจะต้องอยู่ในจุดที่สามารถมองเห็นได้ง่าย ดึงดูดสายตาผู้พบเห็น

ใช้แฮชแทกที่เกี่ยวข้อง

อีกหนึ่งวิธีทำ SEO Facebook ให้ได้ประสิทธิภาพ คือ การใช้แฮชแทก (Hashtag) ซึ่งจะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถค้นเจอและมองเห็นเพจของเราได้มากขึ้น โดยแฮชแทกที่เลือกใช้ ควรเป็นคำสั้น ๆ จดจำได้ง่าย เพราะคำเหล่านี้จะมีผลต่อการค้นหามากทีเดียว

โดยทั่วไปแล้ว การใช้แฮชแทกที่มีคำเฉพาะเจาะจงจะช่วยให้เราถูกค้นเจอมากกว่าแฮชแทกที่เป็นคำกว้าง ๆ เนื่องจากผู้ใช้ส่วนมากมักจะค้นหาเฉพาะสิ่งที่ตนเองต้องการแบบเฉพาะเจาะจงไปเลย เช่น คนจะค้นหาคำว่า #น้ำหอมผู้หญิง มากกว่า #น้ำหอม เฉย ๆ เป็นต้น

สรุป วิธีทำ SEO Facebook

และทั้งหมดนี้ก็เป็นขั้นพื้นฐานของวิธีทำ SEO Facebook สำหรับผู้ที่กำลังเริ่มต้นทำการตลาดหรือโปรโมตแบรนด์บนแพลตฟอร์มนี้ ถ้าหากถามว่าการแข่งขันสูงหรือไม่ ก็ต้องตอบตามตรงว่าค่อนข้างสูงไม่แพ้การทำ SEO สำหรับเว็บไซต์เลย เพราะปัจจุบัน การตลาดดิจิทัลได้รับความนิยมมากขึ้น ใคร ๆ ก็หันมาใช้โซเชียลมีเดียในการสร้างการรับรู้แบรนด์ (Brand Awareness) ทำให้ธุรกิจแต่ละอุตสาหกรรมล้วนมีคู่แข่งเยอะกว่าเดิม และต่างคนต่างก็เร่งทำ SEO เพื่อช่วงชิงอันดับต้น ๆ บนหน้าแรกของ Google ให้ได้

อย่างไรก็ดี ต่อให้เราใช้ทั้ง 8 วิธีทำ SEO Facebook ข้างต้นแล้ว แต่หัวใจสำคัญของการทำการตลาดที่จะลืมไปไม่ได้เลยก็คือ “ความสม่ำเสมอ” โดยเราควรหาคอนเทนต์มาโพสต์บ่อย ๆ อาจไม่จำเป็นต้องเป็นรูปสินค้าเสมอไป แค่เป็นคอนเทนต์ที่กระตุ้นให้แฟนเพจเข้ามามีส่วนร่วม (Engagement) เห็นแล้วรู้สึกอยากกดไลก์ กดแชร์ หรือคอมเมนต์ก็ได้ วิธีนี้ นอกจากจะช่วยให้คอนเทนต์ของเรามีโอกาสเป็นไวรัลแล้ว ยังทำให้คนที่เลื่อนฟีดผ่านไปผ่านมารู้ว่าเพจของเรายังมีความเคลื่อนไหว ไม่ใช่เปิดทิ้งไว้เฉย ๆ แล้วไม่มีการอัปเดต หากเป็นเช่นนั้น คนที่พบเห็นอาจรู้สึกไม่อยากซื้อสินค้าหรือใช้บริการได้ แล้วยังมีโอกาสทำให้อันดับ SEO ตกอีกด้วย

แม้การทำ SEO จะใช้เวลานาน แต่ถ้าเราทำอย่างถูกวิธี ก็เชื่อว่าผลลัพธ์ที่ได้จะคุ้มค่าแน่นอน หากใครกำลังมองหาผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมให้ความช่วยเหลือด้านการทำ SEO ทั้งสำหรับเว็บไซต์และโซเชียลมีเดีย ติดต่อ Primal Digital Agency บริษัทรับทำ SEO อันดับหนึ่งของไทย เพื่อพูดคุยและปรึกษากับทีมงานมืออาชีพของเราได้เลย