สายการตลาดอัปเดตด่วน ! Color Trends 2023 ปีนี้มีอะไรบ้าง
ในทุก ๆ ปี รายงาน “เจาะเทรนด์โลก” (Trend Book) โดยนิตยสาร “คิด” Creative Thailand นิตยสารส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ผลักดันเศรษฐกิจไทย ภายใต้สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA จะมีการนำเสนอเทรนด์ที่เกิดจากกระบวนการทำวิจัย และรวบรวมองค์ความรู้จากหลากหลายสำนักเทรนด์ทั่วโลก เพื่อให้คนในสาขาอาชีพต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นนักออกแบบ นักการตลาด หรือเจ้าของแบรนด์ ได้เตรียมพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของผู้บริโภค และหนึ่งในหัวข้อรายงานเจาะเทรนด์โลก ก็คือ “Color Trends 2023” หรือเทรนด์สีแห่งปี 2023
ต้องเท้าความก่อนว่า ในช่วงปีที่ผ่านมานี้ เราเผชิญกับวิกฤตมากมาย ทั้งโรคระบาด เศรษฐกิจตกต่ำ สงคราม และผลกระทบจากภาวะโลกร้อน ดังนั้น จึงมีการคาดการณ์ว่าปี 2023 นี้จะเป็นปีแห่งการฟื้นฟูในด้านต่าง ๆ ซึ่งจะไปสอดคล้องกับเทรนด์สีของปีนี้ด้วย โดย Color Trends 2023 จะเป็นเฉดสีที่ให้ความรู้สึกของพลังแห่งความหวังและความมั่นคง รวมถึงการกลับมามองโลกในแง่บวกมากขึ้น
ทั้งนี้ เทรนด์สีแห่งปี 2023 จะเป็น “กลุ่มสีแนวออร์แกนิก” และ “สีเฉดเข้ม” ที่มีค่าความอิ่มตัวสูง สอดคล้องกับอารมณ์แห่งความหวัง และเกิดเป็นรูปแบบใหม่ในการแสดงออก โดยเฉพาะด้านสื่อดิจิทัลที่มีบทบาทมากขึ้นในชีวิตประจำวันของมนุษย์
Table of Contents
Color Trends 2023 มีอะไรบ้าง
จิตวิทยาแห่งการใช้สี ถือเป็นองค์ประกอบสำคัญในการทำการตลาดไม่น้อย เพราะแต่ละสีจะมีพลังในการช่วยดึงดูดผู้พบเห็นได้แตกต่างกัน หรือที่เรียกว่าเป็น Marketing Colors นั่นเอง เป็นเหตุผลว่าทำไมเราจึงต้องคำนึงถึงเรื่องสีทุกครั้งในการทำโฆษณา ออกแบบโลโก้ ทำคอนเทนต์ หรืออะไรก็ตามที่เกี่ยวข้องกับแบรนด์
ดังนั้น สำนักเทรนด์สีต่าง ๆ จึงได้ถอดรหัสสีออกมา ซึ่งสีเหล่านี้จะเป็นสีที่เหมาะกับธีมในปีนั้น ๆ และจะช่วยส่งผลต่อความรู้สึกของผู้บริโภคได้หากเรานำไปใช้งานอย่างถูกวิธี โดย Color Trends 2023 มีทั้งหมด 7 สีดังต่อไปนี้
Elfin Yellow (สีเหลืองอ่อน)
เฉดสีนี้จัดอยู่ในหมวดสีมินิมอล (Minimalism) ซึ่งเป็นหนึ่งในสีที่เหล่าสำนักเทรนด์คาดการณ์ไว้เสมอว่าจะมี เพราะถึงแม้จะไม่ใช่สีที่อยู่ในกระแสหลัก แต่ก็ไม่เคยห่างหายไปจากวงการออกแบบเลย โดยสีเหลืองอ่อนนี้ สำนักเทรนด์เผยว่ามักเป็นสีที่ถูกนำมาใช้จับคู่กับสีอื่น ๆ มากกว่าสีขาวเสียอีก เนื่องจากเป็นเฉดสีที่ให้ความรู้สึกอ่อนโยน อบอุ่น สบายตา และมีความเป็นออร์แกนิก หรือความเป็นธรรมชาติสูง
นอกจากนี้ สำนักเทรนด์ฝั่งจีนยังระบุว่า เฉดสีนี้เป็นหนึ่งในสีที่สื่อถึงจิตวิญญาณด้านสุนทรียภาพและความผูกพัน โดยสามารถนำไปใช้ได้แทบจะทุกอุตสาหกรรม เพราะให้ความรู้สึกเรียบง่าย ไม่ว่าจะอยู่ในอินโฟกราฟิก เสื้อผ้า หรือสิ่งของอะไรก็ตาม
Scarlet Sage (สีแดงก่ำ)
