Guerrilla Marketing คืออะไร การตลาดกองโจรที่จะมาขโมยใจลูกค้า
ในยุคที่เศรษฐกิจยังไม่ฟื้นตัวเช่นนี้ การจะทุ่มงบประมาณจำนวนมหาศาลไปกับการทำการตลาดก็ออกจะดูเสี่ยงไปหน่อย ยิ่งในยุคหลังโควิด-19 ที่มีธุรกิจใหม่ ๆ ถือกำเนิดขึ้นมากมาย ส่งผลให้ในตลาดมีการแข่งขันกันอย่างหนักหน่วง ไม่มีอะไรรับประกันได้เลยว่าธุรกิจของเราจะได้เป็นที่หนึ่งในใจลูกค้า เพราะกลยุทธ์การตลาดที่เราคิดว่าแน่ ก็ไม่ได้มีแค่เราที่ทำอยู่แบรนด์เดียว แต่คู่แข่งของเราก็สรรหาเทคนิคต่าง ๆ มาทำการตลาดเพื่อเอาชนะเราให้ได้เช่นกัน
แล้วถ้างบประมาณน้อย เราสามารถทำอะไรได้บ้างล่ะ
ปัจจุบัน มีกลยุทธ์หนึ่งที่กำลังมาแรง เรียกว่า “Guerrilla Marketing” หรือกลยุทธ์การตลาดแบบกองโจร เหมาะสำหรับธุรกิจที่ไม่ต้องการใช้งบประมาณเยอะ ๆ แต่สามารถสร้างการรับรู้แบรนด์ (Brand Awareness) ได้อย่างกว้างขวาง แม้ชื่ออาจจะฟังดูน่ากลัวไปหน่อย แต่ความจริงแล้วเทคนิคนี้ไม่ได้มีอะไรไม่ดีอย่างที่คิด
มาดูกันเลยว่า Guerrilla Marketing คืออะไร
Table of Contents
Guerrilla Marketing คืออะไร
ดูจากชื่อแล้ว หลายคนน่าจะเดาออกว่ากลยุทธ์นี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากกลยุทธ์ทางการทหารที่ชื่อว่า “กองโจร” หากใครเคยเล่นเกมหรือดูหนังแนวต่อสู้ แนวสงครามมาก่อน ก็คงจะคุ้นเคยกับแผนการบุกจู่โจมแบบกองโจรกันมาบ้าง ซึ่งกลยุทธ์นี้มักเป็นของฝ่ายที่มีกำลังพลน้อยกว่า แต่มียุทธศาสตร์ในการบุกให้เกิดประโยชน์สูงสุดแบบไม่เสียกำลังพลไปเปล่า ๆ
หากเปรียบกับการตลาดแบบกองโจรแล้ว กำลังพลจะหมายถึงงบประมาณ ดังนั้น Guerrilla Marketing คือ การทำการตลาดที่ใช้งบประมาณจำกัด แต่สามารถสร้างผลลัพธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยกลยุทธ์นี้จะเน้นการใช้ความคิดสร้างสรรค์ในการสร้างความประหลาดใจให้แก่ผู้คน มักทำในที่สาธารณะ เพื่อเพิ่มโอกาสการบอกปากต่อปากและเป็นไวรัลในที่สุด เช่น McDonald’s เปลี่ยนทางม้าลายในสหรัฐอเมริกาให้กลายเป็นรูปเฟรนช์ฟรายส์ของแบรนด์ตัวเอง หรือ Nike ที่ติดโลโก้ของแบรนด์ลงบนพนักพิงม้านั่งในสวนสาธารณะ เพื่อโปรโมตให้คนออกไปวิ่ง หรือจะใช้วิธีการผลิตสินค้าออกมาน้อย ๆ ให้กลายเป็นของหายาก ทำให้ผู้บริโภครู้สึกว่าการหาซื้อให้ได้เป็นเรื่องท้าทาย อย่างไอศกรีมกูลิโกะก็ได้
นอกจากนี้ เรายังสามารถใช้วิธีบลัฟคู่แข่งเพื่อสร้างสีสันในวงการการตลาด ทำให้ผู้พบเห็นรู้สึกตลก และถ่ายรูปไปลงโซเชียลมีเดีย สร้างคอนเทนต์ให้เป็นกระแสได้โดยที่เจ้าของแบรนด์ไม่ต้องทำอะไรมาก เช่น สายการบินแอร์เอเชียที่ใช้ภาพณเดชน์ คูกิมิยะ ซึ่งเป็นพรีเซนเตอร์ของแบรนด์ ขึ้นป้ายบิลบอร์ดในที่สาธารณะ พร้อมข้อความสั้น ๆ ว่า “ณเดชน์ติดใจแอร์เอเชีย” สายการบินนกแอร์ที่เห็นเช่นนั้น ก็ตามมาขึ้นป้ายโฆษณาข้าง ๆ โดยใส่ข้อความว่า “แต่ขึ้นนกแอร์” เรียกได้ว่าเป็นกระแสขำขันกันในโซเชียลฯ อยู่พักหนึ่งทีเดียว
