Offline Conversion Tracking คืออะไร จำเป็นแค่ไหนสำหรับธุรกิจ
สิ่งสำคัญที่นักการตลาดทุกคนต้องทำ คือ การวัดผลลัพธ์จากการทำการตลาด เพื่อประเมินว่าแคมเปญการตลาดที่กำลังทำอยู่ได้ผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) ที่คุ้มค่าหรือไม่ กลยุทธ์ที่ใช้อยู่สามารถตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มเป้าหมายได้มากแค่ไหน รวมถึงต้องวัดผลประสิทธิภาพของโฆษณาที่ทำผ่านช่องทางต่าง ๆ ด้วย ซึ่งการพิจารณาเพื่อวัดผลลัพธ์เหล่านี้ ไม่ได้มีแค่การเก็บข้อมูล ยอดกดไลก์ กดแชร์ หรือจำนวนการคลิกลิงก์เท่านั้น แต่การวิเคราะห์ยอด Conversion ในส่วนอื่น ๆ ก็จำเป็นไม่แพ้กัน เช่น
- ยอดคลิกโฆษณามายัง Landing page
- การหยิบสินค้าใส่ตะกร้า แม้ยังไม่ได้ชำระเงิน
- ยอดขายจากการซื้อสินค้าและบริการ
ปัจจัยเหล่านี้ หากเป็นการตลาดออนไลน์อย่างเดียวก็สามารถวัดผลได้ง่ายดายอยู่แล้ว เพราะการตลาดออนไลน์จะมีเครื่องมืออำนวยความสะดวกต่าง ๆ เข้ามาช่วยเหลือในการเก็บข้อมูลมาวิเคราะห์ เช่น Google Analytics, Google Search Console หรือระบบหลังบ้านของโซเชียลมีเดีย โดยที่เราไม่ต้องเสียเวลารวบรวมเอง แต่หากเป็นธุรกิจที่มีขายหน้าร้านด้วย แล้วเราจะรู้ได้อย่างไรว่าลูกค้าที่เดินทางมาซื้อสินค้าหรือใช้บริการที่ร้านนั้นมาจากช่องทางใด ตามมาจากโฆษณาออนไลน์หรือไม่
ดังนั้น จึงต้องมีเทคนิค “Offline Conversion Tracking” หรือการติดตามยอดขายแบบออฟไลน์ คือ การติดตามผลลัพธ์เหมือนกับเวลาที่เราทำบนช่องทางออนไลน์ แต่เปลี่ยนมาเป็นตรวจสอบกับยอดขายหน้าร้านแทน เพื่อให้มั่นใจว่าแคมเปญของเรามีประสิทธิภาพทุกช่องทางที่ลงทุนไป
แต่ก่อนจะไปอธิบายว่า Offline Conversion Tracking คืออะไรแบบชัด ๆ เรามาเท้าความกันก่อนดีกว่าว่าการตลาดออฟไลน์คืออะไร
Table of Contents
Offline Marketing คืออะไร
Offline Marketing หรือ การตลาดออฟไลน์ คือ การทำการตลาดแบบที่ไม่มีการใช้อินเทอร์เน็ตเข้ามาเกี่ยวข้อง ตรงข้ามกับการตลาดออนไลน์ ข้อจำกัดคืออาจต้องใช้ต้นทุนสูง หากต้องการให้ข้อมูลเข้าถึงคนจำนวนมากในระยะเวลาอันรวดเร็ว แต่ข้อดีคือมีความน่าเชื่อถือสูงกว่าการตลาดออนไลน์มาก เพราะสมัยนี้ การตลาดออนไลน์สามารถทำได้ง่าย จึงทำให้บางครั้งอาจเต็มไปด้วยโฆษณาหลอกลวง ซึ่งทำให้ผู้ใช้งานเชื่อถือได้ยาก ดังนั้น แม้ว่าอิทธิพลของอินเทอร์เน็ตและเทคโนโลยีจะส่งผลให้การตลาดออนไลน์จะได้รับความนิยมมากขึ้นแล้ว แต่การตลาดออฟไลน์ก็ยังคงมีบทบาทสำคัญกับธุรกิจในโลกปัจจุบันเช่นกัน โดยมักเป็นที่รู้จักในชื่อ “การตลาดแบบดั้งเดิม” หรือ “Traditional Marketing”
