UX Writing คืออะไร ? เทคนิคที่ทำให้ประสบการณ์ผู้ใช้ดีขึ้น
ในยุคดิจิทัลที่ผู้คนใช้ชีวิตอยู่บนโลกออนไลน์ ธุรกิจต่าง ๆ จึงต้องแข่งขันกันอย่างดุเดือด ไม่ว่าจะเป็นการคิดค้นกลยุทธ์ใหม่ ๆ การพัฒนาคุณภาพของสินค้าและบริการ การวิเคราะห์คู่แข่ง ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมานั้นเป็นสิ่งสำคัญก็จริง แต่หลายธุรกิจก็โฟกัสกับสิ่งเหล่านี้มากเกินไปจนลืมว่า อีกหนึ่งหัวใจหลักของการทำธุรกิจออนไลน์ก็คือ การออกแบบเว็บไซต์ให้หน้าตาดูดี ใช้งานง่าย เนื่องจากเว็บไซต์เป็นด่านแรกที่กลุ่มเป้าหมายจะค้นหาเราเจอทางออนไลน์ และเป็นตัวชี้วัดที่บ่งบอกได้ทันทีว่าลูกค้าจะไปต่อหรือไม่ไปต่อกับเรา พูดง่าย ๆ ว่าเว็บไซต์ก็เปรียบเสมือนหน้าตาของร้านค้านั่นเอง
ทั้งนี้ การจะทำเว็บไซต์ให้ดูดีต้องอาศัยองค์ประกอบหลายอย่างเพื่อสร้างประสบการณ์ผู้ใช้ (User Experience) ที่ดีที่สุด และหนึ่งในปัจจัยที่มีบทบาทสำคัญก็คือ เทคนิค UX Writing หรือ การเขียนข้อความที่ตอบโจทย์ผู้ใช้งานบนเว็บไซต์
Table of Contents
UX Writing คืออะไร ?
UX Writing คือ การออกแบบเนื้อหาสำหรับผู้ใช้งาน (User-centred Writing) บนแพลตฟอร์มดิจิทัลต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน หรือเกม เพื่อสื่อสารกับผู้ใช้ผ่านการเขียนข้อความที่มุ่งเน้นให้เกิดความเข้าใจและใช้งานแพลตฟอร์มได้อย่างง่ายดาย เปรียบเสมือนตัวช่วยที่บอกและชี้แนะว่าต้องทำอะไรต่อไป
ทั้งนี้ เทคนิค UX Writing ที่ดีจะต้องให้ความสำคัญกับประสบการณ์ของผู้ใช้งานเป็นสำคัญ โดยข้อความที่เขียนจะต้องมีความชัดเจน กระชับ และใช้ภาษาที่เข้าใจง่าย เพื่อนำทางผู้ใช้ไปยังเมนูต่าง ๆ ที่พวกเขาต้องการได้อย่างราบรื่น
UX Writing ต่างจาก Content Writing อย่างไร ?
มีคำว่า Writing เหมือนกัน และส่วนมากคำว่า Content Writing ก็ออกจะคุ้นหูมากกว่า แล้ว UX Writing เหมือนหรือแตกต่างจาก Content Writing หรือไม่ ?
การเขียนทั้งสองประเภทนี้เป็นการออกแบบเนื้อหาเหมือนกัน แต่ Content Writing จะมุ่งเน้นไปที่การเขียนเนื้อหาเพื่อดึงดูดผู้อ่าน กระตุ้นให้เกิดการคลิก แชร์ หรือซื้อสินค้า ในขณะที่ UX Writing คือ การเขียนข้อความเพื่อช่วยให้ลูกค้าสามารถใช้งานและเข้าใจฟังก์ชันการทำงานต่าง ๆ ของแพลตฟอร์มได้ง่ายขึ้น และได้รับประสบการณ์ที่ดีกลับไป สร้างความประทับใจแรกจนรู้สึกอยากกลับมาใช้ซ้ำหรือบอกต่อแก่ผู้อื่น
ความสำคัญของ UX Writing คืออะไร ทำไมธุรกิจต้องใส่ใจ ?
