รวม 12 แอปตัดต่อวิดีโอ โหลดฟรี ใช้งานง่าย เหมาะสำหรับมือใหม่

ในยุคที่สังคมขับเคลื่อนด้วยสื่ออิเล็กทรอนิกส์เช่นนี้ อะไร ๆ ก็ดูสะดวกสบายขึ้น เพราะนับวันเทคโนโลยียิ่งได้รับการพัฒนาแบบก้าวกระโดด สิ่งใดที่แต่เดิมต้องทำในคอมพิวเตอร์เท่านั้นก็ถูกปรับเปลี่ยนมาเป็นสามารถทำในมือถือได้อย่างง่ายดาย หนึ่งในนั้นคือ “การตัดต่อวิดีโอ” ที่ขณะนี้มีโปรแกรมตัดต่อวิดีโอจำนวนมากถูกออกแบบขึ้นมาให้ใช้งานได้ง่ายขึ้น 

อย่างที่เรารู้กันดีว่าในปัจจุบัน คอนเทนต์ประเภทวิดีโอกำลังได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะในหมู่ผู้ใช้งานทั่วไป นักรีวิว อินฟลูเอนเซอร์ หรือแม้แต่ร้านค้าออนไลน์ต่าง ๆ ที่ต้องการโปรโมตแบรนด์ของตนเองก็หันมาทำคอนเทนต์ในลักษณะนี้กันมากขึ้น เนื่องจากเป็นคอนเทนต์ที่สามารถสื่อสารได้ครบถ้วนทุกรายละเอียด ทำให้คนดูเข้าใจ และเห็นภาพมากกว่าเนื้อหาที่มีแต่ตัวหนังสือเพียงอย่างเดียว แล้วยังทำให้ผู้รับชมสามารถเข้าถึงอารมณ์ได้ดีกว่าด้วย

อย่างไรก็ดี หากเป็นเมื่อหลายปีก่อน การตัดต่อวิดีโออาจทำได้ไม่ง่ายนักเพราะดูเหมือนจะเป็นเรื่องของผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น แต่ทุกวันนี้กลับสามารถทำได้ง่ายเพียงปลายนิ้ว เพราะมีแอปพลิเคชันต่าง ๆ ที่พร้อมอำนวยความสะดวกให้แก่เรา บทความนี้จึงจะมาแนะนำ 12 แอปตัดต่อวิดีโอในมือถือที่ทั้งโหลดฟรี และใช้งานง่าย รองรับทั้งระบบ iOS และ Android จะมือใหม่หรือมือโปรฯ ก็ใช้ได้!

แอปตัดต่อวิดีโอง่าย ๆ

VLLO

VLLO เป็นแอปตัดต่อวิดีโอในมือถือยอดฮิต ด้วยหน้าตาที่ดูใช้งานง่าย มาพร้อมฟีเจอร์และลูกเล่นที่หลากหลาย ทำให้ VLLO คือหนึ่งในแอปพลิเคชันที่สายวิดีโอครีเอเตอร์ไม่ควรพลาดอย่างยิ่ง

แอปตัดต่อวิดีโอ VLLOจุดเด่นของ VLLO

  • ไม่มีลายน้ำ
  • ฟีเจอร์ครบครัน สามารถใส่เพลงประกอบ ใส่ข้อความ เรียบเรียงวิดีโอ ปรับความเร็ว เบลอภาพ และลบพื้นหลังออกได้

 

Adobe Premiere Rush for Video

Adobe Premiere Rush for Video เป็นแอปพลิเคชันที่ย่อส่วนมาจาก Adobe Premiere Pro บนคอมพิวเตอร์ แม้ว่าจะถูกปรับให้มาอยู่บนสมาร์ตโฟนแล้ว แต่ฟังก์ชันและประสิทธิภาพในการใช้งานนั้นยังคงเดิม กล่าวคือ มีการรองรับคลิปวิดีโอคุณภาพสูง โดยมีทั้งโหมด Automatic ที่สามารถสร้างผลงานจากรูปภาพหรือวิดีโอบนมือถือของเราได้แบบอัตโนมัติ หรือจะเลือกใช้โหมดที่ให้เราสามารถปรับแต่งเองตามใจชอบก็ได้เช่นกัน

แอปตัดต่อวิดีโอ Adobe

จุดเด่นของ Adobe Premiere Rush for Video

  • หน้าตาฟังก์ชันใช้งานง่าย มีประสิทธิภาพสูง
  • สามารถซิงก์กับ Adobe Premiere Pro บนคอมพิวเตอร์เพื่อนำไปทำงานต่อผ่าน Creative Cloud ได้

 

CapCut

CapCut เป็นแอปตัดต่อวิดีโอสำหรับสาย TikTok มีชื่อเดิมว่า Viamaker ข้อดีคือใช้งานง่าย มีฟิลเตอร์ เอฟเฟกต์และเพลงประกอบให้เลือกเยอะ เหมาะสำหรับมือใหม่ที่อยากตัดต่อวิดิโอลง TikTok

แอปตัดต่อวิดีโอ CapCut

จุดเด่นของ CapCut

  • สามารถใช้งานได้หลากหลายระบบ
  • ใช้งานง่าย ฟีเจอร์ครบ สามารถปรับวิดีโอให้ย้อนกลับ (Reverse) และปรับความเร็วได้
  • ลบพื้นหลังวิดีโอที่ใช้ Green Screen ได้
  • รองรับความละเอียด 4K

 

KineMaster Video Editor

KineMaster เป็นแอปพลิเคชันที่ออกแบบหน้าตามาให้ใช้งานได้ง่าย ไม่ซับซ้อน มีการวางปุ่มที่ให้ความรู้สึกเหมือนกำลังเล่นเกม ทั้งยังมีเครื่องมือพื้นฐานครบถ้วน รวมถึงลูกเล่นและฟังก์ชันต่าง ๆ ที่หลากหลาย เรียกได้ว่าหากใช้แอปพลิเคชันนี้เข้ามาช่วยตัดต่อวิดีโอ ผลลัพธ์ที่ออกมาจะเหมือนกับผู้เชี่ยวชาญตัดต่อเองเลยทีเดียว

แอปตัดต่อวิดีโอ KineMaster

จุดเด่นของ KineMaster Video Editor

  • มีลูกเล่นให้เลือกใช้งานหลากหลายกว่าแอปพลิเคชันอื่น ๆ
  • มี Auto Filter ดัดเสียงที่หลายคนนิยมใช้

 

Prequel

Prequel คือแอปตัดต่อวิดีโอสายเอฟเฟกต์ กล่าวคือ จะเน้นไปที่การแต่งเอฟเฟกต์วิดีโอและภาพนิ่งในสไตล์ 90’s และ Aesthetic ถึงจะเป็นแอปพลิเคชันที่ใช้งานได้ฟรีแต่มีเอฟเฟกต์สวย ๆ ให้เลือกใช้เยอะมาก ทั้งยังสามารถทำให้ภาพนิ่งดูมีมิติเคลื่อนไหว และนำมาประกอบวิดีโอได้ดีมาก ๆ อีกด้วย

แอปตัดต่อวิดีโอ Prequel

จุดเด่นของ Prequel

  • ไม่มีลายน้ำ
  • มีเทมเพลตวิดีโอที่เหมาะกับคอนเทนต์บน TikTok และ Instagram Reels
  • มีมากกว่า 800 เอฟเฟกต์ จะแต่งสไตล์ 90’s หรือ Aesthetic ก็ปัง

 

VivaVideo

เรียกได้ว่าเป็นแอปตัดต่อวิดีโอในมือถือที่มีมาอย่างยาวนาน ดังนั้น คงปฏิเสธไม่ได้ว่าไม่มีใครไม่เคยได้ยินชื่อแอปพลิเคชันนี้ เพราะ VivaVideo ถือเป็นโปรแกรมตัดต่อที่นิยมใช้กันมาอย่างต่อเนื่องแบบที่ไม่มีทีท่าว่ากระแสจะดรอปลง แม้แต่คนที่ไม่เคยมีประสบการณ์ตัดต่อคลิปมาก่อนก็สามารถทำได้อย่างง่ายดาย เหมาะแก่การทำคลิปวิดีโอสั้น ๆ แต่ดูเป็นมือโปรฯ ตอบโจทย์สำหรับคนที่อยากทำคอนเทนต์วิดีโอลงโซเชียลมีเดีย

แอปตัดต่อวิดีโอ VivaVideo

จุดเด่นของ VivaVideo

  • มีเครื่องมือครบครัน ใช้งานง่าย
  • มีฟิลเตอร์ให้เลือกหลากหลาย
  • สามารถใส่ข้อความบนคลิป และกำหนดความช้าเร็วของการเคลื่อนไหวได้ตามที่ต้องการ

 

