รวม 6 เทคนิคทำ SEO เพิ่มการมองเห็นผ่าน Google Discover

ในยุคที่ผู้ใช้งานไม่อยากเสียเวลาพิมพ์คำค้นหาและต้องการเข้าถึงเนื้อหาที่ใช่ทันทีที่เปิดแอปพลิเคชัน Google Discover จึงกลายเป็นโซลูชันที่น่าจับตามองสำหรับการทำ Content Marketing เหตุผลก็เป็นเพราะว่า ฟีเจอร์นี้ถูกออกแบบมาเพื่อนำเสนอคอนเทนต์ที่ตรงใจผู้ใช้แต่ละคน ไม่ว่าจะเป็นบทความ บล็อก หรือวิดีโอ ด้วยเหตุนี้เอง ฟีเจอร์สุดล้ำตัวนี้จึงช่วยให้ธุรกิจและเหล่า Content Creator สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างรวดเร็ว โดยไม่ต้องรอให้พวกเขามาค้นหาเจอเอง

Google Discover คือฟีเจอร์ที่ Google สร้างขึ้น เพื่อนำเสนอคอนเทนต์ที่ตรงใจผู้ใช้แต่ละคน

ภาพจำลองของหน้า Feed Google Discover

Google Discover คืออะไร

Google Discover คือฟีเจอร์ฟีดข่าวสุดล้ำที่ Google พัฒนาขึ้นมา โดยจะทำหน้าที่รวบรวมทั้งข่าวสาร บทความ และวิดีโอที่คาดว่าเราสนใจ แล้วนำมาแสดงผลบนหน้าจอหลักของมือถือหรือในแอปฯ Google ทั้งนี้ ระบบจะใช้ข้อมูลหลายด้านมาวิเคราะห์เพื่อคาดเดาความสนใจของเรา ไม่ว่าจะเป็นประวัติการค้นหา เว็บไซต์ที่เราเข้าชม แอปฯ ที่เราใช้งานบ่อย ตลอดจนตำแหน่งสถานที่ที่เราอยู่

 

ความแตกต่างระหว่าง Google Search และ Google Discover 

หากสงสัยว่า Google Discover ต่างจาก Google Search อย่างไร ต้องบอกว่าทั้งสองอย่างนี้แตกต่างกันอย่างชัดเจนทั้งในแง่ของรูปแบบและจุดประสงค์การใช้งาน

  • Google Search : ผู้ใช้จะเป็นฝ่ายลงมือพิมพ์คำค้นหาเอง แล้ว Google จะแสดงผลลัพธ์ตามคำที่ค้น ดังนั้น ผู้ใช้จึงเป็นผู้กำหนดทิศทางว่า หน้าค้นหาที่จะปรากฏเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไร
  • Google Discover : ระบบจะทำหน้าที่คาดการณ์ว่าผู้ใช้สนใจในเรื่องนี้ แล้วนำเสนอเนื้อหาที่ “น่าจะ” โดนใจในช่วงเวลานั้น ๆ โดยที่ผู้ใช้ไม่ต้องพิมพ์ค้นหาอะไรเลย

 

เคล็ดลับการทำ SEO สำหรับ Google Discover 

เมื่อเข้าใจความแตกต่างระหว่าง Search และ Discover แล้ว มาดูกันต่อว่าจะทำอย่างไรที่จะเพิ่มการมองเห็นและทำให้คอนเทนต์ของคุณปรากฏผ่าน Google Discover ได้บ่อยขึ้น ด้วยเคล็ดลับการทำ SEO ที่เหล่านักการตลาดดิจิทัลต้องรู้

  • เน้นเนื้อหาที่สดใหม่และตรงประเด็น

เริ่มต้นจากหัวใจสำคัญที่สุดของการทำ SEO สำหรับ Google Discover ในเมื่อแพลตฟอร์มนี้รักคอนเทนต์ที่ทันสมัยและอยู่ในกระแส ดังนั้น คุณจึงควรอัปเดตเนื้อหาให้สอดคล้องกับเทรนด์ล่าสุดอยู่เสมอ หรือเลือกเขียนเรื่องที่กำลังเป็นที่พูดถึงในโลกโซเชียล อย่างไรก็ตาม เนื้อหาควรลึกและให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ไม่ใช่แค่เขียนตามกระแสอย่างผิวเผิน นอกจากนี้แล้ว คุณยังควรเลือกหัวข้อที่โดนใจกลุ่มเป้าหมายในช่วงเวลานั้น ๆ เช่น หากใกล้เทศกาลปีใหม่ ก็อาจนำเสนอไอเดียของขวัญหรือแผนท่องเที่ยว เป็นต้น

  • เลือกภาพปกที่น่าสนใจและมีคุณภาพสูง

หลังจากที่มีเนื้อหาคุณภาพแล้ว อีกองค์ประกอบสำคัญที่จะดึงดูดสายตาผู้อ่านได้ทันทีก็คือภาพปก เนื่องจากภาพถือเป็นหัวใจสำคัญของ Google Discover เลยก็ว่าได้ เพราะคือสิ่งแรกที่ผู้ใช้จะเห็น ด้วยเหตุนี้ คุณจึงควรเลือกภาพที่มีความละเอียดสูงอย่างน้อย 1200 pixels และมีอัตราส่วน 16:9 หรือ 4:3 ทั้งนี้ ภาพควรสื่อความหมายที่ชัดเจน มีองค์ประกอบที่น่าสนใจ และใช้สีที่สะดุดตา อย่างไรก็ตาม ต้องระวังไม่ให้ดูเป็นภาพโฆษณาจนเกินไป เพราะอาจทำให้ผู้ใช้รู้สึกถูกยัดเยียดการขายได้

