6 เทรนด์ Mobile Marketing 2023 อยากทำการตลาดบนมือถือต้องรู้!

ในยุคที่เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา และสมาร์ตโฟนถูกพัฒนาให้มีขีดความสามารถเพื่อตอบโจทย์ความสะดวกสบายของผู้ใช้งานมากขึ้น ดังจะเห็นได้จากผลสำรวจของ Global Digital ในปี 2019 ที่ระบุว่า จำนวนผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านโทรศัพท์มือถือทั่วโลกมีมากกว่า 3,986 ล้านคนเข้าไปแล้ว ทำให้หลาย ๆ ธุรกิจเห็นข้อดีของการทำการตลาดในรูปแบบ Mobile Marketing หรือการทำการตลาดบนมือถือเพิ่มมากขึ้น

Mobile Marketing คือการที่แบรนด์ทำกิจกรรมหรือออกโฆษณาใด ๆ ที่ส่งเสริมสินค้าและบริการของตนเองผ่านอุปกรณ์เคลื่อนที่ ไม่ว่าจะเป็นสมาร์ตโฟนหรือแม้แต่แท็บเล็ต โดยใช้ฟังก์ชันหรือฟีเจอร์ที่ทันสมัยในอุปกรณ์เคลื่อนที่นั้น ๆ เพื่อปรับแต่งแคมเปญการตลาดให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายและเหมาะสมกับผู้ใช้งานแต่ละคน นอกจากนี้ Mobile Marketing ยังมีข้อดีที่ตอบโจทย์กับการทำการตลาดยุคนี้มากมาย เพราะสามารถวัดผลได้อย่างรวดเร็ว ใช้ต้นทุนต่ำ และที่สำคัญมีแนวโน้มที่จะได้รับความสนใจจากกลุ่มเป้าหมายอย่างต่อเนื่อง

แต่เมื่อสมาร์ตโฟนถูกพัฒนาอยู่ตลอดเวลา การทำ Mobile Marketing จึงไม่เพียงต้องเข้าใจถึงพฤติกรรมของผู้บริโภคเท่านั้น แต่ยังต้องอัปเดตเทรนด์ใหม่ ๆ ที่เปลี่ยนแปลงไปทุกปี เพื่อให้แผนการโปรโมตเป็นไปอย่างแม่นยำและสามารถดึงดูดลูกค้าให้ได้มากที่สุด

ดังนั้น เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ทางการตลาดที่มีประสิทธิภาพมากสูงสุด เราจะพาคุณไปอัปเดต 10 กลยุทธ์ Mobile Marketing ในปี 2023 ที่นักการตลาดควรต้องรู้ ใครอยากรู้ว่าจะมีแนวโน้มไปในทิศทางไหน บทความนี้มีคำตอบ!

กลยุทธ์ mobile marketing

 

6 เทรนด์ Mobile Marketing ที่นักการตลาดต้องรู้!

1.   หน้าจอเว็บไซต์ต้องรองรับการใช้งานผ่านสมาร์ตโฟนได้

ทุกวันนี้สมาร์ตโฟนเปรียบเสมือนอวัยวะชิ้นที่ 33 เพราะผู้คนใช้โทรศัพท์มือถือค้นหาข้อมูลหรือเข้าเว็บไซต์กันมากขึ้น ดังนั้น ใครที่อยากทำ Mobile Marketing ให้สำเร็จ การดีไซน์และปรับปรุงโครงสร้างเว็บไซต์ให้ง่ายและตอบโจทย์การใช้งานบนมือถือ คือแนวทางสำคัญในการทำการตลาดผ่านหน้าจอสมาร์ตโฟนในปี 2023 นี้ก็ว่าได้ 

สำหรับดีไซน์ของเว็บฯ นักพัฒนาอาจยึดโครงสร้างที่เข้าใจง่ายเป็นหลัก โดยวางแผนผ่านการสำรวจ Customer Journey ของลูกค้า นอกจากนี้ยังควรพัฒนาเว็บไซต์ให้ไวต่อการดาวน์โหลด เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ใช้งานมากที่สุด 

