รวมครบ ! เรื่อง Conversion Rate ตั้งแต่ความหมายยันสูตรคำนวณ

ธุรกิจออนไลน์กำลังแข่งขันกันเดือดถึงขีดสุด ทำให้การลงทุนทำการตลาดแต่ละครั้งต้องคุ้มค่าและวัดผลได้จริง จึงเป็นเหตุผลที่นักการตลาดยุคใหม่จำเป็นต้องเข้าใจเรื่อง “Conversion” อย่างถ่องแท้ เพราะนี่คือตัวชี้วัดสำคัญที่จะบอกได้ว่างบประมาณที่ลงไปนั้น สร้างผลลัพธ์ทางธุรกิจได้มากน้อยเพียงใด

นักการตลาดกำลังศึกษาเรื่อง Conversion

Conversion คืออะไร

Conversion คือการกระทำสำคัญ (Action) ที่ผู้ชมตัดสินใจก้าวจากการเป็นแค่คนผ่านไปผ่านมา สู่การเป็นลูกค้าที่สร้างมูลค่าให้ธุรกิจ โดยสามารถเกิดขึ้นได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการกดซื้อสินค้าในร้านออนไลน์ การสมัครสมาชิกรับสิทธิพิเศษ การดาวน์โหลดแอปฯ หรือแม้แต่การกรอกฟอร์มเพื่อขอข้อมูลเพิ่มเติม

ลองยกตัวอย่างให้เห็นภาพชัดขึ้น สมมติว่าคุณมีเว็บไซต์ให้บริการนวดผ่อนคลาย Conversion ในกรณีนี้ก็คือจำนวนลูกค้าที่ตัดสินใจกดจองคิวผ่านเว็บไซต์ ซึ่งตัวเลขนี้จะเป็นตัวบ่งชี้โดยตรงว่าเว็บไซต์ของคุณสร้างยอดขายได้มากน้อยเพียงใด

Conversion Rate คืออะไร

เมื่อเข้าใจความหมายของ “Conversion” แล้ว ต่อไปเราจะพามารู้จักวิธีการวัดประสิทธิภาพของ Conversion ผ่านตัวชี้วัดที่เรียกว่า “Conversion Rate”

Conversion Rate (อัตราการแปลง) คือตัวชี้วัดสำคัญในด้านการตลาดดิจิทัลและธุรกิจออนไลน์ที่ใช้วัดความสำเร็จของเป้าหมายจากผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์หรือแคมเปญโฆษณา หรือเรียกง่าย ๆ คือการที่ผู้ใช้งานดำเนินกิจกรรมตามที่ธุรกิจคาดหวัง ซึ่งอาจรวมถึง

• การตัดสินใจซื้อสินค้า
• การลงทะเบียนรับข่าวสาร (Newsletter)
• การกรอกแบบฟอร์มติดต่อ
• การดาวน์โหลดเอกสารสำคัญ
• การสมัครเป็นสมาชิก

Conversion Rate สำคัญอย่างไร

1. ชี้วัดประสิทธิภาพ : Conversion Rate คือเครื่องมือสำคัญในการวัดความสำเร็จของแคมเปญการตลาดและเว็บไซต์ นอกจากนี้ ข้อมูลที่ได้ยังนำไปใช้วิเคราะห์และปรับปรุงกลยุทธ์ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นได้
2. ประหยัดค่าใช้จ่าย : เมื่อธุรกิจเพิ่ม Conversion Rate ให้สูงขึ้นได้ ย่อมส่งผลให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้นโดยอัตโนมัติ ดังนั้น จึงไม่จำเป็นต้องเพิ่มงบประมาณด้านโฆษณาให้สิ้นเปลือง
3. พัฒนาประสบการณ์ผู้ใช้ (UX) : เมื่อ Conversion Rate สูง ย่อมสะท้อนให้เห็นว่าผู้ใช้สามารถทำกิจกรรมต่าง ๆ บนเว็บไซต์ได้อย่างสะดวกและราบรื่น อีกทั้งยังแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของการออกแบบและการใช้งานที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้ได้เป็นอย่างดี

