รวม 10 AI เขียนบทความฟรี พร้อมเทคนิคการป้อนคำสั่งให้มีคุณภาพ

ในยุคดิจิทัลเช่นปัจจุบัน ไม่ว่าผู้ใช้งานคนไหน ๆ ก็อยากหาข้อมูลบน Search Engine ส่งผลให้ธุรกิจต่าง ๆ ต้องแข่งขันกันผลิตคอนเทนต์ ใครทำเยอะกว่า เร็วกว่า น่าสนใจกว่า ก็ได้เปรียบกว่า แต่เคยไหม ? เขียนไปเขียนมาก็เริ่มตัน คิดอะไรไม่ค่อยออก ไอเดียหาย ต้องนั่งจมอยู่กับงานเขียนทั้งวันจนไม่เป็นอันทำอย่างอื่น

ใครกำลังประสบปัญหานี้ ไม่ต้องกังวลไป เพราะอย่าลืมว่านี่คือยุคแห่งนวัตกรรม AI (Artificial Intelligence) ซึ่งแชตบอตหลายตัวได้รับการพัฒนาให้สามารถเขียนบทความได้อย่างเป็นมืออาชีพ ไม่ว่าคุณจะต้องการเนื้อหาประเภทใดก็ตาม

บทความนี้จะมาแนะนำ 10 AI เขียนบทความ ที่ช่วยประหยัดทั้งแรงงานและเวลา ให้การทำงานของคุณสะดวกรวดเร็วมากกว่าที่เคย !

การใช้ AI เขียนบทความ SEO เพื่อดันอันดับเว็บไซต์

10 AI เขียนบทความยอดฮิต ใช้ฟรี

1. ChatGPT

เปิดมาด้วย AI เขียนบทความตัวแรงที่สุดแห่งยุค ที่เรียกได้ว่าปัจจุบันคงไม่มีใครไม่เคยได้ยินชื่อ ChatGPT แชตบอตอัจฉริยะที่พัฒนาโดย OpenAI สามารถโต้ตอบกับผู้ใช้ได้อย่างเป็นธรรมชาติ มีศักยภาพในการเข้าใจบริบทและสร้างเนื้อหาตามคำสั่ง ไม่ว่าจะเขียนบทความ ตอบคำถาม หรือเขียนโคดโปรแกรม ChatGPT ก็ทำได้หมด

ทดลองใช้ : https://chat.openai.com/chat

2. Gemini

Gemini เป็น AI เขียนบทความที่พัฒนาโดย Google มีความสามารถในการประมวลผลข้อมูลหลากหลายรูปแบบ ทั้งข้อความ รูปภาพ และเสียง ทำให้สามารถสร้างเนื้อหาที่มีความซับซ้อนได้ ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับการเขียนบทความวิชาการ หรือบทความที่ต้องการข้อมูลเชิงลึก

ทดลองใช้ : https://gemini.google.com/app

3. Claude

อีกหนึ่ง AI เขียนบทความคุณภาพ พัฒนาโดย Anthropic มีความโดดเด่นในด้านการวิเคราะห์และการให้เหตุผล โดย Claude สามารถช่วยเขียนบทความที่ต้องการข้อมูลเชิงลึก การอธิบายแนวคิดที่ซับซ้อน หรือการสรุปเนื้อหาจำนวนมาก แล้วยังมีศักยภาพในการตอบคำถามและให้คำแนะนำอย่างละเอียดด้วย

ทดลองใช้ : https://claude.ai/chats

4. Rytr

Rytr เป็นเครื่องมือ AI ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยในการเขียนคอนเทนต์หลากหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นบทความ SEO อีเมล โฆษณา หรือแม้แต่เนื้อเพลง จุดเด่นคือมีเทมเพลตสำเร็จรูปมากมายให้เลือกใช้ได้ตามความต้องการ ทำให้การสร้างคอนเทนต์เป็นเรื่องง่ายและรวดเร็ว แม้ว่าเวอร์ชันฟรีจะมีข้อจำกัดในจำนวนตัวอักษรที่สามารถสร้างได้ต่อเดือน แต่ก็เพียงพอสำหรับผู้ที่ต้องการทดลองใช้งานหรือมีความต้องการใช้งานไม่มาก

