รวม 5+ กลยุทธ์การตลาด สำคัญสำหรับธุรกิจ เคล็ดลับที่ปรับใช้ได้จริง

ในยุคดิจิทัลที่ธุรกิจแข่งขันกันอย่างดุเดือด การมีกลยุทธ์ทางการตลาด (Marketing Strategy) ที่แข็งแกร่งเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งที่จะสร้างความแตกต่างและดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการหรือซื้อสินค้าของเรา เนื่องจากการตลาดไม่ใช่แค่การโฆษณา แต่เป็นศาสตร์ที่ต้องอาศัยทั้งความรู้และประสบการณ์ในการวางแผนและดำเนินการให้บรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้

บทความนี้จะพาไปรู้จักว่ากลยุทธ์การตลาดคืออะไร พร้อมสำรวจกลยุทธ์ทั้งหมดที่นักการตลาดใช้กันจริงในยุคนี้ เพื่อให้คุณนำไปปรับใช้กับธุรกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ

 

กลยุทธ์การตลาด คือแผนที่ธุรกิจใช้เข้าถึงและตอบสนองความต้องการของลูกค้าเป้าหมาย

กลยุทธ์การตลาดคืออะไร

 กลยุทธ์การตลาด (Marketing Strategy) คือ แผนการที่ธุรกิจใช้เข้าถึงและตอบสนองความต้องการของลูกค้า เพื่อบรรลุเป้าหมายทางธุรกิจที่ตั้งไว้ ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มยอดขาย การสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จัก หรือเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาด กล่าวง่าย ๆ คือ เป็นเสมือนแผนที่นำทาง ที่บอกให้ธุรกิจเดินไปยังจุดหมายปลายทางที่ต้องการได้อย่างไร ผ่านการวางแผนทุกขั้นตอน ตั้งแต่การวิเคราะห์ตลาด การกำหนดกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย การเลือกช่องทางการตลาด ไปจนถึงการวัดผลลัพธ์

ทำไมกลยุทธ์การตลาดถึงสำคัญ 

กลยุทธ์การตลาดไม่เพียงแต่เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ธุรกิจประสบความสำเร็จ แต่ยังเป็นแนวทางที่ช่วยให้ธุรกิจสร้างความแตกต่างและดึงดูดความสนใจของลูกค้าในยุคดิจิทัลที่มีการแข่งขันสูงได้

  • การแข่งขันที่ดุเดือดในตลาด

ในปัจจุบัน ตลาดเต็มไปด้วยสินค้าหลากหลายและตัวเลือกจำนวนมากสำหรับผู้บริโภค กลยุทธ์การตลาดที่ดีจึงช่วยให้ธุรกิจสามารถสร้างจุดยืนที่แตกต่างจากคู่แข่งได้

  • พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลง

พฤติกรรมของลูกค้ามีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา การมีข้อมูลและกลยุทธ์ที่ชัดเจนช่วยให้ธุรกิจสามารถปรับตัวและตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างทันท่วงที

ประโยชน์ของกลยุทธ์การตลาด

กลยุทธ์การตลาดที่ดีจะช่วยให้ธุรกิจได้เปรียบในการแข่งขัน โดยข้อดีที่เห็นได้ชัดเจนคือ

  • เข้าใจลูกค้า

ช่วยให้เข้าถึงความต้องการของลูกค้าและพฤติกรรมการซื้อสินค้าและบริการ ทำให้ตอบสนองกลุ่มเป้าหมายได้อย่างตรงจุด

  • เพิ่มยอดขาย

เมื่อเข้าใจลูกค้า ธุรกิจจะนำเสนอสินค้าหรือบริการได้ตรงใจ ส่งผลให้การตัดสินใจซื้อเกิดขึ้นได้ง่ายและรวดเร็วขึ้น

  • สร้างภาพลักษณ์

การสร้างภาพลักษณ์ที่ดีจะช่วยให้ลูกค้าจดจำแบรนด์ได้ ซึ่งนำไปสู่การกลับมาซื้อซ้ำและการบอกต่อ

  • ลดความเสี่ยง

การวางแผนอย่างรอบคอบจะช่วยให้ธุรกิจรับมือกับความเสี่ยงและอุปสรรคที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ

รวมครบ ! 5 กลยุทธ์การตลาดที่นักการตลาดควรรู้ 

เพื่อช่วยให้ธุรกิจของคุณค้นพบแนวทางการตลาดที่ตอบโจทย์ เราได้รวบรวมกลยุทธ์พื้นฐานที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในระดับสากลมาฝาก ดังนี้ 

  • กลยุทธ์การตลาด 4P

กลยุทธ์การตลาด 4P เป็นหลักการพื้นฐานที่บริษัททั่วโลกใช้ในการวางแผนธุรกิจ โดยจะประกอบไปด้วย 4 ปัจจัยสำคัญคือ

  • Product (ผลิตภัณฑ์) : การสร้างสรรค์สินค้าที่ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า พร้อมทั้งเสริมสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง และสร้างความแตกต่างจากคู่แข่งด้วยคุณสมบัติพิเศษหรือการออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์
  • Price (ราคา) : การวางกลยุทธ์ด้านราคาที่ดึงดูดลูกค้า โดยคำนึงถึงต้นทุนและสภาพการแข่งขันในตลาด พร้อมทั้งจัดโปรโมชันที่น่าสนใจในช่วงเวลาที่เหมาะสม เช่น ส่วนลดพิเศษในเทศกาลสำคัญ เพื่อเพิ่มโอกาสขาย
  • Place (ช่องทางการจัดจำหน่าย) : การขยายช่องทางการจัดจำหน่ายให้เหมาะสมกับยุคดิจิทัล โดยเฉพาะการเพิ่มช่องทางออนไลน์ที่ตรงกับพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมาย เพื่อให้ลูกค้าเข้าถึงสินค้าได้สะดวกยิ่งขึ้น
  • Promotion (การส่งเสริมการขาย) : การวางแผนการสื่อสารการตลาดแบบครบวงจร ทั้งการโฆษณา การประชาสัมพันธ์ และการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขาย เพื่อสร้างการรับรู้และกระตุ้นการตัดสินใจซื้อ โดยเลือกใช้สื่อที่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นโทรทัศน์หรือแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย

>> อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่

  • กลยุทธ์ STP Marketing

กลยุทธ์ STP Marketing เป็นอีกกลยุทธ์สากลที่นักการตลาดใช้กันอย่างแพร่หลาย ซึ่งประกอบด้วยสามขั้นตอนหลักในการวางแผน ดังนี้

  • Segmentation (การแบ่งส่วนตลาด) : วิเคราะห์และแยกกลุ่มลูกค้าออกเป็นกลุ่มย่อยตามลักษณะต่าง ๆ เช่น เพศ อายุ และพฤติกรรมการซื้อ เพื่อให้เข้าใจความต้องการเฉพาะของแต่ละกลุ่ม และออกแบบกลยุทธ์ที่ตอบโจทย์ได้อย่างตรงจุด
  • Targeting (การเลือกกลุ่มเป้าหมาย) : คัดเลือกกลุ่มลูกค้าที่มีศักยภาพสูงสุดสำหรับธุรกิจของคุณ โดยคำนึงถึงความสามารถในการทำกำไรและความน่าสนใจของแต่ละกลุ่ม เพื่อให้ใช้ทรัพยากรทางการตลาดได้อย่างคุ้มค่า
  • Positioning (การสร้างภาพลักษณ์) : นำเสนอภาพลักษณ์ของผลิตภัณฑ์หรือบริการให้โดดเด่นและน่าสนใจ โดยใช้กลยุทธ์การสื่อสาร เช่น การคิดค้นสโลแกนที่จดจำง่าย เพื่อให้แบรนด์ของคุณมีจุดยืนที่ชัดเจนในตลาด

>> อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่

  • กลยุทธ์การตลาดออนไลน์

ในยุคดิจิทัล การตลาดออนไลน์สำคัญอย่างยิ่งต่อความสำเร็จของธุรกิจ โดยกลยุทธ์หลักที่ควรให้ความสำคัญ มีดังนี้

