Gentlewoman เจาะลึกความสำเร็จของแบรนด์ไทยที่ฮิตที่สุดตอนนี้
ในยุคที่แฟชั่นเป็นมากกว่าแค่เสื้อผ้า การมีกระเป๋าใบเก๋ก็กลายเป็นไอเทมที่ขาดไม่ได้สำหรับสาว ๆ หลายคน และหนึ่งในแบรนด์ที่กำลังมาแรงและเป็นที่จับตามองในวงการก็คือ Gentlewoman Thailand แบรนด์ไทยสุดฮิตที่กำลังเป็นที่พูดถึงในวงกว้างตอนนี้ !
ทว่า ความสำเร็จไม่ได้เกิดขึ้นเพียงชั่วข้ามคืน เราขอชวนมาเจาะลึกเบื้องหลังการก้าวสู่แบรนด์ยอดนิยมและไขความลับว่า อะไรที่ทำให้ Gentlewoman โดนใจลูกค้าทั่วประเทศ
Table of Contents
เปิดประวัติ Gentlewoman เจ้าของคือใคร
Gentlewoman คือแบรนด์แฟชั่นไทยที่เติบโตอย่างรวดเร็วในเวลาเพียง 6 ปี (ก่อตั้งเมื่อ พ.ศ. 2561) โดยมีเจ้าของคือ แพง-รยา วรรณภิญโญ เป็นผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จ แพงจบการศึกษาจากคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และเคยทำงานตรวจสอบบัญชีมา 2 ปี ก่อนจะผันตัวมาทำธุรกิจแฟชั่น
แรงบันดาลใจในการสร้างแบรนด์ Gentlewoman เกิดจากการที่แพงเห็นช่องว่างในตลาด โดยเฉพาะเรื่องของขนาดเสื้อผ้าและแบบที่เหมาะสมกับสภาพอากาศของประเทศไทย จึงเริ่มต้นด้วยการเป็นแบรนด์ชุดทำงานที่ผสมผสานความสมาร์ตกับความสนุกสนาน ก่อนจะพัฒนาไปสู่แบรนด์แฟชั่นที่หลากหลายในปัจจุบัน
ความสำเร็จของ Gentlewoman เกิดจากความสามารถในการปรับตัวอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะในช่วงการระบาดของโควิด-19 ที่ทำให้แบรนด์ต้องปรับเปลี่ยนกลยุทธ์และเพิ่มความถี่ในการออกคอลเลกชันใหม่ จนกลายเป็นจุดแข็งของแบรนด์ในปัจจุบัน
เอกลักษณ์ที่โดดเด่นของ Gentlewoman
สิ่งที่ทำให้ Gentlewoman เป็นแบรนด์ประเทศไทยที่โดดเด่นท่ามกลางแบรนด์อื่น ๆ มีดังนี้
คอนเซปต์ Empowering Woman
Gentlewoman มุ่งเน้นการเสริมสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้หญิงวัยทำงาน โดยนำเสนอเสื้อผ้าที่มีความหลากหลายเพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างของผู้หญิงยุคใหม่ แบรนด์ไม่ได้ยึดติดกับภาพจำหรือสเตอริโอไทป์แบบใดแบบหนึ่ง แต่เน้นการส่งเสริมให้ผู้หญิงแต่ละคนค้นพบเอกลักษณ์ของตนเอง
ดีไซน์เรียบง่ายแต่ทรงพลัง
ดีไซน์ของ Gentlewoman เรียบง่ายแต่ทรงพลัง สามารถปรับใช้ได้ในหลากหลายโอกาส ตั้งแต่การทำงาน ไปจนถึงกิจกรรมในชีวิตประจำวัน
วัสดุคุณภาพสูงในราคาจับต้องได้
แบรนด์ให้ความสำคัญกับการใช้วัสดุคุณภาพสูง เพื่อสร้างความรู้สึกดีและมั่นใจให้แก่ผู้สวมใส่ ในขณะเดียวกันก็คงไว้ซึ่งราคาที่จับต้องได้ ตัวอย่างเช่น กระเป๋า Gentlewoman ใบใหญ่ที่ขายอยู่ในราคาหลักร้อยเท่านั้น
วิเคราะห์กลยุทธ์ทางการตลาดเบื้องหลังความสำเร็จ Gentlewoman
หลายคนอาจสงสัยว่า เสื้อผ้าหรือกระเป๋า Gentlewoman ทำไมฮิตถึงขนาดที่ไม่ว่าจะไปที่ไหนก็มักจะพบเห็นผู้หญิงยุคใหม่ใช้แบรนด์นี้ เราจะพามาเจาะลึกกลยุทธ์การตลาด เบื้องหลังความสำเร็จนี้พร้อมกัน
ใช้ Social Media สร้างการรับรู้
Gentlewoman ใช้ประโยชน์จากโซเชียลมีเดียอย่างชาญฉลาด โดยเฉพาะในช่วงวิกฤติโรคระบาด ที่ผู้คนใช้เวลาออนไลน์มากขึ้น แบรนด์สร้างการรับรู้ผ่านแพลตฟอร์มต่าง ๆ จนเกิดเป็นกระแสในหมู่คนไทย และแพร่กระจายไปสู่ชาวต่างชาติ โดยเมื่อประเทศเปิดรับนักท่องเที่ยวอีกครั้ง กระเป๋า Gentlewoman จึงกลายเป็นไอเทมที่นักท่องเที่ยวต้องซื้อเมื่อมาเยือนไทย
