รวมโปรแกรมค้นหา Keyword ตัวช่วยสำคัญสำหรับการทำ SEO

สิ่งที่สำคัญอันดับแรกของการทำ SEO ก็คือการค้นหา Keyword ที่มีประสิทธิภาพ เพื่อนำมาสร้างคอนเทนต์ใหม่ ๆ และผลักดันให้เว็บไซต์ติดอันดับการค้นหาหน้าแรกบน Search Engine และเพื่อให้คุณเดินไปถึงเป้าหมายนี้ Digital Tips ขอรวบรวมโปรแกรมค้นหา Keyword ยอดฮิตที่คนทำ SEO ต้องใช้ มีทั้งแบบฟรีตลอดชีพ และแบบที่ต้องอัปเกรดเวอร์ชัน โปรแกรมไหนจะเหมาะกับธุรกิจของคุณมากกว่ากัน ศึกษาข้อมูลดูก่อนค่อยตัดสินใจ !

Google Keyword Planner – โปรแกรมที่จำเป็นสำหรับการทำ SEO

นักการตลาดหลาย ๆ คนที่เริ่มทำ SEO มักจะเริ่มจาก Google Keyword Planner ด้วยกันทั้งสิ้น ด้วยเชื่อกันว่า “การหาข้อมูลเพื่อยิงแอดในแพลตฟอร์มนั้น ๆ จากเจ้าของแพลตฟอร์มเอง ย่อมได้ข้อมูลที่แม่นยำมากกว่า” อย่างไรก็ดี Google Keyword Planner ถือเป็นเครื่องมือที่ใช้งานง่าย เพียงกรอก Keyword ที่คุณคิดว่าเกี่ยวกับธุรกิจของคุณลงไป จากนั้น Filter เวลา และ Location ระบบจะคำนวณ Search Volume หรือปริมาณการค้นหาของ Keyword นั้น ๆ พร้อมแนะนำ Keyword ที่ใกล้เคียงกันมาให้อีกด้วย

Google Keyword Planner สามารถใช้งานได้ฟรี และคุณจำเป็นต้องมีเว็บไซต์ก่อน แต่สำหรับมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มวางแผนการทำ SEO และยังไม่มีเว็บไซต์ คุณก็สามารถใช้งาน Google Keyword Planner ได้ เพียงสมัครใช้งาน Google Ads ด้วย Gmail และเลือกสมัครโดยไม่สร้างแคมเปญ แต่มีข้อจำกัดคือ ระบบจะคำนวณ Search Volume ให้เป็นค่าประมาณ ไม่ใช่จำนวนที่แท้จริง

Ubersuggest

ใครกำลังตามหาโปรแกรมที่ใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน และไม่จำเป็นต้องสมัครสมาชิกก่อนให้ยุ่งยาก Ubersuggest คือหนึ่งในช่องทางที่เหมาะกับคุณ เพียงคลิกเข้าชมเว็บไซต์ Ubersuggest กรอก Keyword ที่คุณต้องการ แล้วเลือก Location ระบบจะแสดง Search Volume ของคำ ๆ นั้นให้ดูทันที อย่างไรก็ดี Ubersuggest เปิดให้ใช้งานฟรีเพียง 3 Keyword ต่อวันเท่านั้น หากจำเป็นต้องใช้งานมาก ต้องอัปเกรดเป็นพรีเมียมสถานเดียว !

Keywordtool.io

ความโดดเด่นของ Keywordtool.io คือ ความสามารถในการค้นหา Related Keyword ได้ทีละหลายร้อยคำ แต่สำหรับเวอร์ชันฟรีจะมีข้อจำกัดเช่นเดียวกับ Ubersuggest เพราะสามารถใช้งานได้เพียง 3 Keyword ต่อวัน และหากอยากทราบ Search Volume ของ Related Keyword ที่หามาได้ให้ทุกคำ ต้องอัปเกรดเป็นพรีเมียมเท่านั้น ด้วยเหตุนี้ คนที่เพิ่งเริ่มหัดทำ SEO หลาย ๆ คน จึงใช้วิธีหา Main Keyword และ Related Keyword จาก Keywordtool.io แล้วค่อยนำ Keyword เหล่านี้ ไปใส่ใน Google Keyword Planner เพื่อประมาณการจำนวน Search Volume

KWFinder

โดยทั่วไป KWFinder จะเหมาะกับการค้นหา Long-tail Keyword แต่หากคุณอยากลองใช้งานโปรแกรมนี้ ต้อง Create Account กับทาง Mangools เจ้าของเว็บไซต์ เพื่อลงทะเบียนทดลองใช้งานฟรี 10 วันก่อน อย่างไรก็ดี การลงทุนกับแพลตฟอร์มนี้ นอกจากจะได้ค้นหา Keyword และ Search Volume อย่างไม่จำกัดแล้ว คุณยังสามารถดู Keyword Difficulty (KD) หรือ ความยากในการติด SEO ด้วย Keyword นั้น ๆ ได้อีกด้วย

Keyword Generator – เปิดโลกการทำ SEO กับ Ahrefs

โปรแกรมสุดท้ายที่จะแนะนำในบทความนี้ คือ Keyword Generator สุดยอดโปรแกรมฟรีจากค่าย Ahrefs ความพิเศษของโปรแกรมนี้ คือ คุณสามารถกรอก Keyword เลือก Location เพื่อดู Search Volume และ Keyword Difficulty ได้เช่นเดียวกับ KWFinder (สามารถดูได้เป็นบางคำ) นอกจากนี้ Keyword Generator ยังสามารถ Support การทำ SEO บนช่องทางอื่น ๆ นอกจาก Google ได้ จึงช่วยให้คุณสามารถวางแผนการทำ SEO ได้รอบด้านยิ่งขึ้น

สรุป

เมื่อการทำ SEO ดำเนินการขึ้นอย่างเป็นระบบแล้ว ทุกธุรกิจจำเป็นที่จะต้องวางแผนงบประมาณ เพื่อซื้อเครื่องมือที่จำเป็น ซึ่งหมายรวมถึงเครื่องมือในการค้นหา Keyword ที่มีคุณภาพเหล่านี้ด้วย บทความนี้จึงเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจ ก่อนทดลองใช้และตัดสินใจทุ่มงบประมาณ เพื่อพัฒนาการทำ SEO ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด