Lookalike Audience คืออะไร สำคัญต่อการยิงโฆษณาอย่างไร

ในการทำธุรกิจออนไลน์ การยิงโฆษณาบนแพลตฟอร์มต่าง ๆ ถือเป็นเรื่องสำคัญ เพราะบนโลกออนไลน์เรามีคู่แข่งจำนวนมาก แถมยังมีธุรกิจที่ขายสินค้าหรือบริการคล้ายเราเป็นร้อย ๆ พัน ๆ เจ้า จึงไม่มีอะไรรับประกันได้ว่ากลุ่มเป้าหมายจะค้นพบเรา ซึ่งแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่เหล่าร้านค้านิยมยิงโฆษณากันมากที่สุดคงหนีไม่พ้น Facebook (Meta) เนื่องจากเป็นช่องทางที่มีจำนวนผู้ใช้งานมากที่สุดในโลกมาตั้งแต่ช่วงแรก ๆ ของการเปิดตัวจนถึงปัจจุบัน และเมื่อมีผู้ใช้งานเยอะ ก็เท่ากับว่าโอกาสที่โฆษณาของเราจะถูกมองเห็นก็มีเยอะตามไปด้วย

แต่ไม่ใช่แค่จำนวนผู้ใช้งานเท่านั้นที่เยอะ เพราะโฆษณาจากร้านค้าต่าง ๆ ก็มีมากไม่แพ้กัน ดังนั้น การจะยิงโฆษณาให้มีประสิทธิภาพนั้น นอกจากจะต้องระบุวัตถุประสงค์ (Objective) ให้ตรงตามจุดมุ่งหมายที่แท้จริงของการทำแคมเปญแล้ว ยังต้องกำหนดกลุ่มเป้าหมายให้เหมาะสมกับแบรนด์อีกด้วย โดยในการตั้งค่าการยิงโฆษณาของ Facebook จะมีให้เราระบุได้ว่าต้องการให้ผู้พบเห็นโฆษณานี้เป็นคนกลุ่มใด เพศอะไร อายุเท่าไร อาศัยอยู่ส่วนไหนของโลก ฯลฯ เพื่อให้โฆษณาของเราไปขึ้นบนหน้าฟีดของผู้ที่เป็นกลุ่มเป้าหมายของเราจริง ๆ

กระนั้น แม้โอกาสในการยิงโฆษณาไปสู่กลุ่มเป้าหมายที่ตรงจุดจะมีมากขึ้นจากการระบุลักษณะของกลุ่มเป้าหมายแล้ว เรายังมีฟีเจอร์ที่เรียกว่า “Lookalike Audience” ที่สามารถช่วยให้การกำหนดกลุ่มเป้าหมายของเราแคบลงได้ ไปดูกันเลยว่า Lookalike Audience คืออะไร !

Lookalike Audience มีประโยชน์อย่างไร

Lookalike Audience คืออะไร

Lookalike Audience คือ กลุ่มเป้าหมายที่มีลักษณะคล้ายคลึงกัน ทั้งอายุ เพศ ที่อยู่อาศัย ไลฟ์สไตล์ ความชอบ ความสนใจ กิจกรรมยามว่าง เป็นต้น ซึ่งหากยึดถือตามแนวคิดที่เชื่อว่าบุคคลที่มีลักษณะใกล้เคียงกันมักจะชอบอะไรเหมือน ๆ กัน ก็จะมีแนวโน้มว่ากลุ่มเป้าหมายที่คล้ายกันจะสนใจสินค้าหรือบริการแบบเดียวกันด้วย

ในการยิงโฆษณาบน Facebook ทางแพลตฟอร์มจะมีฟีเจอร์ Lookalike Audience ที่ช่วยให้เราสามารถสร้างกลุ่มเป้าหมายใหม่ที่มีลักษณะใกล้เคียงกับกลุ่มลูกค้าเดิมได้ง่ายขึ้น ซึ่งคนทำธุรกิจออนไลน์ทุกคนควรทำความเข้าใจ เพราะไม่ว่าใครก็อยากจะขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้นกว่าเดิมกันทั้งนั้น จะขายให้กลุ่มลูกค้าเดิม ๆ ตลอดไปไม่ได้ และการจะหาลูกค้าใหม่ที่มีความต้องการสอดคล้องวัตถุประสงค์ของแบรนด์เราจริง ๆ ก็ไม่ได้ง่ายขนาดนั้น Lookalike Audience จึงจะเป็นเครื่องมือที่ช่วยเรากำหนดขอบเขตของการหาลูกค้าใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น

 

หลักการทำงานของ Lookalike Audience เป็นอย่างไร

หลักการทำงานของการยิงโฆษณาไปยังกลุ่มเป้าหมายที่คล้ายกันกับฐานลูกค้าเดิมนั้นไม่มีอะไรซับซ้อน กล่าวคือ อัลกอริทึมของ Facebook จะวิเคราะห์ฐานลูกค้าที่มีอยู่แต่เดิมของเรา อาจเป็นบุคคลที่เคยมีปฏิสัมพันธ์กับเพจหรือธุรกิจของเราในรูปแบบใดก็ได้ โดยอัลกอริทึมสามารถหากลุ่มเป้าหมายที่ใกล้เคียงกันได้มากถึงเกือบร้อยล้านบัญชีเลยทีเดียว ดังนั้น จำนวนของ Lookalike Audience ที่อัลกอริทึมคัดมาให้อาจมีให้เลือกถึงหลักล้าน ซึ่งพออัลกอริทึมเลือกกลุ่มเป้าหมายต้นแบบมาให้แล้ว เราก็สามารถเลือกได้ว่าอยากให้กลุ่มเป้าหมายใหม่มีความเหมือนหรือคล้ายกับพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมายต้นแบบมากแค่ไหนตามเปอร์เซ็นต์ ยิ่งเราเลือกให้อัลกอริทึมหาคนที่มีความคล้ายคลึงกับลูกค้าเดิมมากเท่าไร จำนวนของ Lookalike Audience ก็จะเล็กลงเรื่อย ๆ จากนั้น อัลกอริทึมก็จะนำข้อมูลไปเปรียบเทียบและหากลุ่มเป้าหมายที่คล้ายกันกับลูกค้าเก่าเหล่านั้นมาให้ แล้วเราก็สามารถนำข้อมูลที่ได้มาปรับใช้ในการสร้างกลุ่มเป้าหมาย เพื่อยิงโฆษณาหรือรันแคมเปญต่าง ๆ ได้ ผลลัพธ์คือ เราจะได้ฐานลูกค้าใหม่ที่มีโอกาสเป็นลูกค้าจริง ๆ มากขึ้น ไม่ต้องยิงโฆษณาแบบหว่านแหโดยที่ไม่รู้ว่าคนที่จะพบเห็นจะมีโอกาสมาเป็นลูกค้าของเราจริงไหมอีกต่อไป

 

ข้อดีของ Lookalike Audience คืออะไร

  • ช่วยขยายฐานกลุ่มเป้าหมายใหม่ ๆ ในการยิงโฆษณาได้อย่างรวดเร็วและกว้างขวาง ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
  • ช่วยให้ธุรกิจเติบโตมากขึ้น จากการมีฐานลูกค้าที่เพิ่มขึ้น
  • ทำให้การลงทุนไปกับค่าโฆษณาคุ้มค่ากว่าเดิม เพราะคนที่พบเห็นโฆษณาคือบุคคลที่มีโอกาสจะมาเป็นลูกค้าจริง ๆ
  • ช่วยเพิ่มยอดขายให้ธุรกิจ
  • เป็นกลยุทธ์การเข้าถึงลูกค้าใหม่ที่ไม่ต้องใช้งบประมาณจากหลาย ๆ ทาง
  • เป็นหนึ่งในฟีเจอร์การยิงโฆษณาของ Facebook ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มที่เติบโตขึ้นทุกวัน และเป็นช่องทางที่คนนิยมใช้ยิงโฆษณามากที่สุดในโลก
  • ช่วยสร้างการรับรู้แบรนด์ (Brand Awareness) ในวงกว้าง
  • เป็นกลยุทธ์การยิงโฆษณาที่ได้รับความนิยมในหมู่ธุรกิจที่ประสบความสำเร็จในการสร้างกลุ่มเป้าหมายอย่างตรงจุด ทั้งยังได้รับการยอมรับจากเหล่านักการตลาดว่าเป็นฟีเจอร์ที่มีประสิทธิภาพ