  • SEO (Search Engine Optimisation) : ปรับปรุงเว็บไซต์ให้ติดอันดับต้น ๆ ในหน้าผลการค้นหาของ Google โดยใช้คีย์เวิร์ดที่เหมาะสมและสร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพ ซึ่งจะช่วยเพิ่มโอกาสการเข้าถึงของกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • Social Media Marketing : สร้างปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าผ่านแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียยอดนิยม เช่น Facebook หรือ Instagram โดยการทำโฆษณาที่ตรงกลุ่มเป้าหมาย จะช่วยขยายฐานลูกค้าและเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคใหม่ ๆ ได้เป็นวงกว้าง
  • Content Marketing : นำเสนอข้อมูลที่เป็นประโยชน์ผ่านบทความ วิดีโอ หรือสื่อต่าง ๆ เพื่อดึงดูดและรักษาความสนใจของลูกค้า ทั้งยังช่วยส่งเสริมความสัมพันธ์ และเพิ่มความน่าเชื่อถือให้แก่แบรนด์
  • Email Marketing : วิเคราะห์พฤติกรรมการซื้อของลูกค้า จากนั้นใช้วิธีส่งอีเมลที่มีเนื้อหาตรงใจจากฐานข้อมูลลูกค้า เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีและนำไปสู่การขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยปรับแต่งข้อความให้เหมาะสมกับความสนใจของแต่ละกลุ่ม
  • Pay-Per-Click Advertising :  ใช้การโฆษณาที่คุณจ่ายเงินเมื่อมีผู้คลิก เพื่อเพิ่มการมองเห็นแบรนด์อย่างรวดเร็ว ทำให้การลงทุนด้านการตลาดมีประสิทธิภาพสูงสุด
  • กลยุทธ์การตลาดแบบบูรณาการ

การตลาดแบบบูรณาการคือการรวมกลยุทธ์ต่าง ๆ ให้ทำงานร่วมกันอย่างมีประสิทธิภาพ โดยใช้การสื่อสารที่สอดคล้องกันในทุกช่องทาง เช่น การโฆษณาทางออนไลน์และออฟไลน์ที่สอดคล้องกัน เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ชัดเจนและน่าเชื่อถือสำหรับแบรนด์ 

กลยุทธ์นี้ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน เนื่องจากสามารถตอบสนองพฤติกรรมผู้บริโภคที่ซับซ้อนขึ้นในยุคดิจิทัล นอกจากนี้ ยังช่วยอุดช่องว่างที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้กลยุทธ์เพียงรูปแบบเดียว ทำให้การลงทุนทางการตลาดมีประสิทธิภาพและคุ้มค่ามากยิ่งขึ้น

  • กลยุทธ์อื่น ๆ ที่น่าสนใจ

นอกจาก 4 กลยุทธ์ข้างต้น ปัจจุบันยังมีกลยุทธ์อีกมหาศาลที่นักการตลาดนิยมใช้เพื่อขยายการเติบโตของธุรกิจ โดยเรารวบรวมกลยุทธ์ที่น่าสนใจมาไว้ด้านล่างนี้แล้ว

  • Guerrilla Marketing : การตลาดแบบกองโจร หรือกลยุทธ์ที่สร้างความแตกต่างด้วยความคิดสร้างสรรค์ โดยใช้กิจกรรมที่น่าสนใจและไม่ซ้ำใครเพื่อดึงดูดความสนใจจากลูกค้า

>> อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่

  • Relationship Marketing : กลยุทธ์สร้างความสัมพันธ์กับลูกค้า โดยเน้นการให้บริการที่ดีและการติดต่อสื่อสารอย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างความผูกพันและกระตุ้นการซื้อซ้ำ
  • Viral Marketing : กลยุทธ์ผลิตเนื้อหาที่ดึงดูดใจและแชร์ได้ง่าย เพื่อใช้การบอกต่อของลูกค้าในการเผยแพร่ข้อมูลและเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ อย่างรวดเร็ว

>> อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่

  • Affiliate Marketing : การตลาดแบบพาร์ตเนอร์ ซึ่งธุรกิจจะร่วมมือกับผู้ที่สนใจในผลิตภัณฑ์  และจ่ายค่าคอมมิชชันสำหรับการแนะนำลูกค้า เพื่อขยายฐานลูกค้าของธุรกิจ

>> อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่

  • Influencer Marketing : กลยุทธ์ใช้บุคคลที่มีอิทธิพลในสังคม เช่น บล็อกเกอร์หรือ Celebrity เพื่อโปรโมตสินค้าและบริการ ช่วยให้แบรนด์เข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • Personalisation Marketing : กลยุทธ์การตลาดที่ปรับเนื้อหาและข้อเสนอให้ตรงตามความต้องการส่วนตัวของลูกค้า เพื่อเพิ่มโอกาสในการสร้างยอดขายและสร้างความประทับใจให้ลูกค้า

>> อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่

  • Experiential Marketing : การตลาดที่มุ่งเน้นให้ลูกค้าได้สัมผัสประสบการณ์ตรงกับสินค้าและบริการ สร้างความประทับใจและเชื่อมต่ออารมณ์กับแบรนด์

>> อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่

  • 8P Marketing Mix : กลยุทธ์การตลาด 8P พัฒนามาจาก 4P โดยเพิ่มปัจจัยสำคัญอีก 4 ปัจจัย คือ People (บุคลากร) Process (กระบวนการ)  Physical Evidence (หลักฐานทางกายภาพ) และ Productivity (ประสิทธิภาพการดำเนินงาน) เพื่อให้ธุรกิจตอบโจทย์ลูกค้าได้ครบทุกมิติ
  • Green Marketing : การตลาดสีเขียว หรือการตลาดที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม โดยนำเสนอสินค้าและบริการที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพื่อดึงดูดกลุ่มลูกค้าที่ใส่ใจเรื่องความยั่งยืน

>> อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่

  • Neuromarketing : กลยุทธ์ที่ใช้วิทยาศาสตร์ประสาทในการวิเคราะห์พฤติกรรมผู้บริโภค เพื่อสร้างเนื้อหาและการโฆษณาที่ตอบสนองความต้องการและกระตุ้นการตัดสินใจซื้ออย่างตรงจุด

>> อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่

  • Customer-Centric Marketing : กลยุทธ์การตลาดที่มุ่งเน้นการให้ความสำคัญกับความต้องการของลูกค้าเป็นหลัก โดยการสร้างประสบการณ์ที่ดีในทุกจุดที่ลูกค้าสัมผัสแบรนด์ เพื่อสร้างความภักดีและกระตุ้นการซื้อซ้ำ

>> อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่

  • Cause-Related Marketing : การตลาดที่มีจุดประสงค์เพื่อสนับสนุนกิจกรรมทางสังคมหรือการกุศล โดยมักจับคู่แบรนด์กับโครงการเพื่อสังคมต่าง ๆ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและความผูกพันในระยะยาวกับลูกค้า
  • Retention Marketing : กลยุทธ์การรักษาลูกค้า มุ่งเน้นการสร้างความพึงพอใจให้ลูกค้าที่มีอยู่แล้ว เพื่อให้พวกเขากลับมาซื้อซ้ำและสร้างความภักดีต่อแบรนด์

>> อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่

นักธุรกิจกำลังวางแผนกลยุทธ์การตลาด

สรุป

การตลาดในยุคดิจิทัลซับซ้อนและหลากหลายมากขึ้น การเลือกใช้กลยุทธ์การตลาดจึงควรพิจารณาให้เหมาะสมกับธุรกิจของคุณ โดยอาจเริ่มจากกลยุทธ์พื้นฐานอย่าง 4P และ STP ก่อน จากนั้นค่อยผสมผสานกับกลยุทธ์สมัยใหม่ เช่น การตลาดออนไลน์หรือการตลาดแบบบูรณาการ

สิ่งสำคัญคือต้องไม่ยึดติดกับกลยุทธ์ใดกลยุทธ์หนึ่ง แต่ควรปรับเปลี่ยนให้ยืดหยุ่นตามสถานการณ์ และพร้อมทดลองกลยุทธ์ใหม่ ๆ พร้อมกันนั้น ต้องไม่ลืมที่จะวัดผลและวิเคราะห์ข้อมูลอย่างสม่ำเสมอ เพียงเท่านี้ก็จะช่วยให้คุณปรับปรุงกลยุทธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นแล้ว

มองหาที่ปรึกษา เพื่อช่วยปรับปรุงกลยุทธ์ทางการตลาดของคุณให้ปังและมอบผลลัพธ์ที่ดีมากกว่าเดิม Primal เอเจนซีการตลาดชั้นนำของประเทศไทยยินดีให้คำแนะนำ ด้วยทีมผู้เชี่ยวชาญกว่า 150 คน เรามีประสบการณ์และความรู้ที่จะช่วยออกแบบแผนการตลาดที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณโดยเฉพาะ ไม่ว่าคุณจะต้องการเพิ่มยอดขาย สร้างการรับรู้แบรนด์ หรือขยายฐานลูกค้า เรามีโซลูชันที่ตอบโจทย์ความต้องการอย่างครบถ้วน

อย่าปล่อยให้โอกาสทางธุรกิจหลุดลอยไป ! กรอกรายละเอียดของคุณตอนนี้ และทีมกลยุทธ์ของเราจะติดต่อกลับไปเพื่อให้คำปรึกษาฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย