ก่อนจะเข้าประเด็น เรามารู้จักกันก่อนว่า Fast-Moving Consumer Goods หรือ FMCG นั้นคืออะไร? แท้จริงแล้ว FMCG คือสินค้าที่ค่อนข้างจะราคาถูก มีอัตราการบริโภคในท้องตลาดเป็นไปอย่างรวดเร็วและถูกจำหน่ายในครั้งละปริมาณมากๆ หากเปรียบเทียบกับสินค้าอุปโภคบริโภคประเภทอื่นๆ FMCG จะเป็นสินค้าที่มีอัตราการหมุนเวียนหรือเจริญเติบโตที่เป็นไปอย่างรวดเร็วมากกว่า เนื่องจากเป็นสินค้าปัจจัยพื้นฐานที่จำเป็นแก่การดำรงชีพของผู้บริโภคทุกคน ทั้งนี้ผู้บริโภคสามารถพบเห็นสินค้า FMCG ได้แทบจะทุกหัวมุมถนน ตลอดไปจนถึงร้านสะดวกซื้อ ซูเปอร์มาร์เก็ตหรือร้านค้าปลีกขนาดใหญ่ ยกตัวอย่างง่ายๆ เช่น นม, ขนมปัง, ผัก, ผลไม้, กระดาษชำระ, เบียร์ และยารักษาโรคที่ไม่จำเป็นต้องสั่งโดยแพทย์
โดยทั่วไปแล้วผู้บริโภคมักจะต้องกลับมากักตุนสินค้าเหล่านี้ในอีกไม่ช้า ดังนั้นบริษัทผู้นำเข้าหรือจัดจำหน่ายจะต้องทำหน้าที่ตอบสนองความต้องการตลาดให้ทันเวลาและมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เป็นที่ทราบกันดีภายใต้ชื่อ Consumer Packaged Goods (CPG) หรือสินค้าที่พร้อมแก่การอุปโภคบริโภคแบบทันที หากบริษัทที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับสินค้าอุปโภคบริโภคเหล่านี้สามารถผลักดันสินค้าให้จำหน่ายทันกับความต้องการของตลาดก็จะสามารถสร้างกำไรได้มูลค่ามหาศาลเลยทีเดียว และเพื่อเป็นการนำพาธุรกิจ FMCG ไปสู่แนวหน้าของอุตสาหกรรมอุปโภคบริโภค ดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งสำหรับธุรกิจ FMCG ก็เป็นอีกหนึ่งหัวใจสำคัญที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าจะสามารถนำพาธุรกิจไปสู่ความสำเร็จได้อย่างไม่น่าเชื่อ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับแบรนด์สินค้า FMCG ใดๆ ก็ตามที่กำลังสร้างการรับรู้ (Awareness) หรือต้องการสร้าง Convertion Rate อยู่แล้วล่ะก็ การมอบหมายหน้าที่ให้แก่ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาด FMCG แบบดิจิทัลอย่าง Primal เข้ามารับหน้าที่ดูแล วางแผนกลยุทธ์ต่างๆ จะช่วยทำให้ธุรกิจคุณบรรลุเป้าหมายสูงสุดได้
แม้ว่ากำไรที่ได้จากการจำหน่ายสินค้า CPG หรือ Consumer Package Goods ในแต่รายการจะค่อนข้างน้อย แต่อัตราการจำหน่ายสินค้าออกที่มีมากมหาศาลนั้นทำให้กำไรสะสมจากผลิตภัณฑ์ชิ้นนั้นๆ ได้ผลดีเกินคาด แม้ว่าจะเป็นรายการลงทุนที่ต่ำ แต่อัตราการจับจ่ายใช้สอยของลูกค้าประเภท CPG นั้นมีสัดส่วนอยู่ที่ 50% ของจำนวนผู้บริโภคทั้งหมด ส่วนอีก 50% ที่เหลือของจำนวนลูกค้านั้นไปอยู่กับสินค้าประเภท High-Investment หรือสินค้าที่มีปริมาณการลงทุนสูง ยกตัวอย่างเช่น รถยนต์หรือสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ล่าสุด ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดาที่ผู้บริโภคส่วนใหญ่มักจะเลือกโอ้อวดสินค้าประเภท Luxury กับเพื่อนหรือครอบครัวผ่าน Social Media มากกว่าการโอ้อวดว่าซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคพื้นฐานที่ได้มาจากร้านสะดวกซื้อทั่วไป