สีแดงก่ำ เป็นเฉดสีที่ถูกคาดการณ์ไว้ว่าจะกลายเป็นสีหลักในฤดูร้อนปี 2023 เพราะเป็นสีที่สื่อถึงความปรารถนา ปลุกกระตุ้นอารมณ์ เป็นการเติมพลังและทำให้รู้สึกถึงความน่าหลงใหล ซึ่งจะช่วยตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้ ด้วยตัวสีที่เข้มและสดที่ทำให้มีความโดดเด่นมาก ใช้ดึงดูดความสนใจได้ง่าย โดยเฉพาะเมื่ออยู่ร่วมกับสีอื่น ๆ ก็จะยิ่งทำให้สีแดงก่ำมีความสะดุดตามากกว่าเดิม
ทั้งนี้ สีแดงก่ำยังเป็นตัวกลางที่ใช้ในการสื่อสารทั้งการออกแบบภายในและภายนอกอาคาร เพื่อสร้างแรงดึงดูดและโครงสร้างเฉพาะตัวไม่ต่างจากงานศิลปะ เช่น ผลงานออกแบบบ้านที่พักอาศัยที่ชื่อว่า “Stack By Step Red Zone Boarding House” โดย Ismail Solehudin Architecture ในอินโดนีเซีย ซึ่งใช้สีดังกล่าวเป็นสีหลักในการออกแบบ
Lime Green (สีเขียวมะนาว)
สีเขียวมะนาว เป็นสีที่นักออกแบบนิยมหยิบมาใช้กันมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะนักออกแบบวงการดิจิทัล ทำให้สีนี้จัดอยู่ในเทรนด์สียอดนิยมอยู่ตลอด โดย Lime Green คือเฉดของสีเขียวที่ถูกลดทอนความสว่างลงมาจากสีเขียวนีออน เพื่อให้สามารถนำมาใช้ในชีวิตประจำวันได้ง่ายขึ้น
ยิ่งไปกว่านั้น สำนักเทรนด์ WGSN ยังเผยว่า สีเขียวมะนาวคือสีที่เชื่อมโยงระหว่างสิ่งแวดล้อมและสุนทรียภาพบนโลกดิจิทัลของคน Gen Z ซึ่งใช้สื่อถึงความสดชื่น สนุกสนาน สดใส และยังถูกนำไปใช้ในงานศิลปะกราฟฟิตี้ (Graffiti) ในยุค 90 ที่ในยุคนี้ได้นำกลับมาใช้อีกครั้ง เพื่อกระตุ้นให้ผู้คนรู้สึกถึงความมีชีวิตชีวามากขึ้น
Moonless Night (สีดำเทา)
สีนี้ถือเป็นสีที่อยู่ในเทรนด์เสมอ และถูกนำมาใช้ทุกยุคทุกสมัย โดยปกติแล้ว สีดำเป็นตัวแทนของความลึกลับ สุขุม เย้ายวน และหรูหรา ทั้งยังสื่อถึงความตรงไปตรงมาได้อีกด้วย ส่วนสีดำเฉด Moonless Night นี้สื่อถึงความชัดเจนในการเปลี่ยนแปลงที่ดีกว่าเดิม ซึ่งสอดคล้องกับ Color Trends 2023 อันเป็นยุคแห่งการเยียวยาฟื้นฟู และความต้องการให้แบรนด์หันมาให้ความสำคัญกับสังคมและสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
Italtex สำนักเทรนด์ผู้คาดการณ์แนวโน้มด้านนวัตกรรมสิ่งทอ เผยว่า สิ่งทอที่ผสมผสานระหว่างสีดำและสีขาวไปในปี 2023 จะถูกตีความนัยว่าเกี่ยวกับความยั่งยืน นอกจากนี้ ยังมีหลายแบรนด์ที่ใช้สี Moonless Night ในการทำแคมเปญเกี่ยวกับ LGBTQIA+ รวมถึงใช้ในการออกแบบเสื้อผ้าและอาหารอีกด้วย
Phlox (สีม่วงเข้ม)
เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งสีที่ไม่เคยหายไปจากเทรนด์ เพราะจะเห็นได้ว่าช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ก็มักจะมีแบรนด์ต่าง ๆ นำสีม่วงไปใช้ทำการตลาดอยู่เสมอ โดยสำหรับสีม่วงเฉด Phlox หรือสีม่วงเข้มนี้ ถูกตั้งคำนิยามเอาไว้ว่าเป็นสีที่อยู่ในแนวคิดด้านดิจิทัล ซึ่งสำนักเทรนด์ NellyRodi ระบุว่า สีม่วงเข้มมีความเชื่อมโยงกับโลก Metaverse เพราะสร้างจากความเหนือจริงแบบ 100% และอาจกลายเป็นศูนย์กลางใหม่ของการสร้างปฏิสัมพันธ์ทางเครือข่ายกับสินค้าและงานช่างฝีมือดิจิทัลที่ปราศจากวัสดุจริง โดยหลายคนก็น่าจะเคยเห็นสีนี้อยู่บ่อย ๆ ในอิเวนต์แสดงผลงานศิลปะแนวดิจิทัล หรือที่เรียกกันว่าศิลปะแนวใหม่
Deep Lake (สีเขียวอมฟ้า)