ช่วยให้ผู้ใช้งานเข้าใจฟังก์ชันของแพลตฟอร์ม
เทคนิค UX Writing ที่ดี จะช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถเข้าใจและใช้งานแพลตฟอร์มของธุรกิจได้ง่ายขึ้น อยากจะคลิกไปหน้าไหนหรือเมนูใดก็ไม่ต้องเสียเวลาหาให้ยุ่งยาก ลดความสับสนและข้อผิดพลาดในการใช้งาน อันจะส่งผลให้ผู้ใช้งานมีประสบการณ์ที่ดีกับแบรนด์ ในทางกลับกัน หากเว็บไซต์มีขั้นตอนซับซ้อนเกินไป ลูกค้าเข้ามาแล้วก็อาจจะเกิดความรู้สึกหงุดหงิด ไม่อยากไปต่อ จนล้มเลิกการซื้อไว้กลางคันก็เป็นได้
สร้างประสบการณ์ที่ดีแก่ผู้ใช้ ซึ่งส่งผลต่อ SEO
UX Writing คือตัวช่วยที่ทำให้การใช้งานราบรื่น ไร้รอยต่อ สร้างความรู้สึกพึงพอใจแก่ผู้ใช้งานจนอยากกลับมาใช้บริการซ้ำอีก ซึ่งจะนำไปสู่ความภักดีต่อแบรนด์ (Brand Loyalty) ได้ในที่สุด และที่สำคัญ ปัจจัยเรื่องประสบการณ์ของผู้ใช้นั้นยังส่งผลต่อประสิทธิภาพในการทำ SEO ด้วย กล่าวคือ ในการพิจารณาเว็บไซต์เพื่อนำไปจัดอันดับบนหน้าผลการค้นหา อัลกอริทึมของ Search Engine จะมีการตรวจสอบว่าเว็บไซต์ดังกล่าวสามารถสร้างประสบการณ์ที่ดีแก่ผู้ใช้ได้มากน้อยแค่ไหน ซึ่งหากเรามี UX Writing ที่ดี ก็มีโอกาสที่จะถูกนำไปจัดอันดับต้น ๆ ได้สูงเช่นกัน
ช่วยสื่อสารอัตลักษณ์ของแบรนด์ได้อย่างตรงจุด
การใช้ภาษา โทนเสียง และสไตล์การเขียนที่สอดคล้องกับอัตลักษณ์ของแบรนด์ผ่าน UX Writing จะช่วยให้การสื่อสารเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สามารถเข้าถึงผู้ใช้งานได้อย่างตรงจุด รวมถึงสร้างความแตกต่างจากแบรนด์อื่นได้ เนื่องจากอัตลักษณ์ที่ชัดเจนของแบรนด์ย่อมมีผลต่อการจดจำ
เพิ่มโอกาสในการสร้างยอดขาย
เมื่อกลุ่มเป้าหมายเข้าใจวิธีการใช้งานได้ง่าย พวกเขาก็มีแนวโน้มที่จะใช้บริการแพลตฟอร์มอย่างต่อเนื่อง ไม่ทิ้งกระบวนการซื้อสินค้าหรือบริการกลางคัน นอกจากนี้ การเขียน UX Writing ที่ดียังสามารถช่วยกระตุ้นให้เกิดการคลิก สมัครสมาชิก หรือทำธุรกรรมต่าง ๆ ได้ด้วย ซึ่งจะส่งผลให้โอกาสในการปิดการขายเพิ่มสูงขึ้น
เทคนิค UX Writing ที่ดี ต้องทำอย่างไรบ้าง ?
