ทำไมแบรนด์ควรให้ความสำคัญกับ “บล็อก” เมื่อทำ SEO Marketing
บล็อก เครื่องมือทางการตลาดออนไลน์ที่ผสมผสานศาสตร์และศิลป์เข้าไว้ด้วยกัน
เพราะการค้นหาข้อมูลในปัจจุบัน ไม่ใช่อยู่ที่หนังสือหรือตำรา แต่เป็นการพิมพ์ลงไปใน Search Engine แล้วคลิก เพียงเท่านี้ก็จะมีข้อมูลจากเว็บไซต์หลายพันหลายหมื่นขึ้นมาให้เลือกอ่าน การเขียนบล็อกหรือบทความที่มีข้อมูลช่วยแก้ไขปัญหาหรือข้อข้องใจของ User (Helpful Content) จึงมีความสำคัญ ที่นอกจากจะเป็นการเพิ่ม Traffic ให้แก่เว็บไซต์แล้ว ยังเป็นการเพิ่มความน่าเชื่อถือ และสร้าง Awareness ให้ลูกค้าจดจำแบรนด์ และกลายเป็น Top of mind ในที่สุด
เนื้อหาบล็อกจึงไม่ใช่แค่การให้ข้อมูลธรรมดาเท่านั้น แต่เป็นศาสตร์และศิลป์ที่รวมเอาความรู้ด้านการเขียนและการตลาดมาผสมผสานจนเป็นเนื้อเดียวกัน กว่าจะรู้ตัวอีกที จาก User ที่ตั้งใจแค่เข้ามาอ่านข้อมูลก็กลายเป็นลูกค้าไปโดยไม่รู้ตัว
Table of Contents
บล็อก เริ่มต้นจากการเป็นไดอารีออนไลน์
บล็อก (Blog) เดิมมาจากคำว่า Weblog เกิดขึ้นมาในช่วงปลายทศวรรษที่ 1990 โดยมีจุดเริ่มต้นมาจากการที่ผู้เขียนต้องการถ่ายทอดเรื่องราว ประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญ ผ่านมุมมองของตนเองไปสู่ผู้อ่านบนโลกออนไลน์ บล็อกในยุคแรกจึงเป็นเหมือนกับไดอารีออนไลน์ เสมือนการจดบันทึกเรื่องราวที่น่าสนใจ มากกว่าการเป็นบทความออนไลน์ในปัจจุบัน
ในสมัยก่อนมีผู้ให้บริการบล็อกจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็น Blogspot, WordPress, LiveJournal, My Space หรือผู้ให้บริการในไทย เช่น Bloggang, Exteen, Minihome แต่เมื่อเวลาผ่านไป และมี Social Media เข้ามาแทนที่
เสน่ห์สำคัญที่ทำให้บล็อกมีความน่าสนใจคือ การใช้น้ำเสียงที่เป็นกันเอง ทำให้รู้สึกเชื่อมโยงกับผู้อ่านได้ง่าย มีเนื้อหาที่หลากหลาย และมีการกระตุ้นให้เกิดการมีส่วนร่วม ไม่ว่าจะเป็นการแสดงความคิดเห็น หรือว่าการแชร์เนื้อหาลงใน Social Media
ลักษณะของเว็บไซต์ที่เป็นบล็อก
- อัปเดตเนื้อหาอย่างสม่ำเสมอ เน้นการให้ข้อมูล ความรู้ และเรื่องราวที่เป็นประโยชน์ต่อผู้อ่าน
- มีการจัดหมวดหมู่เนื้อหาที่มีความชัดเจน มีการใช้ Tag เพื่อให้ค้นหาเนื้อหาได้ง่าย
- รูปแบบไม่ซับซ้อน เน้นให้อ่านมากกว่าดูลูกเล่น
- มีการใช้รูปภาพ อินโฟกราฟิก หรือวิดีโอประกอบบทความ
บล็อก (Blog) คืออะไร ?