Lookalike Audience ตัวอย่าง

การสร้าง Lookalike Audience มีกี่รูปแบบ

อย่างที่บอกไปว่าการสร้าง Lookalike Audience คือการหากลุ่มเป้าหมายที่มีลักษณะคล้ายกับกลุ่มลูกค้าเก่า ซึ่งพอเป็นการซื้อ-ขายออนไลน์ ปัจจัยที่สามารถนำมาเทียบกันได้ก็คงหนีไม่พ้นการมีส่วนร่วม (Engagement) ในรูปแบบต่าง ๆ โดยสามารถแบ่งออกได้เป็น 4 รูปแบบหลัก ๆ ดังนี้

การสร้าง Lookalike Audience จากผู้ที่กดถูกใจเพจ

วิธีนี้เป็นหนึ่งในการตั้งค่าฟีเจอร์ Lookalike Audience บน Facebook สามารถใช้ได้จริง แต่ผลลัพธ์ที่ออกมาอาจไม่ได้มีประสิทธิภาพ 100% เพราะคนที่กดถูกใจเพจเรานั้นสามารถมาได้จากหลากหลายช่องทาง ทั้งออร์แกนิก ทั้งโฆษณา และบางเพจก็ซื้อยอดไลก์มาด้วยซ้ำ ดังนั้น จึงอาจไม่เหมาะเท่าไรสำหรับเพจใหญ่ที่มีคนกดไลก์เยอะ ๆ และต้องการเจาะกลุ่มเป้าหมายแบบตรงจุดจริง ๆ

การสร้าง Lookalike Audience จากผู้ที่มีส่วนร่วมกับโฆษณา

วิธีนี้ อัลกอริทึมของ Facebook จะเข้ามาดูข้อมูลของคนที่มีปฏิสัมพันธ์บางอย่างกับโฆษณาหรือแคมเปญที่เรายิง ไม่ว่าจะเป็นการกดไลก์ กดแชร์ หรือคอมเมนต์ จากนั้นก็จะคัดเลือกกลุ่มเป้าหมายใหม่ที่มีลักษณะคล้ายกับกลุ่มคนเหล่านั้นมาให้ โดยการสร้าง Lookalike Audience รูปแบบนี้ค่อนข้างเป็นที่นิยม เนื่องจากเป็นการกำหนดกลุ่มเป้าหมายใหม่จากผู้ที่มีความสนใจในโฆษณาของเราจริง ๆ ซึ่งจะทำให้ได้ผลลัพธ์ที่มีประสิทธิภาพ

การสร้าง Lookalike Audience จากผู้ที่เข้าชมเว็บไซต์

ส่วนมากในเพจธุรกิจก็จะมีการแปะลิงก์เว็บไซต์ไว้ที่หน้าเพจอยู่แล้ว ดังนั้น การสร้าง Lookalike Audience รูปแบบนี้จึงเป็นอีกวิธีที่ได้รับความนิยม โดยอัลกอริทึมของ Facebook จะช่วยตรวจสอบให้ได้ว่า มีผู้ที่คลิกลิงก์จากบนเพจไปยังเว็บไซต์ของเรากี่คน ใครบ้าง แล้วนำข้อมูลของกลุ่มคนเหล่านั้นมาสร้างเป็นกลุ่มเป้าหมายใหม่ แต่เราจะต้องมีเครื่องมือวัดผลบนเว็บไซต์ด้วยว่าพวกเขาเข้ามาเป็นเวลานานหรือไม่ หรือค้างอยู่ที่หน้าไหนนานที่สุด เพราะบางทีเขาอาจจะไม่ได้ตั้งใจกดเข้ามา หรือกดเข้ามาดูเล่น ๆ แต่ไม่ได้สนใจจะซื้อจริง ๆ ก็ได้ การใช้วิธีนี้จึงจะต้องตรวจสอบข้อมูลเชิงลึกบนเว็บไซต์ควบคู่กันไปจึงจะมีประสิทธิภาพ

