เจาะลึก 12 SEO Tools ยอดนิยม สำหรับนักการตลาดดิจิทัลมืออาชีพ
เมื่ออยู่ในยุคที่การทำธุรกิจออนไลน์มีการแข่งขันสูงลิ่ว สิ่งที่หลายแบรนด์ทำคือ การใช้เทคนิค SEO เพื่อผลักดันให้เว็บไซต์ของตนเองขึ้นไปอยู่อันดับต้น ๆ บนหน้าแรกของ Google โดยไม่ต้องซื้อพื้นที่โฆษณา ซึ่งปัจจุบันมีเครื่องมือที่ทำให้เว็บติดอันดับแรก ๆ หลายตัวที่จะช่วยให้คุณสามารถทำ SEO ได้ง่ายขึ้น
มาดูกันว่ามีเครื่องมือ SEO (SEO Tools) ตัวไหนบ้างที่น่าสนใจ และเหมาะสำหรับการนำไปใช้เพื่อเพิ่มยอดแทรฟฟิก รวมถึงปรับปรุงประสิทธิภาพเว็บไซต์ให้ตอบโจทย์ทั้งผู้อ่านที่เป็นมนุษย์และอัลกอริทึม
Table of Contents
SEO Tools คืออะไร ?
SEO Tools คือ เครื่องมือ SEO ที่เป็นซอฟต์แวร์หรือบริการออนไลน์ ช่วยให้เจ้าของเว็บไซต์และนักการตลาดดิจิทัลสามารถปรับปรุงเว็บไซต์ให้ดียิ่งขึ้น โดยโปรแกรม SEO เหล่านี้มีคุณสมบัติและฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลาย เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำ SEO ในด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น
- การทำ Keyword Research
- การวิเคราะห์เนื้อหา โครงสร้าง และ Meta Data ของเว็บไซต์ เพื่อให้คำแนะนำในการปรับปรุงเนื้อหา
- การตรวจสอบองค์ประกอบทางเทคนิคของเว็บไซต์ เช่น Broken Link, Page Speed
- การระบุตำแหน่งที่มีศักยภาพในการสร้าง Backlink พร้อมวิเคราะห์ลิงก์
- การติดตามอันดับการค้นหาของเว็บไซต์สำหรับคีย์เวิร์ดหนึ่ง ๆ
- การวิเคราะห์กลยุทธ์ SEO และผลการดำเนินงานของเว็บไซต์คู่แข่ง
แนะนำ 12 เครื่องมือ SEO ฟรี ช่วยเพิ่มยอดออร์แกนิกแทรฟฟิก
1. Ubersuggest
หากพูดถึงโปรแกรม SEO ที่สามารถช่วยวิเคราะห์และประเมินคุณภาพ SEO บนเว็บไซต์ และกำลังได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก จะไม่พูดถึง Ubersuggest คงไม่ได้ ซึ่งนอกจากจะรู้จักกันในฐานะเครื่องมือ SEO ฟรีแล้ว Ubersuggest ยังมีแบบพรีเมียม เพื่อให้นักการตลาดที่ต้องการใช้ฟีเจอร์อื่น ๆ แบบไม่อั้นจากเครื่องมือนี้ได้สมัครใช้งานอีกด้วย บอกเลยว่าคุ้มค่าสุด ๆ เพราะเจ้าโปรแกรม SEO ตัวนี้ มีคุณสมบัติในการช่วยทำ Keyword Research หรือจะใช้ดู Top SEO Pages เพื่อหาไอเดียสำหรับเขียนคอนเทนต์ก็สามารถทำได้ง่ายและสะดวก แล้วยังไม่รวมถึงการช่วยทำ Site Audit และ SEO Analysis ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นอีกด้วย
ทดลองใช้ Ubersuggest : https://neilpatel.com/ubersuggest/
2. Ahrefs
