7 วิธีโปรโมตเว็บไซต์ ไม่ยากถ้าอยากให้คนเข้ามาดูเยอะ ๆ

ปัจจุบัน ไม่ว่าธุรกิจรูปแบบใดก็ต้องหันมาใส่ใจเรื่องการทำ Digital Marketing หรือการตลาดออนไลน์ให้มากขึ้น เพราะอินเทอร์เน็ตเข้ามามีบทบาทในการใช้ชีวิตของมนุษย์เป็นอย่างมาก ส่งผลให้พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนมาค้นหาสินค้าและบริการที่ต้องการผ่านช่องทางออนไลน์ คนทำธุรกิจจึงต้องให้ความสำคัญกับการทำเว็บไซต์เป็นหลัก เนื่องจากเว็บไซต์เปรียบเสมือนหน้าตาของแบรนด์ ซึ่งจะบ่งบอกตัวตน รวมไปถึงสินค้าและบริการของธุรกิจนั้น ๆ

ทว่าในการทำเว็บไซต์นั้น ไม่ใช่ทุกเว็บไซต์จะถูกค้นหาจนเจอ เพราะเมื่อหลาย ๆ ธุรกิจต่างก็หันมาทำการตลาดออนไลน์ ทำให้คู่แข่งในตลาดมีมากขึ้น สิ่งที่ผู้ประกอบการควรทำคือ “การโปรโมตเว็บไซต์” ให้เป็นที่รู้จักบนโลกอินเทอร์เน็ตเสียก่อน โดยการโปรโมตเว็บไซต์ถือเป็นขั้นตอนที่เป็นหัวใจของการทำธุรกิจทีเดียว เพราะถ้าหากเว็บไซต์ของเราได้รับการโปรโมตที่ดี ก็จะเป็นการเพิ่มโอกาสให้มีคนเข้ามาเยี่ยมชมที่เว็บไซต์เรามากขึ้น แต่หากไม่ได้รับการโปรโมต หรือโปรโมตผิดวิธี การพาคนเข้ามาสู่เว็บไซต์ของเราก็จะเป็นเรื่องที่ยาก

ดังนั้น บทความนี้จะมาแนะนำ “7 วิธีโปรโมตเว็บไซต์” แบบง่าย ๆ ที่ใคร ๆ ก็ทำได้ และพิสูจน์มาแล้วว่าเห็นผลจริง !

7 วิธีโปรโมตเว็บไซต์ เพิ่มยอด Organic Traffic แบบปัง ๆ

1. โปรโมตเว็บไซต์ผ่านโซเชียลมีเดีย

สมัยนี้ ไม่ว่าใครก็ต้องมีโซเชียลมีเดียกันคนละอย่างน้อยหนึ่งแพลตฟอร์ม การโปรโมตเว็บไซต์ผ่านโซเชียลมีเดียจึงเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยมมาก เพราะมั่นใจได้ว่าถูกมองเห็นอย่างแน่นอน โดยการจะเลือกใช้โซเชียลมีเดียนั้น ต้องดูด้วยว่าแบรนด์ของเรามีกลุ่มเป้าหมายเป็นใคร เหมาะกับแพลตฟอร์มใด เพราะแต่ละช่องทางก็จะให้ผลลัพธ์ที่แตกต่างกัน ด้วยพฤติกรรมและช่วงอายุของผู้ใช้งาน รวมถึงฟังก์ชันของแต่ละแอปฯ ที่มีวัตถุประสงค์ต่างกันด้วย

ตัวอย่างโซเชียลมีเดียที่นิยมใช้ในการโปรโมตเว็บไซต์ ได้แก่

Facebook (Meta)