ข้อดีและข้อจำกัดของ Guerrilla Marketing คืออะไร
ข้อดีของ Guerrilla Marketing
- สร้างบรรยากาศใหม่ ๆ ในการทำการตลาดให้คึกคักกว่าเดิม
- สร้างการรับรู้แบรนด์ได้ในวงกว้าง
- กระตุ้นยอดขายได้มากขึ้น
- ใช้งบประมาณน้อย สามารถนำงบไปลงทุนกับส่วนอื่น ๆ ได้
- สามารถดึงดูดความสนใจของคนที่ผ่านไปผ่านมาได้ดี แม้ไม่รู้จักแบรนด์ของเรามาก่อนก็ตาม
- สร้างกระแสบนโลกอินเทอร์เน็ตให้เป็นไวรัลได้ง่าย
- เหมาะสำหรับช่วงที่ต้องการระบายสินค้าค้างสต็อก
ข้อจำกัดของ Guerrilla Marketing
- เหมาะสำหรับแคมเปญโปรโมตระยะสั้น เพราะความตื่นเต้นในกระแสใหม่ ๆ มักจะอยู่แค่ชั่วคราว แล้วหลังจากนั้นก็จะมีเทร็นด์ใหม่ ๆ ขึ้นมาแทน ทำให้คนเริ่มสนใจแคมเปญเราน้อยลงไปเรื่อย ๆ หากต้องการให้เกิดกระแสอีกครั้ง ก็ต้องคอยคิดหาไอเดียใหม่ ๆ เสมอ
- ไม่ควรใช้กลยุทธ์นี้บ่อยเกินไป เพราะอาจทำให้ผู้พบเห็นรู้สึกว่า “แบรนด์นี้อีกแล้วเหรอ” แล้วก็จะเริ่มเบื่อ ไม่รู้สึกตื่นเต้นกับแคมเปญของเราอีกต่อไป แม้จะเป็นไอเดียใหม่ ๆ ก็ตาม เพราะการทำการตลาดจู่โจมเรื่อย ๆ จะทำให้ผู้บริโภคมองว่าเดี๋ยวแบรนด์ก็ทำออกมาใหม่ ไม่ต้องรีบซื้อก็ได้
เทคนิคการทำ Guerrilla Marketing ให้ประสบความสำเร็จ
สร้างสรรค์ไอเดียใหม่ ๆ ไม่ซ้ำใคร
อันที่จริง ไม่ว่าจะใช้กลยุทธ์การตลาดแบบใดก็ต้องอาศัยความคิดสร้างสรรค์เป็นหลักอยู่แล้ว แต่ในยุคที่โซเชียลมีเดียได้รับความนิยมและเต็มไปด้วยคอนเทนต์เช่นนี้ เป็นเรื่องยากมากที่เราจะทำออกมาให้ไม่ซ้ำใคร ทว่าสำหรับ Guerrilla Marketing นั้น เป็นโอกาสอันดีที่เราจะได้ทำการตลาดแบบไม่ต้องใช้โซเชียลมีเดีย และได้ใช้ความคิดสร้างสรรค์อย่างเต็มที่โดยไม่มีกรอบมาจำกัด แค่ทำออกมาให้แปลกใหม่ สร้างความตื่นตาตื่นใจให้แก่ผู้ที่ผ่านมาเห็นได้ก็พอ ซึ่งบางทีก็อาจจะไม่ใช่ไอเดียใหม่แกะกล่องเสียทีเดียว แต่เป็นการเอาไอเดียเดิมหลาย ๆ อย่างมาผนวกรวมเข้าด้วยกัน แล้วสื่อสารออกไปโดยที่ยังคงอัตลักษณ์ของแบรนด์เราไว้ได้เป็นอย่างดี
จู่โจมให้ถูกที่ ถูกเวลา
เพราะการตลาดแบบกองโจรจะอยู่ได้เฉพาะในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ ดังนั้น การทำให้ถูกที่และถูกเวลาจึงสำคัญมาก โดยเราควรทำออกมาให้ตรงกับกระแสความสนใจที่เกิดขึ้นในแต่ละช่วง เช่น ช่วงเทศกาลฮาโลวีน คริสต์มาส หรือ Pride Month ที่เรามักเห็นหลาย ๆ ธุรกิจออกมาเปลี่ยนสีแบรนด์ของตัวเองเป็นสีรุ้ง เพื่อประกาศจุดยืนในการสนับสนุน LGBTQIA+ หรือแม้แต่ประเด็นสังคมต่าง ๆ ที่กำลังถูกพูดถึงอยู่ในขณะนั้น ไม่ว่าจะเป็นความเปลี่ยนแปลงของบ้านเมือง หรือข่าวสารของบุคคลที่น่าสนใจ ก็สามารถนำมาปรับใช้ได้ แต่ต้องระมัดระวังไม่นำประเด็นอ่อนไหวมาเล่น ซึ่งอาจทำให้เกิดผลกระทบเชิงลบต่อแบรนด์ในระยะยาวได้ และที่สำคัญ ควรทำในที่ที่มีกลุ่มเป้าหมายของเราอยู่เยอะ เช่น กลุ่มเป้าหมายของ Nike คือคนที่ชอบออกกำลังกาย แบรนด์จึงเลือกทำ Guerrilla Marketing ในสวนสาธารณะที่มีคนไปวิ่ง หรือแบรนด์ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย Axe ที่ทำป้ายหนีไฟในห้างสรรพสินค้า เป็นรูปผู้หญิงวิ่งตามผู้ชายที่ตัวหอมมาก เป็นต้น
เน้นการทำให้รู้สึกเซอร์ไพรส์
ผู้บริโภคส่วนมากล้วนนิยมชมชอบความอลังการงานสร้างกันทั้งนั้น หากเราสามารถเปิดตัวสินค้า หรือโปรโมตแบรนด์ด้วยแคมเปญที่สามารถสร้างความตื่นตระหนกหรือทำให้ผู้พบเห็นเกิดอาการเซอร์ไพรส์จนบอกต่อ ๆ กันบนโซเชียลมีเดียได้ ก็นับว่าแคมเปญนั้นประสบความสำเร็จ ซึ่งแคมเปญที่เกิดการแชร์ต่อกันไปเรื่อย ๆ จนเป็นไวรัลนั้นจะได้รับความสนใจจากผู้คนในสังคมเป็นอย่างมาก แต่การสร้างสรรค์แคมเปญลักษณะนี้จะไม่มีสูตรตายตัว ขึ้นอยู่กับว่าเราสามารถออกแบบไอเดียออกมาได้น่าสนใจ และถูกจริตผู้บริโภคมากแค่ไหนเท่านั้น
ต้องเข้าถึงได้ทุกเพศ ทุกวัย
ข้อนี้สำคัญมาก ๆ เพราะการตลาดแบบกองโจรคือ การโปรโมตแบรนด์ในที่สาธารณะ ฉะนั้น คอนเทนต์ที่ออกมาจึงต้องสามารถเข้าถึงคนได้ทุกเพศ ทุกวัย แม้ว่าเราจะมีกลุ่มเป้าหมายในใจอยู่แล้ว แต่การทำให้คนที่ไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายเข้าใจด้วยก็นับเป็นเรื่องที่ดี เพราะจะเป็นการเพิ่มโอกาสให้คนอื่น ๆ รู้จักแบรนด์ของเรามากขึ้น และหนึ่งในนั้นก็อาจหันมาให้ความสนใจแบรนด์ของเรา หากพวกเขารู้สึกชอบไอเดียที่เราสื่อสารออกไป
สรุป
จะเห็นได้ว่า Guerrilla Marketing คือ กลยุทธ์ที่อาศัยความคิดสร้างสรรค์เป็นหลัก หากแบรนด์ไหนทำออกมาได้น่าสนใจมาก ก็ยิ่งมีโอกาสที่ผู้บริโภคจะรู้สึกชื่นชอบจนเกิดการบอกแบบปากต่อปากมาก ข้อดีคืองบประมาณในการทำไม่สูงเท่าแคมเปญโฆษณารูปแบบอื่น ๆ อีกทั้งยังช่วยสร้างบรรยากาศใหม่ ๆ ในการโปรโมตแบรนด์ให้มีความครึกครื้นและแปลกใหม่มากขึ้น แต่อย่าลืมว่ากลยุทธ์นี้เหมาะกับการทำแคมเปญระยะสั้นเท่านั้น เพราะอยู่นานไป ผู้บริโภคก็อาจไม่รู้สึกตื่นตาตื่นใจ แล้วหันไปสนใจกระแสอื่น ๆ ที่มาใหม่แทน
หมดไอเดียในการทำการตลาดใช่ไหม Primal Digital Agency ช่วยคุณได้ ! เราเป็นบริษัทรับทำการตลาดชั้นนำของไทยที่มีผู้เชี่ยวชาญมากประสบการณ์ และพร้อมมอบผลลัพธ์ที่ดีที่สุดแก่ธุรกิจคุณ ด้วยกลยุทธ์ที่ออกแบบมาเพื่อคุณโดยเฉพาะ ติดต่อเราได้เลยวันนี้
Join the discussion - 0 Comment