Virtual Influencer คืออะไร? ทำไมแบรนด์ถึงให้ความสนใจ
Virtual Influencer คือเทรนด์ด้านการตลาดยุคใหม่ของโลกที่อะไร ๆ ก็ล้วนอยู่บนแพลตฟอร์มออนไลน์ไปซะหมด โดยเฉพาะอย่างยิ่งโซเชียลมีเดีย ซึ่งความจริงแล้ว Virtual Influencer หรือ AI Influencer เป็นการใช้เทคนิคทาง Computer Graphic (CGI) สร้างตัวตนขึ้นมา นั่นหมายความว่าบุคคลเหล่านี้ “ไม่มีอยู่จริง” บนโลก
หากตีความหมายของ Virtual Influencer ว่าคืออะไร ก็ต้องแยกออกเป็นสองคำคือ
Virtual = ภาพเสมือน
Influencer = ผู้มีอิทธิพล
เราต่างคุ้นเคยกันดีกับคำว่า Influencer เพราะเป็นกระแสมาร่วมสิบปีแล้ว ซึ่งก็หมายถึงเหล่าบิวตี้บล็อกเกอร์ ยูทูเบอร์ หรือใครก็ตามที่มีชื่อเสียงบนโลกออนไลน์ซึ่งไม่รวม ศิลปิน ดารา ล้วนถูกเรียกว่า Influencer ทั้งสิ้น Virtual Influencer จึงเป็นอีกหนึ่งรูปแบบของผู้มีอิทธิพลบนโลกออนไลน์ที่ถูกสร้างขึ้นด้วยฝีมือมนุษย์นั่นเอง กระแสของผู้มีอิทธิพลภาพเสมือนนี้เพิ่งจะเริ่มเป็นที่สนใจในไทยเมื่อไม่นานมานี้ แต่ Virtual Influencer นั้นเกิดขึ้นบนโลกมาได้ประมาณ 4 – 5 ปีแล้ว
Table of Contents
ทำไมแบรนด์ถึงให้ความสนใจ
คำถามนี้ตอบง่ายมาก เพียงแค่เรามองกลับไปยังหลักพื้นฐานของการทำการตลาดก็คือ “ที่ใดมีคน ที่นั่นย่อมมีธุรกิจ” แน่นอนเมื่อ Virtual Influencer คือภาพเสมือนมนุษย์ที่ถูกสร้างขึ้น และไม่ได้เป็นเพียงแค่ภาพที่ถูกทำขึ้นมาสวยๆ แล้วโพสต์ลงโซเชียลมีเดียอย่าง Instagram เท่านั้น แต่การที่จะทำ Virtual Influencer ขึ้นมาสักคนจะต้องมีการกำหนด Persona หรือเรียกง่ายๆ ว่า โปรไฟล์ของคนคนนั้นขึ้นมาเสมือนว่าพวกเขาเป็นคนบนโลกนี้จริงๆ เช่น ชื่อ สัญชาติ เชื้อชาติ เพศ อายุ อาชีพ รสนิยม ฯลฯ
ดังนั้นพอบุคคลเสมือนผู้นั้นมีโซเชียลมีเดียเป็นของตัวเอง แน่นอนว่าไลฟ์สไตล์ต่างๆ ที่ถูกกำหนดขึ้นอย่างชัดเจนก็เริ่มเป็นที่สนใจให้กับมนุษย์จริงอย่างเรา ๆ ให้ไปกดติดตามกัน พอมีคนติดตามมากแบรนด์ต่างๆ ก็เริ่มมองเห็นช่องทางและโอกาสจากเหล่าผู้มีอิทธิพลเสมือนนี้จนทำให้ ณ ปัจจุบันก็มี Virtual Influencer หลายคนสามารถสร้างรายได้มหาศาล
จุดแข็งและจุดอ่อน ของ Virtual Influencer
แม้กำลังเป็นกระแสที่เกิดขึ้นใหม่ในโลกการตลาด แต่อีกไม่นานเมื่อผู้คนเริ่มสนใจมากขึ้น มีคนติดตามเหล่า Virtal Influencer มากขึ้น แบรนด์ต่างๆ ที่ไม่เคยสนใจก็ย่อมจะต้องหันมามองถึงโอกาสในการใช้พื้นที่นี้ในการประชาสัมพันธ์สินค้า และแน่นอนว่าสิ่งต่างๆ ย่อมมีทั้งจุดแข็งและจุดอ่อน
จุดแข็งของ Virtual Influencer คือ ด้วยความที่พวกเขาไม่มีชีวิตจริงๆ นี่ล่ะ จึงมีจุดแข็งในเรื่องที่ไม่สามารถเกิดขึ้นได้ในมนุษย์นั่นก็คือ ไม่ป่วย ไม่แก่ ไม่ตาย (นอกซะจากว่าผู้สร้างจะเลิกสร้างหรือไม่ทำต่อ) และที่สำคัญคือไม่มีประวัติด้านลบในอดีตให้ชาวเน็ตได้ขุดคุ้ยกันอย่างที่เราจะเห็น Influencer ที่เป็นมนุษย์โดน เมื่อมีชื่อเสียงคนก็เริ่มไปขุดประวัติเก่าๆ มาประจานจนเสียหายไปเลยก็มี อีกทั้งยังโปรไฟล์ต่างๆ ที่ผู้สร้างสามารถกำหนดได้ว่าจะให้พวกเขาเหล่านั้นมีลักษณะนิสัยอย่างไร