• เป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่มียอดผู้ใช้งานสูงที่สุดในโลกตลอดกาล
• ปัจจุบัน ระยะเวลาในการใช้งานแอปฯ ของผู้ใช้งานลดลงจากในอดีตมาก กล่าวคือ จะเข้ามาแค่แป๊บ ๆ เช็กข่าวสารหรือดูคอนเทนต์ต่าง ๆ เพียงไม่นานก็ออกไปเล่นแอปฯ อื่น
• กลุ่มเป้าหมายจะมีตั้งแต่ช่วงวัยทำงานไปจนถึงช่วงอายุ 60 ปีเลยทีเดียว
• สามารถทำเป็นคอนเทนต์แบบโพสต์ทั่วไป ที่มีการใช้รูปภาพประกอบแค็ปชัน หรืออินโฟกราฟิกสวย ๆ เพื่อโปรโมตแบรนด์
• มีฟีเจอร์ Facebook Ads ที่เปิดโอกาสให้เหล่าธุรกิจได้ซื้อพื้นที่โฆษณา เพื่อเพิ่มยอดการมองเห็นและการมีส่วนร่วม (Engagement) ที่มากขึ้น อันจะนำไปสู่โอกาสในการขายที่มากขึ้นตามไปด้วย

Instagram

• ภาพรวมของแอปพลิเคชันมีความสดใหม่กว่า มีลูกเล่นเยอะกว่า Facebook
• สามารถลงได้ทั้งแบบเป็นโพสต์ สตอรี และ Reels ตามความถนัดในการทำคอนเทนต์ของแต่ละคน และภาพลักษณ์ที่แต่ละแบรนด์อยากจะสื่อ
• Instagram เป็นช่องทางที่เอื้อต่อการควบคุม CI ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน เช่น การคุมโทนไอจีให้เป็นสไตล์ที่เราต้องการ ไม่ว่าจะเป็นแบบมินิมัล แบบพาสเทลหวาน ๆ หรือแบบหรูหรา
• สามารถจ้างอินฟลูเอนเซอร์เพื่อช่วยโปรโมตเว็บไซต์ให้เราได้
• เหมาะสำหรับแบรนด์ที่มีกลุ่มเป้าหมายเป็นวัยรุ่นและวัยทำงาน

YouTube

• มียอดผู้ใช้งานมากเป็นอันดับสองรองจาก Facebook
• เน้นคอนเทนต์วิดีโอเป็นหลัก
• สามารถโปรโมตเว็บไซต์บน YouTube ได้ด้วยการซื้อพื้นที่โฆษณา หรือ YouTube Ads ซึ่งมีหลายรูปแบบให้เลือกสรร ไม่ว่าจะเป็น
  • Display Ads (โฆษณาแบนเนอร์ขนาดเล็ก)
  • Overlay In-Video Ads (แบนเนอร์สี่เหลี่ยมผืนผ้าที่ปรากฏในวิดีโออื่น)
  • TrueView In-Stream Ads (คลิปโฆษณาความยาวตั้งแต่ 5 วินาทีขึ้นไป)
  • TrueView In-Display Ads (วิดีโอเล็กที่ปรากฏอยู่ใต้วิดีโอหลัก)
  • TrueView In-Search Ads (ข้อความโฆษณาที่อยู่บนอันดับแรกของหน้าการค้นหาบน YouTube)
• สามารถทำคอนเทนต์วิดีโอโปรโมตแบรนด์ แล้วกระตุ้นให้ผู้ชมรู้สึกอยากคลิกลิงก์เข้ามาที่เว็บไซต์ของเรา โดยที่ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการซื้อพื้นที่โฆษณาก็ได้

TikTok

• TikTok แอปพลิเคชันที่เน้นคอนเทนต์วิดีโอสั้น กำเนิดขึ้นทีหลัง แต่ความนิยมมาแรงแซงทุกโค้ง ได้แก่
• มีกลุ่มผู้ใช้งานหลากหลายมาก ตั้งแต่อายุ 18-24 ตามด้วย 13-17 ปี และ 25-34 ปีตามลำดับ
• จุดแข็งคือความแม่นยำของอัลกอริทึม ที่จะเลือกวิดีโอที่ตรงกับความต้องการของผู้ใช้งานมาขึ้นหน้าฟีดของแต่ละคน ดังนั้น จึงมั่นใจได้ในระดับหนึ่งว่า การโปรโมตเว็บไซต์บน TikTok จะทำให้ผู้ที่เห็นคอนเทนต์ของเราเป็นกลุ่มเป้าหมายของเราจริง ๆ
• สามารถเลือกใช้เพลงฮิต ณ ช่วงเวลานั้น ๆ ในการประกอบวิดีโอเพื่อทำให้คอนเทนต์มีผู้มองเห็นมากขึ้น

