SMS Marketing หนึ่งในเครื่องมือช่วยทำการตลาดที่ไม่ควรมองข้าม

แน่นอนว่าช่องทางทำการตลาดที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในตอนนี้คงหนีไม่พ้นช่องทางออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็นแพลตฟอร์ม E-Commerce โซเชียลมีเดีย หรือเว็บไซต์ต่าง ๆ เพราะถึงแม้ว่าการซื้อของออนไลน์จะไม่สามารถเห็นและจับต้องสินค้าจริงได้เหมือนกับการซื้อของที่หน้าร้าน แต่ก็สะดวกรวดเร็ว ไม่ต้องเดินทางไปไหน เพียงแค่นั่งเฉย ๆ อยู่ที่บ้านก็รอรับของได้เลย จึงทำให้คนในยุคปัจจุบันหันมาใช้ช่องทางออนไลน์ในการซื้อ-ขายกันเป็นจำนวนมาก และนั่นเป็นสาเหตุว่าทำไมการตลาดแบบดิจิทัลจึงเติบโตขึ้นทุกวันโดยไม่มีแนวโน้มว่าจะแผ่วลง

เมื่อเป็นเช่นนั้น การทำการตลาดในรูปแบบ “SMS” ก็ค่อย ๆ ถูกลืมไป เพราะมีแพลตฟอร์มออนไลน์เข้ามาแทนที่ ทว่าแท้จริงแล้ว หลายคนอาจจะนึกไม่ถึงว่าการทำ SMS Marketing นั้นมีประสิทธิภาพสูงและสามารถทำควบคู่ไปกับกลยุทธ์การตลาดออนไลน์ได้ อีกทั้งยังช่วยให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างรวดเร็วและตรงจุด ซึ่งจะนำไปสู่การเพิ่มยอดขายในธุรกิจของตนเองได้มากขึ้น ดังนั้น บทความนี้จะพาไปทำความรู้จักกับ SMS Marketing เครื่องมือช่วยทำการตลาดที่ผู้ประกอบการทั้งหลายไม่ควรมองข้าม!

SMS Marketing คืออะไร?

SMS Marketing คือ การทำการตลาดผ่าน SMS (Short Message Service) โดยเป็นการส่งข้อความสั้น ๆ ผ่านมือถือ เพื่อนำเสนอสินค้าหรือบริการให้แก่กลุ่มเป้าหมาย แตกต่างจาก Email Marketing ตรงที่เราสามารถส่งข้อความไปยังลูกค้าจำนวนมากได้ในต้นทุนที่ถูกกว่า ซึ่งจุดประสงค์ของการส่งข้อความ SMS ลักษณะนี้มักเป็นการแจ้งเตือนโปรโมชัน การแนะนำสินค้าใหม่ การแจ้งข้อมูลข่าวสารของแบรนด์ การประชาสัมพันธ์กิจกรรม ตลอดจนการกระตุ้นให้ลูกค้ารู้สึกอยากกลับมาซื้อใหม่ เรียกได้ว่าเป็นเครื่องมือที่เหมาะสำหรับธุรกิจทุกประเภทเลยทีเดียว

การส่ง SMS Marketing นั้นสามารถทำได้หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการส่งข้อความหากลุ่มลูกค้าที่เรามีฐานข้อมูลอยู่แล้ว เพื่อให้ข้อมูลข่าวสารและประชาสัมพันธ์เพิ่มเติม รวมถึงคอนเฟิร์มสิทธิพิเศษต่าง ๆ ซึ่งทุกคนจะได้รับข้อความเดียวกันหมด หรือจะส่งแบบแยกตามกลุ่มให้แต่ละกลุ่มรับข้อความคนละแบบก็ได้ หรือจะส่งแบบ Personalization ที่เป็นการส่งแยกหารายบุคคลก็ได้เช่นกัน 

SMS Marketing มีประโยชน์อย่างไร?

• สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างรวดเร็วและตรงจุด
• สามารถเข้าถึงลูกค้าได้รอบด้าน ไม่ว่าจะเป็นทางออนไลน์หรือออฟไลน์
• มีต้นทุนต่ำกว่าเมื่อเทียบกับช่องทางอื่น ๆ
• การใช้งานง่าย ไม่ซับซ้อน
• ช่วยรักษาฐานลูกค้าเดิมเอาไว้ได้
• สร้างการตลาดแบบ Personalized Marketing ได้
• สามารถควบคุมได้อย่างเป็นระบบ และปรับแต่งได้ตามต้องการ
• สามารถทำงานร่วมกับระบบอื่น ๆ ได้ เช่น CDP, Marketing Automation, CRM เป็นต้น
• สามารถวัดผลทางการตลาดได้ทันที

เริ่มต้นทำ SMS Marketing อย่างไรดี?