นอกจากนี้ ‘ความเข้าใจง่าย’ ยังเป็นกุญแจสำคัญที่ทำให้ผู้ใช้งานใช้เวลาในเว็บไซต์ของเราได้มากขึ้น ทำให้นักพัฒนาจำเป็นต้องวางแผนการเขียน Copywriting ให้ตรงประเด็น น่าสนใจ และเข้าใจได้ง่าย รวมถึงสามารถใช้งานได้อย่างสะดวกผ่านหน้าจอมือถือ เพราะเมื่อผู้ใช้งานเกิดประสบการณ์ที่ดีในการท่องเว็บไซต์ของคุณแล้ว ก็จะยิ่งทำให้สนใจแคมเปญทางการตลาดที่คุณทำผ่านหน้าจอมากขึ้น ส่งผลให้ยอดขายพุ่งสูงขึ้นตามไปด้วย

2.   พฤติกรรมการใช้งานสมาร์ตโฟนของกลุ่มเป้าหมายเป็นสิ่งสำคัญ

สิ่งที่นักการตลาดทุกคนควรรู้ก็คือ แม้ว่าจะมีการสร้างสรรค์แคมเปญทางการตลาดที่ดีมากแค่ไหน แต่หากทำไม่เหมาะสมกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย ก็อาจไม่สามารถสร้างผลลัพธ์ทางการตลาดอย่างที่ต้องการได้ ดังนั้น ถึงแม้เราจะอัปเดตกลยุทธ์ Mobile marketing 2023 นี้แล้วก็ตาม แต่สิ่งที่นักการตลาดควรทำควบคู่กันไปด้วยก็คือ การทำความรู้จักกับกลุ่มเป้าหมายให้ดีเสียก่อน เพื่อจะได้วางแผนแคมเปญให้เหมาะกับพฤติกรรมของผู้ใช้มือถือมากที่สุด โดยอาจเริ่มจากการตั้งคำถามสำคัญที่เกี่ยวข้องกับพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมาย และลองหาคำตอบนั้น ๆ เช่น

  • กลุ่มเป้าหมายของเราคุ้นเคยกับการใช้งานสมาร์ตโฟนมากน้อยแค่ไหน เป็นกลุ่มคนทันโลกที่ต้องใช้สมาร์ตโฟนรุ่นล่าสุด หรือเป็นคนที่ไม่ได้สนใจกับความก้าวล้ำของเทคโนโลยีมากนัก 
  • กลุ่มเป้าหมายดาวน์โหลดและใช้งานแอปพลิเคชันหรือไม่ หรือพวกเขาน่าจะสนใจแคมเปญที่มาจาก SMS หรือเว็บไซต์โดยตรงมากกว่า 
  • กลุ่มเป้าหมายใช้ระบบปฏิบัติการแบบไหน Android หรือ IOS นอกจากนี้พวกเขาส่วนใหญ่ใช้แพลตฟอร์มอะไร เพื่อให้เราสามารถนำไปใช้วางแผนการสื่อสารข้อมูลได้อย่างตรงจุด
  • กลุ่มเป้าหมายคุ้นเคยกับการรับข้อมูลผ่านทางช่องทางใด เช่น ลิงก์ หรือ QR Code และจะรู้สึกประทับใจกับลักษณะการโฆษณาแบบใด เป็นต้น

3.   ความเร็วอินเทอร์เน็ต 5G

จะเห็นได้ว่าระบบ 5G ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายสำหรับผู้ใช้โทรศัพท์มือถือทั่วโลกในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ดังจะเห็นได้จากผลสำรวจของผู้ใช้งานสมาร์ตโฟนกว่า 47% ที่มีแนวโน้มว่าจะหันมาใช้ระบบ 5G กันทั้งหมด ภายในช่วงสิ้นปี 2022 ต่อเนื่องไปจนถึงปี 2023