LINE OA

• ธุรกิจต่าง ๆ สามารถใช้ LINE OA หรือ LINE Official Account ในการโปรโมตเว็บไซต์ได้ ผ่านการ Broadcast ไปยังไลน์ของลูกค้าที่แอดเราเป็นเพื่อน
• สามารถทำได้ทั้งแนบลิงก์เว็บไซต์ไปกับรูปภาพ แนบไปกับข้อความ หรือจะทำเป็น Rich Menu ที่ลิงก์ไปยังหน้าเว็บไซต์ของเราก็ได้เช่นกัน

2. โปรโมตเว็บไซต์ด้วยการทำ Email Marketing

แม้จะเป็นวิธีที่ค่อนข้างเก่า แต่ Email Marketing ก็ยังใช้ได้ผลเสมอมา เพียงแค่เราต้องเขียนหัวข้ออีเมล (Subject) ให้ดูน่าเปิดอ่าน และกระตุ้นความน่าสนใจจากกลุ่มเป้าหมาย แต่อย่าลืมศึกษาให้ดีก่อนว่าเราจะส่งหาคนกลุ่มไหน จุดประสงค์ในการส่งเพื่ออะไร และไม่ควรส่งถี่ ๆ เพราะแทนที่จะได้ผล อาจทำให้ผู้รับเกิดความรำคาญและมองว่าเราเป็นสแปม (Spam) ได้

3. โปรโมตเว็บไซต์ด้วยการทำ Google My Business

หากเป็นธุรกิจที่มีหน้าร้านหรือออฟฟิศ แนะนำให้ใส่ข้อมูลธุรกิจเพื่อปักหมุดสถานที่ตั้งเอาไว้ใน Google My Business เมื่อใส่แล้ว เวลาที่มีคนค้นหาชื่อธุรกิจของเรา Google Maps ก็จะสามารถหาที่ตั้งของเราเจอ แล้วยังเพิ่มความน่าเชื่อถือได้อีกด้วย

4. โปรโมตเว็บไซต์ด้วยการเขียนรีวิว

รีวิวในที่นี้ คือ การรีวิวเว็บไซต์ของเราว่าเป็นเว็บไซต์เกี่ยวกับอะไร มีจุดประสงค์เพื่ออะไร และทำไมจึงควรเข้ามา โดยเราอาจจะเขียนเองแล้วนำไปลงเว็บไซต์หรือบทความอื่น ๆ หรือจะเป็นการจ้างคนอื่นเขียนก็ได้ แต่ช่วงแรก ๆ ที่ยังไม่ค่อยมีใครรู้จักแบรนด์ของเรามากนัก ก็อาจจะต้องอาศัยการเขียนรีวิวตัวเองไปก่อน แล้วหลังจากนั้น เมื่อเรามีลูกค้ามากขึ้น หากสินค้าและบริการของเราดีจริง ก็จะมีคนช่วยรีวิวให้เราเอง โดยที่เราไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการโปรโมตเว็บไซต์ หรือที่เรียกว่าเป็น User-Generated Content (UGC) นั่นเอง

5. โปรโมตเว็บไซต์ด้วยการทำ Google Ads

สมัยนี้ ไม่ว่าจะอยากรู้ อยากหาคำตอบ หรืออยากซื้ออะไร แค่กดเข้า Google ก็ได้ทุกอย่างที่ต้องการ ดังนั้น Google จึงถือเป็นช่องทางหนึ่งที่เหมาะแก่การโปรโมตเว็บไซต์เป็นอย่างยิ่ง เพราะเวลาที่ผู้ใช้งานเซิร์ชหาคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของเรา พวกเขาก็จะเข้ามาใน Google เป็นอย่างแรก ซึ่งถ้าหากเราอยากให้เว็บไซต์โดดเด่น ขึ้นอยู่บนลำดับต้น ๆ ของหน้าผลการค้นหาแบบรวดเร็วทันใจ ก็แนะนำให้ใช้วิธีซื้อพื้นที่โฆษณา หรือที่รู้จักกันในชื่อ Google Ads คราวนี้รับรองว่าจะมีคนเห็นเว็บไซต์ของเรามากขึ้น อันจะส่งผลให้มียอด Organic Traffic เพิ่มขึ้นตามไปด้วยอย่างแน่นอน