นั่นหมายความว่าหากต้องการที่จะประสบความสำเร็จในการทำการตลาดสินค้า CPG คุณจะต้องสรรหาแนวทางที่เหมาะสม รวมไปถึงพิจารณาในหลายๆ แง่มุมอย่างรอบคอบก่อนทำ Digital Marketing แต่ในขณะเดียวกันก็ถือเป็นเรื่องโชคดีที่ปัจจุบันมีเอเจนซี่ผู้เชี่ยวชาญในเรื่อง Digital Marketing โดยเฉพาะอย่าง Primal ที่มีประสบการณ์และความสามารถในการคิดค้นแคมเปญการตลาดใหม่ๆ ที่จะช่วยให้ธุรกิจคุณประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้ได้ เนื่องจากเรา Primal เข้าใจวิธีโปรโมตการตลาดธุรกิจ FMCG ด้วยเทคนิคหลากหลาย เพื่อให้ได้ ROI หรือ Return of Investment ตามที่ต้องการ ทั้งนี้หากคุณกำลังมองมองหาวิธีการสร้างการรับรู้ หรือ Awareness, การสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้า ตลอดไปจนถึงการเพิ่มจำนวนผู้ติดตามและสร้างยอดขายให้กับแบรนด์ธุรกิจของคุณแล้วล่ะก็ ให้ Primal ช่วยคิดค้นแคมเปญใหม่ๆ เพื่อเป็นการเน้นย้ำจุดแข็งของแบรนด์ธุรกิจคุณในแบบที่ครีเอทิฟที่สุด
หากจะเปรียบเทียบกับกลุ่มคู่แข่งที่อยู่ในอุตสาหกรรมธุรกิจ FMCG ประเภทเดียวกันแล้วล่ะก็ คุณอาจจะคิดว่าธุรกิจของคุณนั้นมีประสิทธิภาพเหนือกว่า ล้ำหน้ากว่าคู่แข่งเจ้าอื่นๆ แต่ในแง่ของความเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับการเข้าถึงอุตสาหกรรม FMCG ต้องบอกเลยว่าธุรกิจชั้นนำส่วนใหญ่เริ่มหันมาพึ่งพาการใช้เทคโนโลยีกันมากขึ้นเพื่อสร้างเกราะกำบังให้กับธุรกิจตนเอง กล่าวง่ายๆ คือ เริ่มใช้เทคโนโลยีก่อน ได้เปรียบก่อน ในขณะเดียวกันธุรกิจที่ต่อต้านหรือไม่เห็นด้วยกับการพึ่งพาเทคโนโลยีก็ต้องเจอโจทย์ยากตรงที่อาจจะสูญเสียโอกาสหรือส่วนแบ่งทางการตลาด (Market Share) ไปเรื่อยๆ โดยไม่รู้ตัว ท้ายที่สุดก็อาจทำให้สูญเสียตำแหน่งหรือที่นั่งที่ตนเองเคยมีอำนาจเหนือกว่าคู่แข่งท่านอื่นๆ เพียงเพราะไม่ปรับตัวเข้าหาเทคโนโลยี ซึ่งจะเห็นได้ว่าธุรกิจหรืออุตสาหกรรม FMCG ในปัจจุบันจะไม่มีขอบเขตของคำว่า Brand Loyalty ในกลุ่มลูกค้าอีกต่อไป
เนื่องมาจากความไม่แน่นอนในกลุ่มผู้บริโภคยุคปัจจุบันที่มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ผู้บริโภคทุกท่านล้วนต้องการผลิตภัณฑ์หรือสินค้าใดๆ ก็ได้ที่ทำให้ชีวิตง่าย เป็นไปอย่างสะดวกรวดเร็ว จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ผลิตภัณฑ์ในกลุ่ม FMCG จำเป็นต้องผลักดันนวัตกรรมเพื่อให้ได้มาซึ่งผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา และถึงแม้ว่าเจ้าของธุรกิจจะสามารถบรรลุเป้าหมายที่ตั้งใจเอาไว้ได้ แต่ในขณะเดียวกันก็ยังคงต้องสร้างความมั่นใจด้วยว่านวัตกรรมใหม่ๆ ที่ลงทุนไปกับตัวผลิตภัณฑ์นั้นจะตรงกับความต้องการของลูกค้าอย่างแท้จริง นี่คือเหตุผลที่ทำให้แคมเปญการตลาดโซเชียลในกลุ่มธุรกิจ FMCG ต้องเข้ามามีบทบาทและมีความสำคัญอย่างยิ่งในการสร้างการรับรู้ให้กับผู้บริโภค (Awareness), การใช้ประโยชน์จากการตลาดที่ยังไม่มีผู้ขาย (Untapped Market), ตลอดไปจนถึงการสร้างรายได้และยอดขายให้แก่ธุรกิจของตนเอง