เทรนด์การเปลี่ยนแปลงนี้มีผลดีต่อการทำ Mobile Marketing อย่างมาก เพราะการที่ผู้ใช้อุปกรณ์ส่วนใหญ่หันมาใช้ระบบ 5G ก็จะช่วยเปิดโอกาสให้พวกเขาสามารถเข้าถึงแคมเปญการตลาดของผู้ประกอบการที่ใช้เทคโนโลยีล้ำ ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งเห็นได้อย่างชัดเจนก็คือแคมเปญการตลาดที่ใช้เทคโนโลยีเสมือนจริง (AR/VR) ที่หลาย ๆ ธุรกิจเริ่มนำมาใช้งาน โดยเทคโนโลยีนี้ได้จำลองสินค้าบริการ หรือแม้แต่ร้านค้าเสมือนจริงแบบ 3D เอาไว้ เพื่อให้ผู้บริโภครู้สึกว่าได้ไปลองหรือไปดูสินค้านั้น ๆ กับตาตัวเองใกล้ ๆ โดยที่ไม่จำเป็นต้องเข้าไปที่หน้าร้าน ทำให้ผู้บริโภคตัดสินใจซื้อได้เร็วขึ้น จนยอดขายของแบรนด์เพิ่มขึ้นจากการทำการตลาดผ่านหน้าจอมือถือนี้ได้

4.   เทคโนโลยีเสมือนจริงและ Metaverse

เทคโนโลยีเสมือนจริง (AR/VR) และความนิยมของเทรนด์ Metaverse ถือเป็นก้าวสำคัญของการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีที่ส่งผลต่อเทรนด์การทำ Mobile marketing ในปี 2023 เช่นกัน

โดยนักการตลาดคาดการณ์ว่าการเข้ามามีบทบาทของเทคโนโลยีเสมือนจริง (AR/VR) และ Metaverse จะส่งผลให้ผู้บริโภคตอบสนองแคมเปญการตลาดได้มากขึ้น โดยผู้บริโภคมีแนวโน้มจะชื่นชอบแคมเปญทางมือถือที่ออกแบบด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง อีกทั้งยังสนใจเว็บไซต์ที่ใช้เทคโนโลยีเสมือนจริงสร้างภาพจำลองสินค้า รวมถึงถ้าธุรกิจใดนำเทรนด์ Metaverse มาใช้ เพื่อให้ได้สัมผัสกับแคมเปญการตลาดอย่างใกล้ชิดราวกับอยู่ในสถานที่หรือเหตุการณ์นั้น ๆ กลุ่มเป้าหมายก็มีแนวโน้มจะตัดสินใจเป็นลูกค้า หรือแม้แต่บอกต่อความประทับใจให้ลูกค้าคนอื่น ๆ เพิ่มเติมด้วย

ดังนั้น นักการตลาดท่านใดที่สนใจทำ Mobile Marketing แล้ว เทคโนโลยีเสมือนจริงและ Metaverse ถือเป็นเทรนด์สำคัญที่คุณควรโฟกัสมาก ๆ ในตอนนี้

5.   การตลาดบนมือถือจะถูกขับเคลื่อนด้วย AI มากขึ้น

ระบบ Artificial Intelligence หรือ AI ก็เป็น Mobile Marketing อีกเทรนด์หนึ่งที่น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่งเช่นกัน

โดยผู้เชี่ยวชาญจาก MarketsandMarkets คาดการณ์ว่า ในปี 2023 นักการตลาดจะใช้ AI เป็นผู้ช่วยทำแคมเปญโฆษณาผ่านทางสมาร์ตโฟนเพิ่มสูงขึ้นถึง 28% คิดเป็นมูลค่าทางการตลาดกว่า 2.2 พันล้านดอลลาร์สหรัฐเลยทีเดียว