6. โปรโมตเว็บไซต์ด้วยการทำ SEO

สำหรับใครที่ไม่อยากเสียเงิน หรือยังไม่มีงบประมาณพอสำหรับการทำ Google Ads อีกหนึ่งกลยุทธ์ที่เหล่าธุรกิจทั้งหลายพลาดไม่ได้ก็คือการทำ SEO (Search Engine Optimisation) หรือการปรับแต่งเว็บไซต์ให้ตรงตามหลักที่ Google กำหนด และมีหัวใจสำคัญคือการใช้คีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องในการเขียนคอนเทนต์ ซึ่งข้อดีของการทำ SEO คือ ไม่มีค่าใช้จ่าย แต่ข้อจำกัด คือ อาจต้องใช้ระยะเวลา 3-6 เดือน ในการให้ Google ได้เข้ามาสำรวจเว็บไซต์ของเรา (Crawl) แล้วนำไป Index เพื่อรอจัดอันดับ ว่าเว็บไซต์ไหนมีคุณภาพมากที่สุด ก็จะให้เว็บไซต์นั้นขึ้นเป็นอันดับแรก ๆ 

กระนั้น ก็ไม่มีอะไรมารับประกันได้ว่าเว็บไซต์เราจะติดอันดับหรือไม่ หรือจะได้ขึ้นเป็นอันดับที่เท่าไร ดังนั้น การทำ SEO จึงต้องอาศัยความเชี่ยวชาญสูง ไม่ใช่ว่าใครทำแล้วจะสำเร็จเสมอไป เพราะมีเทคนิคยิบย่อยมาก หลายธุรกิจที่มีงบประมาณจึงเลือกที่จะหันไปจ้างบริษัทรับทำ seo โปรโมตเว็บไซต์กันมากกว่า

7. อย่าลืมอัปเดตเว็บไซต์เป็นประจำ

ที่สำคัญที่สุด คือ เราต้องอัปเดตหน้าเว็บไซต์ของเราอยู่เสมอ เนื่องจากอัลกอริทึมของ Google นั้นสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา เราจึงควรปรับแต่งเว็บไซต์ตามอัลกอริทึมเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด และเพื่อให้ติดอันดับ SEO บนหน้าแรกของ Search Engine แต่ถ้าหากเราไม่คอยอัปเดตเว็บไซต์ เว็บไซต์คู่แข่งที่เกิดขึ้นใหม่ตลอดเวลา หรือแบรนด์ที่คอยปรับแต่งเว็บไซต์ให้เข้ากับเกณฑ์ของ Google อยู่เสมอ ก็จะติดอันดับแซงหน้าเราไปได้

Primal บริษัทรับทำ SEO โปรโมตเว็บไซต์ติดหน้าแรก

และนี่ก็คือ 7 วิธีโปรโมตเว็บไซต์ที่ผ่านการพิสูจน์จากหลาย ๆ แบรนด์มาแล้วว่าได้ผลจริง แต่ก่อนจะทำตามเทคนิคเหล่านี้ อันดับแรก อย่าลืมทำสินค้าและบริการของตนเองให้มีคุณภาพก่อน ไม่ใช่นั้น ต่อให้โปรโมตเว็บไซต์ไป ในอนาคตเราก็สู้คู่แข่งที่เขามีสินค้าและบริการที่ดีกว่าไม่ได้อยู่ดี แต่ถ้าหากแบรนด์ของเราดีจริง วิธีโปรโมตเว็บไซต์ข้างต้นก็จะยิ่งช่วยส่งเสริมให้ธุรกิจของเราโดดเด่นเหนือคู่แข่ง และกลายเป็นที่รู้จักในวงกว้างได้

สำหรับผู้ประกอบการคนใดที่ต้องการโปรโมตแบรนด์ของตัวเองเพื่อเพิ่มยอด Organic Traffic และสร้างการรับรู้ที่มากขึ้น ที่ Primal Digital Agency เราเป็นบริษัทรับทำ SEO อันดับหนึ่งของไทย พร้อมด้วยผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดกว่า 150 คนที่จะช่วยโปรโมตเว็บไซต์ของคุณด้วยเทคนิคเฉพาะทางต่าง ๆ ติดต่อเราเพื่อรับคำปรึกษาฟรีได้เลยวันนี้