10 เทรนด์ Digital Marketing 2024-2025 อัปเดตล่าสุด

เมื่อโลกดิจิทัลหมุนไวกว่าที่คิด การทำการตลาดในปี 2025 จึงกลายเป็นความท้าทายใหม่ที่ไม่ธรรมดา ด้วยเหตุนี้ นักการตลาดจึงต้องปรับตัวให้ทันเทรนด์ที่พลิกผันอย่างรวดเร็ว เพื่อให้ธุรกิจยังคงยืนหยัดและแข็งแกร่งท่ามกลางสมรภูมิการแข่งขันที่ดุเดือด

สำหรับนักการตลาดท่านใดที่เริ่มกังวล กลัวว่าจะตามเทรนด์ไม่ทัน ไม่ต้องตกใจไป เพราะล่าสุด เหล่ากูรูดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งระดับโลกได้ทยอยเผย 10 เทรนด์การตลาดออนไลน์ (Digital Marketing) ที่คาดว่าน่าจะมาแรงในปี 2025 เอาไว้แล้ว บอกเลยว่าทั้ง 10 ข้อมีทั้งเทรนด์ที่มาแรงต่อเนื่องจากปีที่แล้ว และเทรนด์ที่เพิ่งเกิดขึ้นใหม่แบบแกะกล่อง รับรองว่าอ่านบทความนี้จบ นำไปปรับใช้เพื่อปั้นกลยุทธ์การตลาดที่ Impact ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคได้แบบถึงแก่น และทำให้ธุรกิจเติบโตแบบก้าวกระโดดอย่างแน่นอน

10 เทรนด์การตลาดออนไลน์ (Digital Marketing) ปี 2025

การตลาดออนไลน์มักเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2025 มีเทรนด์สำคัญที่นักการตลาดควรจับตามอง ดังนี้

• การใช้ AI ทำการตลาด

ปี 2025 จะเป็นปีแห่งการปฏิวัติการตลาดด้วย AI เนื่องจากผลสำรวจจาก Salesforce พบว่า 75% ของนักการตลาดทั่วโลกได้นำ AI มาใช้ในกระบวนการทำงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง Generative AI ที่สามารถสร้างเนื้อหา รูปภาพ และวิดีโอได้อย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม นักการตลาดก็ยังคงจำเป็นต้องตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลและปรับแต่งผลลัพธ์ให้เหมาะสม ทั้งนี้เพื่อให้แน่ใจว่าเนื้อหาที่สร้างขึ้นตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคอย่างแท้จริง ไม่ใช่เพียงแค่สร้างเพื่อตอบสนองอัลกอริทึมเท่านั้น

• การจัดการและวิเคราะห์ข้อมูลด้วย AI

นอกเหนือจากการสร้างคอนเทนต์แล้ว AI ยังกลายเป็นกุญแจสำคัญในการวิเคราะห์พฤติกรรมผู้ใช้งานด้วย โดยเฉพาะอย่างยิ่งผ่านเครื่องมืออย่างแชตบอต ซึ่งช่วยให้แบรนด์เข้าใจความต้องการของลูกค้าได้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น อย่างไรก็ดี การใช้แชตบอตจำเป็นต้องรักษาสมดุลระหว่างความสะดวกรวดเร็วและคุณภาพของประสบการณ์ผู้ใช้ เพราะหากระบบไม่สามารถแก้ปัญหาได้ตรงจุด ก็อาจส่งผลเสียต่อความรู้สึกของลูกค้าในระยะยาวได้

• การครองแชมป์ของวิดีโอคอนเทนต์

ในขณะที่ AI กำลังเป็นที่นิยม ในปี 2025 วิดีโอก็ยังคงรักษาตำแหน่งสื่อที่ทรงพลังที่สุด โดย 87% ของนักการตลาดยืนยันว่าวิดีโอสามารถช่วยเพิ่มยอดขายได้อย่างมีประสิทธิภาพ (ผลสำรวจจาก Wyzowl : Video Production Agency) โดยเฉพาะอย่างยิ่ง User-Generated Content ที่ได้รับการตอบรับดีกว่าวิดีโอทั่วไปถึง 400% ด้วยเหตุนี้ แบรนด์จึงควรมุ่งเน้นการสร้างวิดีโอที่สร้างความเชื่อมั่น เช่น การรีวิวผลิตภัณฑ์ การสอนใช้งาน หรือการเล่าเรื่องราวของแบรนด์ เพื่อสร้างความผูกพันกับผู้บริโภคในระยะยาว

• คอนเทนต์คุณภาพสูงยังคงความสำคัญ

แม้จะมีเครื่องมือใหม่ ๆ เข้ามามากมาย แต่เนื้อหาที่มีคุณภาพยังคงเป็นหัวใจสำคัญของการตลาดออนไลน์เหมือนเดิม ทั้งนี้ จากการศึกษาของ Content Marketing Institute พบว่า 58% ของนักการตลาด B2B เห็นยอดขายที่เพิ่มขึ้นจากการทำ Content Marketing ที่มีคุณภาพ ดังนั้น นักการตลาดจึงควรให้ความสำคัญกับการสร้างเนื้อหาที่ให้ข้อมูลเชิงลึกและเป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภคอย่างแท้จริง