ประเภทของ Conversion Rate

 ในด้านการวัดผล เราอาจแบ่ง Conversion Rate ออกเป็น 2 ประเภทหลัก ได้แก่

• Macro Conversion 

Macro Conversion คือเป้าหมายหลักที่ส่งผลโดยตรงต่อรายได้ของธุรกิจ เช่น การตัดสินใจซื้อสินค้า การสมัครสมาชิกแบบเสียค่าใช้จ่าย หรือแม้แต่การจองบริการต่าง ๆ ทั้งนี้ เนื่องจาก Macro Conversion เป็นตัวชี้วัดความสำเร็จ ธุรกิจจึงควรให้ความสำคัญกับการติดตามและวิเคราะห์ตัวชี้วัดนี้อย่างใกล้ชิด

• Micro Conversion 

ในทางตรงกันข้าม Micro Conversion กลับคือเป้าหมายย่อยที่เป็นขั้นตอนนำไปสู่ Macro Conversion ซึ่งอาจเป็นการกระทำเล็ก ๆ เช่น การกดดูรายละเอียดสินค้า การเพิ่มสินค้าลงตะกร้า รวมไปถึงการสมัครรับจดหมายข่าว แม้จะไม่สร้างรายได้โดยตรง แต่การติดตามพฤติกรรมเหล่านี้ก็ถือเป็นสัญญาณที่ดีที่แสดงให้เห็นถึงโอกาสการขายในอนาคต

Conversion Rate คิดยังไง

สูตรการคำนวณ Conversion Rate 

Conversion Rate สามารถคำนวณได้จากสูตร

(จำนวน Conversion ทั้งหมด ÷ จำนวนผู้เข้าชมทั้งหมด) × 100 = Conversion Rate

ยกตัวอย่างเช่น หากคุณมีธุรกิจขายสกินแคร์และจ้าง Influencer มาเพื่อโปรโมต ซึ่งมียอดคลิกเข้าชมสินค้าผ่านรูปของ Influencer จำนวน 100,000 ครั้ง และมียอดขายสกินแคร์จำนวน 5,000 ชิ้น สามารถแทนค่าจากสูตรได้ว่า

(จำนวน Conversion ทั้งหมด ÷ จำนวนผู้เข้าชมทั้งหมด) × 100 = Conversion Rate

(5,000 ÷ 100,000) x 100 = 5%

หมายความว่า จากผู้ที่เข้ามาชมสินค้า 100 คน จะมีผู้ตัดสินใจซื้อ 5 คน ซึ่งตัวเลขนี้จะเป็นประโยชน์ในการวิเคราะห์และปรับปรุงกลยุทธ์การตลาดให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นต่อไป

การวัด Conversion Rate ในแต่ละช่องทาง 

เมื่อเข้าใจประเภทของ Conversion Rate แล้ว ต่อไปเราจะมาดูวิธีการวัด Conversion Rate ในแต่ละช่องทางการตลาดดิจิทัลกันบ้าง เพราะแต่ละช่องทางมีวิธีวัดผลที่แตกต่างกัน 

• เว็บไซต์

การวัดผลทางเว็บไซต์ จะดูจากจำนวนผู้เข้าชมที่ทำตามเป้าหมายที่เราตั้งไว้ เช่น การซื้อสินค้าหรือการลงทะเบียน ทั้งนี้ ในปัจจุบันมีเครื่องมือวิเคราะห์เว็บไซต์มากมายที่จะช่วยให้เราติดตามผลได้ง่ายขึ้น

• อีเมล 

สำหรับการวัดผลทางอีเมล จะนับจากจำนวนคนที่เปิดอ่านอีเมลและคลิกลิงก์เพื่อทำตามเป้าหมาย โดยระบบส่งอีเมลการตลาดจะช่วยเก็บข้อมูลเหล่านี้ให้เราได้อย่างละเอียด

• โซเชียลมีเดีย 

 ส่วนในโซเชียลมีเดีย จะดูว่ามีคนเห็นโพสต์และคลิกเข้ามาทำตามเป้าหมายที่เราตั้งไว้มากน้อยแค่ไหน ซึ่งแต่ละแพลตฟอร์มมักมีระบบวิเคราะห์ข้อมูลที่ช่วยให้เราติดตามผลได้อย่างครบถ้วน

• โฆษณาออนไลน์ 

ส่วนสุดท้าย สำหรับการโฆษณาออนไลน์ เราจะประเมินผลจากจำนวนคนที่เห็นโฆษณาและคลิกเข้ามาทำตามเป้าหมาย ซึ่งปัจจุบันแพลตฟอร์มโฆษณาต่าง ๆ ก็ได้พัฒนาระบบที่ช่วยให้เราติดตามผลได้อย่างละเอียดและแม่นยำ

ข้อจำกัดในการวิเคราะห์ Conversion Rate 

แม้ว่า Conversion Rate จะเป็นตัวชี้วัดที่มีประโยชน์ แต่ก็มีข้อจำกัดที่ควรคำนึงถึง ดังนี้

• ความแตกต่างของอุตสาหกรรม

แต่ละธุรกิจมี Conversion Rate เฉลี่ยที่แตกต่างกัน เนื่องจากลักษณะสินค้า บริการ และพฤติกรรมผู้บริโภคที่ไม่เหมือนกัน จึงไม่ควรนำมาเปรียบเทียบกันโดยตรง

• ฤดูกาลและช่วงเวลา

Conversion Rate อาจผันผวนตามช่วงเวลา เทศกาล หรือฤดูกาล ซึ่งเป็นปัจจัยภายนอกที่ควบคุมไม่ได้

• คุณภาพของ Traffic

การมีผู้เข้าชมจำนวนมากไม่ได้รับประกันว่าจะได้ Conversion Rate ที่สูง หากผู้เข้าชมไม่ใช่กลุ่มเป้าหมายที่แท้จริง

• ความซับซ้อนของ Customer Journey

ในความเป็นจริง ลูกค้าอาจต้องพบเห็นแบรนด์หลายครั้งผ่านหลายช่องทางก่อนตัดสินใจซื้อ ทำให้การวัด Conversion Rate ในครั้งเดียวอาจไม่สะท้อนภาพรวมทั้งหมด

การนำ Conversion Rate ไปใช้ตัดสินใจทางธุรกิจ 

เมื่อเข้าใจข้อจำกัดในการวิเคราะห์ Conversion Rate แล้ว สิ่งสำคัญต่อไปคือการนำข้อมูลที่ได้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด เพราะสิ่งนี้ไม่ได้เป็นแค่การเก็บตัวเลขเท่านั้น แต่ยังนำไปใช้ตัดสินใจทางธุรกิจได้หลายด้านด้วย ดังนี้

• การจัดสรรงบประมาณ 

เมื่อเรามีข้อมูล Conversion Rate ที่ชัดเจน ก็จะช่วยให้เราตัดสินใจได้ว่าควรลงทุนในช่องทางไหนที่ให้ผลลัพธ์ดีที่สุด และลดการลงทุนในช่องทางที่ไม่ค่อยได้ผล

• การพัฒนาสินค้าและบริการ 

การดูพฤติกรรมผู้ใช้งานเว็บไซต์หรือแพลตฟอร์มออนไลน์ควบคู่กับ Conversion Rate จะช่วยให้เราเข้าใจว่าลูกค้าต้องการอะไร ซึ่งจะนำไปสู่การปรับปรุงสินค้าและบริการให้ตรงใจมากขึ้น

• การวางแผนการตลาด 

ในขณะเดียวกัน ข้อมูล Conversion Rate ก็ช่วยให้เราวางแผนแคมเปญและตั้งเป้าหมายได้เหมาะสม รวมถึงปรับกลยุทธ์ต่าง ๆ ให้ได้ผลดียิ่งขึ้น

• การปรับปรุงประสบการณ์ลูกค้า 

และสุดท้าย การวิเคราะห์ข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้เราพัฒนา Touchpoints ต่าง ๆ ให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น

Conversion Rate คือตัวชี้วัดที่ใช้วัดความสำเร็จของเป้าหมายจากผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์หรือแคมเปญโฆษณา

สรุป

จะเห็นได้เลยว่า Conversion คือเครื่องมือทางการตลาดชิ้นสำคัญที่สร้างผลลัพธ์ความสำเร็จให้ธุรกิจได้จริง แต่ตัววัดผลลัพธ์ดี ๆ ที่ช่วยให้ธุรกิจเติบโตไม่ได้มีเพียงแค่นี้เท่านั้น หากผู้ประกอบการคนไหนอยากรู้ว่าจะมีเครื่องมือชิ้นใดอีกบ้าง ที่จะช่วยให้ธุรกิจของคุณประสบความสำเร็จ สามารถปรึกษา Primal ได้เลย เพราะเรามีผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดกว่า 150 คน ที่พร้อมออกแบบแผนการตลาดและให้คำแนะนำเกี่ยวกับเทคนิคเพิ่ม Conversion Rate ให้ธุรกิจคุณ ถ้าพร้อมแล้วก็ปรึกษาเราได้เลยตอนนี้