ในแง่ของอุตสาหกรรม FMCG ปัจจุบันมีแบรนด์ใหม่ๆ ที่เกิดจากนวัตกรรมการผลิตที่ทันสมัย จนกลายเป็นเทรนด์อย่างรวดเร็ว แม้ว่าแบรนด์เหล่านี้จะสามารถจำหน่ายได้ภายในระยะเวลาอันสั้น แต่ในขณะเดียวกันแบรนด์เหล่านี้ก็มีโอกาสที่จะเลือนหายไปจากสายตาผู้บริโภคได้อย่างรวดเร็วเช่นเดียวกันหากวันหนึ่งความน่าสนใจหรือความสดใหม่ของแบรนด์นั้นจางหายไป ดังนั้นจุดที่เป็นความสามารถในการทำให้ผลิตภัณฑ์ตัวนั้นๆ ติดตลาดได้อย่างแท้จริงนั่นก็คือการเพิ่มยอดขายให้กับตัวผลิตภัณฑ์ เช่น เพิ่มจำนวนของส่วนแบ่งทางการตลาด (Market Share) ให้ได้ภายในปีที่สองของการวางจำหน่าย โดยต้องไม่ลืมตั้งเป้าหมายว่าผลิตภัณฑ์ตัวนี้จะถูกผลิตและจำหน่ายซ้ำอย่างน้อย 80% ของการจำหน่ายภายในระยะเวลาหนึ่งปี หากแบรนด์ไม่สามารถบริหารจัดการเพื่อให้เข้าข่ายมาตรฐานตามที่กล่าวไปในข้างต้นได้ ก็ถือเป็นเรื่องน่าเสียดายว่าผลิตภัณฑ์ชิ้นนั้นๆ อาจจะล้มเหลวและเป็นที่หลงลืมจากกลุ่มผู้บริโภคในที่สุด
ทั้งนี้ในกลุ่มผู้ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์ FMCG เองที่ต้องการจะประสบความสำเร็จในระยะยาว การตั้งเป้าหมายความสำเร็จไม่ควรขึ้นอยู่กับเทรนด์การตลาดที่กำลังเป็นที่นิยมใดๆ ทั้งสิ้น เพราะความนิยมแบบฉาบฉวยจะถูกหลงลืมได้ง่าย ในบางความนิยมอาจมาและไปเพียงชั่วข้ามคืนเท่านั้น จะดีกว่าไหมหากเจ้าของธุรกิจเองหันมาตั้งเป้าหมายโดยการสร้างมาตรฐานใหม่ๆ ให้กับตัวสินค้าอย่างเฉพาะเจาะจงในระยะยาว ทั้งนี้แม้ว่าในบางแบรนด์สินค้า FMCG เองจะสามารถสร้างกระแสหรือความนิยมบนโซเชียลมีเดียได้อย่างดีเยี่ยม แต่ทฤษฎีนี้ก็ไม่สามารถการันตีได้เลยว่าผลิตภัณฑ์ชิ้นนั้นๆ จะประสบความสำเร็จได้ ในทางกลับกันเจ้าของแบรนด์หรือผู้ประกอบการคงจะรู้สึกอุ่นใจกว่ามากถ้าหากว่าความนิยมหรือกระแสของผลิตภัณฑ์ชิ้นนั้นๆ เริ่มจางหายไป แต่ก็ยังคงสามารถกลับมาดึงดูดลูกค้าเมื่อเริ่มกลับมาโปรโมทผลิตภัณฑ์ชิ้นนั้นๆ อีกครั้งหนึ่ง
ท่ามกลางผลิตภัณฑ์อุปโภคบริโภคประเภท FMCG จำนวนมากมายนับไม่ถ้วนที่สามารถแปรเปลี่ยนเป็นผลกำไรระยะยาวได้ในอนาคต ก็นับว่าเป็นโอกาสอันดีที่ Digital Marketing หรือการตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคแบบออนไลน์จะเริ่มเข้ามามีบทบาทสำคัญที่นำไปสู่ความสำเร็จอีกขั้นหนึ่ง เริ่มตั้งแต่การพัฒนากลยุทธ์การตลาดให้แก่ธุรกิจ FMCG การคิดค้นโปรโมชันส่งเสริมการขาย การจัดจำหน่ายสินค้า ต่อเนื่องไปจนถึงการจับตาดูความเป็นไปของแคมเปญ เรียกได้ว่าหลายบริษัทชั้นนำของโลกที่ทำธุรกิจอุตสาหกรรม FMCG เริ่มที่จะหันมาพึ่งพากลยุทธ์ทางการตลาดแบบออนไลน์ (Digital Marketing) มากขึ้นกว่าเดิม ซึ่งในความเป็นจริงเบื้องหลังความสำเร็จของหลายๆ ธุรกิจนั้นเกิดจากการผสมผสานนำเอาผลิตภัณฑ์ที่ตนเองมีอยู่ในมือมาบวกเข้ากับกลยุทธ์การตลาดแบบออนไลน์ อันเป็นการตัดสินใจที่ทำให้บริษัทต่างๆ ได้เปรียบคู่แข่ง และในขณะเดียวกันก็สามารถใช้กลยุทธ์การตลาดออนไลน์ได้อย่างคล่องตัวและยืดหยุ่นมากยิ่งขึ้น