• โซเชียลมีเดียในฐานะ Search Engine ใหม่

พร้อมกับการเติบโตของคอนเทนต์คุณภาพ  โซเชียลมีเดียได้พัฒนาบทบาทจากแพลตฟอร์มสื่อสารสู่การเป็นแหล่งค้นหาข้อมูลที่สำคัญ โดยผลสำรวจจาก HubSpot รายงานว่า 87% ของผู้บริโภคใช้โซเชียลมีเดียค้นหาข้อมูลสินค้ามากกว่า Search Engine แบบดั้งเดิม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่ม Gen Z ที่นิยมค้นหาข้อมูลผ่าน Instagram และ TikTok ด้วยเหตุนี้ แบรนด์จึงจำเป็นต้องปรับกลยุทธ์การนำเสนอเนื้อหาให้เหมาะสมกับแต่ละแพลตฟอร์มและพฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมาย

• การเติบโตของโซเชียลคอมเมิร์ซ

ต่อเนื่องจากความนิยมในการค้นหาข้อมูลผ่านโซเชียลมีเดีย การซื้อขายผ่านช่องทางนี้ก็กำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยแพลตฟอร์มต่าง ๆ ได้พัฒนาฟีเจอร์ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถซื้อสินค้าได้โดยตรง นอกจากนี้ การทำงานร่วมกับ Micro-Influencer และ Nano-Influencer ที่มีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับกลุ่มเป้าหมาย ยังช่วยสร้างความน่าเชื่อถือและกระตุ้นการตัดสินใจซื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย

• บทบาทของ Micro และ Nano-Influencers

เมื่อพูดถึง Influencer แล้ว ในปี 2025 นี้ แบรนด์จะหันมาใช้อินฟลูเอนเซอร์ระดับกลางและเล็กมากขึ้นเรื่อย ๆ เนื่องจากอินฟลูฯ กลุ่มนี้มักเชี่ยวชาญเฉพาะด้านและมีความน่าเชื่อถือสูงในกลุ่ม Community ของตัวเอง อีกทั้งยังมีต้นทุนต่ำกว่า ทำให้แบรนด์กระจายงบประมาณเพื่อเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้หลากหลายมากขึ้น

• การตลาดเฉพาะบุคคลแบบเรียลไทม์

นอกจากการใช้ Influencer แล้ว การทำ Personalisation ก็กำลังก้าวไปไกลกว่าที่เคย ด้วยการใช้ AI และข้อมูลเรียลไทม์ ทำให้แบรนด์วิเคราะห์พฤติกรรมและปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ให้เหมาะกับลูกค้าแต่ละคนได้อย่างแม่นยำและทันท่วงที ส่งผลให้เกิดประสบการณ์ที่น่าประทับใจและเพิ่มโอกาสปิดการขายได้มากขึ้น

• การตลาดเพื่อความยั่งยืน

ในขณะที่เทคโนโลยีก้าวหน้า ความใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมและสังคมก็ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญในการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคยุคใหม่ ดังนั้น แบรนด์จึงจำเป็นต้องสื่อสารเรื่องความยั่งยืนอย่างจริงจังและต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการรีไซเคิล การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก หรือความรับผิดชอบต่อสังคม ทั้งนี้ การสร้างเนื้อหาที่แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นรักษาสิ่งแวดล้อมไม่เพียงช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดี แต่ยังตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่ใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

• การสร้างประสบการณ์แบบ Omnichannel

ในยุคที่ผู้บริโภคเข้าถึงแบรนด์ได้หลากหลายช่องทาง การรักษาความสอดคล้องของข้อมูล การบริการ และประสบการณ์ในทุกจุดสัมผัส (Touch Point) จึงยิ่งสำคัญ ด้วยเหตุนี้ แบรนด์จึงต้องพัฒนาระบบที่เชื่อมโยงข้อมูลระหว่างช่องทางต่าง ๆ เพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์ที่ราบรื่นและเป็นหนึ่งเดียวกัน ไม่ว่าจะติดต่อผ่านช่องทางใดก็ตาม อีกทั้งยังต้องส่งต่อข้อมูลและประวัติการติดต่อระหว่างช่องทางได้อย่างไร้รอยต่อ เพื่อสร้างความประทับใจสูงสุดให้แก่ลูกค้า

ในปี 2025 โลกของการตลาดดิจิทัลได้ก้าวกระโดดไปอีกขั้น ทว่า การเตรียมพร้อมเพื่อรับมือกับความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย การเลือกพาร์ตเนอร์ที่เข้าใจกลยุทธ์ดิจิทัลอย่างลึกซึ้งและพร้อมปรับกลยุทธ์ให้เหมาะสมกับสถานการณ์จึงเป็นสิ่งสำคัญ

Primal คือเอเจนซีรับทำการตลาดออนไลน์ชั้นนำของเมืองไทย เรามีทีมผู้เชี่ยวชาญกว่า 150 คน ที่มีความสามารถในการนำเทรนด์และปรับกลยุทธ์การตลาดออนไลน์ให้ตรงใจกลุ่มเป้าหมาย การันตีด้วยรางวัลระดับสากล เราพร้อมที่จะเป็นตัวช่วยให้แบรนด์ของคุณเติบโตอย่างมั่นคงและโดดเด่น หากสนใจ สามารถกรอกรายละเอียด เพื่อรับคำปรึกษาจากทีมกลยุทธ์ของเราได้เลย