ปัจจุบัน หากพูดถึงบล็อก จะหมายถึง บทความบนแพลตฟอร์มออนไลน์ที่ใช้เผยแพร่เนื้อหาต่าง ๆ ทั้งข่าวสาร ข้อมูล รีวิว ความคิดเห็น ที่มีการอัปเดตอย่างสม่ำเสมอ
ดังนั้น หากอยากให้แบรนด์เป็นที่รู้จัก และถูกค้นเจอบน Search Engine ได้ง่าย ต้องศึกษาวิธีเริ่มต้นเขียนบล็อกอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ และสร้าง Engagement บนเว็บไซต์ให้เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ประโยชน์ของการเขียนบล็อกในการตลาดออนไลน์
หลายคนอาจจะมองข้ามเรื่องการทำเนื้อหาบล็อก และมุ่งไปที่การทำโซเชียลมีเดียเพียงอย่างเดียว แต่ที่จริงแล้ว บล็อกเป็นเครื่องมือทรงพลังในการตลาดออนไลน์ โดยมีประโยชน์ที่สำคัญดังต่อไปนี้
เพิ่มการมองเห็นในการทำ SEO
การเขียนบล็อกที่เป็นเนื้อหาคุณภาพสูง และการเลือกใช้คีย์เวิร์ดที่เหมาะสม จะช่วยเพิ่มการมองเห็นบน Search Engine Results Page (SERP) มากขึ้น และเพิ่มโอกาสให้เว็บไซต์ติดอันดับต้น ๆ สูงยิ่งขึ้น
สร้างความน่าเชื่อถือและความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม
เนื้อหาที่เข้มข้นและมีข้อมูลเชิงลึก จะช่วยทำให้แบรนด์ได้รับความไว้วางใจในฐานะผู้เชี่ยวชาญของอุตสาหกรรมดังกล่าว และมองว่ามีความเป็นผู้นำในตลาดเพิ่มสูงขึ้น
สร้างแทรฟฟิกบนเว็บไซต์อย่างต่อเนื่อง
การโพสต์บล็อกใหม่ ๆ ที่น่าสนใจ หรือการอัปเดตข่าวสารอยู่เสมอ จะดึงดูดกลุ่มเป้าหมายให้ย้อนกลับมาอ่านเนื้อหาบล็อกบนเว็บไซต์อย่างต่อเนื่อง ทำให้ยอดแทรฟฟิกไม่ตกลงเมื่อเวลาผ่านไป
เพิ่มโอกาสการมีส่วนร่วมของผู้อ่าน
หลายคนอาจจะมองว่าบล็อกเป็นการสื่อสารทางเดียว และไม่สามารถสร้าง Engagement ได้ แต่ที่จริงแล้ว การมีส่วนร่วมของกลุ่มเป้าหมายในเนื้อหาบล็อกจะมีทั้งการเขียนคอมเมนต์และการแชร์ ทั้งในหน้าเว็บไซต์และในโซเชียลมีเดีย ซึ่งเป็นได้ทั้งการแชร์ของแบรนด์และโดยผู้อ่านที่ชื่นชอบเนื้อหา
เปลี่ยนผู้เข้าชมเว็บไซต์เป็นลูกค้า
เมื่อลูกค้าเข้ามาอ่านเนื้อหาบล็อก ก็มีแนวโน้มที่จะคล้อยตามและซื้อสินค้าของแบรนด์ ดังนั้น การแทรก CTA หรือการทำ Internal Link ไปหน้าสินค้าและบริการ จะช่วยกระตุ้นการซื้อของกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
วิธีเริ่มต้นเขียนบล็อกสำหรับการตลาดออนไลน์ต้องทำอย่างไร ?
สำหรับนักการตลาดที่ต้องการทำ SEO Marketing หรือต้องการเพิ่มแทรฟฟิกบนเว็บไซต์ด้วยการทำเนื้อหาบล็อกอย่างมีประสิทธิภาพ ให้ทำตามขั้นตอนดังต่อไปนี้
กำหนดวัตถุประสงค์ในการทำบล็อก
อันดับแรกให้กำหนดวัตถุประสงค์ในการทำบล็อกก่อนว่าต้องการทำบล็อกเพื่ออะไร
ตัวอย่างเช่น
- ต้องการสร้าง Awarness หรือเพิ่มแทรฟฟิกให้เว็บไซต์ แนะนำให้เขียนเนื้อหาที่เป็นการให้ความรู้ เสนอแนะทางแก้ปัญหา เพื่อดึงดูดคนเข้ามาในเว็บไซต์