เนื่องจากแคมเปญการตลาดออนไลน์ (Digital Marketing Campaign) ที่นำพาให้เราสามารถเข้าถึงข้อมูลแบบเชิงลึกเกี่ยวกับสถานะของอุตสาหกรรม ณ ขณะนั้น รวมไปถึงปฏิกิริยาของกลุ่มผู้บริโภคที่มีต่อธุรกิจ FMCG และตัวผลิตภัณฑ์ ถือเป็นโลกการตลาดยุคใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล (Data) ที่มีอยู่ในมือ เป็นการเพิ่มโอกาสให้บริษัทหรือเจ้าของธุรกิจสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่ตอบสนองความต้องการของตลาดได้อย่างตรงจุดมากยิ่งขึ้น แต่ในทางกลับกัน หากรู้ซึ้งถึงข้อมูลเชิงลึกขนาดนี้แล้วนั่นหมายความว่าธุรกิจ FMCG จะต้องสามารถใช้โอกาสทางการตลาด (Market Share) ในส่วนที่เกิดขึ้นใหม่ได้ นับเป็นอีกหนึ่งช่องทางการเพิ่มผลกำไร จะเห็นได้ว่าพลังจากการขับเคลื่อนการตลาดแบบออนไลน์ (Digital Marketing) ก็มีส่วนทำให้ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เริ่มกลายเป็นที่รู้จักและมาอยู่แนวหน้าได้ ทั้งนี้เจ้าของธุรกิจและผู้เชี่ยวชาญทางด้านการตลาดออนไลน์เองก็จะต้องทราบปริมาณการเข้าถึงและความต้องการที่เหมาะสมสำหรับกลุ่มผู้บริโภคด้วย เพื่อให้บรรลุเป้าหมายที่คาดหวังไว้อย่างสมบูรณ์
การตลาดออนไลน์ในกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค FMCG นั้นมีหลายแง่มุม สามารถเลือกใช้ได้ตามความเหมาะสม เพื่อให้ได้ผลตอบรับที่มีประสิทธิภาพ จุดเริ่มต้นของผลิตภัณฑ์ที่ประสบความสำเร็จในวงกว้างเริ่มต้นมาจากการเจาะกลุ่มตลาด Unmet Customer Needs หรือ ‘ความต้องการอันซ่อนเร้นของลูกค้า’ ว่าด้วยเรื่องของผู้บริโภคที่ไม่สามารถบอกความต้องการตนเองได้โดยตรง หากแต่เป็นเรื่องของความรู้สึกล้วนๆ ซึ่งเราสามารถกำหนดความต้องการเหล่านี้ให้กับลูกค้าได้ เพียงแค่ค้นคว้าข้อมูลของผู้บริโภคโดยละเอียด แต่ทั้งนี้ความเข้าใจของเจ้าของธุรกิจที่มีต่อกลุ่มเป้าหมายอย่างชัดเจนว่าต้องการอะไรนั้นถือเป็นเรื่องสำคัญยิ่ง คงไม่มีเจ้าของแบรนด์ท่านไหนอยากทุ่มเงินในปริมาณมากๆ ไปโดยสูญเปล่าเพื่อแลกกับสิ่งที่ไม่มีคุณภาพกลับคืนมา ในทางตรงกันข้ามจะดีกว่าไหมถ้าเจ้าของแบรนด์เองสามารถค้นคว้าและระบุตัวตนของผู้บริโภคได้อย่างชัดเจน เพื่อดึงดูดให้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของแบรนด์
ในขณะเดียวกัน เจ้าของแบรนด์เองก็ต้องทำความเข้าใจอย่างละเอียดว่าสิ่งไหนที่มีส่วนในการขับเคลื่อนพฤติกรรมผู้บริโภคที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณโดยตรง การทำความเข้าใจในที่นี้หมายความว่า ให้รู้จักวิเคราะห์ความเป็นไปของเทรนด์ตลาดในปัจจุบันและแนวโน้มที่จะเป็นไปในอนาคต ผ่านการวางแผนแบบ Digital Plan นอกเหนือจากนี้การออกแบบและวางระบบของ Customer Experience หรือประสบการณ์ตรงของลูกค้า อ้างอิงจากข้อมูลเชิงลึกที่ได้มาจากพฤติกรรมของลูกค้าจะช่วยให้คุณสามารถเข้าใจภาพรวม รวมไปถึงสิ่งที่กระตุ้นการตัดสินใจซื้อของลูกค้าได้ง่ายมากขึ้น ท้ายที่สุดแล้วการพัฒนาใดๆ ที่เริ่มต้นจากข้อมูล (Data) จะช่วยเปลี่ยนจุดสนใจของคุณ จากเดิมที่สนใจเพียงแค่การตลาดอย่างเดียวให้กลายมาเป็นการรู้จักวิเคราะห์ข้อมูลทางด้านสังคม ตลอดไปจนถึงการแสดงผลของข้อมูลด้วย
