Performance Marketing เพิ่มยอดขายธุรกิจด้วยการตลาดวัดผลได้

ในยุคที่ข้อมูลหลาย ๆ ด้านของผู้บริโภค ถูกนำมาต่อยอดในการสร้างกลยุทธ์ทางการตลาดให้ประสบความสำเร็จ ธุรกิจต่าง ๆ จึงหันมาให้ความสำคัญกับ Performance Marketing หรือ การตลาดแบบวัดผลลัพธ์ได้จริงมากขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากสิ่งนี้เป็นกลยุทธ์ที่ช่วยให้ธุรกิจตรวจสอบความคุ้มค่าของงบการตลาดได้อย่างแม่นยำ และปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ให้เหมาะสมกับเป้าหมายได้อย่างรวดเร็วและทันท่วงที

 

Performance Marketing คือการตลาดที่วัดผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจน

Performance Marketing คืออะไร

Performance Marketing คือการตลาดที่เน้นผลลัพธ์จากการทำแคมเปญหรือกิจกรรมต่าง ๆ โดยจะมุ่งวัดผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นทันที ไม่ว่าจะเป็นยอดขายที่เพิ่มขึ้น จำนวนลูกค้าที่เพิ่มเข้ามา หรือการกระทำต่าง ๆ ของผู้บริโภคที่ตอบสนองต่อการโฆษณา ซึ่งแตกต่างจากการตลาดแบบดั้งเดิมที่มักเน้นการสร้างแบรนด์หรือการรับรู้ในระยะยาว

เป้าหมายสำคัญของ Performance Marketing คือการสร้างผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) ที่สูงที่สุดโดยใช้ข้อมูลและตัวเลขมาช่วยตัดสินใจทางการตลาด ซึ่งทำให้ธุรกิจประเมินผลลัพธ์ได้ทันที และเห็นภาพรวมของการทำการตลาดได้อย่างชัดเจน

 

ประโยชน์ของ Performance Marketing

Performance Marketing มาพร้อมข้อได้เปรียบหลายประการที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการตลาด ดังนี้

  • วัดผลได้ชัดเจน 

สามารถติดตามผลลัพธ์จากการโฆษณาหรือแคมเปญต่าง ๆ ได้แบบเรียลไทม์ ทำให้เห็นประสิทธิภาพของการใช้จ่ายด้านการตลาดในแต่ละส่วน เช่น การเพิ่มขึ้นของยอดขายหรือจำนวนลูกค้าใหม่

  • ปรับปรุงกลยุทธ์ได้ทันที 

ด้วยการวัดผลแบบทันที ทำให้ง่ายต่อการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบันได้อย่างรวดเร็ว เพิ่มโอกาสบรรลุเป้าหมายที่วางไว้

  • เพิ่มประสิทธิภาพการใช้จ่ายงบการตลาด 

ด้วยการมุ่งเน้นผลลัพธ์ที่วัดได้ ทำให้งบประมาณถูกใช้อย่างคุ้มค่า ไม่สูญเปล่าไปกับการโฆษณาที่ไม่สร้างผลตอบแทน

  • สร้างความมั่นใจในการตัดสินใจ 

ข้อมูลจาก Performance Marketing คือเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้ผู้บริหารตัดสินใจทางธุรกิจได้อย่างมั่นใจ เนื่องจากเห็นผลลัพธ์จากการใช้งบประมาณอย่างชัดเจน

 

ช่องทางสำคัญของ Performance Marketing มีอะไรบ้าง

ช่องทางหลักในการทำ Performance Marketing มีดังนี้

  • Search Engine Marketing (SEM) 

การโฆษณาบน Search Engine ไม่ว่าจะเป็น Google หรือ Bing เพื่อช่วยให้เว็บไซต์ปรากฏในตำแหน่งที่ผู้คนค้นหาเจอได้ง่ายขึ้น เมื่อมีการค้นหาคำที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจนั้น ๆ 

  • Search Engine Optimisation (SEO) 

การปรับแต่งเว็บไซต์เพื่อให้ติดอันดับสูงในผลการค้นหาแบบออร์แกนิก โดยไม่ต้องเสียค่าโฆษณา 

  • Social Media Marketing 

การโฆษณาผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย เช่น Facebook, Instagram, หรือ TikTok 

