ปรับธุรกิจให้เร็ว แรง แซงคู่แข่งด้วยแนวคิด Agile Marketing

ในโลกแห่งเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลง การที่ผู้ประกอบการจะทำให้ธุรกิจประสบความสำเร็จท่ามกลางคู่แข่งมหาศาลนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะนอกจากจะต้องหาวิธีรักษาลูกค้าและเพิ่มยอดขาย การที่แบรนด์จะสามารถเอาชนะคู่แข่งได้ ความรวดเร็วและตอบสนองต่อลูกค้าได้ทันทีทันใดก็เป็นปัจจัยความสำเร็จข้อสำคัญในธุรกิจยุคนี้ด้วย ด้วยเหตุนี้ นักการตลาดยุคใหม่หลายคนจึงได้นำ Agile Marketing หรือแนวคิดการทำงานอย่างรวดเร็ว มาประยุกต์ใช้กับการทำงาน เพื่อให้แผนการตลาดมีประสิทธิภาพและทันโลกมากที่สุด

เพื่อให้ผู้ประกอบการทุกคนไม่ตกเทรนด์ วันนี้เราขอแนะนำแนวทางการทำงานด้วยคอนเซปต์ Agile Marketing ให้รู้จัก มาดูกันว่าแนวคิดนี้จะช่วยสร้างโอกาสทางธุรกิจได้อย่างไร แล้วธุรกิจยุคใหม่สามารถนำแนวคิดนี้มาปรับใช้อย่างไรถึงจะทำให้ธุรกิจเติบโตสูงสุด มาหาคำตอบทั้งหมดพร้อมกันที่บทความนี้!

แนวคิดการทำงานแบบ Agile คืออะไร

ก่อนที่เราจะไปลงรายละเอียดถึง Agile Marketing เรามาทำความรู้จักกันก่อนว่าแนวคิดการทำงานแบบ Agile คืออะไรกันแน่

Agile คือกระบวนการที่ช่วยให้การทำงานเป็นไปอย่างรวดเร็วและทันท่วงทีมากที่สุด โดยกระบวนการนี้จะเน้นการสื่อสารระหว่างบุคคล โดยมีการกระจายอำนาจการตัดสินใจ และเปลี่ยนวิธีการทำงานแบบระยะยาวที่มุ่งเป้าไปครั้งเดียว เป็นระยะสั้น ๆ เพื่อให้สามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลง และสามารถแก้ไขปัญหาข้อผิดพลาดได้อย่างรวดเร็วที่สุดในโลกธุรกิจยุคสมัยนี้!

ด้วย Agile เป็นแนวคิดที่เน้นการตอบสนองอย่างฉับไว จึงก่อให้เกิดการคิดริเริ่มสร้างสรรค์สิ่งใหม่ ๆ จากการระดมสมองอย่างไม่มีขีดจำกัด สิ่งนี้เองที่ส่งผลให้สินค้าและบริการได้รับการพิจารณาและปรับปรุงจากทุกฝ่าย และที่สำคัญยังสามารถดึงจุดแข็งของธุรกิจออกมาตอบโจทย์ความต้องการผู้บริโภคได้อย่างรวดเร็วเหนือคู่แข่งอีกด้วย

Agile Marketing แนวคิดการตลาดที่เน้นเร็ว แรง แซงคู่แข่ง

แล้ว Agile Marketing เหมือนกับแนวคิด Agile หรือไม่

คำตอบคือ ใช่ เพียงแต่ Agile Marketing อาจมีการปรับให้เข้ากับบริบทของการตลาดมากกว่า

โดยจากข้อมูลการสำรวจขององค์กร Digital.ai ที่ให้บริการเรื่องการบริหารจัดการภายในองค์กรสหรัฐอเมริกาพบว่า ในปี 2562 บริษัททั่วโลกกว่า 1,000 แห่งที่นำหลักการ Agile มาปรับใช้ทำการตลาดสามารถสร้างรายได้และยอดขายเพิ่มสูงขึ้นกว่าเดิมถึง 20-40% นี่จึงเป็นสาเหตุที่ Agile Marketing เป็นอีกหนึ่งแนวคิดที่เราอยากมาแนะนำให้ทุกคนรู้จักวันนี้

สำหรับนิยามของ Agile Marketing หากถอดความหมายแบบตรงตัว Agile มีความหมายว่า รวดเร็ว ส่วน Marketing มีความหมายว่า การตลาด และเมื่อนำมารวมกันแล้วก็จะหมายความถึง กรอบแนวคิดและวิธีการทำงานที่คล่องตัว เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าหรือผู้ใช้งานได้อย่างทันท่วงทีมากที่สุด

โดย Agile ในบริบทของการทำการตลาดนั้น จะเป็นลักษณะการสร้างแคมเปญการตลาดที่คล่องตัว สามารถปรับเปลี่ยนและนำเสนอผลิตภัณฑ์ได้อย่างรวดเร็ว โดยแนวคิดนี้จะเน้นเลยว่ายิ่งธุรกิจออกแคมเปญการตลาดเร็วขึ้นเท่าไร ก็จะได้รับผลตอบรับจากผู้บริโภคเร็วขึ้นเท่านั้น เพื่อให้สามารถนำผลลัพธ์มาปรับปรุงให้แคมเปญใหม่ตรงใจลูกค้าและออกในเวลาที่เหมาะสมมากขึ้นไปอีก ดังนั้นแนวคิดนี้จึงเป็นการสร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ เพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้ทันใจมากที่สุด

แล้วธุรกิจสามารถนำหลักการ Agile Marketing ไปปรับใช้อย่างไรได้บ้าง?

นอกจาก Agile Marketing จะสามารถนำมาใช้ทำแคมเปญโฆษณาให้ทันโลก ทันกระแสแล้ว แนวคิดนี้ยังนำมาปรับใช้กับการวางแผนการตลาดภาพใหญ่ของธุรกิจได้ด้วย แต่ถ้าสงสัยว่าแล้วธุรกิจจะนำแนวคิด Agile มาประยุกต์ใช้กับการวางแผนการตลาดอย่างไร เรามีหลักการง่าย ๆ มาให้ลองทำตามกันดู ดังนี้

1.สร้างทีม Agile Marketing โดยเฉพาะ

เนื่องจากการทำงานตามแนวคิด Agile Marketing ค่อนข้างมีแนวทางเฉพาะและเน้นความรวดเร็วเป็นสำคัญ ดังนั้น หากต้องการจะเริ่มนำแนวคิดนี้มาใช้ องค์กรก็อาจเริ่มด้วยการสร้างทีมเฉพาะกิจที่ดำเนินงานด้วยแนวคิดนี้ โดยหน้าที่หลักของคนในทีมอาจมุ่งไปยังการทำงานตามเทรนด์ หรือการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับผู้บริโภคในยุคปัจจุบัน โดยเหตุผลที่เราแนะนำให้สร้างทีมขึ้นมาโดยเฉพาะไม่ใช่การดึงคนจากทีมอื่น ๆ มาทำงานนั้น ก็เนื่องจากว่าการทำงานตามแนวคิด Agile ต้องใช้ความคล่องแคล่วว่องไวเป็นสำคัญ บางครั้งแผนก็อาจเปลี่ยนหน้างานแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย ดังนั้นหากนักการตลาดดึงคนจากทีมที่มีหน้าที่หรือแคมเปญอื่น ๆ ต้องรับผิดชอบของตัวเองอยู่แล้ว พวกเขาก็อาจไม่มีเวลา หรือไม่สามารถทำงานตามแนวคิดที่รวดเร็วและยืดหยุ่นแบบ Agile ได้อย่างเต็มที่และมีประสิทธิภาพนัก

2.วางแผนกำหนดภาพรวมตามแนวคิด Agile

การวางกรอบเป้าหมาย ถือเป็นขั้นตอนสำคัญสำหรับการนำแนวคิด Agile มาใช้เลยก็ว่าได้ โดยเมื่อสร้างทีมเฉพาะกิจเรียบร้อยแล้ว อาจเริ่มวางภาพรวมด้วยการกำหนดว่าแผนการตลาดของเรามีกลุ่มเป้าหมายเป็นใคร สิ่งที่ต้องการนำเสนอให้พวกเขาคืออะไร ช่วงเวลาการทำแคมเปญตามกรอบแนวคิดนี้ควรใช้ระยะเวลาเท่าไร ฯลฯ เพื่อให้เห็นแนวทางการทำธุรกิจและกำหนดรูปแบบการตลาดตามแนวคิดนี้ได้ตรงตามความต้องการของผู้บริโภคมากที่สุด