เช่นเดียวกับการทำ Digital Marketing ซึ่งก็คือการทำความเข้าใจกลุ่มผู้บริโภคของคุณอย่างกว้างขวาง นำพามาซึ่งความสำเร็จระยะยาวให้แก่ธุรกิจคุณ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมสินค้า FMCG ที่เจ้าของธุรกิจล้วนทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้มาซึ่งการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าอย่างตรงจุด หลายคนอาจจะมุ่งเป้าไปที่การตลาดออนไลน์บนสื่อโซเชียล แต่แท้จริงแล้วหากเจ้าของธุรกิจต้องการทำแคมเปญ Digital Marketing ให้ประสบความสำเร็จแบบระยะยาวแล้วล่ะก็ จะต้องรู้จักค้นหาแพลตฟอร์มอื่นนอกเหนือจากโซเชียลมีเดีย หากแต่เป็นแพลตฟอร์มใดๆ ก็ได้ที่เป็นที่รู้จักโดยทั่วกัน เป็นเรื่องโชคดีที่ในปัจจุบันมีตัวช่วย Online Tools มากมายล้านแปดที่ทำให้เจ้าของธุรกิจสามารถบรรลุวัตถุประสงค์ ทั้งนี้เพื่อเป็นการกำหนดทิศทางทางการตลาดให้กับแบรนด์และธุรกิจ FMCG ของคุณอย่างชัดเจนและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด
จากการวิเคราะห์ตัวเลขที่เป็นสถิติการใช้งานโซเชียลมีเดียและหน้าเว็บไซต์โดยละเอียดก็จะพบว่าข้อมูลเหล่านี้สามารถเป็นไกด์นำทางให้คุณไปสู่การทำ Digital Marketing ได้อย่างแม่นยำ โดยคุณสามารถใช้วิธีนี้ในการดึงดูดกลุ่มผู้บริโภคที่มีความสนใจผลิตภัณฑ์ FMCG ของคุณอยู่แล้วเป็นทุนเดิมและต้องการที่จะมีปฏิสัมพันธ์กับแบรนด์ของคุณโดยตรง จากข้อนี้ชี้ให้เห็นว่าแทนที่จะเสียงบค่าโฆษณาไปกับกลุ่มผู้บริโภคที่อาจจะไม่ได้ให้ความสนใจผลิตภัณฑ์ของคุณเท่าที่ควร จะเห็นได้ว่าถ้าหากเจ้าของธุรกิจรู้จักพิจารณาการเลือกใช้แพลตฟอร์มในการโปรโมทที่นอกเหนือจากโซเชียลมีเดียแล้วนั้น ก็จะเป็นการช่วยคัดกรองและสามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้อย่างตรงจุด ผู้บริโภคจะได้รับสื่อโฆษณาที่ตรงตามความต้องการของตนเอง ส่วนเจ้าของธุรกิจก็ยังสามารถสร้างสรรค์ข้อความที่ใช้ในการโปรโมทส่งเสริมการขายได้ถูกจุดและเต็มประสิทธิภาพอีกด้วย
หากจะกล่าวอย่างตรงไปตรงมาแล้วล่ะก็ ต้องบอกเลยว่าสินค้าอุปโภคบริโภคประเภท FMCG ส่วนใหญ่แล้วจะไม่ได้ค่อยดึงดูดสินค้าหรูหรา (Luxury) อย่างเช่นรถหรือนาฬิกาเท่าไหร่นัก เพียงเพราะว่าคุณภาพสินค้าโดยพื้นฐานของแบรนด์ที่ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกับ Mercedes หรือ Rolex แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าคุณจะไม่สามารถเจาะตลาดไปยังกลุ่มผู้บริโภคของคุณได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ในความเป็นจริงแล้วสินค้า FMCG หลายแบรนด์นั้นเริ่มบรรลุเป้าหมายการเจาะกลุ่มลูกค้าโดยเฉพาะ จากเดิมแทนที่จะเจาะกลุ่มลูกค้าเป็นวงกว้างเหมือนแต่ก่อน ทั้งหมดทั้งมวลล้วนขับเคลื่อนด้วยพลังของการตลาดผ่านโซเชียลมีเดีย ซึ่งถือเป็นการชี้ทางให้บริษัทหรือธุรกิจต่างๆ เริ่มหันมาสนใจผลิตภัณฑ์ที่ตนเองถืออยู่ในมือ จากนั้นจึงค่อยๆ เพิ่มมูลค่าจากการคิดค้นแคมเปญโฆษณาเพื่อโปรโมทผลิตภัณฑ์ชิ้นนั้นๆ ของตน