ร่วมงานกับอินฟลูฯ เพิ่มความน่าเชื่อถือ
แบรนด์ได้ร่วมงานกับอินฟลูเอนเซอร์ทั้งไทยและต่างชาติ ส่งผลให้เกิดการบอกต่อในวงกว้าง กลยุทธ์นี้ไม่เพียงสร้างการรับรู้แบรนด์ แต่ยังสร้างความน่าเชื่อถือและความต้องการในตัวสินค้า
Collaboration กับแบรนด์อื่น
แบรนด์ได้สร้างความแปลกใหม่และขยายฐานลูกค้าผ่านความร่วมมือกับแบรนด์ดีไซเนอร์ไทยชื่อดังมากมาย เช่น Disaya, Asava และ Kloset การ Collaboration เหล่านี้ไม่เพียงแต่เพิ่มมูลค่าให้แก่ผลิตภัณฑ์ แต่ยังช่วยยกระดับภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้ดูหรูหราและมีสไตล์มากขึ้น ทำให้ Gentlewoman สามารถดึงดูดทั้งลูกค้าประจำและกลุ่มใหม่ ๆ ที่ชื่นชอบแฟชั่นไทย
เข้าใจ Insight และความต้องการของลูกค้า
แบรนด์เข้าใจความต้องการของลูกค้าอย่างลึกซึ้ง โดยเฉพาะในด้านความหลากหลายของสไตล์และไซซ์ โดยไม่ได้จำกัดตัวเองอยู่ในกรอบสไตล์ใดสไตล์หนึ่ง แต่พยายามนำเสนอเสื้อผ้าที่หลากหลายเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้หญิงที่มีบุคลิกและรสนิยมแตกต่างกัน
ตั้งร้านอยู่ที่ในทำเลดี เข้าถึงง่าย (Prime Location)
Gentlewoman ให้ความสำคัญกับการเลือกทำเลที่ตั้งร้าน โดยเริ่มต้นจากสาขาแรกที่สยามสแควร์วัน ซึ่งเป็นย่านที่มีคนผ่านไปมาจำนวนมาก แม้ว่าในช่วงแรกอาจจะยังไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร แต่การเลือกทำเลที่เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ง่าย ก็เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการสร้างการรับรู้แบรนด์
สร้างแบรนด์ที่แข็งแกร่ง
Gentlewoman นำเสนอภาพลักษณ์ของผู้หญิงที่มีความหลากหลายและเป็นตัวของตัวเอง พร้อมกันนั้น ยังทำงานร่วมกับดีไซเนอร์และศิลปินหลากหลายสไตล์ในการสร้างคอลเลกชันพิเศษ ช่วยเสริมความแข็งแกร่งให้แก่แบรนด์และดึงดูดกลุ่มลูกค้าที่หลากหลายมากขึ้น นอกจากนี้ ยังขยายไปสู่สินค้าไลฟ์สไตล์อื่น ๆ นอกเหนือจากเสื้อผ้า จึงช่วยให้แบรนด์สามารถเข้าไปอยู่ในชีวิตประจำวันของลูกค้าได้มากขึ้น
ปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัยและเทรนด์ใหม่ ๆ อยู่เสมอ
ในช่วงที่เกิดการระบาดของโควิด-19 แบรนด์สามารถปรับเปลี่ยนกลยุทธ์จากการผลิตชุดทำงานแบบทางการ (Formal) ไปสู่เสื้อผ้าแนวลำลอง (Casual) ที่สวมใส่สบายเหมาะกับการอยู่บ้าน นอกจากนี้ การปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานภายในองค์กรให้มีความยืดหยุ่นและคล่องตัวมากขึ้น เช่น การใช้ระบบทีมชั่วคราวที่สลับคนทำงานไปเรื่อย ๆ (Task Force) ช่วยให้แบรนด์สามารถออกคอลเลกชันใหม่ได้บ่อยครั้งขึ้น ทั้งนี้ การลงทุนในระบบหลังบ้านที่มีประสิทธิภาพ และการใช้ข้อมูลในการตัดสินใจทางธุรกิจ ยังช่วยให้ Gentlewoman สามารถปรับตัวและเติบโตได้อย่างต่อเนื่องในตลาดแฟชั่นที่มีการแข่งขันสูง
ความสำเร็จของ Gentlewoman เป็นตัวอย่างที่ดีของการสร้างแบรนด์ที่เข้าใจกลุ่มเป้าหมายและตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าได้อย่างแท้จริง ถ้าอยากให้ธุรกิจสำเร็จแบบนี้บ้าง ปรึกษา Primal ของเราได้เลย เราคือเอเจนซีการตลาดที่มีบริการครบวงจร ทั้งการหาอินฟลูเอนเซอร์ การทำ Content Marketing ไปจนถึงการยิงโฆษณา พร้อมช่วยขับเคลื่อนธุรกิจของคุณให้เติบโตเหนือคู่แข่ง กรอกรายละเอียดเพื่อรับคำแนะนำแผนการตลาดกับเราฟรีตอนนี้ !
Join the discussion - 0 Comment