SMS Marketing คือกลยุทธ์ที่สามารถเริ่มในขั้นตอนไหนของการตลาดก็ได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น จะต้องพิจารณาด้วยว่าโจทย์และเป้าหมายทางธุรกิจของแต่ละแบรนด์คืออะไร เพื่อที่จะได้รู้ว่าควรทำ SMS Marketing ตอนไหนดีจึงจะเหมาะสมกับธุรกิจของตนเองมากที่สุด แต่โดยทั่วไปแล้ว เมื่อคิดจะเริ่มต้นส่งข้อความ SMS ให้แก่ลูกค้า สิ่งแรกที่ต้องทำคือการกำหนดกลุ่มเป้าหมายให้ชัดเจน รู้ว่ากลุ่มเป้าหมายของตนเองคือใคร จะเข้าถึงได้อย่างไร และด้วยวิธีใด  ซึ่งมีหลักการง่าย ๆ ดังนี้

• Who – จะส่ง SMS ให้ใคร ใครคือกลุ่มเป้าหมายของเรา
• What – เนื้อหาใน SMS คืออะไร
• Why – ทำไมคนที่เราจะส่ง SMS หา จึงควรได้รับข้อความนี้
• When – จะส่ง SMS เมื่อไหร่
• Where – จะส่งที่ไหน
• How – เมื่อลูกค้าได้รับ SMS แล้ว จะนำข้อมูลที่ได้ไปใช้หรือก่อให้เกิดประโยชน์กับแบรนด์อย่างไร

ส่วนในการวัดผลของการทำ SMS Marketing นั้น สิ่งที่เราจะรู้ก็คือ SMS ดังกล่าวส่งถึงมือถือของลูกค้าหรือไม่ และส่งถึงกี่คน หรือ Delivery Rate นั่นเอง ส่วน Open Rate หรืออัตราการเปิดอ่าน SMS ของลูกค้านั้นขึ้นอยู่กับรุ่นของมือถือและการตั้งค่าว่าจะเปิดเผยให้ทราบได้หรือไม่ แต่วิธีหนึ่งที่จะทำให้เรารู้ค่า Open Rate ได้อย่างแน่นอนก็คือการแปะลิงก์เว็บไซต์ หรือช่องทางการซื้อ-ขายของแบรนด์ลงไปในข้อความนั้น ๆ เพราะถ้าหากมีการกดลิงก์ เราก็จะได้รู้ยอดการเข้าถึง หรือที่เรียกว่ายอด Reach รวมไปถึง Click Rate, Convention Rate และ Transaction Rate ด้วย

กลยุทธ์การทำ SMS Marketing

ดังที่ได้กล่าวไปว่า SMS Marketing คือเครื่องมือที่ตอบโจทย์ความต้องการทางธุรกิจหลายด้าน ทั้งช่วยเพิ่มฐานลูกค้าใหม่ รักษาฐานลูกค้าเก่า หรือใช้เพื่อโปรโมตแคมเปญทางการตลาดในแต่ละช่วงเวลา ซึ่งเราสามารถปรับแต่งข้อความให้ตรงใจผู้บริโภคและเหมาะสมกับแบรนด์ของตนเอง เพื่อจะได้สื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายที่พร้อมจะมาเป็นลูกค้าของเราได้อย่างแม่นยำ โดยการทำ SMS Marketing มีกลยุทธ์ช่วยกระตุ้นยอดขายที่ควรปฏิบัติตามดังนี้

• ใช้แจ้งเตือนโปรโมชัน Flash Sale เพื่อที่ลูกค้าจะได้ไม่พลาดโปรโมชันดี ๆ เพราะสินค้าราคาพิเศษจะช่วยดึงดูดให้คนมาซื้อมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลดราคาสินค้าที่มีระยะเวลาจำกัด จะยิ่งทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าต้องรีบตัดสินใจและเข้ามาที่หน้าการขายทันที เมื่อนั้นเราก็จะสามารถปิดการขายได้อย่างรวดเร็ว
• ระบุชื่อลูกค้าแบบรายบุคคล กล่าวคือ เป็นการส่ง SMS เฉพาะบุคคล ด้วยการระบุชื่อลูกค้าคนนั้น ๆ โดยตรงเพื่อสร้างความรู้สึกพิเศษแก่ลูกค้า อันจะนำมาซึ่งความสัมพันธ์อันดีในระยะยาวระหว่างลูกค้ากับแบรนด์ โดยการส่ง SMS รูปแบบนี้สามารถทำได้ในหลายโอกาส เช่น SMS มอบสิทธิพิเศษ SMS แจ้งโปรโมชันพิเศษ หรือแม้แต่ SMS อวยพรวันเกิดก็ได้เช่นกัน
• กระตุ้นให้ลูกค้ากลับมาซื้อซ้ำ ด้วยการส่ง SMS แจ้งเตือนเกี่ยวกับโปรโมชันต่าง ๆ พร้อมแนะนำสินค้าใกล้เคียงกับที่ลูกค้าเคยซื้อไป หรือเสนอสินค้าใหม่ ๆ ที่อาจตรงกับความชอบของลูกค้า โดยการส่งข้อความ SMS ลักษณะนี้เป็นการทำการตลาดที่ช่วยสร้างโอกาสในการซื้อซ้ำ และอาจทำให้ลูกค้าบางคนกลายมาเป็นลูกค้าประจำของแบรนด์ด้วย
• ส่งให้ถูกกลุ่ม ถูกเวลา ในส่วนนี้เราจะต้องมีการวิเคราะห์ตลาดในการจัดกลุ่มลูกค้าให้ดี เพื่อจะได้ส่ง SMS ให้ตรงกับความต้องการที่หลากหลายของคนแต่ละกลุ่ม โดยสามารถวิเคราะห์ได้จากเพศ อายุ ไลฟ์สไตล์ สินค้าที่เคยซื้อหรือสินค้าที่สนใจ ตลอดจนช่องทางการซื้อ-ขายที่ลูกค้ากลุ่มนั้น ๆ มักใช้เป็นประจำ
• สร้างการมีส่วนร่วม (Engagement) ด้วยกิจกรรมพิเศษ ปฏิเสธไม่ได้ว่ากิจกรรมพิเศษของทางแบรนด์นั้นช่วยกระตุ้นการมีส่วนร่วมของกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากทีเดียว ทั้งยังเป็นการสานสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์กับลูกค้าให้เหนียวแน่นมากขึ้นอีกด้วย เช่น กิจกรรมสุ่มแจกรางวัล กิจกรรมลุ้นโชค หรือการโหวต เป็นต้น

สรุป

SMS Marketing จึงเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือทางการตลาดที่เราไม่ควรมองข้าม แม้ว่าในยุคนี้ ผู้ประกอบการหลายคนจะผันตัวไปทำธุรกิจผ่านช่องทางออนไลน์แล้วก็ตาม แต่การส่งข้อความก็ยังถือเป็นวิธีเก่า ๆ ที่ยังคงมีประสิทธิภาพอยู่ เพราะช่วยให้การสื่อสารส่งตรงไปยังลูกค้าได้เลยทันที ไม่ว่าจะเป็นในเรื่องของการเอาไว้คอยส่งข้อความแจ้งเตือน การแจ้งโปรโมชัน การแจ้งข่าวสาร หรือการประชาสัมพันธ์สินค้าหรือบริการแบบใหม่เพื่อกระตุ้นให้เกิดยอดขายที่ดี โดยปัจจุบันนี้ มีผู้ให้บริการส่ง SMS มากมายหลายเจ้าเกิดขึ้น ผู้ประกอบการจึงควรพิจารณาจากความน่าเชื่อถือและความมีเสถียรภาพของระบบการส่งข้อความเป็นหลัก เพื่อให้การตลาดแบบ SMS Marketing เกิดประโยชน์สูงสุดกับธุรกิจของตน

อย่างไรก็ตาม การทำ SMS Marketing ทุกวันนี้ก็มีสิ่งที่ควรต้องพึงระวัง เพราะอาจทำให้เกิดสิ่งที่เรียกว่า “สแปม (Spam)” หรือข้อความที่เราไม่ได้ต้องการขึ้นได้ ซึ่งจะเป็นการสร้างความรำคาญให้แก่ลูกค้าหลาย ๆ คน และเมื่อมีสแปมเยอะขึ้น ลูกค้าก็อาจไม่ค่อยสนใจ SMS ที่ได้รับมากเท่าที่ควร ถึงแม้ว่าการส่งข้อความจะมีประสิทธิภาพในระดับหนึ่ง แต่ก็อย่าลืมว่าไม่มีอะไรรับประกันได้ 100% ว่าลูกค้าจะกดเข้ามาอ่านหรือมีปฏิสัมพันธ์อื่น ๆ กับตัวข้อความของเราหรือไม่ ดังนั้น การทำ SMS Marketing อาจจะต้องใช้เทคนิคอื่น ๆ ร่วมด้วยเพื่อให้เกิดผลลัพธ์ที่ชัดเจน และกลยุทธ์ที่เรียกได้ว่าเป็นที่นิยมมากที่สุดในวงการการตลาดขณะนี้ แถมยังไม่มีค่าใช้จ่าย ก็คือการทำ SEO นั่นเอง โดยหากเราสามารถทำไปพร้อม ๆ กันได้ แบรนด์ก็จะยิ่งมีโอกาสเติบโตได้มากยิ่งขึ้น