ยกตัวอย่างเช่น อุตสาหกรรม FMCG จำพวกอาหารมังสวิรัตินับไม่ถ้วนที่ประสบความสำเร็จอย่างไม่น่าเชื่อด้วยแผนการตลาดประเภทนี้ แทนที่จะเสียทั้งเวลาและงบประมาณไปกับการลงทุนกลยุทธ์ทางการตลาดเพื่อให้ได้มาซึ่งกลุ่มผู้บริโภคที่ไม่ได้ให้ความสนใจตัวแบรนด์เท่าที่ควร ในทางกลับกันให้ใช้วิธีการดึงเอาข้อมูลแบบเชิงลึก (Insights) ออกมาเพื่อกำหนดกลุ่มเป้าหมายอย่างแม่นยำ แม้ว่าวิธีนี้จะทำให้สามารถเข้าถึงฐานลูกค้าได้น้อยลงเมื่อเปรียบเทียบกับการรันแคมเปญกับฐานลูกค้าในวงกว้าง แต่มั่นใจได้เลยว่า ROI (Return of Inverstment) ที่ได้กลับมาจะมากขึ้น และ Conversion Rate ก็มีโอกาสสูงขึ้นตามไปด้วย
ช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา กลุ่มบริษัทที่ดำเนินธุกิจเกี่ยวกับอุตสาหกรรม FMCG นั้นได้เริ่มขับเคลื่อนธุรกิจของตนให้ส่งผลกระทบบางสิ่งบางอย่างกับสังคมมากยิ่งขึ้น หากเจ้าของธุรกิจเองต้องการประสบความสำเร็จอย่างต่อเนื่องไปในอีกหลายๆ ปีข้างหน้าก็ต้องรู้จักปรับตัว แสดงให้สังคมมองเห็นจุดประสงค์และแนวคิดที่อยู่เบื้องหลังขององค์กรว่ามีส่วนในการสร้างผลกระทบในเชิงบวกให้กับสังคมได้อย่างไร ไม่ใช่เพียงเพื่อการสร้างผลกำไรให้แก่ธุรกิจเพียงเท่านั้น หากแต่ยังสามารถสร้างผลกระทบบางสิ่งบางอย่างให้กับโลกภายนอกได้อีกด้วย ทั้งนี้แม้ว่าจะยังมีอีกหลายวิธีในการวางแผนการตลาดให้กับลูกค้าบนพื้นฐานของการให้ความสำคัญกับตัวผลิตภัณฑ์เป็นหลัก แต่ในงานวิจัยกลับพบว่ากลุ่มลูกค้าจำนวนมากยังคงอยากทราบว่าแบรนด์นั้นๆ จะให้มูลค่ากับผลิตภัณฑ์ของตนเองอย่างไร
หนึ่งในวิธีที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดในการเพิ่มหรือสร้างมูลค่าให้กับแบรนด์คุณคือการเลือกใช้ Influencer Marketing ผ่านพื้นที่บนโลกโซเชียลมีเดียที่มีอยู่มากมาย ใช้โอกาสในการแสดงไอเดียใดๆ ก็ได้ที่สามารถเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคในกลุ่มอุตสาหกรรม FMCG ทำความรู้จักและสร้างความสัมพันธ์กับใครสักคนหนึ่งที่มีอิทธิพลหรือมีชื่อเสียงในโลกโซเชียล ใช้จำนวนผู้ติดตามของ Influencer ท่านนั้นๆ ในการทำให้แบรนด์คุณกลายเป็นที่รู้จักในวงกว้างมาก นอกจากนี้ตัวแบรนด์เองอาจจะใช้ Influencer เป็นตัวแทนในการเอ่ยถึงประโยชน์ของผลิตภัณฑ์ จุดเด่นและมุมมองของแบรนด์ที่มีต่อสังคมและผู้บริโภค ตลอดไปจนถึงการทำหน้าที่ตอบคำถามว่าทำไมผู้บริโภคส่วนมากจึงต้องหันมาสนใจผลิตภัณฑ์ของคุณ เป็นต้น