  • เพิ่มความน่าเชื่อถือให้แก่เนื้อหา

ถัดมาอีกปัจจัยที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับ Google Discover คือความน่าเชื่อถือ เนื่องจาก Google ให้ความสำคัญกับ E-E-A-T (Experience, Expertise, Authoritativeness, Trustworthiness) เป็นอย่างมาก ดังนั้น คุณจึงควรแสดงให้เห็นว่าเนื้อหามาจากผู้เชี่ยวชาญจริง ๆ โดยการใส่ข้อมูลผู้เขียน แสดงประสบการณ์หรือความเชี่ยวชาญ อ้างอิงแหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ และอัปเดตข้อมูลให้ทันสมัยอยู่เสมอ นอกจากนี้ ควรทำให้เว็บไซต์ของคุณดูน่าเชื่อถือด้วย ทั้งการมี SSL certificate การมีนโยบายความเป็นส่วนตัวที่ชัดเจน และการไม่มีโฆษณาที่รบกวนผู้ใช้

  • ทำเนื้อหาที่อ่านง่ายและมีโครงสร้างชัดเจน

เมื่อมีเนื้อหาดี ภาพสวย และความน่าเชื่อถือครบแล้ว สิ่งที่จะช่วยให้ผู้อ่านอยู่กับคอนเทนต์ของเราได้นานขึ้นคือการจัดวางเนื้อหาที่ดี ซึ่งจะช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจและติดตามได้ง่าย โดยเริ่มจากการแบ่งหัวข้อย่อยที่ชัดเจน ใช้ย่อหน้าสั้น ๆ เน้นประเด็นสำคัญด้วยตัวหนาหรือ Bullet ใส่ตัวอย่างหรือกรณีศึกษาที่เข้าใจง่าย และท้ายที่สุด ควรสรุปประเด็นสำคัญในตอนท้าย โดยใช้ภาษาที่เป็นกันเองแต่ยังคงมีความน่าเชื่อถืออยู่

  • ใช้หัวข้อที่ชวนให้คลิก

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่ผู้อ่านจะได้สัมผัสกับเนื้อหาดี ๆ ทั้งหมดที่เราสร้างมา สิ่งแรกที่พวกเขาจะได้เห็นคือหัวข้อที่เรานำเสนอ แม้ว่าหัวข้อที่ดีจะต้องบาลานซ์ระหว่างความน่าสนใจและความน่าเชื่อถือ แต่คุณก็ควรหลีกเลี่ยงการใช้ Clickbait โดยให้เน้นที่การสื่อสารคุณค่าที่ผู้อ่านจะได้รับ ยกตัวอย่างเช่น แทนที่จะใช้ “10 เทคนิคขายของออนไลน์” ลองเปลี่ยนเป็น “10 กลยุทธ์เพิ่มยอดขายออนไลน์ที่ทำได้จริง (พร้อมตัวอย่างความสำเร็จ)” หรือตั้งคำถามที่กระตุ้น Pain Point อย่างเช่น “ทำไมร้านออนไลน์ถึงขายดีช่วงโควิด แต่กลับร่วงหลังโควิด?”

  • เพิ่มความเร็วในการโหลดของเว็บไซต์

และสุดท้าย เพื่อให้ประสบการณ์การอ่านของผู้ใช้สมบูรณ์แบบที่สุด คุณต้องไม่ลืมเรื่องความเร็วในการโหลดเว็บฯ ซึ่งมีผลโดยตรงต่อ Core Web Vitals อันเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ Google ใช้จัดอันดับ ดังนั้น คุณจึงควรทำให้เว็บฯ โหลดเร็วที่สุดโดยการบีบอัดรูปภาพ ใช้ Cache อย่างเหมาะสม เลือก Hosting ที่มีประสิทธิภาพ และลดการใช้ Script ที่ไม่จำเป็น อีกทั้งยังควรพยายามทำให้ค่า LCP (Largest Contentful Paint) ต่ำกว่า 2.5 วินาที และ FID (First Input Delay) ต่ำกว่า 100 มิลลิวินาที เพื่อประสบการณ์การใช้งานที่ดีที่สุด

 

นักการตลาดกำลังค้นหาในช่อง Google Search

นักการตลาดกำลังค้นหาในช่อง Google Search

สรุป

เมื่อคุณนำทั้ง 6 เคล็ดลับวิธีใช้งาน Google Discovery นี้ไปปรับใช้ รับรองว่าโอกาสที่คอนเทนต์ของคุณจะปรากฏบน Google Discover จะเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน และที่สำคัญคือ ผู้อ่านจะได้รับประสบการณ์ที่ดีจากการอ่านคอนเทนต์ของคุณอีกด้วย

แต่หากรู้สึกว่าการทำทั้งหมดนี้ด้วยตัวเองอาจเป็นเรื่องท้าทาย และกำลังมองหาทีมผู้เชี่ยวชาญที่จะช่วยยกระดับคอนเทนต์และ SEO ของคุณให้ไปได้ไกลกว่าเดิม ทีม Primal พร้อมให้คำปรึกษา ด้วยประสบการณ์อันแข็งแกร่งและความเข้าใจเชิงลึกในการทำ Digital Marketing เราไม่เพียงแต่จะเป็นบริษัทที่ให้บริการรับทำ SEO (SEO Agency) ที่ช่วยให้คอนเทนต์และเว็บไซต์ของคุณติดอันดับบนหน้าแรกของ Google Discover เท่านั้น แต่ยังช่วยสร้างการมีส่วนร่วมที่แท้จริงกับกลุ่มเป้าหมายของคุณอีกด้วย

หากสนใจยกระดับธุรกิจของคุณไปอีกขั้น สามารถกรอกรายละเอียดเพื่อให้ทีมกลยุทธ์ของเราติดต่อกลับได้เลยตอนนี้