ทดลองใช้ : https://app.rytr.me/

5. Copy.ai

Copy.ai เป็นเครื่องมือ AI ที่ได้รับความนิยมในหมู่ผู้สร้างคอนเทนต์การตลาดดิจิทัลเป็นอย่างมาก เพราะมีความสามารถในการสร้างโฆษณา บทความ และเนื้อหาโซเชียลมีเดีย โดยใช้เทคโนโลยี GPT-3 ในการสร้างเนื้อหาที่มีคุณภาพสูง และความพิเศษคือ สามารถใช้ได้ฟรีโดยไม่จำกัดจำนวนโพรเจกต์

ทดลองใช้ : https://www.copy.ai/

6. Writesonic

AI เขียนบทความที่ไม่ได้ช่วยสร้างเนื้อหา SEO เพียงอย่างเดียว แต่ยังสามารถเขียนเนื้อหาโฆษณา หรือแม้กระทั่งรายละเอียดสินค้าโดยการปรับแต่งเนื้อหาให้เหมาะสมกับแบรนด์และกลุ่มเป้าหมายได้อีกด้วย Writesonic จึงเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีสำหรับนักการตลาดและผู้ประกอบการ

ทดลองใช้ : https://writesonic.com/

7. Jasper.ai

เป็น AI ที่น่าจะถูกใจนักเขียนคอนเทนต์และนักการตลาดหลายคนทีเดียว เนื่องจาก Jasper สามารถสร้างเนื้อหาที่หลากหลาย ตั้งแต่บทความจนถึงสคริปต์วิดีโอ ด้วยฟีเจอร์ที่ชาญฉลาดและความสามารถในการเรียนรู้จากการใช้งาน ทำให้ Jasper สามารถสร้างเนื้อหาที่มีเอกลักษณ์และตรงกับสไตล์การเขียนของผู้ใช้ได้อย่างน่าทึ่ง

ทดลองใช้ : https://app.jasper.ai/

8. YouChat

เป็นแชตบอตที่พัฒนาโดย You.com มีความสามารถในการตอบคำถามและช่วยสร้างคอนเทนต์คุณภาพ จุดเด่นอยู่ที่การให้ข้อมูลที่ทันสมัยและการอ้างอิงแหล่งที่มาของข้อมูล ทำให้เป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์อย่างมากสำหรับการวิจัยและการเขียนบทความที่ต้องการความน่าเชื่อถือ

ทดลองใช้ : https://you.com/

9. Anyword

สำหรับใครที่มองหา AI เขียนบทความตัวใหม่ ๆ ที่มีประสิทธิภาพ Anyword ก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ เพราะนอกจากจะช่วยวิเคราะห์ข้อมูลเพื่อนำมาเขียนบทความได้แล้ว ยังสามารถสร้างเนื้อหาโฆษณา อีเมล และเนื้อหาโซเชียลมีเดียได้อย่างเป็นธรรมชาติอีกด้วย

ทดลองใช้ : https://anyword.com/

10. Copysmith

เป็น AI ที่ออกแบบมาเพื่อช่วยในการสร้างคอนเทนต์สำหรับ E-commerce และการตลาดดิจิทัล โดย Copysmith มีความสามารถในการสร้างรายละเอียดสินค้า บทความ และเนื้อหาโฆษณาที่น่าสนใจ ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีสำหรับทีมการตลาดและผู้ประกอบการ E-commerce

ทดลองใช้ : https://copysmith.ai/ 

AI เขียนบทความได้อย่างเป็นธรรมชาติราวกับมนุษย์

เทคนิคการป้อนคำสั่ง AI เขียนบทความ ให้ได้เนื้อหาที่ตรงใจ

การใช้งาน AI เขียนบทความให้ได้ผลลัพธ์ที่ดี ไม่ใช่เพียงแค่การเลือกเครื่องมือที่เหมาะสมเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการป้อนคำสั่งหรือ “Prompt” ที่มีประสิทธิภาพด้วย ดังนี้

ระบุประเภทของเนื้อหา

การระบุประเภทของเนื้อหาอย่างชัดเจนจะช่วยให้ AI เข้าใจบริบทและสร้างเนื้อหาได้ตรงตามวัตถุประสงค์มากขึ้น เช่น บทความ SEO บทความวิชาการ บทความข่าว เนื้อหาโฆษณา หรือบทวิจารณ์ เช่น “สร้างบทความ SEO เกี่ยวกับ…” หรือ “เขียนบทวิจารณ์สั้น ๆ สำหรับ…”