อย่างไรก็ดี การวางแผนภาพรวมตามแนวคิด Agile Marketing นี้ ต้องไม่ลืมธรรมชาติของคอนเซปต์ที่เน้นความยืดหยุ่นและเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วไปตามเทรนด์ที่ทันสมัยด้วย ดังนั้น หากนักการตลาดสามารถวางแผนอย่างรัดกุม แต่ในขณะเดียวกันก็ยืดหยุ่นและพร้อมเปลี่ยนแปลง ก็จะช่วยให้แผนตอบโจทย์ผู้บริโภคได้ดีมากขึ้นไปอีกขั้น

3.ทดลองทำแคมเปญ จากเล็กไปใหญ่

เนื่องจากแนวคิดแบบ Agile ไม่มีสูตรสำเร็จตายตัว ดังนั้นหากนักการตลาดต้องการนำแนวคิดนี้มาปรับใช้ ก็อาจเริ่มจากแคมเปญขนาดเล็กที่ใช้งบประมาณไม่มาก หรือเลือกทำการตลาดกับลูกค้ากลุ่มใดกลุ่มหนึ่งเพื่อเป็นการทดลองก่อน ก็จะช่วยให้รู้ทิศทางการทำงาน และสามารถหาทางแก้ไขข้อผิดพลาดในกรณีที่ต้องการขยายแคมเปญต่อไปได้แบบไม่เจ็บตัวมากนัก

4.วัดผลลัพธ์เพื่อต่อยอด

เมื่อทีม Agile Marketing ดำเนินแคมเปญเสร็จสิ้น ขั้นตอนสำคัญที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ การวัดผลลัพธ์ของแคมเปญที่ทำลงไป โดยขั้นตอนการวัดผลนี้จะเป็นตัวบ่งบอกว่าแคมเปญไหนเหมาะสมที่สุดและได้ผลลัพธ์ดีที่สุด เพื่อที่จะได้นำข้อมูลมาพัฒนาและปรับปรุงสำหรับแคมเปญต่อ ๆ ไปที่อาจมีสเกลใหญ่ขึ้นตามมา นอกจากนี้ การวัดและประเมินผลแคมเปญยังช่วยค้นหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ เพื่อสร้างการขยายตัวให้องค์กรต่อไปได้ด้วย

5.เปิดใจ ไม่ยึดติดกับกรอบเดิม

ความคล่องตัวถือเป็นหัวใจของ Agile Marketing ดังนั้น ธุรกิจจึงจำเป็นต้องทำความเข้าใจตลาด กล้าทดลองทำอะไรใหม่ ๆ อย่างรวดเร็ว โดยไม่ยึดติดอยู่กับกระบวนการทำงานแบบเดิม ๆ ทั้งนี้ก็เพื่อให้ค้นพบโอกาสที่ยังไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เพื่อผลลัพธ์ความสำเร็จจะถูกพัฒนาต่อยอดไปในแนวทางที่หลากหลายได้ โดยสิ่งสำคัญที่ช่วยให้องค์กรมีความคล่องตัวและสามารถดำเนินแผนงานตาม Agile Marketing ได้นั้นก็คือ การต้องเปิดกว้างรับฟังแนวคิดและความเห็นใหม่ ๆ จากผู้คนที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นทั้งจากลูกค้า ผู้บริโภค พาร์ตเนอร์ หรือแม้แต่พนักงาน

สรุป

Agile Marketing ถือเป็นแนวทางสร้างแบรนด์ให้พร้อมรับมือทุกการเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะเป็นทั้งวิกฤตหรือโอกาส การใช้แนวคิด Agile พิสูจน์แล้วว่าช่วยให้ธุรกิจสามารถขยายกลุ่มลูกค้าและช่องทางการดำเนินงาน เพื่อให้แบรนด์สามารถเติบโตอย่างต่อเนื่องในอนาคตได้ไม่มากก็น้อย ดังนั้น นี่จึงเป็นแนวทางความสำเร็จอีกวิธีหนึ่งที่ผู้ประกอบการไม่ควรมองข้ามเป็นอย่างยิ่ง

แต่ถ้าหากผู้ประกอบการท่านใดยังไม่แน่ใจว่าจะนำหลักการ Agile Marketing มาปรับใช้อย่างไรถึงจะเข้ากับรูปแบบธุรกิจของตนเอง ขอแนะนำให้ปรึกษา Primal Digital Agency ของเราได้เลย เรามีทีมงานผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมให้คำปรึกษา สามารถกรอกรายละเอียดเพื่อปรึกษาแผนการตลาดกับเราฟรีได้ตอนนี้เลย!