ในขณะที่คุณกำลังคิดว่าควรจะตั้งเป้าหมายในการทำ Content Marketing ให้กับอุตสาหกรรม FMCG แต่ถ้าหากจะมองให้ลึกไปกว่านั้นแล้ว การหันมาให้ความสำคัญกับโฆษณาที่มีประสิทธิภาพผ่าน Influencer หรือผู้ที่มีชื่อเสียงบนโลกโซเชียลก็สำคัญไม่แพ้กัน Primal บริษัททำมาร์เก็ตติ้งธุรกิจ FMCG อาสารับหน้าที่พัฒนาแคมเปญการตลาดให้กับแบรนด์คุณผ่านการทำบล็อกโพสต์ในการแสดงจุดแข็งหรือข้อมูลที่น่าสนใจของแบรนด์คุณ ทั้งนี้เพื่อเป็นการเพิ่ม Conversion ให้แก่แบรนด์คุณอย่างเต็มประสิทธิภาพ ถือเป็นรากฐานของกลยุทธ์ที่สำคัญกับทุกๆ แบรนด์ ไม่ว่าจะอยู่ในอุตสาหกรรมประเภทไหนก็ตามแต่
นอกจากนี้การโปรโมทเนื้อหาผลิตภัณฑ์ผ่านวิดีโอก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่เริ่มได้รับความนิยมในอุตสาหกรรมตลาด FMCG ทั้งนี้คุณเองไม่จำเป็นต้องสร้างผลงานชิ้นโบแดงระดับฮอลิวูดเพื่อให้แบรนด์ของคุณขึ้นมาอยู่เหนือคู่แข่ง หากแต่เป้าหมายคือการสร้างความบันเทิงและวิดีโอนี้จะสามารถสื่อสารความต้องการของแบรนด์คุณไปยังผู้บริโภคในระยะเวลาจำกัดได้อย่างไร จากงานวิจัยชี้ให้เห็นว่าผู้บริโภคส่วนใหญ่ชอบที่จะรับชมวิดีโอแบบสั้นๆ มากกว่าการอ่าน ทั้งนี้คุณสามารถแสดงคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ FMCG ผ่านวิดีโอโปรดักชันโดยการเพิ่มลูกเล่นเป็นอินโฟกราฟิกให้กับวิดีโอตัวนั้นๆ แสดงให้เห็นศักยภาพการโปรโมทธุรกิจของคุณว่าอยู่เหนือคู่แข่งอย่างไร
แนวโน้มที่สำคัญที่สุดของตัวแบรนด์นั้นขึ้นอยู่กับว่าเจ้าของธุรกิจเองต้องการตลาดที่ผลิตภัณฑ์ตัวไหนเป็นพิเศษ แต่ทั้งนี้ก็ยังมีบางธีมที่ครอบคลุม ซึ่ง Primal ในฐานะเอเจนซี่โฆษณาสินค้าอุปโภคบริโภคสามารถยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือคุณในเรื่องนี้ได้ ยกตัวอย่างเช่นการยกระดับมูลค่าให้กับธุรกิจ E-Commerce ของคุณ ซึ่งในขณะนี้ต้องบอกเลยว่ารายได้โดยรวมทั่วโลกของธุรกิจประเภทนี้อยู่ที่ 4 ล้านเหรียญสหรัฐต่อปี ถือเป็นจังหวะเวลาที่ดีและเหมาะสมอย่างยิ่งในการทำยอดขายผ่าน E-Commerce ธุรกิจที่เติบโตอย่างรวดเร็ว และมีแนวโน้มที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่องเป็นสองเท่าในอีกห้าปีข้างหน้าด้วย
สำหรับอุตสาหกรรม FMCG ประเภทอื่นๆ นั้นก็ยังมีการเปลี่ยนแปลงที่ส่งผลกระทบแก่ตลาดอยู่มากพอสมควร ผู้บริโภคสินค้าประเภท FMCG นั้นเริ่มต้องหันมาตระหนักถึงปัญหาในด้านความยั่งยืน (Sustainability) เป็นหลัก แปรเปลี่ยนเป็นความคาดหวังที่มีแก่ตัวบริษัทผู้ผลิตที่ต้องปรับตัว เริ่มมองหาวัสดุที่ใช้ในการผลิตหรือวัสดุที่ใช้ในการทำบรรจุภัณฑ์อย่างมีจริยธรรม เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ไม่สร้างผลกระทบในแง่ลบให้แก่สังคมภายนอก ทั้งนี้การติดตามแนวโน้มและความเป็นไปของเศรษฐกิจจะทำให้เจ้าของธุรกิจสามารถมั่นใจได้ว่าแนวทางหรือแผนการต่างๆ ที่วางไว้จะสามารถย้อนกลับมาเป็น ROI (Return of Investment) ในที่สุด