จุดอ่อนของ Virtual Influencer คือ ไม่ใช่ว่าสินค้าอะไรก็ได้จะเหมาะกับ Virtual Influencer ไปทั้งหมด ส่วนมากที่เราเห็นกันก็มักจะเป็นสินค้าแฟชั่นที่หันมาสนใจและเลือกทำงานร่วมกับ Virtual Influencer แต่คุณลองจินตนาการภาพตามว่า หากเป็นสินค้าที่อยู่ในกลุ่มสกินแคร์มาจ้างมนุษย์เสมือนจริงเหล่านี้รีวิวล่ะ ผู้บริโภคจะกล้าซื้อตามไหมเพราะเราอยากจะให้พวกเขาหน้าเนียนแค่ไหนก็ได้ เพียงใช้ Computer Graphic
อยากทำ Virtual Influencer ของตัวเองได้ไหม
ทำได้หากคุณมีทักษะทางด้าน Computer Graphic, 3D และไม่ใช่เพียงแค่นี้เพราะเมื่อดูจาก Virtual Influencer หลายๆ คนจะพบว่าพวกเขาหรือเธอมีไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างชัดเจน มีตัวตนเสมือนว่าเป็นมนุษย์คนหนึ่งบนโลก ดังนั้นการจะสร้าง Virtual Influencer ขึ้นมาสักคนอาจจะต้องเพิ่มองค์ประกอบในเรื่องของ บิวตี้ แฟชั่น ไลฟ์สไตล์ กลยุทธ์การตลาดและอื่นๆ อีกมากมาย หากคุณมีทักษะทั้งหมดนี้ที่ได้บอกไป ก็สามารถสร้าง Virtual Influencer เป็นของตัวเองได้เลย แต่ในปัจจุบันผู้สร้างก็จะเป็นบริษัทเทคโนโลยีหรือสตาร์ทอัพต่างๆ
Virtual Influencer ที่มีชื่อเสียงในปัจจุบัน
ถ้าพูดถึง Virtual Influencer ที่มีชื่อเสียง (คนติดตามเยอะ) ณ ปัจจุบันก็มีอยู่หลายคนเลยทีเดียว
View this post on Instagram
-
Lilmiquela (สร้างโดย Brud บริษัทผู้เชี่ยวชาญด้านหุ่นยนต์และ AI)
ลูกครึ่งสาววัย 19 ชาวบราซิล – อเมริกัน เธอคือ Virtual Influencer ยุคบุกเบิกผู้อาศัยอยู่ในนครลอสแอนเจลิส แคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา ที่ต้องใช้คำว่ายุคบุกเบิกเพราะเธอถูกสร้างขึ้นมาตั้งแต่ปี 2016 ซึ่งปัจจุบันมีคนติดตามใน Instagram กว่า 3 ล้านคน! และอย่างที่ได้เล่าไปว่า Virtual Influencer ไม่ได้มีหน้าที่แค่เป็นภาพสวยๆ เพราะเธอคนนี้ออกมาเคลื่อนไหวทางการเมืองชัดเจน อย่างประเด็น #BlackLivesMatter หรือการรณรงค์ต่อต้านความรุนแรงและคตินิยมเชื้อชาติอย่างเป็นระบบต่อคนดำ รวมถึงประเด็น LGBTQ+ ก็เช่นกัน
ผลงานของ lilmiquela มีมากมาย ที่สร้างความฮือฮาก็คือเธอมีซิงเกิลเพลงเป็นของตัวเองด้วย! ทั้ง Not Mine, Speak Up, Hard Feeling และ Automatic แล้วยังมีผลงานที่ทำร่วมกับแบรนด์ดังมากมาย อาทิ Givenchy, Off-White, Prada หรือ Calvin Klein ที่เธอถ่ายแบบคู่กับ Bella Hadid นางแบบระดับโลก เป็นต้น ถือเป็นตัวอย่างที่ชัดเจนในเรื่องของความมีอิทธิพลต่อแบรนด์ดัง
View this post on Instagram
-