ตัวอย่างการทำการตลาดออฟไลน์ เช่น การโฆษณาทางโทรทัศน์ วิทยุ การติด/ตั้งป้ายโฆษณา หรือสื่อสิ่งพิมพ์ต่าง ๆ เป็นต้น โดยส่วนมาก การตลาดออฟไลน์คือการสื่อสารทางเดียว ทำให้วัดผลลัพธ์ได้ยาก ไม่เหมือนการตลาดออนไลน์ที่อยากรู้อะไรก็ใช้เครื่องมือทางการตลาดช่วยหาได้เลยทันที
เพราะฉะนั้น เพื่อที่จะได้รู้ประสิทธิภาพของการทำการตลาดทั้งช่องทางออนไลน์และออฟไลน์ นักการตลาดจึงต้องคิดค้นวิธีการติดตามผลลัพธ์ของแคมเปญการตลาด ซึ่งก็คือ Offline Conversion Tracking นั่นเอง
Offline Conversion Tracking คืออะไร
Offline Conversion Tracking คือ เครื่องมือที่ช่วยให้นักการตลาดสามารถรู้ได้ว่า ลูกค้าที่มาซื้อของหน้าร้านเป็นคนเดียวกันกับคนที่มีปฏิสัมพันธ์บางอย่างกับแบรนด์บนช่องทางออนไลน์หรือไม่ เช่น เข้าชมเว็บไซต์ เห็นโฆษณา หรือกดสินค้าลงตะกร้า ด้วยการนำข้อมูลของลูกค้าทั้งสองช่องทางมาแมตช์กัน เพื่อดูว่ายอด Conversion Rate จากการทำแคมเปญการตลาดออนไลน์นั้น ๆ มีผลต่อการซื้อของที่หน้าร้านจำนวนเท่าไร คิดเป็นกี่เปอร์เซ็นต์ และได้ผลตามที่ตั้งเป้าหมายไว้มากน้อยแค่ไหน
ตัวอย่างการติดตามลูกค้าที่ชำระเงินจากการซื้อของหน้าร้าน ว่าเป็นคนเดียวกันกับบนช่องทางออนไลน์ของแบรนด์หรือไม่ เช่น การอัปโหลดข้อมูลทั่วไปของลูกค้า ในกรณีที่เป็นสมาชิกของแบรนด์ ได้แก่ ชื่อ อีเมล เบอร์โทรศัพท์ และระบบการชำระเงิน แล้วนำมาจับคู่กันกับชื่อผู้ใช้งานบนช่องทางออนไลน์ เพื่อตรวจสอบว่ามีข้อมูลตรงกันหรือไม่ เป็นต้น
ข้อดีของ Offline Conversion Tracking คืออะไร
- ช่วยให้นักการตลาดสามารถวัดผลลัพธ์ในการทำแคมเปญ ว่าประสบความสำเร็จตามที่ตั้งเป้าหมายไว้หรือไม่
- ช่วยให้นักการตลาดสามารถวางกลยุทธ์ได้ดีขึ้น ทั้งรูปแบบออนไลน์และออฟไลน์
- ช่วยให้การทำโฆษณาโปรโมตแบรนด์มีประสิทธิภาพมากขึ้น
นอกจากนี้ สถิติจาก Hubspot ยังระบุอีกว่า
- 81% ของผู้บริโภค มักจะทำการค้นหาข้อมูลของแบรนด์ หรือสินค้าที่ต้องการซื้อ ก่อนตัดสินใจชำระเงิน
- 90% ของผู้บริโภคในสหรัฐอเมริกา จะทำการหาข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าที่ตนเองสนใจผ่านทางออนไลน์ และเดินทางมาซื้อสินค้าที่หน้าร้าน เพื่อให้เห็นสินค้าจริงก่อนตัดสินใจซื้อ (ROPO: Research Online Purchase Offline) โดยเฉพาะสินค้าที่ต้องมีการลองสวมใส่ก่อนซื้อ เช่น เสื้อผ้า รองเท้า เครื่องประดับ เป็นต้น จึงมีเพียง 10% เท่านั้นที่จะตัดสินใจซื้อสินค้าในเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน
ดังนั้น หากเราติดตามแค่ผลลัพธ์การตลาดออนไลน์เพียงอย่างเดียว เราก็จะได้รู้แค่ว่ามีคนเข้ามาดูสินค้าที่หน้าเว็บไซต์ของเรากี่คน กดลงตะกร้ากี่คน แต่หากพวกเขาเหล่านั้นมาซื้อที่หน้าร้านแทนการกดผ่านเว็บฯ หรือแอปฯ เราก็จะไม่รู้ว่าสินค้าแต่ละประเภทขายได้เท่าไร ส่งผลให้ต้องมีการทำ Offline Conversion Tracking ด้วย เพื่อเชื่อมระหว่างลูกค้าออนไลน์และออฟไลน์ที่ในหลาย ๆ ครั้งก็เป็นคนเดียวกัน และเพื่อให้ได้ยอด Conversion Rate ที่แม่นยำที่สุดในการนำมาวิเคราะห์แผนการตลาดต่อไป