  • Affiliate Marketing 

การร่วมมือกับผู้มีอิทธิพลบนโซเชียลมีเดีย (Influencer) หรือเว็บไซต์อื่น ๆ เพื่อโปรโมตสินค้า หรือบริการของธุรกิจ 

  • Email Marketing 

การส่งอีเมลไปยังกลุ่มลูกค้าเพื่อแจ้งข่าวสาร โปรโมชัน หรือเนื้อหาที่เป็นประโยชน์

  • Content Marketing 

การผลิตเนื้อหาที่มีคุณค่าเพื่อดึงดูดความสนใจของกลุ่มเป้าหมายและสร้างการมีส่วนร่วม  เช่น บทความ วิดีโอ หรือกราฟิก

 

วิธีเริ่มต้นทำ Performance Marketing อย่างมืออาชีพ

เพื่อให้มั่นใจว่าการทำ Performance Marketing ทุกขั้นตอนสอดคล้องและวัดผลได้ชัดเจน เราในฐานะ Performance Marketing Agency ชั้นนำของเมืองไทย ได้รวบรวมวิธีการและเทคนิคต่าง ๆ มาไว้เป็นแนวทางสำหรับคุณ ดังต่อไปนี้

  • กำหนดเป้าหมายให้ชัดเจน (Set Clear Objectives)

การกำหนดเป้าหมายที่ชัดเจนถือเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญในการทำ Performance Marketing โดยเป้าหมายควรยึดตามหลักการ SMART Goals ซึ่งประกอบด้วย 

  • การระบุเป้าหมายอย่างเฉพาะเจาะจง (Specific)
  • การกำหนดตัวชี้วัดที่วัดผลได้ (Measurable)
  • การตั้งเป้าหมายที่บรรลุได้จริง (Achievable)
  • การเชื่อมโยงเป้าหมายกับธุรกิจ (Relevant)
  • การกำหนดกรอบเวลาที่ชัดเจน (Time-bound)

การตั้งเป้าหมายในลักษณะนี้จะช่วยให้วัดผลลัพธ์ได้อย่างชัดเจน และนำข้อมูลที่ได้มาปรับปรุงการดำเนินงานในอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ตัวอย่างเช่น

  • การกำหนดเป้าหมายเพื่อเพิ่มยอดขาย 20% ภายใน 3 เดือน โดยระบุการวัดผลจากยอดขายจริงผ่านช่องทางออนไลน์หรือออฟไลน์ หรือเปอร์เซ็นต์การเพิ่มขึ้นของยอดขายจากแคมเปญโฆษณา
  • การตั้งเป้าหมายเพื่อเพิ่มผู้ลงทะเบียน 500 ราย โดยกำหนดตัวชี้วัดที่ชัดเจน เช่น อัตราการแปลงจากการคลิกโฆษณาเป็นการสมัคร (Conversion Rate)

นอกจากนี้ การทำ Performance Marketing ยังจำเป็นต้องติดตามเป้าหมายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้สามารถปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ได้ทันท่วงทีหากพบว่าแคมเปญไม่เป็นไปตามที่คาดหวัง 

  • เลือกช่องทางที่เหมาะสม (Choose the Right Channels)

การเลือกช่องทางการทำ Performance Marketing นั้นจำเป็นต้องพิจารณาหลายปัจจัย โดยเฉพาะ พฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญ ตัวอย่างเช่น

  • การใช้ Google Ads (SEM) : เหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการเข้าถึงผู้บริโภค โดยเฉพาะกลุ่มเป้าหมายที่พร้อมจะตัดสินใจซื้อสินค้าหรือบริการ 
  • การโฆษณาบนโซเชียลมีเดีย : หากกลุ่มเป้าหมายเป็นคนรุ่นใหม่หรือผู้ที่ใช้เวลากับโซเชียลมีเดียเป็นหลัก การเลือกใช้แพลตฟอร์มอย่าง Facebook, Instagram หรือ TikTok อาจเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
  • การทำ Affiliate Marketing : เหมาะสำหรับการทำงานร่วมกับ Influencer หรือเว็บไซต์พาร์ตเนอร์ที่มีฐานผู้ติดตามตรงกับกลุ่มเป้าหมายของคุณ

แต่ทั้งนี้ การเลือกช่องทางที่เหมาะสมจะต้องขึ้นอยู่กับการทำ Research ว่ากลุ่มลูกค้าเป้าหมายใช้งานแพลตฟอร์มใดบ่อยที่สุด มีพฤติกรรมการซื้ออย่างไร และแต่ละช่องทางให้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุดต่อการลงทุนในแง่ของ ROI (Return on Investment) ได้อย่างไร