Shudu (สร้างโดย Cameron-James Wilson ช่างภาพและศิลปินผู้มีประสบการณ์ด้านแฟชั่น)
สาวชาวแอฟริกาใต้ เธอคือ Digital Supermodel คนแรกของโลก มีผลงานถ่ายแบบให้กับแบรนด์แฟชั่นระดับโลกไม่ว่าจะเป็น Salvatore Ferragamo, Balmain, Christian Louboutin หรือจะเป็นแบรนด์สินค้าระดับโลกอื่นๆ อย่าง Hyundai, Samsung และผลงานถ่ายแบบลงสื่อมากมาย อาทิ VOGUE Australia, GLAMOUR, WWD และ Cosmopolitan ปัจจุบันมีคนตาม Instagram 2 แสนกว่าคน
View this post on Instagram
-
Rozy (สร้างโดย Sidus Studio X)
Virtual Influencer คนแรกของประเทศเกาหลีใต้ สาววัย 22 ที่ถูกสรรค์สร้างภายใต้การนำเสนอความงามแบบสาวเอเชีย เธอเป็น Virtual Influencer ที่เพิ่งจะถูกสร้างขึ้นเมื่อเดือนสิงหาคมปี 2020 แม้จะเพิ่งจะปรากฏตัวไม่นานแต่ปัจจุบันก็มีผู้ติดตาม Instagram แสนกว่าคนแล้ว อีกทั้งยังสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำให้กับบริษัทจากการทำงานร่วมกับแบรนด์ดังมากมาย อย่าง Calvin Klein แบรนด์เครื่องสำอางเกาหลี Hera หรือจะเป็นบริษัทประกันสัญชาติเกาหลี Shinhan Life ที่เพิ่งเปิดตัวและดึงเอา Rozy มาเป็นพรีเซนเตอร์เพื่อเจาะลูกค้ากลุ่ม Millenials และ Gen Z
View this post on Instagram
Virtual Influencer สัญชาติไทย
Ailynn เธอคือสาววัย 21 ปีผู้เป็น AI Influencer ของประเทศไทย สร้างโดยบริษัท SIA Bangkok บริษัทเอเจนซี่ที่ทำด้าน Virtual Influencer โดยเฉพาะแห่งแรกในไทยโดยมีจุดประสงค์ชัดเจนในการใช้สำหรับธุรกิจ โดยผลงานแรกอย่างที่เราทราบกันก็คือ Ailynn โดยคาแรกเตอร์ของเธอถูกสร้างให้เป็นผู้หญิงน่าค้นหา มีความกล้าลองสิ่งใหม่ ลุย ๆ มีนิสัยแบบ Extrovert มองโลกตามความเป็นจริง
View this post on Instagram
ซึ่งเธอเป็นที่สนใจขึ้นมาเพราะเครือข่ายสื่อสารยักษ์ใหญ่อย่าง AIS ได้มีการดึงเธอมาร่วมงานในแคมเปญ #AIS5GxAilynn ซึ่งนับว่าเป็นมิติใหม่แห่งการทำโฆษณาบ้านเราเลยก็ว่าได้ แม้ว่าปัจจุบัน Ailynn จะมีคนตาม Instagram ไม่ถึงหมื่น แต่เชื่อว่าในอนาคตเธอน่าจะมีผลงานให้เราได้เห็นมากขึ้นแน่นอน
เทคโนโลยีไม่เคยหยุดนิ่ง ทำให้นักการต่างต้องคอยอัปเดตข่าวสารและตามกระแสการเปลี่ยนแปลงบนโลกให้ทัน เพราะทุกๆ การเปลี่ยนแปลงอาจทำให้แบรนด์หรือธุรกิจของคุณได้รับผลกระทบได้ทั้งในด้านบวกและด้านลบ Virtual Influencer คืออีกหนึ่งเทรนด์ที่ไม่อยากให้มองเป็นแค่กระแสสั้นๆ ผ่านมาแล้วก็ผ่านไป เพราะในอนาคตอันใกล้โลกอาจจะถูกพลิกโฉมไปในแบบที่เราเองก็จินตนาการไม่ถึงเลยก็ว่าได้ อย่างเช่นกระแส เมทาเวิร์ส (Metaverse) หรือเทคโนโลยีความเป็นจริงเสมือน ที่ก็เริ่มเป็นที่พูดถึงอย่างมากแล้วในปัจจุบัน หากเทคโนโลยีนี้เกิดขึ้นและใช้งานกันแพร่หลายทั่วโลก แน่นอนว่า Virtual Influencer จะมีอิทธิพลกว่าที่เป็นอยู่หลายเท่า
Join the discussion - 0 Comment