Subscription Model คืออะไร ? เทรนด์การขายแบบใหม่ในยุคดิจิทัล
อย่างที่รู้กันว่า การตลาดยุคนี้เต็มไปด้วยเทคโนโลยีที่มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้พฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย กล่าวคือ ผู้บริโภคยุคใหม่มักมีความต้องการที่หลากหลาย ชอบความสะดวก รวดเร็ว และคุ้มค่า รูปแบบธุรกิจแบบดั้งเดิมที่เน้นการซื้อ-ขายสินค้าหรือบริการแบบครั้งเดียวจึงอาจไม่ตอบโจทย์ธุรกิจบางประเภทและผู้บริโภคบางกลุ่มอีกต่อไป
Subscription Model หรือ โมเดลธุรกิจแบบสมัครสมาชิก จึงกลายเป็นรูปแบบธุรกิจที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน ซึ่งจะสามารถตอบสนองทั้งผู้บริโภคและธุรกิจได้อย่างไรนั้น เรามาดูกัน !
Table of Contents
Subscription Model คืออะไร ?
Subscription Model คือ โมเดลธุรกิจแบบสมัครสมาชิก เป็นรูปแบบการทำธุรกิจที่ลูกค้าจะต้องจ่ายค่าธรรมเนียมเป็นประจำ โดยสามารถเลือกแผนจ่ายแบบรายสัปดาห์ รายเดือน รายปี หรือระยะเวลาอื่น ๆ ตามที่กำหนด มีจุดประสงค์เพื่อให้ผู้บริโภคได้เข้าถึงสินค้าหรือบริการของธุรกิจแบบองค์รวม ไม่ต้องซื้อสินค้าหรือบริการหนึ่ง ๆ แยกต่างหาก
ทั้งนี้ Subscription Model คือ โมเดลที่ได้รับความนิยมอย่างมากในยุคปัจจุบัน เพราะนอกจากจะได้อำนวยความสะดวกแก่ลูกค้าจนก่อให้เกิดความประทับใจได้แล้ว ยังทำให้ธุรกิจสามารถสร้างรายได้ที่มั่นคงในระยะยาวอีกด้วย
ตัวอย่างของ Subscription Model ที่พบได้ทั่วไป
- บริการสตรีมมิง เช่น Netflix, Spotify, JOOX, Disney+
- ซอฟต์แวร์ เช่น Microsoft Office, Adobe Creative Cloud
- ธุรกิจค้าปลีกทั่วไป เช่น HelloFresh, Birchbox
- แพลตฟอร์มเรียนออนไลน์ เช่น Skillshare, Masterclass
- แอปพลิเคชันต่าง ๆ บนมือถือ เช่น แอปฯ แต่งรูป แอปฯ พูดคุยกับศิลปินเกาหลี
Subscription Model มีกี่ประเภท ?
Subscription Model สามารถแบ่งประเภทย่อยได้หลายแบบ ขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์และกลยุทธ์ของธุรกิจ แต่จะมีรูปแบบที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายอยู่ 4 ประเภทหลัก ดังนี้
1. Subscription แบบจำกัด
Subscription Model รูปแบบนี้ ลูกค้าสามารถเข้าถึงสินค้าหรือบริการได้ภายในขอบเขตหรือปริมาณที่จำกัด เช่น การสมัครสมาชิกเพื่อดาวน์โหลดเกมจำนวนจำกัด สตรีมมิงภาพยนตร์ได้เพียงจำนวนชั่วโมงที่กำหนด ฯลฯ โดยรูปแบบนี้จะเหมาะสำหรับธุรกิจที่มีต้นทุนการให้บริการสูง
2. Subscription แบบไม่จำกัด
ตรงกันข้ามกับรูปแบบแรก เพราะ Subscription ประเภทนี้อนุญาตให้ลูกค้าเข้าถึงสินค้าและบริการได้อย่างไม่จำกัด เช่น การสมัครสมาชิกเพื่อรับสิทธิสตรีมมิ่งเพลงได้ไม่จำกัด การจ่ายเงินรายเดือนเพื่อลงคอร์สเรียนออนไลน์ได้ไม่จำกัด ฯลฯ โดยปกติรูปแบบนี้จะมีราคาค่าสมาชิกสูงกว่าแบบจำกัด