การสร้าง Lookalike Audience จากอีเมลหรือเบอร์โทรศัพท์

วิธีนี้สามารถใช้ได้กับลูกค้าที่เข้ามาเยี่ยมชมที่หน้าร้าน โดยอาจจะไม่จำเป็นต้องมีปฏิสัมพันธ์กับเราทางออนไลน์เลยก็ได้ เพียงแค่เวลาที่มีลูกค้ามาซื้อของที่ร้าน แล้วเราขอข้อมูลอย่างอีเมลหรือเบอร์โทรศัพท์เอาไว้ ก็สามารถนำมาใส่ในฟีเจอร์ Lookalike Audience เพื่อให้ Facebook สร้างกลุ่มเป้าหมายที่คล้ายกันได้เลย แต่บางทีก็ยาก เพราะอีเมลและเบอร์โทรศัพท์ของลูกค้าเหล่านั้นจะต้องสัมพันธ์กับข้อมูลบน Facebook ของพวกเขาด้วย หลายครั้งที่ใส่ไปแล้วก็ไม่เกิดผลอะไร เพราะอีเมลที่ลูกค้าให้เรามากับอีเมลที่ใช้สมัคร Facebook คือคนละอันกัน วิธีนี้จึงไม่ค่อยเป็นที่นิยมมากเท่าไร

 

วิธีสร้าง Lookalike Audience บน Facebook Ads

  • เข้าไปที่หน้าเพจ เลือก Ad Center > All Ads > Go to Ads Manager
  • กดที่เมนูด้านบน เลือก Assets > Audience
  • สร้าง Custom Audience โดยกด Create Audience > Custom Audience
  • เลือกสร้างกลุ่มเป้าหมายจากฐานข้อมูลที่มี เช่น จากผู้ที่กดถูกใจเพจ หรือจากผู้ที่มีส่วนร่วมกับโฆษณาที่เรายิง เป็นต้น
  • ตั้งชื่อกลุ่มเป้าหมาย พร้อมใส่รายละเอียดต่าง ๆ ให้ครบถ้วน แล้วกด Create Audience
  • เลือก Lookalike Audience เพื่อสร้างกลุ่มเป้าหมายใหม่ที่คล้ายเดิม
  • พิมพ์ชื่อ Custom Audience ที่เราเพิ่งสร้างลงไป
  • กำหนดเปอร์เซ็นต์ Audience Size ที่ต้องการ ยิ่งเลขน้อย ฐานกลุ่มเป้าหมายก็จะยิ่งน้อยตาม
  • เพียงเท่านี้ การสร้าง Lookalike Audience ก็เป็นอันเสร็จสิ้น

 

สรุป

จะเห็นได้ว่า Lookalike Audience มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะนอกจากจะช่วยให้เราสามารถกำหนดขอบเขตในการยิงโฆษณาหรือรันแคมเปญได้แล้ว ยังทำให้กลุ่มเป้าหมายที่ได้มามีความใกล้เคียงกับลูกค้าเก่า ซึ่งมีแนวโน้มที่เราจะขายได้มากกว่าการยิงโฆษณาแบบหว่านแหโดยที่ไม่รู้ว่าผู้ที่พบเห็นโฆษณาของเรามีสิทธิ์จะมาเป็นลูกค้าจริง ๆ ของเรามากน้อยแค่ไหน แต่ก่อนจะยิงโฆษณา อย่าลืมทำความรู้จักกลุ่มเป้าหมายของตนเองให้ดีก่อน เพื่อที่ Lookalike Audience ที่สร้างขึ้นใหม่จะได้มีประสิทธิภาพมากที่สุด

หากคุณกำลังประสบปัญหาการตลาดบนโซเชียลมีเดีย Primal Digital Agency เอเจนซีโฆษณาอันดับหนึ่งของไทยยินดีให้ความช่วยเหลือในทุกแง่มุมของการทำธุรกิจ เพื่อให้คุณได้มีเวลาไปโฟกัสงานส่วนอื่นมากขึ้น ติดต่อเราได้เลยวันนี้