Quik

Quik คือแอปตัดต่อวิดีโอในมือถือฟรีจาก GoPro ที่เหมาะมากสำหรับมือใหม่ เพราะเน้นการใช้งานง่าย สะดวก ไม่ยุ่งยาก นอกจากนี้ ขั้นตอนการตัดต่อยังรวดเร็วมาก เพียงแค่จิ้มไม่กี่ครั้งก็ทำให้วิดีโอของเราออกมาดูน่าสนใจได้ด้วยระบบจับจังหวะอัตโนมัติ แล้วตัวแอปพลิเคชันยังสามารถเติมลูกเล่นต่าง ๆ ลงไปให้เราเสร็จสรรพโดยที่เราไม่ต้องคิดอะไรเองเลย อย่างไรก็ตาม เราสามารถนำคลิปวิดีโอนั้นมาแก้ไขปรับปรุงเพิ่มเติมในภายหลังได้ และพิเศษสุด ๆ สำหรับสายเที่ยวที่ใช้กล้อง GoPro ถ่ายรูปหรือวิดีโออยู่แล้ว ก็สามารถนำไฟล์มาใช้งานผ่านแอปพลิเคชันนี้ได้เลย

แอปตัดต่อวิดีโอ Quik

จุดเด่นของ Quik

  • ไม่มีลายน้ำ
  • ใช้งานง่าย ฟีเจอร์ครบ ปรับแสงสีได้ตามใจชอบ
  • จับช่วงไฮไลต์ของวิดีโอให้ตรงกับจังหวะเพลงโดยอัตโนมัติ
  • เลือกเพลงฟรีได้หลากหลาย

 

InShot

ถือว่าเป็นแอปพลิเคชันที่เป็นศูนย์รวมในการทำคอนเทนต์เคลื่อนไหวเลยก็ว่าได้ สำหรับ InShot ที่เราสามารถสร้างวิดีโอขึ้นมาใหม่ พร้อม ๆ กับการใช้รูปภาพหรือคลิปจากมือถือที่มีอยู่แล้วมาตัดต่อเข้าด้วยกันได้ โดยเราสามารถตัดวิดีโอเป็นท่อน ๆ และแบ่งเวลาได้ตามที่ต้องการ นอกจากนี้ ยังสามารถเลือกปรับความช้า-เร็วของแต่ละคลิป เพิ่มข้อความ ใส่ฟิลเตอร์ และเพลงประกอบได้อีกด้วย

แอปตัดต่อวิดีโอ InShot

จุดเด่นของ InShot

  • มีฟังก์ชันการใช้งานที่หลากหลาย ครบ จบในแอปพลิเคชันเดียว ไม่ต้องนำคลิปออกไปปรับแต่งเพิ่มในแอปพลิเคชันอื่นให้ยุ่งยาก
  • สามารถพลิกกลับคลิปจากหน้าไปหลัง จากบนลงล่างได้ ซึ่งแอปพลิเคชันอื่น ๆ ไม่สามารถทำได้
  • เหมาะสำหรับการสร้างภาพเคลื่อนไหวทุกรูปแบบ

 

VN

VN เป็นแอปตัดต่อวิดีโอในมือถือฟรี ไม่มีลายน้ำ ไม่มีโฆษณา ไม่ว่าจะมือใหม่หรือมือโปรฯ ก็สามารถใช้งานได้ เนื่องจากตัวแอปพลิเคชันถูกออกแบบมาให้เน้นการใช้งานง่าย มีฟีเจอร์ต่าง ๆ ให้เลือกใช้อย่างครบครัน และทำได้ไปจนถึงคีย์เฟรมเลยทีเดียว

แอปตัดต่อวิดีโอ VN

จุดเด่นของ VN

  • ไม่ติดลายน้ำ
  • มีฟอนต์ข้อความหลายแบบ ใส่ซับไตเติลได้
  • มีฟิลเตอร์และเอฟเฟกต์ให้เลือกจำนวนมาก
  • สามารถปรับความเร็วของวิดีโอได้
  • มีเทมเพลตวิดีโอให้เลือกใช้

 

Videoleap

ไม่ว่าจะเคยมีประสบการณ์การตัดต่อวิดีโอมาก่อนหรือไม่ แต่ขอบอกว่า Videoleap ตัวนี้เอาอยู่แน่นอน เพราะใช้ง่าย สามารถทำได้อย่างสะดวกรวดเร็ว และมีความเป็น User-Friendly ด้วย