3. Subscription แบบ Freemium
Subscription Model แบบ Freemium เปิดโอกาสให้ลูกค้าได้ใช้งานสินค้าหรือบริการบางส่วนได้ฟรี แต่หากต้องการอัปเกรดฟีเจอร์เพิ่มเติมหรืออยากได้รับประสบการณ์ที่ดียิ่งขึ้น จะต้องชำระค่าสมาชิก ตัวอย่างเช่น Spotify ฟรีเวอร์ชันและ Spotify Premium, Dropbox Basic และ Dropbox Pro, YouTube และ YouTube Premium
4. Subscription แบบ Tiered
สำหรับธุรกิจบางประเภท อาจมีการนำเสนอแพ็กเกจค่าสมาชิกหลายระดับให้ลูกค้าเลือกได้ตามความต้องการ เช่น ระดับ Standard ซึ่งเป็นแพ็กเกจพื้นฐาน ระดับ Premium ที่ได้รับสิทธิประโยชน์เพิ่มเติม หรือระดับ Enterprise สำหรับองค์กร โดย Subscription Model รูปแบบนี้ จะทำให้ลูกค้าได้รับตัวเลือกที่หลากหลายและตรงกับความต้องการของตนเองมากขึ้น
ขั้นตอนการทำ Subscription Model
วิเคราะห์ธุรกิจของตนเอง
ก่อนจะเริ่มใช้ Subscription Model ธุรกิจจำเป็นต้องวิเคราะห์จุดแข็ง จุดอ่อน โอกาส และอุปสรรคของตนเองให้ชัดเจน เพื่อประเมินว่ารูปแบบการสมัครสมาชิกนั้นเหมาะสมกับธุรกิจหรือไม่ รวมถึงกำหนดกลุ่มเป้าหมายลูกค้าของตนเองให้แม่นยำด้วย
กำหนดกลยุทธ์การสมัครสมาชิก
หลังจากวิเคราะห์แล้ว ขั้นตอนต่อมาของการทำ Subscription Model คือ การกำหนดประเภทของรูปแบบการสมัครสมาชิกที่จะนำมาใช้ ระดับราคาค่าสมาชิก รวมถึงสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ที่จะมอบให้สมาชิก โดยจะต้องคำนึงถึงความคุ้มค่าและการสร้างคุณค่าแก่ลูกค้าเป็นสำคัญ
พัฒนาระบบการสมัครสมาชิก
เมื่อกำหนดกลยุทธ์ที่เหมาะสมได้แล้ว ขั้นตอนต่อมาคือการพัฒนาระบบการสมัครสมาชิกและการชำระเงินที่สะดวกรวดเร็ว ปลอดภัย มีประสิทธิภาพ และรองรับการใช้งานได้หลากหลายช่องทางเพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคใหม่ ตลอดจนมีระบบจัดการข้อมูลสมาชิกที่ดี ทำให้ลูกค้าไว้วางใจที่จะมอบข้อมูลให้
ทำการตลาดและโปรโมต
หลังจากมีระบบการสมัครสมาชิกเรียบร้อยแล้ว แน่นอนว่าขั้นตอนสำคัญของการทำ Subscription Model คือ การทำการตลาดและโปรโมตเพื่อสร้างการรับรู้ (Brand Awareness) และกระตุ้นให้ลูกค้าสมัครสมาชิกให้ได้เยอะที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการใช้สื่อออนไลน์ สื่อกระแสหลัก หรือการจัดอิเวนต์ส่งเสริมการขายต่าง ๆ
มอบประสบการณ์ที่ดีแก่ผู้ติดตาม
เมื่อหาลูกค้ามาสมัครสมาชิกได้ตามเป้าหมายแล้วก็ไม่ใช่ว่าจะจบแค่นั้น เพราะธุรกิจยังต้องหมั่นรักษามาตรฐานการบริการ ตอบสนองความต้องการผู้ใช้งานอย่างต่อเนื่อง รวมถึงพัฒนาสิ่งใหม่ ๆ เพื่อสร้างประสบการณ์ที่น่าประทับใจแก่สมาชิก ซึ่งจะนำไปสู่ความภักดี (Brand Loyalty) และการต่ออายุการสมัครสมาชิกได้ในระยะยาว
ข้อดีของ Subscription Model คืออะไร ?
