สรุปประเด็นโฆษณาออนไลน์ 2024 มีอะไรบ้างที่นักการตลาดควรรู้

ในขณะที่ปี 2023 กำลังจะหมดลง เชื่อว่านักการตลาดหลาย ๆ คนกำลังมองหาเทร็นด์อัปเดตใหม่ ๆ สำหรับปีหน้าอยู่แน่นอน เพราะอย่างที่รู้กันว่าการตลาดเปลี่ยนแปลงทุกปี โดยเฉพาะบนช่องทางออนไลน์ที่มักมีนวัตกรรมล้ำสมัยเกิดขึ้นอยู่เรื่อย ๆ ตั้งแต่ต้นปีจนถึงตอนนี้ก็มีหลายสิ่งหลายอย่างปรับเปลี่ยนไปจนนับแทบไม่ถ้วน เรียกได้ว่าโลกการตลาดยุคนี้หมุนเร็วจนคนทำธุรกิจตามไม่ทันกันเลยทีเดียว

นอกจากเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ได้รับการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดแล้ว ปัจจัยที่ทำให้การตลาดเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอยังมีเรื่องของเศรษฐกิจ การเมือง และสถานการณ์ระดับโลก ดังนั้น แม้ว่าสมัยนี้จะมีทั้งเครื่องมือและแพลตฟอร์มมากมายให้เราสามารถเข้าถึงได้อย่างสะดวกและรวดเร็วขึ้นกว่าเมื่อก่อนมาก แต่ก็มาพร้อมกับความยากและท้าทายในการทำโฆษณาออนไลน์เช่นเดียวกัน เพราะประสิทธิภาพของการลงทุนโฆษณานั้นขึ้นอยู่กับพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมายและกระแสสังคมที่เปลี่ยนไปในแต่ละช่วงด้วย

สำหรับใครที่กำลังทำธุรกิจอยู่ หรือมีแพลนที่จะทำในปีหน้านี้ มาดูกันว่า 6 ประเด็นโฆษณาออนไลน์ 2024 มีอะไรที่เราควรรู้ เพื่อไม่ให้ตกขบวนจนล้าหลังคู่แข่งบ้าง !

6 ประเด็นโฆษณาออนไลน์ที่นักการตลาดห้ามพลาดในปี 2024

MarTech จะไม่ใช่แค่เทร็นด์ แต่คือสิ่งที่ “จำเป็น” ต้องใช้

ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา นักการตลาดหลายคนคงเคยได้ยินเรื่องของซอฟต์แวร์การตลาด หรือ MarTech ที่เริ่มมีให้ใช้หลากหลายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเครื่องมือที่ช่วยในเรื่องของการจัดการแคมเปญ (Campaign Management) การวิเคราะห์เว็บไซต์ (Web Analytics) การบริหารจัดการความสัมพันธ์กับลูกค้า (CRM) หรืออื่น ๆ อีกมากมาย เพื่อช่วยให้การทำโฆษณาออนไลน์ของเรามีประสิทธิภาพและทันสมัยมากยิ่งขึ้น โดยในปี 2023 ข้อมูลจากงาน Creative Talk Conference (CTC) ระบุว่า อัตราการใช้ MarTech ในปีนี้เพิ่มขึ้นจากปี 2022 ถึง 16.7% นั่นแสดงว่า ในปี 2024 มีแนวโน้มที่อัตราการใช้ซอฟต์แวร์เหล่านี้จะมากขึ้นอีก เนื่องจากเทคโนโลยีและนวัตกรรมมีการพัฒนาทุกวัน อีกทั้งหลายโปรแกรมก็ได้รับการพัฒนาฟังก์ชันให้สอดคล้องกับยุค AI มากขึ้น ด้วยการให้ AI เข้ามามีบทบาทในการวิเคราะห์ข้อมูลต่าง ๆ ที่จะช่วยให้ผู้ใช้ซอฟต์แวร์ได้สิ่งที่เป็นประโยชน์สูงสุดกลับไป 

ดังนั้น ปี 2024 นี้ MarTech จะไม่ใช่แค่เทร็นด์หรือทางเลือกอีกต่อไป แต่คือสิ่งที่ทุกธุรกิจ “จำเป็น” ต้องเรียนรู้และใช้งาน เพื่อผลลัพธ์การทำโฆษณาดิจิทัลที่มีประสิทธิภาพ และไม่ต้องเดินตามหลังใคร

Influencer Marketing ยังได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง

ใครบอกว่าการตลาดแบบใช้อินฟลูเอนเซอร์โปรโมตแบรนด์ได้ตายไปแล้ว บอกเลยว่าไม่จริง ! เพราะในปีหน้า Influencer Marketing จะยังได้รับความนิยมอยู่อย่างต่อเนื่อง แต่อาจมีการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยตรงที่ ผู้บริโภคมีแนวโน้มที่จะเบื่อกับการจ้างอินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังมารีวิว เพราะดูเหมือนเป็นการจงใจขายของจนเกินไป อีกอย่างหนึ่ง บนหน้าฟีดของอินฟลูฯ ชื่อดังเหล่านั้นก็ล้วนเต็มไปด้วยโพสต์รีวิวของจากหลากหลายแบรนด์ จนกลุ่มเป้าหมายแยกไม่ออกแล้วว่าอันไหนใช้จริง อันไหนรีวิวเพราะถูกจ้าง

ดังนั้น อินฟลูฯ ที่จะได้รับความไว้เนื้อเชื่อใจจากผู้บริโภคมากขึ้น ได้แก่ Micro Influencer (ผู้ติดตามอยู่ระหว่าง 5,000-100,000 คน) และ Nano Influencer (ผู้ติดตามอยู่ระหว่าง 1,000-5,000 คน) ถึงแม้ยอดผู้ติดตามจะไม่มาก แต่ในปี 2024 นี้ก็มีแนวโน้มว่าอินฟลูฯ กลุ่มดังกล่าวจะมีอิทธิพลในการโน้มน้าวให้กลุ่มเป้าหมายมาอุดหนุนแบรนด์มากขึ้น ด้วยการรีวิวที่เป็นธรรมชาติ เหมือนคนรู้จักบอกต่อสิ่งดี ๆ และมีคุณภาพให้กันและกัน มากกว่าจะให้ความรู้สึกเหมือนดาราหรือคนดังมาขายของเพราะถูกจ้างให้ทำ

จริยธรรมและความรับผิดชอบต่อสังคมต้องมาพร้อมกับความคิดสร้างสรรค์

เมื่อพูดถึงความคิดสร้างสรรค์ในการทำโฆษณาออนไลน์ ปฏิเสธไม่ได้ว่าโฆษณาของไทยเราก็มีความครีเอทิฟไม่แพ้ชาติใดในโลก แต่ในปี 2024 ที่จะถึงนี้ ความสวยงามและความดึงดูดสายตาอาจไม่พออีกต่อไป เพราะโฆษณาดิจิทัลของเราจะต้องมาพร้อมกับจริยธรรมและความรับผิดชอบต่อสังคมด้วย เนื่องจากเมื่อยุคสมัยเปลี่ยนไป นอกจากสิ่งที่เปลี่ยนตามจะมีเทร็นด์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมต่าง ๆ แล้ว ยังมีเรื่องของค่านิยม วัฒนธรรม และแนวคิดทางสังคม ที่เมื่อก่อนเราอาจจะเคยคิดเคยทำกันเป็นเรื่องปกติ ทว่าปัจจุบันกลับไม่เป็นเช่นนั้นแล้ว ผู้บริโภคจำนวนมากก็เกิดความตระหนักมากยิ่งขึ้น เช่น การรณรงค์ใช้เครื่องสำอางที่ไม่ผ่านการทดลองในสัตว์เพื่อต่อต้านการทรมานสัตว์ การอุดหนุนแบรนด์ที่ใช้ผลิตภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อม ตอกย้ำแนวคิดรักษ์โลก เป็นต้น 

ดังนั้น ต่อให้เราจะออกแบบแคมเปญโฆษณาได้ดูดีแค่ไหน แต่ถ้าไม่มีจริยธรรมและความรับผิดชอบต่อสังคม ก็อาจถูกแบนได้ภายในชั่วข้ามคืน ในทางกลับกัน หากเราแสดงจุดยืนที่สอดคล้องกับสิ่งที่คนส่วนมากในสังคมกำลังรณรงค์อยู่ แบรนด์ก็จะมีโอกาสได้รับความสนใจมากขึ้น

YouTube จะกลายเป็นแพลตฟอร์มโฆษณาดิจิทัลที่มาแรงที่สุด

ปัจจุบัน เรามีหลากหลายแพลตฟอร์มให้เลือกใช้งาน ขึ้นอยู่กับว่ากลุ่มเป้าหมายของเราเป็นใคร ใช้งานแพลตฟอร์มไหนมากที่สุด แต่ในปี 2024 ที่จะถึงนี้ YouGov ได้จัดอันดับโซเชียลมีเดียที่คนไทยใช้เวลาด้วยมากที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่

1. YouTube
2. TikTok
3. Facebook
4. LINE
5. Instagram

ซึ่งในผลสำรวจดังกล่าว ระบุว่า ผู้ที่ใช้งาน YouTube มากที่สุด จะเป็นกลุ่มคน Gen Y, Gen X ไปจนถึง Baby Boomer ส่วนคน Gen Z จะใช้ TikTok มากที่สุด และรองลงมาคือ YouTube 

สรุปได้ว่า YouTube มีแนวโน้มที่จะครองอันดับหนึ่งของการเป็นแพลตฟอร์มโฆษณาออนไลน์ที่มาแรงที่สุดในปีหน้า สำหรับธุรกิจทุกหมวดหมู่

คอนเทนต์ประเภทวิดีโอจะกลายเป็นรูปแบบเนื้อหาที่ได้รับความนิยมมากที่สุด

ในปีที่ผ่าน ๆ มาจนถึงปัจจุบัน หากพูดถึงการทำคอนเทนต์ สิ่งแรก ๆ ที่นักการตลาดนึกถึงก็คงหนีไม่พ้นการทำคอนเทนต์ SEO จำพวกบล็อก หรือโพสต์บนโซเชียลมีเดียแพลตฟอร์มต่าง ๆ ไปจนถึงอินโฟกราฟิกที่มีความสวยงาม แต่จะไม่ค่อยมีใครนึกถึงการทำวิดีโอเท่าไรนัก เพราะต้องอาศัยความเชี่ยวชาญในการตัดต่อ แถมยังใช้เวลานาน ไม่ง่ายที่จะทำออกมาให้ดูดีได้ 

แต่ต้องบอกว่าในปี 2024 นี้ คอนเทนต์ประเภทวิดีโอจะกลายเป็นรูปแบบเนื้อหาที่ผู้บริโภคนิยมเสพมากที่สุด อ้างอิงจากรายงานของ Semrush ตามมาติด ๆ ด้วยคอนเทนต์รูปแบบบทความสั้น ๆ และการเล่าเรื่องราวความสำเร็จของแบรนด์ ตามลำดับ โดยบล็อกยาว ๆ ที่เราเคยนิยมทำกันเพื่อเพิ่มอันดับ SEO ในปีนี้จะได้รับความนิยมน้อยลง เพราะพฤติกรรมการเสพสื่อของผู้บริโภคกำลังเปลี่ยนไปเป็นเร่งรีบขึ้นเรื่อย ๆ ไม่มีใครมานั่งอ่านโพสต์ยาว ๆ ที่มีแต่ตัวหนังสืออีกต่อไปแล้ว การทำโฆษณาดิจิทัลจึงควรปรับให้อยู่ในรูปแบบวิชวล (Visual) เพื่อดึงดูดสายตาผู้ชมให้มากขึ้น โดยรูปแบบที่คาดว่าจะมาแรงมากในปีหน้าคือ วิดีโอ แต่ต้องอย่าลืมใส่ความคิดสร้างสรรค์ที่ไม่ซ้ำใครลงไปในโฆษณาออนไลน์ของเราด้วย เพื่อสร้างความแตกต่างจากแบรนด์คู่แข่ง