  • สร้างแคมเปญที่น่าสนใจ (Create Engaging Campaigns)

การสร้างแคมเปญที่น่าสนใจและสามารถดึงดูดกลุ่มเป้าหมายได้ เป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบสำคัญของ Performance Marketing ทั้งนี้ การเลือกใช้รูปแบบและเนื้อหาที่เหมาะสม เช่น วิดีโอ รูปภาพ บทความ หรือสื่อโฆษณาที่ชัดเจนและตรงจุด จะช่วยกระตุ้นให้ผู้บริโภคเกิดการคลิกหรือการกระทำที่คุณต้องการ (Conversion) ได้

เพื่อเพิ่ม Engagement ควรใช้กลยุทธ์ดังนี้

  • การปรับแต่งเนื้อหาให้เฉพาะเจาะจง (Personalisation) : ใช้ข้อมูลที่มีเพื่อปรับแต่งเนื้อหาให้ตรงกับความสนใจของแต่ละกลุ่มเป้าหมาย
  • การทดสอบแบบ A/B (A/B Testing) : ทดลองใช้รูปแบบของโฆษณาอย่างหลากหลาย เพื่อหาแบบที่มีประสิทธิภาพสูงสุด
  • การใช้คำกระตุ้นการตัดสินใจที่น่าสนใจ (Compelling CTAs) : สร้าง Call to Action ที่ชัดเจนและกระตุ้นความต้องการของผู้ใช้
  • ติดตามและวิเคราะห์ผลลัพธ์ (Track and Analyze Results)

การวัดผลเป็นหัวใจของการทำ Performance Marketing คุณควรติดตามผลอย่างละเอียด เพื่อให้เข้าใจว่าแคมเปญให้ผลลัพธ์อย่างไรบ้าง และต้องปรับปรุงในส่วนไหน เพื่อให้แคมเปญนั้น ๆ มีประสิทธิภาพดีที่สุด

เครื่องมือที่ควรใช้วัดผล

  • การใช้ Google Analytics : ติดตามพฤติกรรมผู้เข้าชมเว็บไซต์ แหล่งที่มาของ Traffic และการกระทำ (Action) บนเว็บไซต์
  • การใช้แดชบอร์ดของแพลตฟอร์มโฆษณา : ติดตามประสิทธิภาพของโฆษณาผ่าน Facebook Ads Manager หรือ Google Ads Dashboard
  • การใช้เครื่องมือวิเคราะห์พฤติกรรมผู้ใช้ : ใช้ Heatmaps และ User Behavior Tools เพื่อเข้าใจการมีส่วนร่วมของผู้ใช้บนหน้าเว็บไซต์

Performance Marketing คือการตลาดที่เน้นผลลัพธ์จากการทำแคมเปญหรือกิจกรรมต่าง ๆ

สรุป

จะเห็นได้ว่า Performance Marketing คือเครื่องมือสำคัญที่ทำให้ธุรกิจใช้ทรัพยากรที่มีอยู่อย่างมีประสิทธิภาพและบรรลุเป้าหมายได้สำเร็จ

เมื่อเห็นข้อดีดังนี้แล้ว หากคุณต้องการเริ่มต้นทำ Performance Marketing ในธุรกิจของตัวเองดูบ้าง สามารถมาปรึกษา Primal ได้เลย ในฐานะเอเจนซีรับทำ Performance Marketing Agency ชั้นนำของไทย เรามีทีมงานที่เชี่ยวชาญและได้รับรางวัลการันตีฝีมือมามากมาย พร้อมสร้างแคมเปญโฆษณาที่ตอบโจทย์แบรนด์ของคุณด้วยกลยุทธ์ที่วัดผลได้ชัดเจน นอกจากนี้ เรายังติดตามผลลัพธ์อย่างใกล้ชิด เพื่อปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ให้เหมาะสมกับธุรกิจของคุณอย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งวางแผนระยะยาวที่จะช่วยให้ธุรกิจของคุณเติบโตอย่างยั่งยืน

ติดต่อ Primal วันนี้ เพื่อยกระดับแคมเปญโฆษณาและเพิ่มผลกำไรให้ธุรกิจของคุณได้มากกว่าที่เคย