สำหรับลูกค้า
สะดวก รวดเร็ว เข้าถึงสินค้าหรือบริการได้อย่างต่อเนื่อง
ภายใต้ Subscription Model ลูกค้าสามารถเข้าถึงสินค้าหรือบริการได้ทันทีหลังจากสมัครสมาชิก โดยไม่ต้องซื้อซ้ำในแต่ละครั้ง ช่วยประหยัดเวลาและขั้นตอนการซื้อให้สะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น
ประหยัด จ่ายเงินน้อยลงเมื่อเทียบกับการซื้อแบบครั้งเดียว
ค่าสมาชิกรายเดือนหรือรายปีของ Subscription มักจะถูกกว่าการซื้อสินค้าหรือบริการนั้น ๆ แบบครั้งเดียว ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายของลูกค้าได้มาก
มีตัวเลือกหลากหลายให้เลือกตามความต้องการ
บางธุรกิจจะมีแพ็กเกจการสมัครสมาชิกหลายระดับให้เลือก ทำให้ลูกค้าสามารถเลือกใช้งานได้ตรงกับความต้องการและงบประมาณ เช่น Netflix
คุ้มค่า เข้าถึงสินค้าหรือบริการได้หลายอย่างในราคาเดียว
ในบางแพ็กเกจ การสมัครสมาชิกจะทำให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงสินค้าหรือบริการจำนวนมากได้ในราคาเดียว เป็นการเพิ่มความคุ้มค่าในมุมมองของลูกค้า และรู้สึกอยากซื้อต่ออีกเรื่อย ๆ
สำหรับธุรกิจ
มีรายได้ที่แน่นอนและสม่ำเสมอ
ด้วยลักษณะของการรับรายได้เป็นรายสัปดาห์ รายเดือน หรือรายปีจากการสมัครสมาชิก ทำให้ธุรกิจสามารถคาดการณ์รายได้และวางแผนธุรกิจในระยะยาวได้ดีกว่ารูปแบบขายสินค้าแบบครั้งเดียว
สร้างความสัมพันธ์ระยะยาวกับลูกค้า
การที่ลูกค้ายอมสมัครสมาชิก แสดงให้เห็นว่าลูกค้ารายดังกล่าวมีความผูกพันกับธุรกิจในระดับหนึ่ง ซึ่งหากธุรกิจสามารถตอบสนองความต้องการได้อย่างตรงจุด ก็จะสามารถสร้างความภักดีจากลูกค้าและรักษาความสัมพันธ์ระยะยาวได้อย่างแน่นอน
วิเคราะห์ข้อมูลลูกค้าเพื่อนำไปพัฒนาสินค้าและบริการ
ข้อมูลพฤติกรรมการใช้งานและความต้องการของลูกค้าที่สมัครสมาชิก จะช่วยให้ธุรกิจสามารถนำมาวิเคราะห์และปรับปรุงสินค้าและบริการให้ตรงใจลูกค้ามากยิ่งขึ้น
ได้ขยายฐานลูกค้าและเพิ่มโอกาสในการขาย
Subscription Model คือช่องทางให้ธุรกิจสามารถเข้าถึงลูกค้าใหม่ ๆ ได้ง่ายขึ้น และเมื่อมีฐานลูกค้าสมาชิกจำนวนมาก ก็จะเป็นการเพิ่มโอกาสต่อยอดการขายสินค้าและบริการเสริมต่าง ๆ ได้มากกว่าเดิมด้วย
ได้รู้ความสำคัญและขั้นตอนการทำ Subscription Model กันไปแล้ว จะเห็นได้ว่า Subscription Model คือรูปแบบกลยุทธ์ที่เหมาะกับธุรกิจหลายประเภท ทั้งยังกำลังเติบโตอย่างมากในยุคการตลาด 5.0 แต่สิ่งสำคัญคือ ผู้ประกอบการต้องวางแผนกลยุทธ์ให้ดีจึงจะประสบความสำเร็จในระยะยาว
อยากประสบความสำเร็จในการทำการตลาดออนไลน์ไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่คุณไว้ใจ Primal Digital Agency เราเป็นบริษัทรับทำ Online Marketing ชั้นนำของไทย ร่วมด้วยผู้เชี่ยวชาญกว่า 150 คนที่พร้อมผลักดันธุรกิจของคุณให้ไปไกลกว่าที่เคย ติดต่อเราได้เลยวันนี้
Join the discussion - 0 Comment