อีกหนึ่งเครื่องมือ SEO ฟรีที่นักการตลาดนิยมนำมาใช้ทำ Keyword Research, Link Building, SERP & Ranking Insights ทั้งยังมีฟีเจอร์อื่น ๆ ที่สามารถช่วยวิเคราะห์เว็บไซต์ ไปจนถึงให้คำแนะนำในการสร้างและปรับปรุงเนื้อหาบนหน้าต่าง ๆ เพื่อพัฒนาเว็บไซต์ให้สอดคล้องกับหลักเกณฑ์ของ SEO ช่วยเพิ่มโอกาสติดอันดับบนหน้าแรกของ Search Engine ได้ตามที่ต้องการ
ทดลองใช้ Ahrefs : https://app.ahrefs.com/
3. Surfer SEO
เป็นหนึ่งใน SEO Tools ที่หลายคนน่าจะเคยได้ยินชื่อมานานแล้ว แต่ยังไม่เคยลองใช้ หรืออาจเคยใช้แล้วแต่รู้สึกว่าฟีเจอร์น้อย ไม่ตอบโจทย์ ขอบอกว่าปีนี้ Surfer SEO เขาพัฒนาฟีเจอร์หลายอย่างจนครบจบในโปรแกรมเดียวแล้ว ! จากที่หลัก ๆ ช่วยวางแผนการเขียนคอนเทนต์ให้เป็นไปอย่างมีคุณภาพ ตอนนี้ก็มีฟีเจอร์ AI ที่จะเข้ามาช่วยสร้างเนื้อหาจากคีย์เวิร์ดที่เราป้อนลงไปได้อย่างเป็นธรรมชาติ ทั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ นอกจากนี้ ยังสามารถทำ Keyword Research ติดตามเว็บไซต์คู่แข่ง ทำ Content Planner และ Site Audit ได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย
ทดลองใช้ Surfer SEO : https://surferseo.com/
4. MozBar (Chrome Extension)
MozBar เป็นโปรแกรม SEO ที่ช่วยเช็กโครงสร้าง On-page SEO ทั้งเรื่องการเขียน Title, Meta Description ไปจนถึง H2, H3, H4 ฯลฯ โดยเครื่องมือตัวนี้จะมีลักษณะเป็น Chrome Extension ให้คุณใช้งานได้ง่าย ๆ บน Google Chrome และที่สำคัญเป็นเครื่องมือ SEO ฟรี ! ดังนั้น คุณจึงสามารถเช็ก อ่านค่า Page Analysis, Page Optimisation, PA/DA ไปจนถึง Spam Score ได้โดยที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใด ๆ และไม่ต้องกดเข้าโปรแกรมอะไรให้ยุ่งยากเลย
ทดลองใช้ MozBar : https://moz.com/products/pro/seo-toolbar
5. Screaming Frog SEO Spider
โปรแกรม SEO ฟรีที่สามารถทำการประเมินภาพรวม (Overall) เว็บไซต์ของคุณ โดยจะรวมทุก ๆ URL ในเว็บไซต์ที่สามารถวิเคราะห์ได้ เช่น Page Title, Meta Description, Alt Tag, Duplicate Content และอื่น ๆ ที่จำเป็นต่อการปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ เพื่อให้เว็บไซต์มีความเป็น SEO Friendly มากขึ้น แต่จะจำกัดการตรวจสอบได้ 500 URLs ต่อ 1 เว็บไซต์ ถ้าต้องการมากกว่านี้จะต้องเสียค่าใช้จ่าย
ทดลองใช้ Screaming Frog SEO Spider : https://www.screamingfrog.co.uk/seo-spider/
6. PageSpeed Insights
