SEM คืออะไร ? เทคนิคดันอันดับเว็บไซต์ที่นักการตลาดต้องเข้าใจ

การทำให้เว็บไซต์แสดงผลในหน้า Search Engine หรือติดอันดับเหนือคู่แข่งนั้นสามารถทำได้หลายวิธีด้วยกัน แต่แนวทางที่นิยมใช้และได้ผลมากที่สุด ก็คือการทำSEMย่อมาจาก Search Engine Marketing โดยกลยุทธ์นี้จะประกอบไปด้วย 2 วิธีการหลัก ได้แก่ Organic Search หรือที่รู้จักกันในชื่อ SEO (Search Engine Optimisation) และ Paid Search ที่จะเป็นการจ่ายเงินพื้นที่โฆษณา หรือ Pay Per Click (PPC)

บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจให้มากขึ้นว่า SEM คืออะไร และมีความสำคัญอย่างไรในการดันเว็บไซต์ให้ติดอันดับในหน้าผลการค้นหา มาดูกัน !
SEM ย่อมาจาก Search Engine Marketing

SEM คืออะไร มีประโยชน์อย่างไรต่อนักการตลาด

SEM ย่อมาจาก Search Engine Marketing หมายถึง วิธีทำการตลาดออนไลน์ผ่านเครื่องมือค้นหาบนอินเทอร์เน็ต หรือระบบ Search Engine ไม่ว่าจะเป็น Google, Yahoo, Bing ฯลฯ เพื่อให้เว็บไซต์ถูกนำไปแสดงผลเป็นอันดับต้น ๆ บนหน้าแรกของการค้นหา

SEM คือกระบวนการที่มีประโยชน์ต่อการทำการตลาดมาก เพราะนอกจากจะทำให้เว็บไซต์ติดหน้าแรกของการค้นหาแล้ว ยังช่วยให้กลุ่มเป้าหมายสามารถเข้าถึงเว็บไซต์ของแบรนด์ได้ง่ายยิ่งขึ้น จนนำไปสู่ยอดเข้าชมเว็บไซต์ (Traffic) ที่มากกว่าเดิม ที่สำคัญ SEM ถือเป็นเทคนิคที่ช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือแก่ธุรกิจ ซึ่งมีผลต่อการเติบโตในระยะยาวด้วย

 

SEM มีกี่ประเภท

SEM Marketing เป็นคำเรียกวิธีการทำการตลาดออนไลน์บน Search Engine ที่ครอบคลุม 2 เทคนิคหลัก ๆ ได้แก่ Organic Search และ Paid Search

1. Organic Search หรือการทำ SEO (Search Engine Optimisation)

เป็นวิธีการพัฒนาเว็บไซต์ให้มีระสิทธิภาพ เพื่อให้ถูก Search Engine นำไปจัดไว้ในอันดับต้น ๆ บนหน้าแรก ซึ่งรวมถึงการปรับแต่งเว็บไซต์ทั้งในด้านโครงสร้าง เนื้อหา และคีย์เวิร์ด ให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงได้ง่าย อันจะนำไปสู่การมี Organic Traffic ที่เพิ่มมากขึ้น โดยที่ธุรกิจไม่จำเป็นต้องเสียเงินค่าโฆษณาให้ Google เลยแม้แต่บาทเดียว

2. Paid Search หรือ Pay Per Click (PPC)

คือการที่เราจ่ายเงินซื้อพื้นที่โฆษณาบน Google โดยจะต้องชำระเงินตามจำนวนครั้งที่ผู้ใช้คลิกโฆษณาเพื่อเข้าไปชมเว็บไซต์ ข้อดีคือได้ติดอันดับแรก ๆ แน่นอน แต่จะมีคำว่า “Ad” พ่วงอยู่ข้างหน้าด้วย ซึ่งผู้ใช้งานก็จะรู้ว่านี่คือการโฆษณานักการตลาดใช้เทคนิค Pay Per Click เพื่อดันอันดับเว็บไซต์

 

SEM วัดผลยังไง

การทำ SEM Marketing จะมีประโยชน์มากขึ้นเมื่อคุณวัดผลลัพธ์ของการทำงานได้ถูกต้อง ซึ่งหากถามว่า SEM วัดผลยังไงนั้น คุณสามารถใช้ปัจจัยเหล่านี้ในการตรวจสอบได้เลยว่าแคมเปญของคุณมีประสิทธิภาพมากน้อยแค่ไหน !

Click-Through Rate (CTR)

อัตราการคลิก เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดที่สำคัญสำหรับการทำ SEM Marketing โดยจะบ่งบอกถึงเปอร์เซ็นต์ของผู้ใช้ที่เห็นเว็บไซต์ของคุณและคลิกเข้ามาชม ยิ่ง CTR สูง ก็ยิ่งแสดงว่าเว็บไซต์ของคุณน่าสนใจและตรงกับความต้องการของผู้ใช้

Conversion Rate

แสดงถึงเปอร์เซ็นต์ของผู้ที่คลิกเข้ามายังเว็บไซต์ของคุณและดำเนินการบางอย่างตามที่คุณต้องการจะให้เป็น ไม่ว่าจะเป็นการกดซื้อสินค้า การกรอกแบบฟอร์ม การสมัครสมาชิก ฯลฯ

Cost Per Click (CPC)

ในการทำ Pay Per Cilck ราคาต่อคลิกจะหมายถึงจำนวนเงินที่คุณต้องจ่ายเมื่อมีผู้ใช้งานคลิกโฆษณาแต่ละครั้ง ซึ่งถ้าหากต้องการให้แคมเปญมีประสิทธิภาพ ควรลด CPC โดยที่ยังรักษา CTR และ Conversion Rate เอาไว้ให้สูงที่สุด

Return on Ad Spend (ROAS)

อัตราผลตอบแทนจากค่าโฆษณา เป็นตัวชี้วัดสำคัญที่จะประเมินว่าการลงทุนทำ Pay Per Click นั้นให้ผลตอบแทนคุ้มค่าหรือไม่ โดยจะคำนวณจากรายได้ที่ได้รับจากการโฆษณา หารด้วยค่าใช้จ่ายในการโฆษณา

 

สรุปว่า SEM คือกลยุทธ์ที่ครอบคลุมทั้งในส่วนของ SEO และ Pay Per Click นักการตลาดจึงควรหยิบข้อดีของ SEM ทั้งสองรูปแบบมาใช้ควบคู่กันไป แล้วปรับให้สอดคล้องกับความต้องการของธุรกิจตนเอง เพียงเท่านี้ ธุรกิจออนไลน์ของคุณก็จะมีโอกาสเติบโต และสามารถเข้าถึงลูกค้าได้มากกว่าคู่แข่งแล้ว

สำหรับผู้ประกอบการที่ยังไม่แน่ใจว่าควรเริ่มวางกลยุทธ์ SEM Marketing อย่างไรดีก็ไม่ต้องกังวล ! เพราะที่ Primal เราเป็นเอเจนซีการตลาดชั้นนำของไทยที่พร้อมให้คำปรึกษาทั้งด้าน SEO และ SEM บริการคุณอย่างละเอียดทุกขั้นตอนเหมือนดูแลธุรกิจของเราเอง หากคุณพร้อมแล้วที่จะพัฒนาแผนการตลาดให้อยู่เหนือคู่แข่ง สามารถกรอกฟอร์มเพื่อติดต่อเราได้เลยวันนี้