สีเขียวอมฟ้า เป็นเฉดสีที่มีการผสมสีน้ำตาล ซึ่งเป็นหนึ่งในสีแนวเอิร์ทโทนเข้าไปด้วย โดยหากย้อนกลับไปในช่วงยุค 1980 สีเฉดนี้เคยถูกใช้เป็นตัวแทนของความกล้าในเหล่านักกีฬา จึงมักจะถูกนำไปใช้ในแบรนด์เกี่ยวกับกีฬา เช่น เสื้อผ้า หรืออุปกรณ์กีฬาต่าง ๆ หลายสำนักเทรนด์ยกให้เฉดสีนี้เป็นสีแห่งธรรมชาติและน้ำทะเลที่อยู่ระหว่างสีน้ำเงินกับสีเขียว เป็นเม็ดสีที่เกิดจากการถูกกัดกร่อนของโลหะทองแดง ซึ่งตีความถึงผู้นำเยาวชนที่ไม่ยอมแพ้เพื่อความก้าวหน้าของสังคม บางสำนักเทรนด์ก็บอกว่าสีนี้คือสีของธรรมชาติยุคใหม่ และในขณะเดียวกัน ก็ถูกยกให้เป็นสีที่สร้างความรู้สึกปลอบประโลม แสดงถึงความหวัง การฟื้นฟู และการเปิดใจ เหมาะสำหรับแบรนด์ออกแบบบ้าน สำนักงาน หรือเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้าน เนื่องจากสี Deep Lake สามารถสร้างความรู้สึกผ่อนคลายท่ามกลางความจริงจัง แล้วยังให้ความรู้สึกหรูหราได้อีกด้วย
Golden Apricot (สีส้มแอปริคอต)
Color Trends 2023 สีสุดท้าย ได้แก่ สีส้มแอปริคอต สีที่ชวนให้ผู้คนหันไประลึกถึงวันวาน หรือความสุขที่เกิดขึ้นกับตัวเองในอดีตมากขึ้น และในปี 2023 นี้ ก็เป็นปีที่ผู้คนชอบหวนนึกถึงอดีตเพื่อหนีความวุ่นวายของสังคมปัจจุบันที่ต้องเจอ ดังนั้น ความนิยมสไตล์ย้อนยุค ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า ของตกแต่ง ของสะสม หรือแม้แต่สไตล์เพลง จึงกำลังกลับมาฮิตและผสมผสานกับความทันสมัยในยุคดิจิทัลอีกครั้ง หรือที่วัยรุ่นในอินเทอร์เน็ตมักพูดติดปากกันว่า “สไตล์วายทูเค (Y2K)” นั่นเอง ทำให้สีส้มแอปริคอตที่เคยเป็นที่นิยมในอดีต จึงจะกลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้งในปีนี้ด้วย
ทั้งนี้ สำนักเทรนด์ F-Trend คาดการณ์ว่า จะมีแบรนด์เสื้อผ้าหลายแบรนด์นำเอาเฉดสีนี้ไปใช้ในคอลเลกชันฤดูร้อน เพื่อต้อนรับแสงแดดอุ่น ๆ และชวนให้หวนถึงความสวยงามของความทรงจำในอดีต โดยสามารถนำมาใช้ได้ทั้งแบรนด์เสื้อผ้าผู้ใหญ่และเด็ก เพื่อกระตุ้นความรู้สึกสนุกสนานและความคิดสร้างสรรค์ อีกทั้งยังสามารถนำไปใช้เป็นเฉดสีของเครื่องสำอาง เพื่อเพิ่มความโดดเด่นและเสริมความมั่นใจได้อีกด้วย
สรุป Color Trends 2023
ทั้ง 7 สีนี้ ก็คือเทรนด์สีแห่งปี 2023 หรือ Color Trends 2023 ที่คาดว่าจะได้รับความนิยมมากนั่นเอง โดยแต่ละสีที่กล่าวมาทั้งหมด นักการตลาดหรือเจ้าของแบรนด์ทุกท่านสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในสินค้าของตนเองได้เลย เชื่อว่าสีเหล่านี้จะช่วยเพิ่มยอดขายให้แก่ธุรกิจได้บ้างไม่มากก็น้อย เพราะการทำการตลาดด้วย “สี” เป็นกลยุทธ์ที่ใช้ได้ทุกยุคทุกสมัย และสามารถดึงดูดลูกค้าได้จริงอย่างแน่นอน
แม้จะรู้เรื่อง Marketing Colors แล้ว แต่การทำกราฟิกเพื่อการตลาดก็ยังไม่ใช่เรื่องง่ายอยู่ดี หากคุณกำลังมองหาผู้เชี่ยวชาญที่จะเข้ามาช่วยเหลือในเรื่องนี้ ที่ Primal Digital Agency เรามีทีมงานกราฟิกดีไซน์ที่จะช่วยออกแบบงานในสไตล์ที่คุณต้องการ เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีกว่าเดิมแก่แบรนด์ของคุณได้ ติดต่อเราได้เลยวันนี้
Join the discussion - 0 Comment