ร่วมงานกับ Syndatrace เพื่อทำ Offline Conversion Tracking
แน่นอนว่าระบบการทำ Offline Conversion Tracking ยังไม่เป็นที่นิยมในไทยนัก เพราะปัจจุบัน เราหันไปโฟกัสกับการติดตามผลลัพธ์ทางออนไลน์กันมากกว่า แต่ “Syndatrace“ จะช่วยให้การติดตามยอดขายออฟไลน์เป็นไปอย่างสะดวกและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ซึ่งนักการตลาดจะไม่ต้องเสียเวลาไปกับการซิงค์ข้อมูลต่าง ๆ ด้วยตัวเอง เพียงแค่ไว้ใจให้ Syndatrace จัดการ ส่วนผู้ใช้บริการก็สามารถเอาเวลาไปโฟกัสที่การทำธุรกิจในส่วนอื่นได้เลย
Syndatrace คือ ระบบติดตามการขายสำหรับทีมการตลาด ที่ให้ผู้ใช้บริการสามารถติดตามยอดขายแบบออฟไลน์ได้โดยละเอียด ทั้งยังช่วยเพิ่ม ROI แก่ธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยสามารถทำงานได้กับทุกแพลตฟอร์มโฆษณา ไม่ว่าจะเป็น Facebook, TikTok, Instagram, Google, HubSpot หรือ Salesforce
สิ่งที่ Syndatrace สามารถช่วยนักการตลาดได้ มีดังนี้
- ทำกำไรจากการขายหน้าร้านได้มากขึ้น ด้วยแคมเปญการตลาดดิจิทัล
- จัดสรรงบประมาณไปกับแคมเปญการตลาดดิจิทัลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- ดูได้ว่าแคมเปญไหนที่ทำกำไรได้มากที่สุด เพื่อนำไปพัฒนาต่อยอดให้ดีขึ้น
- สร้างกลุ่มเป้าหมาย และทำ Retargeting ได้อย่างแม่นยำ ด้วยข้อมูลที่ได้จากหน้าร้านและช่องทางออนไลน์
ทั้งนี้ ในการดำเนินงาน Syndatrace จะติดตั้ง Sale Tools Offline หรือเครื่องมือติดตามการขายเข้ากับโปรแกรม POS ของผู้ใช้บริการ ส่วนผู้ใช้บริการมีหน้าที่เพียงรวบรวมข้อมูลของลูกค้า เช่น เบอร์โทรศัพท์ หรืออีเมล มาใส่ไว้ในซอฟต์แวร์ที่อยู่ใน POS จากนั้นก็สามารถเข้าถึงข้อมูลทั้งหมดที่อยู่ในระบบติดตามการขาย และนำข้อมูลไปใช้กับแพลตฟอร์มโฆษณาได้เลยทันที
สรุป
ปฏิเสธไม่ได้ว่าความท้าทายหนึ่งของการทำการตลาด คือ การดูแลภาพรวมการขายทั้งทางออนไลน์และออฟไลน์ เพราะสิ่งสำคัญคือการพิสูจน์ให้ได้ว่ายอดขายที่เราได้รับนั้น คุ้มค่ากับงบประมาณการตลาดที่เราลงทุนไปหรือไม่ ดังนั้น จึงต้องมี Offline Conversion Tracking หรือเครื่องมือที่ใช้ในการรวบรวม Conversion Rate ของผู้ที่มีปฏิสัมพันธ์กับแบรนด์ผ่านทางออนไลน์ และมาซื้อสินค้าที่หน้าร้าน เพื่อให้นักการตลาดรู้ว่าผลลัพธ์จากการทำแคมเปญนั้น ๆ มีประสิทธิภาพหรือไม่ และสามารถนำข้อมูลดังกล่าวมาวิเคราะห์เพื่อวางแผนทำการตลาด ให้สามารถสร้างผลตอบแทนและยอดขายให้แก่แบรนด์ได้อย่างเหมาะสมต่อไป
Join the discussion - 0 Comment