Primal มาร์เก็ตติ้งเอเจนซี่สำหรับ FMCG อันดับต้นๆ ในเอเชีย ตั้งอยู่ที่กรุงเทพฯ ประเทศไทย ด้วยประสบการณ์ในมือที่มีอยู่มากมายเกี่ยวกับการสร้างแคมเปญที่เกี่ยวกับการสร้างยอดขายและทำการตลาดให้กับบริษัท E-Commerce หรือร้านค้าปลีกที่เป็นองค์กรขนาดใหญ่ (Enterprise) ซึ่งธุรกิจทั้งสองประเภทนั้นล้วนมีส่วนเกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรม Fast Moving Consumer Goods โดยทั้งสิ้น ดังนั้นการร่วมเป็นคู่ค้า (Partner) หรือเป็นส่วนหนึ่งกับบริษัทเหล่านี้ทั้งในและนอกประเทศก็จะยิ่งทำให้เหล่าเอเจนซี่ทราบเป็นอย่างดีว่าสิ่งไหนจะเป็นตัวอัดฉีด ทำให้แคมเปญนั้นๆ มีประสิทธิภาพและมีความโดดเด่นตั้งแต่ต้นจนจบ
ย้อนกลับไปที่กลยุทธ์ที่มีรายละเอียดอยู่มากมาย เอเจนซี่ที่รับดูแลการตลาดให้กับอุตสาหกรรม FMCG จะต้องมีหน้าที่แจ้งผลลัพธ์และประสิทธิภาพการทำงานที่ผ่านมาอย่างละเอียดถี่ถ้วน อาจจะออกมาเป็นการรายงานผลรายสัปดาห์หรือรายเดือน นอกจากนี้ยังเป็นการรายงานผลความคืบหน้าของแคมเปญทางการตลาด ตลอดไปจนถึงสิ่งที่จำเป็นต้องปรับปรุงแก้ไขในระหว่างทาง โดยรายละเอียดเพิ่มเติมอื่นๆ ที่ควรใส่ไว้ในรายงานจะต้องระบุข้อมูลการค้นคว้าวิจัยที่ช่วยรักษายอดขายปัจจุบันไม่ให้ลดลง และในขณะเดียวกันบริษัทที่ทำ Marketing เกี่ยวกับ FMCG เองยังคงต้องทำหน้าที่พิจารณาเทรนด์หรือแนวโน้มความเป็นไปในอุตสาหกรรม FMCG ว่าสามารถยกระดับมาอยู่แนวหน้าได้อย่างไร ภายใต้การดูแลของทีมนักการตลาดดิจิทัลระดับมืออาชีพของเรา
นักการตลาดมืออาชีพของเรานั้นนิยมใช้เทคนิคการทำ SEO ขั้นสูงในการรักษาอันดับการค้นหาของหน้าเว็บไซต์คุณให้อยู่ในอันดับต้นๆ เมื่อเปรียบเทียบกับอุตสาหกรรมเดียวกัน ด้วยจำนวนชั่วโมงบินนับหลายขวบปีในการทำงานร่วมกับธุรกิจ FMCG ที่มีชื่อเสียงระดับภูมิภาคอีกหลายแห่ง ทำให้เราสามารถกำหนดกลุ่มเป้าหมายผู้บริโภคของบริษัทคู่แข่งได้โดยตรง และยังสามารถเกณฑ์กลุ่มเป้าหมายของบริษัทคู่แข่งเหล่านั้นให้เข้ามาเยี่ยมชมหน้าเว็บไซต์ของคุณแทนได้อีกด้วย ผลของการเข้าถึงข้อมูล Data-Driven นี้จะช่วยให้คุณสามารถพอจะคาดคะเนแนวทางของกลุ่มเป้าหมายได้อย่างคร่าวๆ แต่ยังคงไว้ซึ่งประสิทธิภาพ และนอกจากนี้ยังสามารถแบ่งฐานกลุ่มลูกค้าเหล่านั้นของคุณออกเป็นหมวดหมู่ได้อย่างแม่นยำอีกด้วย
จะเห็นได้ว่าอุตสาหกรรม FMCG ล้วนมีการพัฒนาและเติบโตในอัตราที่สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นคุณสามารถมั่นใจได้เลยว่าทีมงานผู้เชี่ยวชาญของเราจะสามารถนำพาธุรกิจคุณให้แซงหน้าคู่แข่ง รวมไปถึงยังสามารถเรียกคืนกลับมาเป็น ROI ในแง่ของ Digital Marketing และภายใต้บรรยากาศการทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดระหว่าง Primal กับตัวลูกค้าเองจะทำให้เราทราบและเข้าใจธุรกิจของลูกค้าเป็นอย่างดีว่าผลิตภัณฑ์ตัวไหนเป็นจุดขายพิเศษสุดของแบรนด์ เพื่อให้ได้มาซึ่งแนวทางของการตลาดออนไลน์ นำพาแบรนด์ไปยังเป้าหมายสูงสุดที่ตั้งไว้ ดังนั้นมั่นใจได้เลยว่า Primal จะนำพาธุรกิจของคุณเข้าสู่ตลาดให้กลายเป็นที่รู้จักในสายตาคนทั่วไป และในขณะเดียวกันก็เรียกคืนกลับมาเป็นยอดขายมูลค่ามหาศาลได้อีกด้วย
สอบถามข้อมูลหรือเรียนรู้เพิ่มเติม ติดต่อเราได้แล้ววันนี้
Results-Driven In-House Experts
Brand Partners
Regional Offices