เข้าใจความต้องการผู้ใช้อย่างถ่องแท้
ศึกษาและวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับผู้ใช้งานที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย เช่น รูปแบบการใช้งาน พฤติกรรม ความคาดหวัง ปัญหาที่พบ ฯลฯ จากนั้น ให้สร้าง User Persona และ User Journey Map เพื่อทำความเข้าใจผู้ใช้งานให้มากขึ้น นอกจากนี้ ควรทดสอบและขอฟีดแบ็กจากผู้ใช้งานจริงอย่างสม่ำเสมอ เพื่อนำมาปรับปรุง UX Writing ให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งานได้ดียิ่งขึ้น
เขียนให้กระชับ ชัดเจน ไม่ยืดเยื้อ
บางเว็บไซต์ที่มีข้อมูลเยอะ ๆ ก็มีพื้นที่หรือ Interface จำกัด ดังนั้น หนึ่งในเทคนิค UX Writing จึงเป็นการใช้ประโยคสั้น ๆ ตรงประเด็น ไม่คลุมเครือ และหลีกเลี่ยงการใช้คำเยิ่นเย้อหรือคำซ้ำซ้อน ซึ่งก่อนการเผยแพร่ ควรอ่านทบทวนเนื้อหาที่เขียนหลาย ๆ รอบ เพื่อตัดทอนข้อความที่ไม่จำเป็นออกไป ให้เนื้อหามีความกระชับและชัดเจนมากที่สุด
ใช้ภาษาเรียบง่าย หลีกเลี่ยงศัพท์แสง ศัพท์เทคนิค
ควรเลือกใช้คำศัพท์ที่ผู้ใช้งานน่าจะคุ้นเคยและเข้าใจได้ง่าย หลีกเลี่ยงการใช้คำย่อ ศัพท์เฉพาะทาง หรือภาษาเทคนิคที่อาจสร้างความสับสนแก่ผู้ใช้งานทั่วไป โดยแปลงคำศัพท์เหล่านั้นให้เป็นคำพื้นฐานแทน เพราะนอกจากเราจะต้องทำให้ผู้ใช้งานเข้าใจโดยทั่วกันแล้ว ยังต้องทำให้อัลกอริทึมของ Search Engine เข้าใจด้วยว่าแพลตฟอร์มของเรากำลังพูดถึงเรื่องอะไรอยู่ เพื่อให้ง่ายต่อการเข้ามาตรวจสอบเนื้อหาแล้วนำไปจัดอันดับ
ใช้คำกริยากระตุ้นให้เกิดการกระทำบางอย่าง
การใช้คำกริยา จะช่วยให้เนื้อหามีพลังและกระตุ้นให้ผู้ใช้งานทำตามคำแนะนำหรือขั้นตอนต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น ยกตัวอย่างเช่น “กรอกฟอร์มนี้เพื่อติดต่อเรา” จะฟังดูมีอิมแพ็กมากกว่า “ติดต่อเราโดยการกรอกฟอร์มนี้” เพราะเมื่อเอาคำกริยา “กรอกฟอร์มนี้” ขึ้นต้น จะให้ความรู้สึกถึงการลงมือกระทำ และชวนให้อยากกรอกฟอร์มจริง ๆ
ใช้ Tone of Voice ที่เหมาะสม
กำหนด Voice และ Tone ให้สอดคล้องกับอัตลักษณ์ของแบรนด์และกลุ่มเป้าหมาย ทั้งระดับการพูด (เป็นทางการหรือไม่เป็นทางการ) น้ำเสียง (เป็นกันเอง สนุกสนาน จริงจัง ฯลฯ) และลักษณะการใช้ภาษา เพื่อสร้างประสบการณ์ผู้ใช้ให้ตรงกับสิ่งที่แบรนด์ต้องการจะสื่อสาร นอกจากนี้ Tone of Voice ที่เหมาะสมยังช่วยให้ผู้ใช้งานจดจำแบรนด์ได้ดียิ่งขึ้นด้วย
จะเห็นได้ว่า เทคนิค UX Writing ที่ดี จะทำให้ผู้ใช้งานเข้าใจสารที่แบรนด์จะสื่อได้ง่ายและรวดเร็ว ธุรกิจออนไลน์ยุคใหม่จึงต้องให้ความสำคัญกับสิ่งนี้เป็นพิเศษ เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่าสมัยนี้ หน้าตาและองค์ประกอบรวม ๆ ของเว็บไซต์ค่อนข้างมีผลต่อการตัดสินใจซื้อ หากกลุ่มเป้าหมายสนใจในสินค้าหรือบริการของเรา แต่เข้าเว็บไซต์มาแล้วรู้สึกว่าใช้งานยาก จะหาเมนูที่ต้องการก็หาไม่เจอ อีกทั้งเนื้อหายังไม่กระชับ ไม่ตอบโจทย์สิ่งที่อยากจะรู้ ก็อาจทำให้พวกเขากดออกไปทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้พิจารณาผลิตภัณฑ์ของเราเลยก็ได้
ทำธุรกิจออนไลน์ไม่ยากอย่างที่คิด หากคุณมีผู้เชี่ยวชาญที่มีความเข้าใจในด้านนี้อย่างแท้จริงอยู่เคียงข้าง ติดต่อ Primal Digital Agency ได้เลยวันนี้ เราเป็นบริษัทรับทำการตลาดออนไลน์ชั้นนำของไทย พร้อมด้วยทีมงานมากประสบการณ์กว่า 150 คนที่จะช่วยยกระดับแบรนด์ของคุณให้ถูกมองเห็นบนช่องทางออนไลน์มากขึ้นกว่าที่เคย
Join the discussion - 0 Comment