โดยบทบาทหลัก ๆ จะเน้นไปที่การใช้ AI ช่วยจัดการระบบที่เกี่ยวข้องกับข้อมูลลูกค้าทั้งหมด อย่างที่รู้กันดีว่า Google ได้ยกเลิกระบบเก็บข้อมูลใน Third-Party Cookies ทำให้เป็นอุปสรรคต่อการเก็บข้อมูลลูกค้าเพื่อใช้วางแผนการตลาด อย่างไรก็ตาม AI จะเข้ามาเป็นผู้ช่วยสำคัญในเรื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็นการทำหน้าที่เก็บและวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าในรูปแบบใหม่ แบ่งกลุ่มลูกค้า รวมถึงออกแบบแผนการตลาดเฉพาะบุคคล (Personalized Marketing) เพื่อให้นักการตลาดสามารถทำแคมเปญ Mobile Marketing ได้แม่นยำและมีประสิทธิภาพมากที่สุด ดังนั้น ใครที่กำลังคิดอยากจะสร้างแคมเปญ Mobile Marketing อย่าลืมนำ AI มาใช้ประโยชน์กันด้วย

6.   ฟีเจอร์ใหม่ ๆ จากแอปโซเชียลกำหนดทิศทางของ Mobile Marketing ได้

สุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุด โซเชียลมีเดียแพลตฟอร์มต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Youtube หรือ TikTok ก็เป็นหนึ่งในเทรนด์สำคัญที่จะเป็นตัวกำหนดทิศทางการทำ Mobile Marketing ใหม่ ๆ ด้วยเช่นกัน ที่เห็นได้ชัดเจนก็คงเป็นฟังก์ชัน TikTok Shop ของแอปพลิเคชัน TikTok ที่ไม่เพียงส่งผลต่อการทำ Mobile Marketing เท่านั้น แต่ยังมีอิทธิพลสำคัญสำหรับการวางแผนทำแคมเปญโฆษณาของธุรกิจ E-commerce อีกหลายแห่งอีกด้วย ดังนั้น สำหรับใครที่สนใจ Mobile Marketing อาจต้องติดตามเทรนด์และอัปเดตฟีเจอร์ รวมถึงฟังก์ชันใหม่ ๆ ที่พัฒนาขึ้นมาเพื่อใช้ในแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียต่าง ๆ อยู่เสมอ เพื่อจะได้นำมาปรับใช้ให้เหมาะกับกลยุทธ์ Mobile Marketing ของตนเองอย่างมีประสิทธิภาพและแม่นยำมากที่สุด 

อัปเดต mobile marketing 2023

 

สรุป

จะสังเกตได้ว่า หลาย ๆ เทรนด์ของ Mobile Marketing ปี 2023 ส่วนใหญ่จะเกี่ยวข้องกับการพัฒนาเทคโนโลยีและการเปลี่ยนแปลงของโลกดิจิทัลโดยตรง ดังนั้น ผู้ประกอบการทุกคนจึงควรหมั่นอัปเดตเทรนด์ที่น่าสนใจ สร้างสรรค์คอนเทนต์ใหม่ ๆ ให้เหมาะกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย รวมถึงทำความเข้าใจพฤติกรรมการใช้มือถือของพวกเขาอย่างลึกซึ้ง เพียงเท่านี้ก็จะช่วยให้การทำ Mobile Marketing มีประสิทธิภาพและให้ผลลัพธ์ทางการตลาดตามที่ตั้งเป้าไว้ได้แล้ว

แต่สำหรับใครที่ไม่รู้ว่าจะนำเทรนด์ Mobile Marketing 2023 มาวางแผนธุรกิจอย่างไรให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุด Primal Digital Agency มีนักการตลาดกว่า 150 คน ที่มีความเชี่ยวชาญโดยตรง และสามารถช่วยคุณในทุกเสต็ปกับการทำ Marketing Online หากพร้อมเดินหน้าไปสู่เป้าหมายแห่งความสำเร็จ สามารถกรอกรายละเอียดเพื่อรับแผนการตลาดฟรีจากเราได้เลย!