เครื่องมือ SEO ฟรีจาก Google ที่ให้คุณสามารถตรวจสอบความเร็วหน้าเว็บไซต์พร้อมการวินิจฉัยเว็บฯ อย่างละเอียด โดยจะมีการให้คะแนนคุณภาพ ได้แก่ คะแนน 0-49 แย่มาก, 50-89 ต้องการการปรับปรุงแก้ไข และ 90-100 ถือว่าดี แต่การตรวจสอบบนเครื่องมือนี้จะขึ้นอยู่กับองค์ประกอบอื่น ๆ ด้วย เช่น ความเร็วของอินเทอร์เน็ตขณะที่กำลังทำการตรวจสอบอยู่ เครื่องคอมพิวเตอร์ บราวเซอร์ที่ใช้ ฯลฯ ล้วนมีผลต่อคะแนนที่จะแสดงบนระบบทั้งสิ้น ดังนั้น จึงไม่ต้องแปลกใจหากคุณทำการตรวจสอบซ้ำกันหลายครั้งแล้วข้อมูลไม่ตรงกัน
ทดลองใช้ PageSpeed Insights : https://pagespeed.web.dev/
7. Similarweb
อีกหนึ่งเครื่องมือที่ทำให้เว็บติดอันดับแรก ๆ มีไว้สำหรับเข้าไปดูข้อมูลเชิงลึก (Insight) ของแต่ละเว็บไซต์ รวมถึงคู่แข่งของคุณได้ โดยการใส่ URL ที่ต้องการเช็กลงไป แล้วระบบจะแสดงผลลัพธ์จำพวก เว็บไซต์ที่มีลักษณะคล้ายคลึงกันขึ้นมา หรืออาจจะเป็นคู่แข่งที่มีลักษณะเว็บไซต์คล้าย ๆ กับคุณ นอกจากนี้ Similarweb ยังสามารถดูรายละเอียดสำหรับการวางแผนคีย์เวิร์ดในงานฝั่ง SEO ได้อีกด้วย เนื่องจากเป็นการแสดงข้อมูลแบบเปรียบเทียบกับเว็บไซต์ที่คุณต้องการ ทำให้คุณเห็นภาพได้กว้างมากขึ้น และศึกษาได้ว่าควรจะเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพเว็บไซต์ที่ส่วนไหนเป็นอันดับแรก
ทดลองใช้ Similarweb : https://www.similarweb.com/
8. AccuRanker
เป็นหนึ่งในเครื่องมือ SEO ที่เกี่ยวข้องกับการ Tracking Keyword หรือติดตามคำค้นหาของเว็บไซต์ โดยสามารถเทียบช่วงเวลาได้ตามต้องการ โดยคุณจะเห็นอันดับ (Ranking) ทั้งขึ้นและลง ไปจนถึงการดูข้อมูลในแต่ละหน้า URL รวมทั้งสามารถดูข้อมูลในรูปแบบกราฟกับแต่ละคีย์เวิร์ด เพื่อให้เห็นประสิทธิภาพของคำนั้น ๆ ในแต่ละช่วงเวลาได้ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับนักการตลาดที่ต้องการวิเคราะห์และหาความสัมพันธ์ของคีย์เวิร์ดต่าง ๆ ว่าควรจะปรับปรุงแก้ไขหรือเพิ่มเติมอะไรจากผลลัพธ์ที่แสดงออกมานี้
ทดลองใช้ AccuRanker : https://www.accuranker.com/
9. Semrush
ยังคงอยู่ในเรื่องของคีย์เวิร์ด กับเครื่องมือ SEO ฟรีที่จะช่วยให้คุณสามารถวิเคราะห์คีย์เวิร์ด รวมถึงคอนเทนต์ของคู่แข่ง โดยจะเป็นการนำข้อมูลมาจัดเรียงให้เห็นภาพมากขึ้น ทำให้ง่ายต่อการนำข้อมูลเหล่านั้นมาใช้งาน
ทดลองใช้ Semrush : https://www.semrush.com/
10. Google Search Console
เครื่องมือ SEO จาก Google ที่สามารถดูภาพรวมประสิทธิภาพเว็บไซต์ได้ ไม่ว่าจะเป็นการดูข้อมูลว่ามียอด Clicks หรือ Impression เท่าไร การหาค่าเฉลี่ยตำแหน่งที่เว็บไซต์ของคุณอยู่ ณ ช่วงเวลานั้น ๆ การดูข้อมูลแยกตามเครื่องมือที่ใช้และประเทศที่คนเข้ามาบนเว็บไซต์ นอกจากนี้ ยังสามารถเห็นได้ด้วยว่ามีส่วนไหนเกิด Error และต้องจัดการหรือปรับปรุงเว็บไซต์ตรงส่วนไหน เพื่อให้อัลกอริทึมของ Google สามารถทำงานได้ดีขึ้น และเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพให้ Google จัดอันดับเว็บไซต์ของคุณได้ดีขึ้นด้วย
