เผย 5 วิธีการสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่ง โดดเด่นเหนือคู่แข่ง

ในการจะทำธุรกิจอะไรสักอย่างหนึ่ง แน่นอนว่าเราต้องมีคู่แข่ง ต่อให้สินค้าหรือบริการที่เราขายจะเป็นสิ่งที่เราคิดค้นขึ้นเอง แต่ก็ย่อมมีผลิตภัณฑ์ในหมวดหมู่เดียวกันจากแบรนด์อื่น ๆ อยู่ดี ดังนั้น ผู้ประกอบการทุกคนจึงต้องหาทางทำให้แบรนด์ของตนเองมีความโดดเด่นขึ้นมาให้ได้ เพื่อให้ลูกค้ามองเห็นเราเป็นอันดับแรก ๆ ก่อนจะหันไปหาคู่แข่ง

วิธีที่หลายคนเลือกใช้ คือ การตั้งชื่อแบรนด์และการสร้างโลโก้ให้เป็นเอกลักษณ์ จดจำง่าย เพียงเท่านี้ ผู้ประกอบการก็อาจมองว่าตนเองแตกต่างจากแบรนด์อื่น ๆ แล้ว และเริ่มทำการตลาดเลย อันที่จริง การทำเช่นนี้ก็ถูกส่วนหนึ่ง เพราะสิ่งแรกที่จะทำให้ลูกค้ารู้จักเราก็คือ ชื่อแบรนด์และโลโก้ที่ไม่ซ้ำใคร แต่อย่าลืมว่าในตลาด สินค้าหรือบริการหมวดหมู่เดียวกับที่เราทำนั้นมีเป็นร้อยเป็นพันแบรนด์ พอถึงเวลาที่ต้องลงสนามแข่งขันจริง ต่างคนต่างก็มีชื่อแบรนด์และโลโก้ที่เฉพาะตัวกันทั้งนั้น แล้วอะไรล่ะที่จะทำให้เราโดดเด่นออกมาได้จริง ๆ 

ฉะนั้น ก่อนจะเริ่มทำการตลาดใด ๆ เราจึงไม่อาจเรียกการตั้งชื่อแบรนด์และการสร้างโลโก้ว่าเป็นก้าวที่ศูนย์ของการทำธุรกิจได้ เพราะจุดเริ่มต้นที่เราควรอยู่จริง ๆ คือ “การสร้างแบรนด์“ หรือการทำ Branding ไม่ว่าธุรกิจของเราจะเล็กหรือใหญ่ก็ตาม

การสร้างแบรนด์คืออะไร

ต่อให้เรามีชื่อแบรนด์ที่แปลก ติดหู หรือเป็นเอกลักษณ์มากแค่ไหน แต่เมื่อเปิดตัวออกไปแล้ว สิ่งที่จะทำให้ผู้บริโภครู้จักเราได้ทันทีนั้นไม่ใช่ชื่อ แต่เป็นการสร้างแบรนด์ของเราต่างหาก

การสร้างแบรนด์ หรือ การทำ Branding คือ หนึ่งในกระบวนการทำการตลาดที่จะทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักในหมู่ผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็นการสร้างการรับรู้แบรนด์ (Brand Awareness) การโปรโมตสินค้าหรือบริการ หรือการเชื่อมต่อกับกลุ่มเป้าหมายเพื่อสร้างความสัมพันธ์ในชีวิตประจำวัน แต่ก่อนที่จะทำให้ผู้บริโภครู้จักเรา เราต้องรู้จักตัวเองก่อนว่าธุรกิจของเรามีเป้าหมายอะไร ทำเพื่อใคร มีจุดยืนและภาพลักษณ์เป็นอย่างไร เมื่อรู้แล้ว เราก็จะได้ Branding ที่ชัดเจน ซึ่งสามารถสื่อสารออกไปยังวงกว้างได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ทั้งนี้ ภาพลักษณ์และตัวตนที่ใช้ในการสร้างแบรนด์นั้น คือทุกสิ่งทุกอย่างที่แบรนด์ของเราปฏิบัติต่อสาธารณะ ทั้งช่องทางที่ใช้โฆษณา การใช้คำพูดและภาษา หรือแม้แต่ลักษณะของโลโก้และสีประจำแบรนด์ก็ตาม

การสร้างแบรนด์สำคัญอย่างไร

บางคนอาจจะคิดว่า ทำอย่างไรก็ได้ให้มียอดขายเยอะ ๆ ก็พอแล้ว แต่อันที่จริง หนึ่งในปัจจัยหลักที่จะช่วยกระตุ้นให้ผู้บริโภครู้สึกอยากซื้อสินค้าหรือบริการของเราก็คือ ชื่อเสียงของแบรนด์ หากชื่อของเราโด่งดังในตลาด โอกาสที่ผู้บริโภคจะให้ความไว้วางใจก็มีมากขึ้น และการจะทำให้ตัวเองมีชื่อเสียงได้ก็ต้องเกิดจากการทำ Branding ที่ชัดเจน เพื่อให้ลูกค้ามองเห็นเราเป็นตัวเลือกอันดับแรก ๆ ในใจ นอกจากนี้ การสร้างแบรนด์ยังมีความสำคัญในด้านอื่น ๆ อีกมากมาย เช่น

ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือ

ไม่ว่าลูกค้าคนไหน ๆ ก็อยากอุดหนุนธุรกิจที่มี “ตัวตน” อยู่จริง ดังนั้น ยิ่งเรารู้จักวิธีการสร้างแบรนด์ให้แข็งแกร่งมากเท่าไร ผู้บริโภคก็จะยิ่งเชื่อมั่นในแบรนด์ของเรามากเท่านั้น ไม่ว่าจะในด้านของคุณภาพสินค้าหรือระดับการบริการ ต่อให้ราคาแพง แต่ถ้าแบรนด์ของเราดีจริง กลุ่มเป้าหมายของเราก็จะยอมจ่าย เพราะนอกจากจะได้คุณภาพของสินค้าหรือบริการตามที่ตนเองต้องการแล้ว ยังถือว่าได้ซื้อความปลอดภัย ลดความเสี่ยงที่จะโดนโกงอีกด้วย

ทำให้เกิดความภักดีต่อแบรนด์ (Brand Loyalty)

การทำ Branding ที่ดีจะช่วยให้เรากลายเป็นที่รู้จักในตลาด ซึ่งเมื่อเป็นเช่นนั้น ผู้บริโภคที่มีคุณสมบัติตรงตามกลุ่มเป้าหมายของเราก็จะหันมาเป็นลูกค้า และหากเรามีการทำการตลาดอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงมีบริการหลังการขายที่แสดงให้เห็นถึงความเอาใจใส่ จากที่เป็นลูกค้าเฉย ๆ ก็มีโอกาสที่จะพัฒนามาเป็นลูกค้าประจำที่มีความภักดีต่อแบรนด์ อันจะช่วยให้เรามีฐานลูกค้าที่มั่นคงขึ้นได้

ช่วยกระตุ้นให้เกิดการบอกต่อ

พอเราเริ่มมีลูกค้าประจำแล้ว สิ่งที่จะตามมาก็คือการบอกต่อแบบปากต่อปาก (Word of Mouth) ซึ่งหากพูดในเชิงการตลาดแล้ว วิธีนี้นับว่ามีน้ำหนักและน่าเชื่อถือมากกว่าการที่แบรนด์ลงทุนทำโฆษณาเองเสียอีก เพราะการบอกแบบปากต่อปากคือ การบอกกล่าวถึงประสบการณ์ที่เกิดขึ้นจากการใช้งานสินค้าหรือบริการจริง แล้วเกิดความรู้สึกประทับใจจนอยากบอกต่อ อันจะนำมาซึ่งฐานลูกค้าที่กว้างมากขึ้น

ช่วยให้ธุรกิจมีความมั่นคงในระยะยาว

แน่นอนว่าการสร้างแบรนด์ให้ติดตลาด จะทำให้ธุรกิจของเราสามารถดำเนินต่อไปได้อย่างมั่นคงในระยะยาว เพราะถ้าเราอยากจะเปิดตัวสินค้าใหม่ ๆ ภายใต้ชื่อแบรนด์เดิมก็ยังขายได้ และมีลูกค้าที่เคยได้ยินชื่อแบรนด์ของเรามานานให้ความเชื่อถืออยู่ เนื่องจากผู้บริโภคส่วนใหญ่จะรู้สึกเชื่อมั่นแบรนด์ที่มีชื่อเสียงในตลาดมากกว่าแบรนด์ใหม่ ๆ ที่เพิ่งเกิด

วิธีการสร้างแบรนด์ให้ประสบความสำเร็จ

เมื่ออ่านมาถึงตรงนี้ น่าจะเห็นภาพคร่าว ๆ กันแล้วว่าการสร้างแบรนด์คืออะไร และมีความสำคัญอย่างไร โดยการทำ Branding ถือเป็นกระบวนการสำคัญที่นักธุรกิจทุกคนจะมองข้ามไปไม่ได้เลย ไม่เช่นนั้น เราก็จะไม่มีวิธีสื่อสารคุณค่าและภาพลักษณ์ของแบรนด์ออกไปสู่สาธารณะให้เป็นที่รู้จักหรือโดดเด่นเหนือคู่แข่งนับพันในตลาด ตลอดจนไม่สามารถเข้าไปอยู่ในใจของลูกค้าได้ด้วย 

เรามาดูกันดีกว่าว่าขั้นตอนการสร้างแบรนด์ให้ประสบความสำเร็จนั้นมีอะไรบ้าง

กำหนดเป้าหมายของแบรนด์ให้ชัดเจน

ดังที่ได้เกริ่นไว้ในตอนต้นว่า สิ่งแรกที่ต้องทำในการสร้างแบรนด์ ไม่ใช่การตั้งชื่อแบรนด์หรือการออกแบบโลโก้ แต่เป็นการกำหนดเป้าหมายของแบรนด์ให้ชัดเจนว่า เราต้องการสร้างธุรกิจนี้ขึ้นมาเพื่ออะไร เพราะการมีเป้าหมายจะช่วยให้เราสามารถเติบโตอย่างมีทิศทางที่เราต้องการให้เป็นจริงได้ ภาพลักษณ์ของแบรนด์ที่สื่อสารออกไปก็จะดูหนักแน่นและมั่นคง ตลอดจนช่วยเพิ่มความเชื่อมั่นที่ผู้บริโภคมีต่อเรา

รู้จักกลุ่มเป้าหมายของตนเอง

ก่อนจะทำการตลาด ไม่ว่าจะกลยุทธ์ใดก็ตาม สิ่งสำคัญคือการรู้จักกลุ่มเป้าหมายของตนเอง รู้ว่าเราจะขายให้ใคร คนเหล่านั้นกำลังประสบปัญหาใด แล้วออกแบบผลิตภัณฑ์มาให้ตอบโจทย์การแก้ปัญหาเหล่านั้น นอกจากนี้ ยังควรสำรวจหรือวิเคราะห์ข้อมูลทั่วไปของคนกลุ่มดังกล่าวด้วยว่าเป็นเพศอะไร อายุเท่าไร อาศัยอยู่ที่ไหน ชอบหรือไม่ชอบอะไรบ้าง เพื่อนำข้อมูลมาเป็นรากฐานในการวางแผนการตลาดขั้นตอนต่อ ๆ ไปให้มีประสิทธิภาพ และตรงตามความต้องการของกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น

วางตำแหน่งของแบรนด์ (Position) ให้เหมาะสม

ตำแหน่งของแบรนด์ คือ สิ่งที่แสดงถึงภาพลักษณ์ของแบรนด์ว่าเราอยู่ตรงจุดไหนของตลาด ลองคิดง่าย ๆ โดยให้เปรียบเทียบแบรนด์เป็นคน ว่าถ้าเราอยากจะสร้างคนขึ้นมาใหม่หนึ่งคน เราอยากให้เขามีภาพลักษณ์แบบใด เช่นเดียวกับการสร้างแบรนด์ กล่าวคือ เราอยากจะให้แบรนด์ของเราเป็นอย่างไรในสายตาของลูกค้า เช่น หรูหรา สง่างาม หรือตลกเฮฮา เข้าถึงง่าย เป็นต้น

ทำให้ตนเองแตกต่างจากคู่แข่ง

ก่อนอื่น เราควรสำรวจคู่แข่งว่าเขาทำการตลาดแบบใด มีจุดแข็งและจุดอ่อนอะไร ตลอดจนอะไรที่แบรนด์คู่แข่งทำแล้วเรายังไม่ทำ จากนั้น ให้พยายามคิดค้นสิ่งที่จะทำให้เราแตกต่างจากคู่แข่งเหล่านั้น ไม่ว่าจะเป็นการทำการตลาด สินค้าหรือบริการ หรือแม้แต่แนวคิดและจุดยืนของแบรนด์ เพราะยิ่งเราแตกต่างมากเท่าไร ผู้บริโภคก็จะยิ่งจดจำเราได้แม่นยำมากเท่านั้น

ดีไซน์ต้องสอดคล้องกับตัวตนของแบรนด์

อีกสิ่งหนึ่งที่สามารถสะท้อนตัวตนของแบรนด์ได้อย่างดีเยี่ยมก็คือ ดีไซน์ หรือการออกแบบในด้านต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นโลโก้ บรรจุภัณฑ์ ยูนิฟอร์ม สี อินโฟกราฟิก ฯลฯ สิ่งเหล่านี้จะช่วยยกระดับความเป็นแบรนด์ของเราให้ดูมีมาตรฐานมากยิ่งขึ้น ดังนั้น เราจึงควรทำให้สอดคล้องกับตำแหน่งของแบรนด์ที่วางไว้ เพื่อที่ตัวตนของแบรนด์จะได้ชัดและมีเอกลักษณ์ที่น่าจดจำ

สรุป

และทั้งหมดนี้ก็คือความสำคัญของการทำ Branding และวิธีการสร้างแบรนด์ให้ประสบความสำเร็จ ซึ่งทุกขั้นตอนมีความสำคัญเท่า ๆ กันหมด ไม่ใช่ว่าทำขั้นตอนใดขั้นตอนหนึ่งแล้วจะมีชื่อเสียงได้เลย เพราะปัจจัยเหล่านี้เป็นสิ่งที่ต้องทำไปพร้อม ๆ กันและจะขาดอะไรไปไม่ได้ เพื่อที่จะได้สร้างความแตกต่างและสื่อสารจุดยืนของแบรนด์ออกไปสู่สาธารณชนได้อย่างมีประสิทธิภาพในระยะยาว

สำหรับใครที่อยากสร้างแบรนด์ให้น่าเชื่อถือ แต่ยังไม่รู้จะเริ่มอย่างไร ติดต่อ Primal Digital Agency ได้เลยวันนี้ เราเป็นบริษัทรับทำการตลาดชั้นนำของไทยที่พร้อมให้คำปรึกษา และคิดค้นกลยุทธ์ที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณให้โดยเฉพาะ การันตีโดยผู้เชี่ยวชาญมากประสบการณ์กว่า 150 คน