คู่มือ Search Ads 360 แพลตฟอร์มโฆษณาที่นักการตลาดห้ามพลาด!

ในยุคที่เต็มไปด้วยเทคโนโลยีดิจิทัลเช่นนี้ นอกจากจะมีอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ช่วยอำนวยความสะดวกแก่ผู้บริโภคมากขึ้นแล้ว ยังมีเครื่องมือมากมายสำหรับนักการตลาดเพื่อการทำธุรกิจที่ง่ายและรวดเร็วขึ้นอีกด้วย หนึ่งในนั้นคือSearch Ads 360 แพลตฟอร์มการจัดการแคมเปญการตลาดที่รวบรวมทุกฟังก์ชันสำหรับการทำโฆษณาแบบแอดวานซ์ ตลอดจนสามารถแสดงภาพรวมแคมเปญและโพรเจกต์ต่าง ๆ ไว้ในที่เดียว โดยเมื่อต้นปีที่ผ่านมา Google มีการประกาศเวอร์ชันอัปเดตของ Search Ads 360 และระบุว่าเป็นเวอร์ชันที่ดีที่สุดสำหรับผู้ประกอบธุรกิจทุกประเภท บทความนี้จึงจะพาไปเจาะลึกกันว่า Search Ads คืออะไร เวอร์ชันอัปเดตเป็นอย่างไร และมีประโยชน์อย่างไรบ้างในการทำการตลาดของเรา

Search Ads 360 มีประโยชน์อย่างไร

Search Ads คืออะไร?

Search Ads คือ เครื่องมือ PPC ที่ช่วยให้นักการตลาดจัดการแคมเปญโฆษณาบนเครือข่ายการค้นหา (Search Engine) และช่องทางสื่อต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงสามารถเสนอราคาในเครื่องมือค้นหาหลักและเครือข่ายดิสเพลย์ทั้งหมดได้ในที่เดียว กล่าวคือ นักการตลาดสามารถสร้างแคมเปญทั้งใน Google, Bing หรือ Yahoo! ได้ด้วยอินเทอร์เฟซเดียว ทำให้สะดวกสบายในการใช้งาน โดยเฉพาะธุรกิจดิจิทัลเอเจนซีที่สามารถใช้ Search Ads 360 ในการจัดการกระบวนการโฆษณาของลูกค้าได้ในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็น

  • การเสนอราคาอัตโนมัติ โดยเครื่องมือนี้จะเสนอราคาคีย์เวิร์ดจากหลายช่องทางโดยอัตโนมัติ ตามข้อมูลของประสิทธิภาพในการค้นหาครั้งก่อนหน้า
  • การรายงานผล ผู้ใช้งานสามารถสร้างรายงานเกี่ยวกับผลลัพธ์ของแคมเปญได้อย่างง่ายดาย เพราะ Ads 360 มีการแสดงถึงความโปร่งใสในแหล่งที่มาของผู้เข้าชม (Audience) งบประมาณ และการตั้งเวลาโฆษณา
  • การผสานรวมกับ Google Analytics การรายงานอัตโนมัติใน Google Analytics ช่วยให้นักการตลาดรู้ว่ามีผู้ใช้งานคลิกโฆษณาบนเครือข่ายการค้นหาไปยังไซต์อื่น ๆ บ่อยแค่ไหน เพื่อนำผลลัพธ์ดังกล่าวมาวิเคราะห์ว่าแคมเปญที่กำลังทำอยู่นั้นได้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่เหมาะสมแล้วหรือไม่ พร้อมทั้งนำไปปรับปรุงและพัฒนาแผนการตลาดของตนเองให้ดีขึ้นต่อไป

ทั้งนี้ การที่ Search Ads 360 ผสานรวมเข้ากับ Google Marketing Platform นั้น จะช่วยให้เราสามารถจัดการและติดตามแคมเปญได้ในหลายช่องทาง รวมถึงได้รับการรายงานและการระบุแหล่งที่มาที่หลากหลาย Search Ads 360 จึงมีประโยชน์ในการทำให้ขั้นตอนการจัดการโฆษณา รวมถึงการค้นหาคีย์เวิร์ดง่ายและสะดวกสบายขึ้นไม่น้อย ยิ่งไปกว่านั้น การใช้ Search Ads 360 ยังช่วยให้เราสามารถตัดสินใจได้ดียิ่งขึ้น ตลอดจนช่วยเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) ไปพร้อม ๆ กับการประหยัดเวลาและลดความซับซ้อนในการดำเนินงาน

 

Search Ads 360 กับ Google Ads ต่างกันอย่างไร?

เรียกได้ว่าทั้ง Search Ads 360 และ Google Ads ต่างก็เป็นเครื่องมือโฆษณาที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในหมู่นักการตลาด ด้วยฟังก์ชันการใช้งานและวัตถุประสงค์ที่คล้ายกัน คือ เพื่อส่งเสริมธุรกิจให้เป็นที่รู้จักในวงกว้าง และดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาที่เว็บไซต์มากขึ้น ทว่าความแตกต่างของสองเครื่องมือนี้อยู่ที่การออกแบบ คุณลักษณะ และค่าใช้จ่าย ดังนี้

ฟังก์ชันการทำงานข้ามแพลตฟอร์ม

ใน Google Ads เราสามารถดำเนินการได้แค่ครั้งละหนึ่งแอ็กเคานต์เท่านั้น แต่สำหรับ Search Ads 360 เราสามารถดำเนินการบนเครื่องมือการค้นหาทั้งหมดได้ภายในครั้งเดียว ทั้งยังสามารถแก้ไขแคมเปญผ่านฟังก์ชันย่อยต่าง ๆ บนเครื่องมือได้อย่างง่ายดายอีกด้วย

การเสนอราคาอัตโนมัติ

ประสิทธิภาพในการเสนอราคาอัตโนมัติของ Search Ads 360 นั้นสูงกว่า Google Ads หลายเท่า โดยตัวเครื่องมือจะมีการกำหนดรายรับที่ได้จากการโฆษณา (ROAS) และราคาต้นทุนต่อการดำเนินการ (CPA) ของแต่ละแพลตฟอร์มที่เราเลือกใช้ เพื่อให้การเสนอราคาอัตโนมัติเป็นไปอย่างถูกต้องและแม่นยำมากที่สุด

การระบุแหล่งที่มาของข้อมูล (DDA)

อินเทอร์เฟซของ Search Ads 360 ช่วยให้เราสามารถสร้างโมเดลการระบุแหล่งที่มาของข้อมูล (DDA) ได้อย่างง่ายดาย ไม่ว่าจะจากโซเชียลมีเดีย ทราฟฟิกทั่วไป หรือทราฟฟิกจากเครื่องมือค้นหาต่าง ๆ โดยสามารถสร้างได้สูงสุดจำนวน 5 โมเดลในครั้งเดียว ในทางกลับกัน Google Ads สามารถสร้างโมเดล DDA ได้เพียงโมเดลเดียว และอิงตามข้อมูลที่ได้รับจากเครื่องมือ Google Ads เท่านั้น

การระบุแหล่งที่มาของข้อมูล จะทำให้เราเห็นภาพชัดยิ่งขึ้นว่ามีกลุ่มเป้าหมายที่ค้นหาคีย์เวิร์ดเกี่ยวกับธุรกิจของเรา คลิกเข้ามาที่เว็บไซต์เรามากน้อยเพียงใด หรือมีคนคลิกจากโฆษณาที่เราซื้อพื้นที่ไว้บ่อยแค่ไหน ตลอดจนช่องทางใดที่ก่อให้เกิดการตัดสินใจซื้อ (Conversion) ของผู้บริโภคมากที่สุด แล้วนำข้อมูลเหล่านั้นมาวางแผนทำการตลาดในอนาคตเพิ่มเติม

 

อัปเดตล่าสุด Search Ads 360 มีอะไรเปลี่ยนไปบ้าง?

สิ่งสำคัญที่เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัดคือ “อินเทอร์เฟซ” ของ Search Ads 360 ซึ่งก่อนหน้านี้ ตัวเครื่องมือมีอินเทอร์เฟซที่ดูค่อนข้างรก ด้วยขั้นตอนการค้นหาข้อมูลต่าง ๆ ที่มีความยุ่งยากกว่าอินเทอร์เฟซมาตรฐานของ Google Ads เนื่องจากมีฟีเจอร์จำนวนมาก ทำให้การใช้งานดูซับซ้อน โดยล่าสุด Google ได้แก้ไขปัญหาเหล่านี้แล้วเรียบร้อย ผ่านการปรับหน้าอินเทอร์เฟซใหม่ให้ใช้งานสะดวกยิ่งขึ้น พร้อมทั้งทำให้เครื่องมือรองรับกับไมโครซอฟต์รูปแบบใหม่ได้ 

นอกจากนี้ Search Ads 360 เวอร์ชันล่าสุด ยังมีการปรับฟังก์ชันการเสนอราคาให้เหมาะสมกับแต่ละแพลตฟอร์มที่ผู้ใช้งานเลือกอีกด้วย เพื่อให้บริการด้านพื้นที่โฆษณาเกิดประสิทธิภาพสูงสุดแก่นักการตลาดทุกราย

 

สรุป

ดังนั้น จะเห็นได้ว่า Search Ads คือเครื่องมือที่เหมาะสมสำหรับธุรกิจที่มีกลุ่มเป้าหมายและต้องการพื้นที่โฆษณาหลากหลาย เพราะนอกจากจะมีเทคโนโลยีการเสนอราคาที่ดีที่สุดแล้ว Search Ads 360 ยังมีประโยชน์ด้านการปรับแต่งแคมเปญตามความต้องการของผู้ลงโฆษณาอีกด้วย ยิ่งไปกว่านั้น การใช้งานเครื่องมือดังกล่าวจะช่วยให้เราสามารถบริหารจัดการงบประมาณและรับมือกับการเปลี่ยนแปลงจากเหตุการณ์ต่าง ๆ ได้ดียิ่งขึ้น ส่งผลให้ผลลัพธ์ของแคมเปญมีประสิทธิภาพมากกว่าเดิม