ทดลองใช้ Google Search Console : https://search.google.com/search-console/welcome
11. Google Keyword Planner
หนึ่งในเครื่องมือ SEO ฟรีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดสำหรับการทำ Keyword Research โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับธุรกิจที่ต้องการเจาะลึกข้อมูลการค้นหาในตลาดเป้าหมาย โดยโปรแกรม SEO นี้เชื่อมโยงโดยตรงกับ Google Ads ทำให้สามารถตรวจสอบปริมาณการค้นหา (Search Volume) ของคีย์เวิร์ดต่าง ๆ ได้อย่างแม่นยำ รวมถึงระดับการแข่งขัน (Keyword Competition) และต้นทุนต่อคลิก (Cost Per Click – CPC) ในกรณีที่ต้องการใช้สำหรับโฆษณาแบบเสียค่าใช้จ่าย
ทดลองใช้ Google Keyword Planner : https://chromewebstore.google.com/detail/keyword-planner/ohffmmbmebhcljgcdijjlepjaoladfag
12. Yoast SEO
ปลั๊กอินสำหรับผู้ใช้งาน WordPress ซึ่งถือเป็นตัวช่วยที่ขาดไม่ได้สำหรับการทำ On-page SEO โดยตัวปลั๊กอินนี้ออกแบบมาเพื่อช่วยปรับปรุงโครงสร้างและเนื้อหาของเว็บไซต์ให้เหมาะสมกับหลักเกณฑ์ของ Search Engine เป็นเครื่องมือที่ทำให้เว็บติดอันดับแรก ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจาก Yoast SEO มาพร้อมฟีเจอร์ที่ครบครัน เช่น การปรับแต่ง Meta Title และ Meta Description การตรวจสอบการใช้คีย์เวิร์ดในเนื้อหา การวิเคราะห์ความยาวของคอนเทนต์ และคำแนะนำการปรับปรุง Internal และ External Links นอกจากนี้ ยังมีการประเมินคะแนน SEO ผ่านระบบสีไฟจราจร (แดง เหลือง เขียว) ทำให้คุณสามารถทราบได้ทันทีว่าส่วนใดของหน้าเว็บต้องปรับปรุงเพื่อให้เหมาะสมกับ SEO
ทดลองใช้ Yoast SEO : https://yoast.com/wordpress/plugins/seo/
ไม่ต้องลองผิดลองถูกอีกต่อไป ถ้าให้ Primal ช่วยคุณพิชิตหน้าแรก
SEO Tools เหล่านี้ล้วนมีคุณสมบัติและจุดแข็งที่แตกต่างกัน ดังนั้น เจ้าของเว็บไซต์และนักการตลาดดิจิทัลมืออาชีพจึงควรใช้เครื่องมือ SEO หลาย ๆ ตัวควบคู่กันไป เพื่อให้ได้ความเข้าใจที่ครอบคลุมเกี่ยวกับผลการดำเนินงาน SEO และโอกาสในการปรับปรุงเว็บไซต์อย่างละเอียดและแม่นยำมากที่สุด
หากคุณต้องการดันอันดับเว็บไซต์ให้ติดหน้าแรก แต่ไม่มีประสบการณ์ด้านการทำ SEO มาก่อน หรือมีความเข้าใจในด้านนี้ยังไม่เพียงพอ ที่ Primal เราเป็น SEO Agency ที่ให้บริการรับทำ SEO โดยผู้เชี่ยวชาญ พร้อมดูแลธุรกิจของคุณเหมือนธุรกิจของเราเอง กรอกฟอร์มเพื่อติดต่อเราได้เลยวันนี้
Join the discussion - 0 Comment