- ต้องการเพิ่ม Conversion แนะนำให้เพิ่มเนื้อหาเกี่ยวกับสินค้า ไม่ว่าจะเป็นการรีวิวสินค้า การเปรียบเทียบ และแนะนำสินค้าที่เหมาะสมสำหรับแต่ละบุคคล
กำหนด Mood และ Tone ของการเขียนบล็อก
เลือก Mood and Tone ที่เหมาะสมกับ Persona ของแบรนด์ ตัวอย่างเช่น หากเป็นแบรนด์ Luxury หรือสินค้าที่มีความหรูหราและราคาแพง ให้ใช้ภาษาที่มีความสวยงาม มีการบรรยายและพรรณนาคุณประโยชน์และความสวยงามของสินค้าที่ส่งเสริมคุณค่าของผู้ใช้ แต่หากเป็นโรงพยาบาลหรือ Wellness Centre แนะนำให้ใช้โทนที่เป็นทางการเพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ แบรนด์แฟชั่น แนะนำให้ใช้โทนภาษาแบบกึ่งทางการ เข้าถึงง่าย และสร้างความเป็นพวกพ้อง หรือมีคำที่เจาะจงเฉพาะกลุ่ม เพื่อสร้างเอกลักษณ์และความแตกต่าง
รู้ว่ากลุ่มเป้าหมายที่กำลังคุยอยู่คือใคร
ก่อนที่จะเขียนบล็อกทุกครั้ง จะต้องรู้ว่ากำลังคุยอยู่กับใคร อายุเท่าไร บุคลิกภาพเป็นอย่างไร มีความต้องการแบบไหน เพื่อที่จะได้เขียนเนื้อหาที่ผู้อ่านอยากรู้จริง ๆ ไม่ใช่เขียนเนื้อหาที่แบรนด์อยากจะบอก แต่ไม่มีคนสนใจ
ทำ Keyword Research
ค้นหาคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้องกับแบรนด์ และอยู่ในเทรนด์ที่น่าสนใจ เพื่อดึงแทรฟฟิกให้กับเว็บไซต์ รวมถึงการเลือกใช้คีย์เวิร์ดที่มี Intent เหมาะกับวัตถุประสงค์ของบล็อกดังกล่าว
วิเคราะห์คู่แข่งและวางโครงเรื่องที่เหมาะสม
นำคีย์เวิร์ดที่ได้ไปลองค้นหาใน Google และ Search Engine อื่น ๆ เพื่อวิเคราะห์เนื้อหาและโครงสร้างของบล็อกที่ติดหน้าแรก จากนั้นให้เขียนโครงเรื่องโดยวางหัวข้อหลักและหัวข้อย่อยเพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจง่าย รวมถึงการใส่ Heading Tag เพื่อให้บอตของ Google สามารถ Crawl และ Index ได้ง่ายและรวดเร็วยิ่งขึ้น
เขียนเนื้อหาที่มีคุณภาพ
เขียนเนื้อหาที่เป็น Helpful Content ที่สามารถแก้ปัญหาของกลุ่มเป้าหมาย และตรงกับ Search Intent นอกจากนี้จะต้องเป็นงานเขียนที่มีการร้อยเรียงภาษาให้อ่านง่าย สะกด และเขียนถูกต้องตามหลักภาษา ทั้งภาษาไทยและภาษาต่างประเทศ ที่สำคัญคือ ต้องเป็นเนื้อหาที่เขียนขึ้นมาใหม่ ไม่คัดลอกเนื้อหาจากเว็บไซต์อื่นมาใส่โดยที่ไม่ปรับปรุงแก้ไขใด ๆ เลย
ที่สำคัญ อย่าลืมใส่ภาพประกอบบทความ ไม่ว่าจะเป็นรูปภาพ อินโฟกราฟิก หรือแบนเนอร์ที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหา ซึ่งจะช่วยทำให้บล็อกน่าอ่านมากยิ่งขึ้น
โปรโมตเนื้อหา
หลังจากที่อัปโหลดขึ้นไปบนเว็บไซต์แล้ว ควรจะแชร์บทความผ่านโซเชียลมีเดีย หรือส่งให้กลุ่มเป้าหมายทางอีเมล เพื่อเพิ่มแทรฟฟิกและ Engagement บนเว็บไซต์
ความยาวของบล็อกควรอยู่ที่เท่าไร ?