ระบุหัวข้อ

การระบุหัวข้อที่ชัดเจนและเฉพาะเจาะจงจะช่วยให้ AI สร้างเนื้อหาที่ตรงประเด็นมากขึ้น แทนที่จะเขียนแค่ “เขียนบทความเกี่ยวกับอาหาร” ลองระบุให้เฉพาะเจาะจงมากขึ้น เช่น “เขียนบทความเกี่ยวกับประโยชน์ของอาหารเช้าต่อสุขภาพ”

ระบุกลุ่มเป้าหมาย

การบอก AI ว่าเนื้อหานี้มีกลุ่มเป้าหมายเป็นใคร จะช่วยให้ AI ปรับโทนและลักษณะการเขียนให้เหมาะสมกับผู้อ่านมากขึ้น เช่น “เขียนบทความสำหรับนักศึกษามหาวิทยาลัย” หรือ “สร้างเนื้อหาสำหรับผู้ประกอบการรายใหม่”

ระบุสไตล์การเขียน

การระบุสไตล์การเขียนจะช่วยให้ AI สร้างเนื้อหาที่มีโทนและบุคลิกตรงตามที่ผู้ใช้ต้องการ เช่น “ใช้สไตล์การเขียนที่เป็นกันเอง” หรือ “เขียนในรูปแบบวิชาการ”

ระบุความยาวของเนื้อหา

การกำหนดความยาวของเนื้อหาจะช่วยให้ AI สร้างเนื้อหาที่มีขนาดเหมาะสมกับความต้องการของผู้ใช้ได้ เช่น “เขียนบทความ 500 คำ” หรือ “สร้างเนื้อหาสั้น ๆ ประมาณ 3 ย่อหน้า”

ระบุตัวอย่างเนื้อหา (ถ้ามี)

หากมีตัวอย่างเนื้อหาที่ชอบ หรือต้องการให้ AI ใช้เป็นแนวทาง การแนบตัวอย่างนั้นมาด้วยจะช่วยให้ AI เข้าใจสิ่งที่ผู้ใช้ต้องการได้ดียิ่งขึ้น เช่น “สร้างบทความในลักษณะคล้ายกับตัวอย่างต่อไปนี้: [แนบตัวอย่างเนื้อหา]”

ระบุคำหลักหรือคีย์เวิร์ดที่เกี่ยวข้อง

การระบุคีย์เวิร์ดสำคัญจะช่วยให้ AI รู้ว่า ควรเน้นหรือรวมประเด็นใดในเนื้อหา เช่น “เขียนบทความเกี่ยวกับการออกกำลังกาย โดยใช้คำหลักต่อไปนี้: คาร์ดิโอ, การสร้างกล้ามเนื้อ, การยืดเหยียด, การฟื้นตัว”

ตัวอย่างการป้อนคำสั่งที่รวมเทคนิคต่าง ๆ เข้าด้วยกัน

“สร้างบทความ SEO เกี่ยวกับ ‘5 เทคนิคการจัดการเวลาสำหรับพนักงานออฟฟิศ’ สำหรับคนทำงานอายุ 25-35 ปี ใช้สไตล์การเขียนที่เป็นกันเองและให้แรงบันดาลใจ ความยาวประมาณ 800 คำ โดยใช้คำหลักต่อไปนี้ : การจัดลำดับความสำคัญ, เทคนิคโพโมโดโร, การจัดการอีเมล, การประชุมที่มีประสิทธิภาพ, การพักผ่อนที่เพียงพอ”

 

อย่างไรก็ดี AI เขียนบทความยังไม่สามารถแทนที่ศักยภาพของมนุษย์ได้ 100% การใช้ AI จึงต้องควบคู่ไปกับการตรวจทานของนักเขียนหรือนักพิสูจน์อักษรเสมอ เพื่อให้เนื้อหาที่ออกมามีประสิทธิภาพ ตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายของธุรกิจมากที่สุด

สำหรับใครที่ไม่มีเวลาสร้างเนื้อหาเอง ที่ Primal Digital Agency เราให้บริการรับทำ SEO พร้อมด้วยทีมนักเขียนมืออาชีพกว่า 20 คนที่จะช่วยออกแบบเนื้อหาคุณภาพที่เหมาะสมกับธุรกิจคุณ เพื่อดึงดูดกลุ่มเป้าหมายและเพิ่มโอกาสในการทำรายได้มากขึ้น ติดต่อเราได้เลยวันนี้