แอปตัดต่อวิดีโอ Videoleap

จุดเด่นของ Vidoleap

  • ไม่ติดลายน้ำ
  • สามารถตัดต่อ Green Screen ลงไปในคลิปได้
  • มีฟิลเตอร์ เอฟเฟกต์ สติกเกอร์ และซาวด์เอฟเฟกต์ให้เลือกใช้
  • สามารถปรับความเร็วได้
  • มี Stock วิดีโอจาก Pixabay เว็บไซต์รวมรูปภาพและวิดีโอฟรี

 

PowerDirector

PowerDirector คือแอปตัดต่อวิดีโอที่มีลักษณะคล้าย ๆ กับแอปพลิเคชันที่ได้กล่าวไปข้างต้น กล่าวคือ มีหน้าตาที่ใช้ง่าย มีประโยชน์รอบด้าน และสำหรับคนที่เคยใช้โปรแกรมตัดต่อวิดีโอบนคอมพิวเตอร์มาก็สามารถใช้งานแอปพลิเคชันนี้ได้เลย เพราะมีการออกแบบฟังก์ชันที่ไม่แตกต่างกันมากนัก

แอปตัดต่อวิดีโอ PowerDirector

จุดเด่นของ PowerDirector

  • มีฟังก์ชันพื้นฐานสำหรับการตัดต่อวิดีโอ ไม่ว่าจะเป็นการปรับ หมุน เพิ่มเสียงพูด เพิ่มและลดความเร็ว หรือเพิ่มข้อความ
  • รองรับความละเอียด 4K
  • ลดความสั่นของวิดีโอที่ถ่ายมา
  • ดูดสี Green Screen ได้

 

WeVideo Movie & Video Editor

WeVideo สามารถช่วยให้การสร้างสรรค์และแบ่งปันคอนเทนต์วิดีโอของเราเป็นเรื่องที่ง่ายและรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ซึ่งมือใหม่หัดตัดต่อก็สามารถใช้ได้ โดยตัวแอปพลิเคชันจะมีฟังก์ชันให้เราอัปโหลดรูปภาพและคลิปวิดีโอที่ชื่นชอบมาจัดเรียงได้ตามต้องการ นอกจากนี้ ยังสามารถเลือกเพลงจากในมือถือของเราได้อีกด้วย หรือถ้าหากอยากจะเพิ่มข้อความ เสียงพากย์ และเทคนิคพิเศษอื่น ๆ ก็สามารถทำได้เช่นกัน

แอปตัดต่อวิดีโอ WeVideo

จุดเด่นของ WeVideo

  • ใช้เพลงจากในมือถือได้ ซึ่งแอปพลิเคชันอื่นยังไม่มีฟังก์ชันนี้
  • หากอัปเกรดเป็น Mobile Pass จะมีฟิลเตอร์ต่าง ๆ ให้เลือกใช้
  • สามารถแชร์วิดีโอลงโซเชียลมีเดีย เช่น YouTube, Facebook, Twitter, Instagram และอื่น ๆ ได้

 

สรุป

และนี่ก็คือ 12 แอปตัดต่อวิดีโอในมือถือที่สามารถดาวน์โหลดมาใช้งานได้ฟรี ทั้งในระบบ iOS และ Android แต่หากใครต้องการซื้อฟังก์ชันหรือเทคนิคพิเศษอื่น ๆ เพิ่มเติมก็สามารถจ่ายเงินซื้อได้ เพื่อให้การตัดต่อวิดีโอของเรามีประสิทธิภาพและมีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น

ทั้งนี้ ปฏิเสธไม่ได้ว่าการตัดต่อวิดีโอเป็นสกิลที่หลายคนต้องมีในปัจจุบัน เนื่องจากวัฒนธรรมการเล่นโซเชียลมีเดียของผู้ใช้งานที่เปลี่ยนไป และการถือกำเนิดขึ้นของแอปพลิเคชันวิดีโอสั้นที่โด่งดังอย่าง TikTok ก็ทำให้คนเริ่มหันมาสนใจการทำคอนเทนต์ประเภทวิดีโอกันมากขึ้น ซึ่งแน่นอนว่าคอนเทนต์ประเภทนี้สามารถเรียกยอดการมีส่วนร่วม (Engagement) ได้ดีมากทีเดียว ส่งผลให้ผู้ประกอบการออนไลน์เริ่มมีการใช้คอนเทนต์วิดีโอเพื่อโปรโมตแบรนด์ของตนเองกันมากขึ้น แต่ถ้าหากใครยังไม่ถนัดสายคิดคอนเทนต์ ก็สามารถปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ Primal ด้านการทำ Content Marketing ได้เลย!