ที่จริงแล้วไม่มีข้อกำหนดที่ตายตัวเกี่ยวกับความยาวของบล็อกว่าควรจะมีกี่ตัวอักษร ขึ้นอยู่กับเนื้อหาและ Search Intent แต่โดยปกติแล้วบล็อกจะมีความยาวอยู่ที่ 700-2,000 คำโดยประมาณ แต่ในขณะเดียวกัน เราก็เคยเห็นบล็อกของต่างประเทศ ซึ่งเขียนถึง 3,000-4,000 คำ เช่นกัน
บล็อกที่ Search Engine ชอบเป็นแบบไหน
เมื่อก่อนหลายคนอาจจะเคยได้ยินว่า การเขียนบล็อกให้ติดหน้าแรกของ Google ต้องใส่คีย์เวิร์ดอย่างน้อย 1-2% ของจำนวนคำที่อัปโหลด แต่ปัจจุบัน Google ใช้หลัก Helpful Content ในการตัดสินใจว่าบทความดังกล่าวมีคุณภาพ ช่วยแก้ไขปัญหา และตอบคำถาม User ได้อย่างแท้จริง โดยสามารถอ่าน Self-assess your content จาก Google เพื่อเป็น Guideline สำหรับนักเขียนในการสร้างสรรค์เนื้อหาคุณภาพต่อไป
Do & Don’t ในการเขียนบล็อก
✅Do: สิ่งที่ควรทำ | ❌Don’t: สิ่งที่ไม่ควรทำ |
เขียนเนื้อหาที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้อ่าน เป็นข้อมูลเชิงลึกที่สามารถแก้ไขปัญหาได้จริง | เขียนขายสินค้าหรือบริการมากจนเกินพอดี ทำให้รู้สึกยัดเยียดการขายจนไม่อยากอ่านต่อ |
ใช้คีย์เวิร์ดพอดีและเป็นธรรมชาติ มีการเลือกใช้ Sematic Keyword ในบทความ | ใส่คีย์เวิร์ดในบล็อกมากจนเกินไป ทำให้ไม่เป็นธรรมชาติ (Keyword Stuffing) |
บล็อกมีโครงสร้างที่ชัดเจน มีหัวข้อหลักและหัวข้อรอง (Heading Tag) มีการใช้ Bullet Point ตัวเลข ตาราง และภาพประกอบเพื่อให้ผู้อ่านเข้าใจมากยิ่งขึ้น | ไม่จัดโครงสร้างของบล็อก ไม่มีหัวข้อ และไม่มีภาพประกอบใด ๆ ทำให้ผู้อ่านรู้สึกสับสน |
ใส่ Call-to-Action ที่เป็นธรรมชาติ และอยู่ในจุดที่เหมาะสม สามารถกระตุ้นให้ผู้อ่านคลิกได้ | ละเลยการใส่ CTA หรือไม่มีจุดที่กระตุ้นให้ผู้อ่านทำตามเป้าหมายของบล็อก ทำให้ขาด Engagement |
อัปเดตเนื้อหาให้มีความสดใหม่อยู่เสมอ สามารถให้ประโยชน์คนอ่านได้ไม่ว่าเวลาจะผ่านไปนานสักเท่าไร | ปล่อยให้เนื้อหาเก่า ล้าสมัย ไม่สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ เช่น ไม่อัปเดตข้อมูลกฎหมายใหม่ ๆ ที่ประกาศใช้แทนฉบับเก่า |
ทำ Infographic หรือภาพเพื่อสรุปเนื้อหา ช่วยให้บล็อกน่าสนใจและอ่านง่ายยิ่งขึ้น | ไม่มี Infographic หรือภาพประกอบ |
เนื้อหาอ่านง่าย แม้อ่านในสมาร์ตโฟน (Mobile-Friendly) | ไม่สนใจผู้ที่อ่านบนหน้าจอสมาร์ตโฟน ซึ่งเป็นกลุ่มหลักในการอ่านเนื้อหาบนช่องทางออนไลน์ |
วิเคราะห์ผลลัพธ์และปรับปรุงเนื้อหาอยู่เสมอ เช่น การดู CTR หรือ Bounce Rate เพื่อปรับกลยุทธ์การตลาด | ไม่มีการวิเคราะห์ผลลัพธ์ หรือติดตามอันดับของบล็อก |
ในการวางแผนการตลาดออนไลน์ การทำ SEO บล็อกและคอนเทนต์บนเว็บไซต์มีความสำคัญอย่างยิ่งที่จะช่วยให้เว็บไซต์ติดอันดับได้อย่างรวดเร็วและยั่งยืน ซึ่งนอกจากคุณภาพของเว็บไซต์แล้ว การลงเนื้อหาอย่างสม่ำเสมอก็เป็นอีกปัจจัยที่ช่วยให้ประสบความสำเร็จ เหล่านี้คือสาเหตุที่ว่าทำไมบริษัทของคุณควรเริ่มเขียนบล็อก หากว่าคุณต้องการทำการตลาดออนไลน์ ติดต่อ Primal เราให้บริการรับทำ SEO ที่มี SEO Content Writer มืออาชีพ ที่มีประสบการณ์มากกว่า 15 ปี ในการเขียนเชิงมาร์เก็ตติ้ง เพื่อให้ธุรกิจของคุณคว้าผลสำเร็จได้ตามเป้าหมาย ติดต่อวันนี้เลย
ข้อมูลอ้างอิง
- Creating helpful, reliable, people-first content. สืบค้นเมื่อวันที่ 7 มกราคม 2567 จาก https://developers.google.com/search/docs/fundamentals/creating-helpful-content#content-and-quality-questions
- Why Blog? The Benefits of Blogging for Business and Marketing. สืบค้นเมื่อวันที่ 7 มกราคม 2567 จาก https://blog.hubspot.com/marketing/the-benefits-of-business-blogging-ht
- 6 Reasons Why Blogging Is Important For Marketing And SEO. สืบค้นเมื่อวันที่ 7 มกราคม 2567 จาก https://www.searchenginejournal.com/7-reasons-why-blogging-is-still-important-in-2012/39225/
Join the discussion - 0 Comment