2024 จะเป็นยุคแห่งความเป็นส่วนตัวของข้อมูล

เมื่อกลางปี 2022 ประเทศไทยได้ประกาศใช้พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล หรือ PDPA (Personal Data Protection Act) เพื่อรักษาความเป็นส่วนตัวของประชาชนมากขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบอย่างมากต่อการทำการตลาดออนไลน์ เพราะในอดีต เรามักเก็บข้อมูลของกลุ่มเป้าหมายเพื่อมาวางแผนการทำโฆษณาดิจิทัลให้ตรงกับความต้องการของกลุ่มคนเหล่านั้น แต่ในปีนี้ การเก็บข้อมูลดังกล่าวก็ทำได้ยากขึ้น เพราะการบังคับใช้กฎหมาย PDPA ทำให้เราไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลของผู้บริโภคได้มากเท่าเก่าแล้ว และมีแนวโน้มว่าในปี 2024 นี้ การรักษาความเป็นส่วนตัวของข้อมูลจะยิ่งเข้มงวดมากขึ้นไปอีก เพราะเป็นยุคที่ผู้คนตระหนักถึงความเป็นส่วนตัวทั้งของตนเองและผู้อื่นมากขึ้น ประกอบกับการเข้ามาของเหล่า Scammer และอาชญากร Phishing ที่มีมากขึ้นเรื่อย ๆ ตามพัฒนาการของเทคโนโลยี ทำให้ผู้ใช้งานไม่ต้องการเปิดเผยข้อมูลของตนเองแบบสุ่มสี่สุ่มห้าอีกต่อไป ต่อให้ผู้ขอข้อมูลจะเป็นแบรนด์ที่มีอยู่จริงก็ตาม แต่หากยังไม่ได้รับความไว้เนื้อเชื่อใจมากถึงขนาดนั้น การเก็บข้อมูลเพื่อการทำโฆษณาออนไลน์ก็จะยากขึ้น 

นอกจากนี้ การใช้งาน Third Party Data ต่าง ๆ ก็จะมีความแม่นยำน้อยลง เพราะอัลกอริทึมถูกจำกัดศักยภาพในการเก็บและแชร์ข้อมูลของผู้ใช้งานได้น้อยลงด้วย

ร่วมงานกับบริษัทรับทำโฆษณาออนไลน์ เพื่อการทำธุรกิจที่ง่ายกว่าเดิม

ในการทำโฆษณาดิจิทัลให้ได้ประสิทธิภาพ นอกจากจะต้องรู้จักกลุ่มเป้าหมายของตนเองแล้ว เรายังต้องหมั่นติดตามเทร็นด์การตลาดที่เปลี่ยนไปในแต่ละช่วงอยู่เสมอ ซึ่งการเปลี่ยนแปลงที่ว่านี้ก็ไม่จำเป็นว่าต้องมีระยะเวลาเป็นปีสมอไป แต่อาจจะเป็นหน่วยเดือน หรือหน่วยสัปดาห์ก็ได้ เพราะกระแสสังคมมีอะไรใหม่ ๆ อยู่ตลอด และพฤติกรรมของผู้บริโภคก็ไม่ใช่สิ่งที่จะอยู่อย่างยั่งยืน แต่มีการปรับเปลี่ยนตามสภาพสังคมตลอดเวลา และที่สำคัญ ความเชี่ยวชาญและความคิดสร้างสรรค์ในการออกแบบโฆษณาออนไลน์ให้ตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย ถือเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับทุกธุรกิจ

หากคุณกำลังทำธุรกิจออนไลน์ และมองหาความช่วยเหลือในการทำโฆษณาดิจิทัล Primal Digital Agency เป็นบริษัทรับทำการตลาดอันดับหนึ่งของไทย ที่มีผู้เชี่ยวชาญกว่า 150 คน พร้อมออกแบบแคมเปญโฆษณาของคุณในทุก ๆ แพลตฟอร์ม ทั้ง Facebook, Instagram, LINE และ TikTok ให้โดดเด่นกว่าที่เคย โดยที่คุณไม่จำเป็นต้องเสียเวลามาดูแลเอง แล้วไปโฟกัสในการดำเนินงานส่วนอื่นได้อย่างเต็มที่ เพื่อให้ผลลัพธ์เกิดประสิทธิภาพสูงสุด ติดต่อเราเพื่อรับคำปรึกษาฟรีได้เลยวันนี้